อกหักมาตั้งไม่รู้กี่รอบก็ไม่ตายสักที แต่หัวใจก็ชักบอบช้ำเกินทน ดังนั้นเขาจึงเลือกมอบหัวใจให้ใครคนหนึ่งดูแล

ฝากหัวใจให้คุณดูแล - 04 ตอนที่ 4 โดย ที่รักของพระจันทร์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ฝากหัวใจให้คุณดูแล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติก

รายละเอียด

อกหักมาตั้งไม่รู้กี่รอบก็ไม่ตายสักที แต่หัวใจก็ชักบอบช้ำเกินทน ดังนั้นเขาจึงเลือกมอบหัวใจให้ใครคนหนึ่งดูแล

ผู้แต่ง

ที่รักของพระจันทร์

เรื่องย่อ

สารบัญ

ฝากหัวใจให้คุณดูแล -00 บทนำ,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -01 ตอนที่ 1,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -02 ตอนที่ 2,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -03 ตอนที่ 3,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -04 ตอนที่ 4,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -05 ตอนที่ 5 (จบ)

เนื้อหา

04 ตอนที่ 4

ตอนที่ ๔

 

         ลิขิตจ่ายเงินให้กับรถแท็กซี่ ก่อนจะลากกระเป๋าและหอบหิ้วของฝากที่ซื้อมาให้อวิกาและเพื่อนทั้งสองคนลงจากรถ นอกจากนั้นเขาก็ไม่ได้ซื้อมาฝากใครอีก แม้กระทั่งมาริษา เพราะไม่อยากหอบหิ้วของไปมากกว่านี้

         เมื่อถึงห้องนอน ชายหนุ่มก็ทิ้งตัวลงนอนพักผ่อนทันที เนื่องจากยังเหนื่อยล้าจากการเดินทาง เขาหลับไปยาวนานจนกระทั่งช่วงสามทุ่มก็ตื่นขึ้นมาเพราะหิว

         ชายหนุ่มจึงเข้าไปที่ห้องครัว เพื่อหาอะไรกินแก้หิว ลิขิตหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาต้มและใส่เครื่องเคียงทั้งผักและลูกชิ้นลงไปด้วย

         ระหว่างที่กินก็เปิดข้อความจากอวิกาออกดู เธอส่งภาพลูกแมวทั้งสามตัวที่สภาพดูดีกว่าเดิมมากมาให้ดู เขาจึงส่งต่อไปให้มารดาและบอกว่าจะพาตัวจริงไปให้ดูในเร็ววันนี้

         ลิขิตนั้นเป็นลูกติดของมารดาและไม่ได้สนิทกับพ่อเลี้ยงนัก ไม่ใช่ว่าทะเลาะอะไรกัน เพียงแต่ต่างคนต่างอยู่มานานแล้ว ดังเมื่อสามารถยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง เขาจึงขอออกจากบ้านมาอยู่เพียงลำพังและกลับไปเยี่ยมมารดาบ้างเป็นครั้งคราว

         ชายหนุ่มเห็นว่าภาพแมวเพิ่งถูกส่งมา จึงคิดว่าอวิกาน่าจะยังไม่นอน ดังนั้นหลังจากกินบะหมี่หมดชามและดื่มน้ำเรียบร้อยแล้วจึงกดโทรไปหาหญิงสาว

         “พี่กลับถึงไทยเรียบร้อยแล้วนะครับ พรุ่งนี้ให้พี่รับไปกินข้าวที่ไหนดีเอ่ย ให้น้องเพชรเลือก”

         “ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวเพชรจะเลือกร้านอร่อยๆ เลยค่ะ” หญิงสาวตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง

         ทว่าแม้จะนัดหมายกันเรียบร้อยแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่อยากวางสายจึงเอ่ยถามถึงพวกลูกแมวแก๊งผลไม้ของหญิงสาว

         “แค่ไม่ถึงสองอาทิตย์ ลูกแมวหน้าตาดูดีขึ้นกันทุกตัวเลย”

         “เด็กๆ น่ารักมากเลยค่ะ กินเก่งกันแบบสุดๆ”

