อกหักมาตั้งไม่รู้กี่รอบก็ไม่ตายสักที แต่หัวใจก็ชักบอบช้ำเกินทน ดังนั้นเขาจึงเลือกมอบหัวใจให้ใครคนหนึ่งดูแล

ฝากหัวใจให้คุณดูแล - 05 ตอนที่ 5 (จบ) โดย ที่รักของพระจันทร์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ฝากหัวใจให้คุณดูแล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติก

รายละเอียด

อกหักมาตั้งไม่รู้กี่รอบก็ไม่ตายสักที แต่หัวใจก็ชักบอบช้ำเกินทน ดังนั้นเขาจึงเลือกมอบหัวใจให้ใครคนหนึ่งดูแล

ผู้แต่ง

ที่รักของพระจันทร์

เรื่องย่อ

สารบัญ

ฝากหัวใจให้คุณดูแล -00 บทนำ,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -01 ตอนที่ 1,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -02 ตอนที่ 2,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -03 ตอนที่ 3,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -04 ตอนที่ 4,ฝากหัวใจให้คุณดูแล -05 ตอนที่ 5 (จบ)

เนื้อหา

05 ตอนที่ 5 (จบ)

ตอนที่ ๕

 

         รถของลิขิตค่อยๆ จอดลงยังหน้าบ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านที่ต่างจังหวัดซึ่งค่อนข้างเงียบสงบ อวิกาที่ลงไปเปิดประตูรั้วให้นั้นเดินตามมา ก่อนจะยกมือขึ้นสวัสดีหญิงสูงวัยที่กำลังค่อยๆ เดินออกจากตัวบ้านมาอย่างช้าๆ เพราะความไม่สะดวกของเรื่องขาที่ต้องใส่ขาเทียม

         ลิขิตก้าวลงจากรถพร้อมกับผลไม้ที่นำมาฝากมารดาของอวิกา เขายกมือขึ้นไหว้ด้วยความนอบน้อม ก่อนจะส่งของให้กับอีกฝ่าย

         “สวัสดีครับ”

“ไหว้พระเถอะลูก ขอบคุณสำหรับของฝากนะจ๊ะ” สำอางมองชายหนุ่มตรงหน้าและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร “มากันเหนื่อยๆ เข้าบ้านมากินน้ำกินท่ากันก่อน”

ลิขิตจึงเดินตามอวิกาและมารดาของแฟนสาวเข้าไปภายในตัวบ้าน ทว่าเมื่อเปิดประตูชั้นแรกแล้ว ด้านในก็ยังมีประตูอีกบาน

“ต้องทำประตูสองชั้นเลยค่ะ เพราะถ้าแมวหลุดตอนเปิดประตู แม่จะตามไปจับลำบาก” อวิกาเอ่ยปากเล่าถึงสาเหตุที่ต้องมีประตูสองชั้น

บ้านของหญิงสาวสะอาดสะอ้านมาก เพราะมีสำอางคอยดูแลเอาไว้ให้ แม้ว่าจะมีแมวเดินไปเดินมาอยู่หลายสิบตัวก็ยังหอมสดชื่น

บางตัวก็มาดมลิขิตที่เป็นคนแปลกหน้า ตัวไหนที่ไม่กลัวก็เข้ามาคลอเคลียราวกับรู้จักกันมานาน ชายหนุ่มจึงก้มลงไปลูบไล้พวกมันด้วยความเพลิดเพลิน

เขาสังเกตว่าทุกตัวมีปลอกคอห้อยป้ายชื่อและเบอร์โทรของ
อวิกาเอาไว้ “ไงเตาถ่าน” ลิขิตทักทายเจ้าแมวอ้วนตัวดำปลอดไม่มีสีอื่นปนเลย ซึ่งใจกล้าเข้ามาคลอเคลียเขาเป็นตัวแรก

“แม่ซื้อของที่เพชรขอให้ซื้อไว้ในตู้เย็นแล้วนะ” สำอางเอ่ยปากบอกกับลูกสาว

“ขอบคุณค่ะ” และทุกครั้งเวลาที่เธอมาบ้าน สำอางก็จะอยู่ค้างเป็นเพื่อนลูกสาวเสมอ

ดังนั้นอวิกาจึงทิ้งแฟนหนุ่มไว้กับแมวอีกฝูงหนึ่งพร้อมด้วยขนมเลียแมวไว้ใช้ตีสนิทกับพวกมัน ส่วนสองแม่ลูกเข้ามาที่ครัวเพื่อช่วยกันทำมื้อเย็น

