อกหักมาตั้งไม่รู้กี่รอบก็ไม่ตายสักที แต่หัวใจก็ชักบอบช้ำเกินทน ดังนั้นเขาจึงเลือกมอบหัวใจให้ใครคนหนึ่งดูแล

ฝากหัวใจให้คุณดูแล - 03 ตอนที่ 3 โดย ที่รักของพระจันทร์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ฝากหัวใจให้คุณดูแล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติก

รายละเอียด

อกหักมาตั้งไม่รู้กี่รอบก็ไม่ตายสักที แต่หัวใจก็ชักบอบช้ำเกินทน ดังนั้นเขาจึงเลือกมอบหัวใจให้ใครคนหนึ่งดูแล

ผู้แต่ง

ที่รักของพระจันทร์

เรื่องย่อ

สารบัญ

ฝากหัวใจให้คุณดูแล -00 บทนำ,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -01 ตอนที่ 1,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -02 ตอนที่ 2,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -03 ตอนที่ 3,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -04 ตอนที่ 4,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -05 ตอนที่ 5 (จบ)

เนื้อหา

03 ตอนที่ 3

ตอนที่ ๓

 

         โปรดปรานที่นอนเอกเขนกอยู่บนโซฟา มองเพื่อนสนิทที่กำลังเดินผ่านไปโดยไม่ทักทาย เขาจึงต้องเป็นฝ่ายเอ่ยทักเสียหน่อย

         “แต่งหล่อไปไหนวะ”

         “ไปกินข้าว”

         “ไปกับน้องเพชรล่ะสิมึง”

         “ก็รู้แล้วถามทำไมวะ”

         “แค่อยากเสือกหน่อยว่าไปถึงไหนกันแล้ว หรือมึงแค่คุยเล่นเฉยๆ”

         ลิขิตถอนหายใจ “กูไม่ให้ความหวังใครเล่นๆ หรอกนะ”

         “โอเค กูจะได้สบายใจ กลัวน้องปรายจะมาวีนกูเอาน่ะสิ ถ้ามึงไปเล่นๆ กับเพื่อนเขา”

         “เย็นนี้มึงก็ดินเนอร์กับไอ้สนกันสองคนไปก่อนแล้วกัน ส่วนกูจะไปดินเนอร์กับน้องเพชร”

         “ได้ดีแล้วก็ลืมเพื่อนนะมึง” โปรดปรานเบะปากพลางทิ้งตัวลงนอนเอกเขนกตามเดิมด้วยความเซ็ง ในขณะที่ลิขิตได้ออกไปหาสาวหน้าชื่นตาบาน ทว่าตัวเองกลับถูกแฟนปฏิเสธไม่ยอมมาเจอกัน ด้วยเหตุผลที่ว่าติดทำคอนเทนต์ที่ลูกค้ามาจ้างเพื่อโปรโมตสินค้า เนื่องจากเธอมีแฟนคลับผู้ติดตามแอ็กเคานต์อยู่เกือบแสน

         ลิขิตทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะ ก่อนจะขับรถออกไปรับอวิกาที่คอนโดของหญิงสาว วันนี้เธอใส่ชุดเดรสยาวผูกไหล่สีนวลเกือบขาว ผมเกล้าเปียเก็บเรียบร้อยมีปิ่นดอกไม้ปักประดับเพิ่มความอ่อนหวาน ส่วนใบหน้านั้นดูเหมือนจะเป็นลุคสบายๆ ดูธรรมชาติ เหมือนแต่งเบาๆ แต่เขาก็พอรู้อยู่ว่าแบบนี้ก็ใช้เวลาแต่งหน้าไม่น้อยเหมือนกัน

         “วันนี้...น้องเพชรดูสวยกว่าทุกทีนะครับ” เขาเอ่ยชมเมื่อเธอขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว

         “กำลังคิดอยู่เชียวว่าพี่ลีจะชมไหม” อวิกาอมยิ้ม “ขอบคุณค่ะที่ชม วันนี้พี่ลีก็หล่อมากค่ะ”

         ชายหนุ่มยิ้มรับคำขอบคุณ ก่อนจะเริ่มขับรถมุ่งไปยังจุดหมายปลายทางซึ่งเป็นร้านอาหารบนดาดฟ้าโรงแรม แต่ทว่าในระหว่างที่กำลังขับรถอยู่นั้น