         “พี่ส่งรูปไปให้แม่ดูแล้วนะ แม่ว่าอยากเจอตัวจริงเร็วๆ เดี๋ยวยังไงถ้าเราพาไปฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วก็ไปหาได้เลย”

         “ลุ้นให้แม่พี่เพชรอยากเลี้ยงทั้งสามตัวเลยค่ะ ดูเด็กๆ รักกันดี”

         “ก็ดูมีหวังนะ พวกแมวที่แม่เคยเลี้ยง แม่ก็รับมาเลี้ยงทั้งครอก”

         “ดีจังเลยค่ะ”

         ลิขิตเห็นว่าตอนนี้ใกล้สี่ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลานอนโดยปกติของอวิกา เขาจึงตัดบทว่าพรุ่งนี้จะไปรับและวางสายไป ก่อนจะหมุนตัวกลับแล้วสะดุ้งเพราะเพื่อนร่วมบ้านทั้งสองคนมายืนอยู่เงียบๆ ที่หน้าประตูครัวตั้งแต่เมื่อไรเขาก็ไม่รู้ตัว

         “แหมคุยกันหนุงหนิงๆ เชียวนะ” โปรดปรานอดแซวไม่ได้เลยจริงๆ

         “มึงมีแฟนแล้วเหรอวะ” สรัลเอ่ยถามพลางเดินเข้ามาเปิดตู้ ท่าทางตั้งใจจะมาต้มบะหมี่กินเหมือนกัน

         “...เรียกว่าแฟนเลยก็ได้” เพราะพรุ่งนี้เขาก็จะขออวิกาเป็นแฟนอย่างแน่นอนอยู่แล้ว “แล้วนี่หิวพร้อมกันเลยหรือไง” เขาพยายามจะเปลี่ยนเรื่อง

         “เออหิวดิวะ พอเดินออกจากห้องแล้วเจอไอ้สนเข้าพอดี เลยจะชวนกันมาต้มบะหมี่กิน”

         “งั้นกูช่วยทำแล้วกัน อยากใส่ผักเพิ่มไหม”

         “กูเอากวางตุ้งกับถั่วงอก” สรัลว่า

         “กูเอาแค่กวางตุ้งก็พอ” ส่วนโปรดปรานนั้นไม่ชอบถั่วงอก

         ดังนั้นลิขิตจึงช่วยหยิบผักออกมาหั่นและลวกให้เพื่อน นอกจากนี้ยังเอาหมูสับกับลูกชิ้นมาใส่ให้เพื่อนอีกด้วย เมื่อทำเสร็จแล้วก็ล้างมือและหนีออกมาจากห้องครัว เพื่อมาอาบน้ำเข้านอน

*****

         ร้านอาหารที่อวิกาเลือกนั้นเป็นร้านอาหารแถบชานเมือง บรรยากาศราวกับอยู่ในบ้านสวน เมนูอาหารก็เป็นเมนูดูธรรมดาๆ

         “ถึงอาหารจะดูเหมือนกับข้าวที่บ้าน แต่อร่อยมากเลยนะคะ โดยเฉพาะน้ำพริกปลาทู อร่อยจนอยากได้สูตรเลยค่ะ”

         “ทำกินเองแล้วไม่อร่อยเท่านี้” ชายหนุ่มเอ่ยคำพูดติดปากของหญิงสาว แล้วยิ้มด้วยความเอ็นดู

         “แหม ก็เพชรทำกับข้าวไม่ค่อยอร่อยนี่คะ”

         “ถ่อมตัวหรือเปล่าครับ บางทีพี่ก็รู้สึกอยากชิมกับข้าวฝีมือน้องเพชรเหมือนกันนะ”

         อวิกาเขินจนหน้าแดงเรื่อ “ถ้ามีโอกาสก็จะทำให้กินอยู่หรอกค่ะ”

         “ถ้าเราเป็นแฟนกันแล้ว พี่จะได้กินไหม”

         ทั้งสองคุยกันมาพักใหญ่แล้ว ตอนนี้ถือเป็นจังหวะเวลาที่ดีแล้วที่จะขยับความสัมพันธ์ พวกเขาต่างใจตรงกัน

         “ก็ต้องเป็นแฟนก่อนสิคะแล้วจะได้กิน”