“สายบัวดูสดมากเลยนะคะ”

“ถอนมาจากบ่อหลังบ้านแม่น่ะ”

“พี่ลีชอบกินแกงกะทิสายบัวปลาทูเหมือนแม่เลยค่ะ” อวิกาเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง

สำอางยิ้มด้วยความดีใจที่ลูกสาวจำสิ่งที่ตัวเองชอบกินได้ “เพชรเคยโกรธแม่ไหมที่แม่ทิ้งพ่อเพชรไปมีคนอื่น”

“ตอนเด็กๆ โกรธค่ะ เพราะเพชรไม่เข้าใจ พอโตมาแล้วถึงได้เข้าใจว่าแม่ไม่จำเป็นต้องทนกับผู้ชายท็อกซิกแบบพ่อนี่คะ อีกอย่างแม่ก็ขอเลิกกันก่อนแล้วถึงได้มีใหม่” อวิกาถอนหายใจ “พ่อขี้หึงจนแม่กระดิกตัวพูดกับผู้ชายคนไหนไม่ได้ แต่ตัวเองดันเจ้าชู้ เจอแบบนี้ใครจะไปทนไหวคะ”

“แม่ดีใจนะที่เพชรเข้าใจแม่ แล้วเขาดีกับเพชรมากไหม”

“พี่ลีดีมากเลยค่ะ แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้าวันไหนพี่เขาไม่ดีกับเพชรแล้ว เพชรรับรองว่าจะรีบหนีกลับมาหาแม่กับแมวเลยค่ะ”

สำอางหัวเราะพลางยกมือขึ้นลูบหัวลูกสาวด้วยความรัก ก่อนจะเริ่มลงมือช่วยกันทำอาหารมื้อเย็นต้อนรับลิขิตที่มาเที่ยวบ้านแฟนสาวเป็นครั้งแรก

เมื่ออาหารพร้อมกินแล้ว อวิกาก็เดินออกไปเรียกแฟนหนุ่มที่ตอนนี้ถูกแมวทั้งฝูงรุมอยู่ ลิขิตลุกขึ้นพวกมันก็เดินตามเพราะคิดว่าจะได้กินขนมอีก ทว่าหญิงสาวกลับปิดประตูห้องครัว ไม่ยอมให้พวกมันเข้ามาด้วย

ลิขิตเดินไปล้างมือ ก่อนจะนั่งลงยังโต๊ะรับประทานอาหารแบบกลมภายในห้องครัวขนาดกว้างขวาง ซึ่งมีแต่กับข้าวที่เขาชอบกินโดยเฉพาะแกงกะทิสายบัวปลาทู

“รู้ได้ยังไงว่าพี่ชอบ”

“แม่พี่ลีแอบกระซิบบอกไว้ค่ะ พอดีแม่เพชรเอาสายบัวจากบ่อหลังบ้านมาให้ เพชรก็เลยลองทำให้กินค่ะ ลองดูว่าของโปรดจากฝีมือเพชรอร่อยถูกปากพี่ลีหรือเปล่า”

ชายหนุ่มจึงลองใช้ช้อนกลางตักแกงสายบัวมาราดลงบนข้าวสวยร้อนๆ ที่กำลังส่งกลิ่นหอม หลังลองชิมแล้วก็ได้แต่ยิ้ม

“อร่อยครับ นี่ไม่ได้จงใจอวย แต่อร่อยจริงๆ”

“ขอบคุณค่ะ แต่ที่อร่อยขนาดนี้ เพราะมีแม่คอยกำกับนะคะ”

“ไม่ต้องคอยมีแม่บอก เดี๋ยวนี้เพชรก็ทำกับข้าวเองอร่อยแล้ว”สำอางเอ่ยปากรับรอง

หลังจากที่ได้กลับมาคุยกัน ถ้ามีโอกาสอวิกาก็ขอให้สำอางช่วยสอนทำกับข้าวให้ตลอด เนื่องจากตอนอยู่กับบิดาและแม่เลี้ยง ส่วนใหญ่จะซื้อกับข้าวจากตลาดมากินตลอด เธอเพิ่งเริ่มหัดทำกับข้าวกินเองตอนอยู่หอพัก สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้วอยากประหยัดค่าใช้จ่าย