         “พี่ลีคะ พี่ลีจอดตรงหน้านี้ก่อนแป๊บหนึ่งได้ไหมคะ เพชรเหมือนเห็นน้องแมวอยู่ตรงเกาะกลางถนน” หญิงสาววางมือลงบนประตูและส่งสายตาอ้อนวอนมาที่เขา

         ดังนั้นลิขิตจึงขับรถชิดข้างทาง ก่อนจะจอดรถลงในระยะที่ปลอดภัยจากรถคันอื่นบนถนน “อยู่ตรงไหน เดี๋ยวพี่ไปเอง” เขาอาสา

         “พี่ลีเห็นไหมคะ ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ตรงนั้น” อวิกาพยายามชี้ไปที่พุ่มไม้บนเกาะกลาง เขาก็พยายามมองจนกระทั่งคิดว่าตัวเองเห็นอะไรแวบๆ แล้วจึงค่อยเดินไปหาด้วยความระมัดระวัง

         หญิงสาวชะเง้อคอมองอยู่บนรถ เมื่อเห็นลิขิตอุ้มลูกแมวไว้ในมือได้ก็ปรบมือด้วยความดีใจอยู่คนเดียว พลางมองเขาอย่างไม่คลาดสายตาในระหว่างที่ชายหนุ่มวิ่งกลับมาที่รถ

         “มีตั้งสามตัวเลยนะน้องเพชร”

         “อุ๊ย! สามตัวเลยเหรอคะ แล้วมาจากไหนกันเนี่ย ยังตัวจิ๋วๆ อายุสักเดือนได้มั้งคะ”

         “พี่ว่าเหมือนระหว่างทางที่มาจะเห็นศพแมวอยู่แวบๆ นะ อาจจะเป็นแม่ของมันก็ได้ มันเลยหลงกันมาจนถึงเกาะกลางถนนแบบนี้”

         อวิกาสงสารลูกแมวในมือของลิขิตจับใจ ก่อนจะรับมาอุ้มแทนชายหนุ่มโดยไม่กลัวเปื้อนเสื้อผ้าชุดสวยที่สวมใส่อยู่ เพราะลิขิตต้องขับรถต่อ

         “เหมือนจะป่วยด้วยค่ะ น้ำตาไหลเยิ้มกันเชียว แถมยังดูเหมือนจะหิวมาก”

         “อืม เอายังไงดีล่ะครับ”

         “เราไปคลินิกรักษาสัตว์กันก่อนดีไหมคะ”

         ลิขิตไม่ขัดความต้องการของหญิงสาวอยู่แล้ว “ได้ครับ”

         “ใกล้ๆ แถวนี้มีคลินิกรักษาสัตว์ไหมคะ”

         “ก็มีอยู่ที่หนึ่งหรอกนะ แต่...”

         “แพงเหรอคะ แต่เราแค่ให้ดูอาการเบื้องต้นเอง น่าจะเสียไม่เยอะเท่าไรหรอกค่ะ เด็กๆ จะได้ถึงมือหมอเร็วๆ เดี๋ยววันหลังเพชรค่อยพาไปร้านประจำ”

         “ได้ครับ” ดังนั้นชายหนุ่มจึงเลี้ยวไปทางคลินิกที่เขารู้จัก “ปกติเลี้ยงแมวด้วยเหรอครับถึงมีร้านประจำ ไม่เห็นเคยคุยให้ฟังเลย”

         “จริงๆ นอกจากจะเป็นพนักงานขายกระเป๋าแล้วก็เป็นนักเก็บแมวด้วยค่ะ” อวิกายิ้มกว้าง “เดี๋ยวเลี้ยงไว้อีกสักเดือนเพชรก็จะโพสต์ตามหาบ้านให้น้องค่ะ แต่ถ้าไม่มีคนรับน้องไปเลี้ยงจริงๆ เพชรก็ส่งกลับไปเลี้ยงที่บ้านเพชรค่ะ”

         “มีอยู่กี่ตัวแล้วล่ะครับ”

         “สิบห้าค่ะ”

         “โอ้โห ฝูงหนึ่งเลย”