         “งั้นก็เป็นแฟนกันเลยนะครับ เพราะพี่อยากลองกินกับข้าวฝีมือน้องเพชรมาตั้งนานแล้ว”

         “แบบนั้นก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มจนแก้มปริ ส่วนชายหนุ่มก็อมยิ้มและมองเธอไม่ละสายตาไปไหน ในขณะที่หัวใจอุ่นซ่านขึ้นโดยไม่รู้ตัว

         ลิขิตไม่รู้เลยว่าอาหารอร่อยเพราะฝีมือแม่ครัวตามคำบอกเล่าของอวิกา หรือเพราะเขารู้สึกมีความสุขจนกินอะไรก็อร่อยไปหมด

         วันนี้เป็นวันที่พวกเขาเอ่ยปากคุยกันน้อยลงกว่าปกติ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความเขินอายและความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว

         เมื่อมื้ออาหารจบลงและมอบแมวกวักนำโชคจากญี่ปุ่นให้อวิกาแล้ว ลิขิตก็ขับรถอย่างไม่รีบร้อนนักเพื่อพาเธอกลับไปส่งยังคอนโดของหญิงสาว ทว่าการร่ำลาในวันนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง

         “ไปก่อนนะคะ ไว้เจอกันใหม่”

         “ครับ”

         อวิกายังคงยิ้มหวานและไม่ได้หันไปเปิดประตู “พี่ลีคะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเบาเสียจนชายหนุ่มได้ยินไม่ถนัดทำให้ต้องเอนตัวเข้าไปใกล้อีกฝ่าย

         “ว่าไงนะครับ”

         จังหวะนั้นเธอก็ประทับจุมพิตลงบนแก้มของเขาเร็วๆ “ฝันดีค่ะ” ก่อนจะเปิดประตูหนีลงจากรถแล้วเดินเร็วๆ หนีหายเข้าไปยังคอนโดของตัวเอง

         ส่วนชายหนุ่มได้แต่นั่งอมยิ้มในรถอยู่นานสองนาน กว่าจะยอมขับรถกลับบ้านเช่าของตัวเอง กับความคิดที่ว่าวันนี้คงนอนฝันดีอย่างที่หญิงสาวว่าอย่างแน่นอน

*****

         เมื่อหาวันหยุดที่ตรงกันได้แล้ว ลิขิตจึงไปรับอวิกาและลูกแมวที่คอนโดในช่วงสายของวัน ก่อนจะขับรถพาไปยังบ้านของมารดา

         อวิกาถือกระเป๋าใส่แมวเดินตามชายหนุ่มเข้าไปภายในบ้านหลังใหญ่ ที่หน้าบ้านนั้นติดป้ายรับว่าความเอาไว้ด้วย เธอจึงเดาว่าพ่อเลี้ยงของลิขิตคงเป็นทนาย

         หญิงสูงวัยที่หน้าตาดูละม้ายคล้ายลิขิตเดินออกมาต้อนรับพวกเขา รอยยิ้มอ่อนหวานเป็นมิตรถูกโปรยมาทางอวิกา

         “นี่ตั้งใจจะพาแฟนหรือแมวมาให้แม่ดูตัวกันแน่จ๊ะ” ลดาเอ่ยแซวลูกชาย แต่คนเขินจนหน้าแดงกลับเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ

         “ทั้งสองนั่นแหละครับ แม่ครับนี่น้องเพชร ส่วนมังคุด ละมุด ลำไยอยู่ในกระเป๋า”

         ลดายิ้มด้วยความเอ็นดูชื่อแมวพลางพาลูกชายและอวิกาไปยังห้องรับแขก เพื่อดื่มน้ำกินขนมที่เธอเตรียมเอาไว้ต้อนรับ ก่อนจะหายไปชั่วครู่และกลับมาพร้อมแมวลายสลิดสีเทาตัวโตที่ดูท่าทางแก่มากแล้ว

         “ลองเอาเด็กๆ มาให้ปู่เสือทำความรู้จักหน่อยจ้า”