“ผมอยากกินฝีมือน้องเพชรมาตั้งนานแล้วครับ วันนี้เพิ่งมีโอกาสได้ชิมสมใจ” ลิขิตหันไปคุยกับสำอางด้วยท่าทางสนิทสนม อวิกาจึงมองด้วยความรู้สึกสุขใจที่เห็นแฟนของตัวเองเข้ากับมารดาได้ดี

เมื่อกินมื้อเย็นกันอิ่มแล้ว ชายหนุ่มขออาสาเป็นคนล้างจาน ดังนั้นหญิงสาวจึงออกไปนั่งเล่นกับแมวพลางดูทีวีกับมารดา หลังจากลิขิตจัดการคว่ำจานเรียบร้อยแล้ว เขาก็ออกมานั่งเล่นกับแมวด้วยเช่นกัน

“ตัวนี้ชื่ออะไรเนี่ย” ชายหนุ่มอุ้มแมวส้มอายุโตเต็มวัย ทว่าขนาดตัวค่อนข้างเล็กขึ้นมาเพื่อดูชื่อ “อ๋อ น้องส้มซ่าส์”

“มีส้มหลายตัวอยู่ค่ะ ตัวนั้นส้มจี๊ด” อวิกาชี้ไปยังแมวอ้วนสีส้มที่ไม่ยอมลงจากกล่องแมวติดผนังเลยตั้งแต่ลิขิตมา “ส่วนอีกส้มชื่อส้มตำค่ะ” เขาหัวเราะด้วยความเอ็นดูความช่างคิด ช่างตั้งชื่อแมวของแฟนสาว

“แล้วน้องลายวัวนั่นชื่ออะไร”

“ชื่อแม่วัวค่ะ เพราะตอนที่เก็บมามีลูกห้าตัวค่ะ ลายวัวหมดเลยด้วยค่ะ แต่พอดีลูกๆ มีคนรับไปเลี้ยงหมดแล้ว”

“น่ารักเชียว”

“ส่วนตัวนี้น้องเป็นแมวเปอร์เซียที่เจ้าของมาขอให้ช่วยหาบ้านใหม่ให้ค่ะ เพราะลูกที่เพิ่งคลอดของเขาแพ้ขนแมวอย่างรุนแรง” อวิกาอุ้มแมวเปอร์เซียสีเทาขนยาวสวยขึ้นมาเพื่อแนะนำให้เขารู้จัก “ชื่อน้องสุดหล่อ”

ลิขิตมองหน้ามันแล้วก็เห็นด้วย “หล่อจริง” เขาหัวเราะ

“คนมาขอรับเลี้ยงถล่มทลายเลยค่ะ แต่สรุปเจ้าของก็ขอฝากให้อยู่กับเพชร แล้วก็ซื้ออาหารแมว ขนมแมว ทรายแมวส่งมาให้ทุกเดือนเลยค่ะ ให้เยอะจนมีเหลือเผื่อแผ่ไปถึงเพื่อนๆ ของสุดหล่อด้วย ถ้ามีเวลาว่างเขาก็จะมาเยี่ยมค่ะ”

“อ๋อ พี่เข้าใจบางทีมันจำเป็นจริงๆ แต่ดีนะ เขายังหาทางออกที่ดีให้กับมัน” ชายหนุ่มรับมันมาอุ้มเล่นบ้าง “ไงครับสุดหล่อ อยู่กับเพื่อนเยอะแยะเลยสนุกไหม”

ชายหนุ่มได้ทักทายกับแมวอีกหลายตัว แต่เมื่อเริ่มดึกแล้ว สำอางจึงเป็นคนแรกที่ลุกไปอาบน้ำและเข้าห้องนอนก่อนใคร

“พี่ลีไปอาบน้ำก่อนสิคะ เดี๋ยวเพชรจะปูที่นอนให้”