         “แล้วก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยค่ะ” อวิกาหัวเราะ “โชคดีที่แม่ก็ชอบแมวมากค่ะ เพชรเลยจ้างให้แม่คอยดูไว้ให้” หญิงสาวเล่าไปเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ค่อนข้างสนิทกับชายหนุ่มแล้ว “แม่เลิกกับพ่อเพชรไปตอนราวๆ เพชรสิบสองขวบ แล้วหลังจากนั้นพ่อก็ไม่ให้เพชรเจอแม่เลย ทั้งๆ ที่แม่อยู่กับแฟนใหม่ห่างไปแค่คนละหมู่บ้านเองค่ะ เพิ่งได้คุยได้เจอกันบ้างหลังจากพ่อเสียไปเมื่อสองปีก่อน พอดีกับที่แม่ทำงานไม่ค่อยได้เพราะประสบอุบัติเหตุต้องตัดขาแล้วใส่ขาเทียมทั้งสองข้างเลยค่ะ แม่ไม่ยอมรับเงินเฉยๆ ทำยังไงก็ไม่ยอม เพชรเลยจ้างแม่มาเฝ้าบ้านที่ต่างจังหวัดแล้วก็คอยดูแลแมวที่เพชรส่งไปอยู่ค่ะ ส่วนเพชรก็กลับบ้านเดือนละครั้งค่ะ”

         ลิขิตยิ้มบาง “แม่พี่ก็เลี้ยงแมว เดี๋ยวพี่ลองถามแม่พี่ให้ว่าอยากจะได้เพิ่มอีกสักตัว สองตัวไหม”

         “เดี๋ยวรอให้เพชรขุนน้องให้อ้วนน่ารักกกว่านี้อีกหน่อย ถ่ายรูปสวยๆ รับรองว่าแม่พี่ลีโดนน้องตกแน่ค่ะ”

         “ครับ”

         ชายหนุ่มคุยกับหญิงสาวเพลินจนรู้สึกว่าระยะทางที่มายังคลินิกของเพื่อนอย่างมาริษาสั้นแค่อึดใจเดียวเอง เขาจอดรถยังพื้นที่ข้างตึกก่อนจะช่วยอวิกาอุ้มลูกแมวลงจากรถและเดินนำเธอเข้าไปยังคลินิก

         ส่วนอวิกาที่เห็นป้ายร้านมาริษารักสัตว์คลินิกก็รู้สึกเอะใจ เพื่อนสนิทที่ลิขิตเล่าให้ฟังตอนเมา ดูเหมือนจะเป็นสัตวแพทย์ใช่ไหมนะ

         “สวัสดีค่ะคุณลี” ผู้ช่วยสัตวแพทย์ที่รู้จักกันทักทายเขาทันทีที่เห็นหน้า

         “สวัสดีครับ” ลิขิตยกลูกแมวในมือให้อีกฝ่ายดู “เอาน้องมาตรวจสุขภาพนิดหน่อยน่ะ”

         “อุ๊ย! เก็บมาจากที่ไหนคะเนี่ย”

         “เกาะกลางถนนครับ” ชายหนุ่มนิ่งไปชั่วอึดใจก่อนจะเอ่ยปาก “ลงทะเบียนน้องไว้ในชื่อผมเลยครับ”

         “ได้ค่ะ จะให้น้องชื่ออะไรดีคะ”

         ลิขิตหันไปมองหน้าหญิงสาวพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม อวิกากลอกตาไปมาเพราะกำลังคิดชื่ออย่างเร็วจี๋ในหัว

         “มังคุด ละมุด ลำไยค่ะ”

         ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ผู้ช่วยสัตวแพทย์เองก็ยิ้มด้วยความเอ็นดู ในขณะที่อวิกายิ้มกว้างด้วยความภูมิใจที่คิดชื่อได้อย่างรวดเร็ว

         “ตัวสีดำมังคุดค่ะ สามสีละมุด ส่วนตัวสีครีมลำไยค่ะ” คนตั้งชื่อแจกแจงอีกครั้งว่าตัวไหนชื่ออะไรกันบ้าง

         “ได้เลยค่ะ”

         “วันนี้คิวยาวหรือเปล่า” ลิขิตที่มักจะพาแมวของมารดามารักษา รู้ดีว่าที่นี่บางวันก็คิวยาวมาก เพราะเพื่อนคิดค่ารักษาไม่แพง