         ดังนั้นลิขิตกับอวิกาจึงช่วยกันอุ้มแมวเด็กออกมาจากกระเป๋า ทั้งสามตัวดูตื่นเต้นเป็นอย่างมากและพากันมารุมล้อมปู่เสือของแม่ชายหนุ่มเป็นการใหญ่ ส่วนเจ้าแมวแก่นั้นนอนนิ่งเฉยปล่อยให้เจ้าพวกตัวเล็กซุกไซ้ตัวเองตามสบาย

         “ถ้าปู่เสือไม่ขู่แบบนี้ แถมยังเหมือนจะยอมเด็กๆ อีก แม่ก็รับไว้ทั้งสามตัวเลยจ้ะ”

         อวิกายิ้มกว้างด้วยความดีใจ เพราะรู้ว่ามังคุด ละมุด ลำไย ต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดีอย่างแน่นอน ดูได้จากปู่เสือที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ขนเงางามเป็นประกาย แม้ว่าจะอายุมากแล้วก็ตามที

         “ขอบคุณนะคะคุณน้า”

         “อุ๊ย! เรียกแม่เลยสิจ๊ะ แม่อยากมีลูกสาวสักคนมานานละ มีแต่ลูกชายน่าเบื่อ” ลดาเอ่ยแซวและขบขันเมื่อเห็นอวิกาอายจนแทบม้วน “วันนี้อยู่ทานกลางวันกับแม่ก่อนนะ ไม่อิ่มห้ามกลับ แต่ระหว่างรอแม่ทำกับข้าว ลีออกไปซื้อทรายแมวกับอาหารแมวให้แม่หน่อย แล้วก็ซื้อพวกของใช้มาให้เด็กๆ ทีนะ”

         “ได้ครับ”

         “ให้หนูอยู่ช่วยคุณ...แม่ทำกับข้าวนะคะ” อวิกาอาสา

         “ได้แบบนั้นก็ดีเลยจ้ะ” ลดายิ้มกว้างด้วยความเอ็นดูแฟนสาวของลูกชาย

         “มาๆ เอาเด็กๆ มาอยู่ในห้องก่อน แล้วค่อยแยกย้ายกันไป”

         ลิขิตยิ้มให้แฟนสาวก่อนจะปลีกตัวเดินจากไป ส่วนอวิกาเดินตามลดาไปยังห้องหนึ่งที่เป็นห้องซึ่งมีคอนโดแมววางอยู่ถึงสามอัน บันไดแมวและกล่องติดผนังอีกหลายอัน เรียกได้ว่าเอาไว้ปีนกันให้สนุกเลยทีเดียว แถมยังมีช่องให้เดินออกไปยังกรงด้านนอกเพื่อส่องนกอีกด้วย

         “ฝากแมวเด็กไว้ในห้องปู่เสือนี่แหละจ้า” ลดาก้มลงลูบหัวแมวของตัวเองที่กำลังคลอเคลียอยู่ตรงขา “ฝากหลานๆ หน่อยนะปู่เสือ”

         “เด็กๆ เล่นกับปู่เสือดีๆ นะ” อวิกาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะปล่อยเด็กๆ ออกมาจากกระเป๋าและทิ้งไว้กับปู่เสือ แล้วเดินตามลดาไปที่ห้องครัว

         “ไม่ต้องห่วงนะ แม่รับรองว่าจะดูแลอย่างดีเลย ยิ่งตอนนี้ไม่ค่อยได้รับว่าความแล้ว รับแต่เฉพาะลูกค้าเก่า แม่เลยมีเวลาเลี้ยงแมวเยอะ”

         “คุณแม่เก่งจังเลยค่ะ” ที่แท้เป็นแม่ของลิขิตเองที่เป็นทนาย

         “เรียนมาก็ต้องเก่งสิจ๊ะ ให้แม่ว่าความน่ะได้ แต่ให้ไปขายกระเป๋าเก่งๆ แบบหนูเพชรน่ะไม่ได้หรอก”

         “พี่ลีเล่าเรื่องหนูให้คุณแม่ฟังด้วยเหรอคะ”

         “เล่าสิจ๊ะ แต่ก็เล่าเท่าที่แม่รู้ได้เท่านั้นแหละ ไม่ต้องห่วงนะ”