         “ค่อนข้างยาวค่ะ งั้นฝากน้องไว้แล้วออกไปหาอะไรกินก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าใกล้ถึงคิวแล้วเดี๋ยวโทรบอก”

         “ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มหันมาทางหญิงสาวแล้วยิ้มบาง “วันนี้คงต้องฝากท้องแถวนี้ก่อนแล้วล่ะ”

         “เหมือนเห็นแวบๆ ว่าข้างๆ คลินิกขายราดหน้าด้วยค่ะ อยากกินอยู่พอดี”

         “ก็ว่าจะชวนแวะร้านนี้แหละครับ พาแมวของแม่พี่มาหาหมอทีไรพี่ก็แวะกินตลอด รับรองว่าอร่อยมากครับ”

         ดังนั้นทั้งสองคนจึงเดินมายังร้านราดหน้าที่เปิดร้านถัดไปเพียงแค่คูหาเดียวเท่านั้น หญิงสาวมองป้ายเมนูขนาดใหญ่ซึ่งติดอยู่ที่ผนัง

         “ราดหน้าหมี่กรอบหมูค่ะ”

         “ของผมเส้นใหญ่เนื้อครับ”  หลังจากสั่งเรียบร้อยแล้ว ลิขิตก็ลุกขึ้นเดินไปตักน้ำฟรีบริการตัวเองมาเสิร์ฟให้กับอวิกา

         “ขอบคุณค่ะ”

         ทั้งสองรอเพียงไม่นานราดหน้าร้อนๆ ก็ถูกยกมาเสิร์ฟ อวิกาปรุงรสเผ็ดเพิ่มเล็กน้อย แต่พอชิมแล้วก็ตาโตเพราะอร่อยมาก

         “โห! อร่อยมากเลยค่ะ หมูนุ่มจนรู้สึกเหมือนจะละลายในปากเลย”

         “ไอ้โปรดกับไอ้สนก็ชอบกินเหมือนกัน เดี๋ยวพี่ว่าจะสั่งไปฝากพวกมันคนละถุง” ลิขิตยิ้มพลางมองอวิกากินด้วยความเอร็ดอร่อยจนหมดเกลี้ยงชามอย่างรวดเร็ว “อิ่มหรือเปล่าครับ”

         “อีกสักชามก็ยังได้นะคะ เขาให้ไม่ค่อยเยอะ”

         “เดี๋ยวพี่สั่งให้ครับ เอาแบบเดิมหรือเปล่า”

         “เอาเป็นเส้นใหญ่ทะเลค่ะ”

         “น้องครับ เส้นใหญ่ทะเลอีกสองชามครับ” ลิขิตหันไปสั่งกับเด็กเสิร์ฟที่เดินผ่านมาพอดี “เดี๋ยวพี่กินเป็นเพื่อน”

         “แหมจริงๆ พี่ลีก็ยังไม่อิ่มใช่ไหมล่ะคะ”

         ชายหนุ่มยิ้มบาง “เห็นน้องเพชรกินแล้วพี่ก็รู้สึกอยากกินอีกเหมือนกัน”

         “จริงๆ เพชรชอบกินราดหน้ามากเลยค่ะ แต่ทำเองไม่เคยทำได้อร่อยเท่านี้เลย”

“ถ้าอยากกินอีก บอกพี่ได้ครับ เดี๋ยวพี่พามากิน”

อวิกายิ้ม “คราวหน้าจะแต่งตัวเบากว่านี้หน่อยแล้วกันค่ะ”

“แต่งสวยๆ แบบนี้มาก็ได้ครับ”

“มันใช้เวลานานน่ะสิคะ”

ในที่สุดเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ “แต่งแบบไหนมาก็ได้ครับ เพราะพี่ว่าแต่งน้อยแต่งเยอะ น้องเพชรก็น่ารักทั้งหมด”

อวิกายิ้มกว้างพลางหยิบน้ำขึ้นมาดื่มแล้วมองออกไปยังถนนที่รถวิ่งผ่านไปมาแก้เขิน แก้มที่ร้อนผ่าวตอนนี้ไม่รู้จะปริแตกแล้วหรือยัง

*****

         ลิขิตกับอวิกากลับมายังคลินิกก่อนที่จะถูกโทรตามเสียอีก ทั้งสองนั่งรออยู่ที่เก้าอี้หินอ่อนด้านนอก จนกระทั่งภายในคลินิกมีที่ว่างจึงขยับเข้าไปนั่งรอข้างใน