         “หนูไม่ได้ห่วงหรอกค่ะ แค่ไม่คิดว่าพี่ลีจะเล่าเรื่องตัวเองให้คุณแม่ฟัง” เธอยกมือขึ้นเกาแก้มด้วยความเขิน เพราะไม่รู้จะเอามือไปไว้ที่ไหน

         “เพราะลูกชายแม่เขามีความสุขแหละเขาเลยเล่าให้ฟัง แต่ถ้ามีเรื่องเครียดนะ ไม่ปริปากบอกสักคำ กลัวว่าแม่จะเป็นห่วง แต่ยิ่งเป็นแบบนี้แม่ยิ่งห่วงมากกว่าเดิมอีกนะ”

         ลดาทั้งบ่นและเล่าเรื่องของลูกชายตลอดการทำอาหารมื้อกลางวันด้วยกันกับอวิกา ทำให้เธอได้รู้ของหลายอย่างที่ชายหนุ่มชอบกินด้วย เอาไว้มีโอกาสเมื่อไรจะต้องทำให้ลิขิตลองกินอย่างแน่นอน หญิงสาวคิดเอาไว้ในใจ

*****

         วันนี้ปรายฟ้าออกปากชวนพี่ชาย เพื่อนและแฟนของเพื่อนอย่างลิขิตให้มากินบุฟเฟ่ต์ชาบูด้วยกัน ดังนั้นตอนนี้ทั้งสี่จึงกำลังเพลิดเพลินกับอาหารที่ตัวเองเลือกมา

         “ปรายดีใจมากเลยนะคะที่ตอนนี้ไอ้เพชรมีพี่ลีคอยดูแลเป็นอย่างดี”

         ลิขิตยิ้มบาง “ขอบใจน้องปรายด้วยเหมือนกันที่เป็นคนพาน้องเพชรให้มาเจอกับพี่”

         “ต้องขอบคุณกูอีกคนด้วยไหม” โปรดปรานเอ่ยทวงความดีความชอบ

         “เออๆ ขอบคุณ” คนเป็นเพื่อนสนิทกันขอบคุณแบบเหมือนไม่เต็มใจ แต่ภายในใจนั้นก็รู้สึกขอบคุณเพื่อนมากจริงๆ

         “พี่ลีกับไอ้เพชรคงยังไม่มีข่าวดีเร็วๆ นี้ งั้นมายินดีกับข่าวดีของปรายก่อนแล้วกันนะคะ” ปรายฟ้ายิ้มกว้าง “เดือนหน้าปรายกับแฟนจะแต่งงานกันแล้วค่ะ”

         “จริงเหรอเนี่ย ยินดีด้วยนะ” อวิกาตาโต แฟนหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ของปรายฟ้านั้นน่ารักกับเพื่อนของเธอมาก เธอจึงแอบเชียร์อยู่ห่างๆ โดยไม่คิดว่าจะได้ลงเอยกันเร็วขนาดนี้

         “รีบไปหน่อยเพราะท้องได้เดือนหนึ่งละ” ปรายฟ้าบอกด้วยท่าทางเขินๆ ส่วนโปรดปรานที่ดูเหมือนจะรู้อยู่แล้วจึงไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด

         “พี่ยินดีด้วยนะกับข่าวดี” ลิขิตหันไปทางเพื่อน “มึงก็จะได้เป็นลุงโปรดแล้วน่ะสิ”

         “มึงก็ลุงลีครับ” โปรดปรานหัวเราะ เขายินดีกับน้องสาวเป็นที่สุด เพราะปรายฟ้ามีความสุข เขาก็มีความสุขไปด้วยในฐานะพี่ชาย

         “ถึงจะพลาด แต่ปรายกับแฟนก็ดีใจค่ะที่เขามาแล้ว เพราะแฟนปรายรักเด็กมากเลย ทางพ่อแม่เขาก็ดีใจมากเหมือนกัน งานจัดแบบง่ายๆ ที่บ้านปรายนะคะ คุยกันแล้วว่าอยากเก็บเงินให้ลูกไว้ตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ”

         ดังนั้นในงานแต่งงานของปรายฟ้า จึงถือเป็นการออกงานด้วยกันครั้งแรกของลิขิตกับอวิกาในฐานะคู่รักและบอกกับคนอื่นอย่างเต็มปากเต็มคำว่าแฟน