เมื่อถึงคิวก็เดินเข้าไปยังห้องตรวจเพื่อพบกับสัตวแพทย์ผู้เป็นเจ้าของคลินิก และยังเป็นเพื่อนสนิทของชายหนุ่ม

         “อ้าว! แมวลีเหรอ”

         “เปล่า แมวที่เรากับน้องเพชรเพิ่งเก็บได้จากเกาะกลางถนน”

         มาริษาหันมายิ้มให้กับอวิกา แววตาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสงสัยว่าเธอเป็นใคร ส่วนสายตาของอวิกากลับสะดุดหน้าท้องของมาริษาที่นูนขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน อีกทั้งเจ้าตัวก็ใส่ชุดคลุมท้องแล้วทับด้วยเสื้อกาวน์อีกที

         “หลังจากดูแลไว้ดีๆ ตั้งใจว่าจะหาบ้านให้น่ะ” ลิขิตบอกกับเพื่อน

         “อ๋อ” มาริษาส่งเสียงอ๋อเบาๆ ในเมื่อเพื่อนไม่อธิบายสถานะของสาวที่พามาด้วยให้รู้ สัตวแพทย์สาวก็เลือกจะเงียบแล้วปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามขั้นตอนการรักษา “อายุน่าจะยังไม่ถึงสองเดือนนะ ยังฉีดวัคซีนไม่ได้ ถ่ายพยาธิได้อย่างเดียว แล้วก็ตานี่เดี๋ยวให้ยาหยดตาไปนะ ไม่กี่วันก็หายแล้ว กินนมแพะ กินอาหารอีกหน่อยก็อ้วนกระปุ๊กลุกแน่ๆ”

         อวิกายืนเงียบๆ อยู่ข้างลิขิตและตามเขาออกมาจากห้องตรวจ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มจัดการค่าใช้จ่ายแทนเธอและยังซื้ออาหารกับนมแพะให้อีกหลายกระป๋อง จากร้านของเพื่อนสนิท ก่อนจะขับรถมาส่งเธอยังคอนโด

         “เดี๋ยวหลังพี่กลับจากญี่ปุ่น พี่จะพามังคุด ละมุด ลำไย” ชายหนุ่มอมยิ้มในระหว่างที่เอ่ยชื่อของทั้งสามตัว “ไปให้แม่พี่ดูตัว ถ้าโชคดีแม่พี่อาจจะเก็บไว้เลี้ยงหมดเลยก็ได้นะ เพราะตอนนี้แมวที่เคยเลี้ยงมันเหลืออยู่ตัวเดียว ส่วนตัวอื่นแก่จนกลับดาวแมวไปแล้ว”

         “ได้ค่ะ เดี๋ยวเพชรจะดูแลไว้ก่อนให้เป็นอย่างดีเลยค่ะ” อวิกายิ้มด้วยความยินดี

         “ถ้าน้องเพชรสะดวกจะไปหาแม่ของพี่ด้วยกันก็ได้นะ ทาสแมวเหมือนกันน่าจะคุยกันถูกคอ”

         หญิงสาวนิ่งไปเล็กน้อย “ก็...ได้ค่ะ” เมื่อรับคำแล้ว หญิงสาวก็เปิดประตูลงจากรถของลิขิต โดยมีเขามองตามจนเธอเดินเข้าคอนโดของตัวเองเรียบร้อยแล้ว จึงขับรถออกไป

         ลิขิตเห็นสีหน้าตกใจของอวิกาอย่างชัดเจน เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงหลุดปากออกไปแบบนั้น เพียงแค่คิดว่าแม่กับอวิกาน่าจะเข้ากันได้ดีก็เลยชวน

         ชายหนุ่มยิ้มออกมา ความจริงวันนี้เขาจะขอเธอเป็นแฟนท่ามกลางบรรยากาศดีๆ แต่ในเมื่อจังหวะรวนไปซะก่อน งั้นก็ขอเลื่อนเป็นช่วงที่กลับจากไปเที่ยวแล้วกัน ตั้งใจว่าจะขอก่อนพาไปหาผู้เป็นแม่ จะได้เอ่ยปากแนะนำตัวอวิกาว่าเป็นแฟนกับมารดาได้อย่างเต็มปาก