“ขอบคุณนะครับ” ดังนั้นเขาจึงทิ้งน้องแมวแล้วลุกไปอาบน้ำ

เนื่องจากห้องนอนที่เคยมีอยู่สามห้อง ถูกใช้ทำเป็นห้องวางทรายแมวหนึ่งห้อง ส่วนอีกห้องถูกทำเป็นห้องวางของเล่นและต่อเติมกรงไว้ออกไปส่องนกของแมว ดังนั้นคืนนี้ลิขิตจึงต้องนอนหน้าทีวี

เมื่อลิขิตกลับมา ที่นอนก็ถูกปูเรียบร้อยแล้ว โดยปูนอนภายในมุ้งลักษณะคล้ายเต็นท์ เพื่อป้องกันยุงและแมวมารบกวนระหว่างหลับ

ในขณะที่ล้มตัวลงนอน หางตาก็เห็นอวิกาเดินผ่านไปทางห้องอาบน้ำ ตอนนี้เขากับเธอคบกันมาได้สามเดือนแล้ว ความสัมพันธ์เป็นไปด้วยความราบรื่นดี จนกระทั่งเริ่มคุยกันแล้วว่าจะย้ายไปอยู่ด้วยกัน หากหาคอนโดที่เหมาะกับการอยู่สองคนได้

กลิ่นหอมกรุ่นที่เตะจมูกทำให้เขาลืมตาขึ้น จึงได้เห็นอวิกากำลังรูดซิปเปิดมุ้งแล้วเขามาข้างใน ลิขิตขยับตัวหลีกทางให้ด้วยความงุนงง

“ยังไม่ง่วงเหรอครับ” เขาคิดว่าเธอจะเข้ามานั่งคุยเล่นด้วยกัน ถ้าง่วงแล้วก็จะไปนอนกับมารดาที่ห้องนอน

“ง่วงแล้วค่ะ”

“อ้าว แล้วทำไมไม่ไปนอนล่ะครับ”

“เพชรจะมานอนเป็นเพื่อนพี่ลีค่ะ” เธอล้มตัวลงนอนยังหมอนอีกใบ ที่เห็นตอนแรกก็สงสัยอยู่ว่าหญิงสาวจะให้หมอนเขามาทำไมตั้งสองใบ “นอนเฉยๆ นะคะ”

ลิขิตหัวเราะพลางนอนตะแคงหันหน้าไปทางหญิงสาว “แล้วจูบได้ไหม แค่จูบเฉยๆ”

“ได้มั้งคะ” อวิกาอมยิ้มจนแก้มป่อง

ชายหนุ่มขยับตัวเพียงเล็กน้อย ริมฝีปากอุ่นก็ประทับลงบนริมฝีปากนุ่มละมุน จูบแสนหวานก่อนนอนนั้นทำให้หลับฝันดีจนถึงยามเช้าเลยทีเดียว

*****

ในที่สุดลิขิตกับอวิกาก็หาคอนโดที่เหมาะสมสำหรับอยู่สองคนได้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงเก็บของเพื่อย้ายออกจากบ้านของเพื่อน โดยมีโปรดปรานกับสรัลช่วยกันขนของออกมาใส่รถรับจ้างขนย้ายให้

“ตอนนี้กลายเป็นกูที่ต้องอิจฉามึงซะงั้น” โปรดปรานที่เลิกกับแฟนแล้วทำหน้าเซ็ง

“เอาน่ามึง อีกเดี๋ยวเนื้อคู่มึงก็มา” ลิขิตตบบ่าให้กำลังใจเพื่อน

“ก็ลองถามน้องปรายสิวะ ยังมีเพื่อนน่ารักๆ เหลือแนะนำให้มึงไหม” สรัลเอ่ยยิ้มๆ

“เฮ้อ! ขอโสดไปอีกพักใหญ่ๆ ก่อนดีกว่า”

“ไม่เอาน่าเพื่อน อย่าเพิ่งท้อ กูยังเจอน้องเพชรได้ อีกเดี๋ยวมึงก็ต้องได้เจอตัวจริงของตัวเองเหมือนกัน” คนที่กำลังอยู่ในโหมดโลกสีชมพูยิ้มกว้างและจากไปพร้อมกับความรักอบอวลรอบตัว

โปรดปรานกับสรัลยืนมองส่งรถของเพื่อนจนลับสายตา ก่อนจะเดินเข้าบ้านพลางเอ่ยปากคุยกัน

“มึงจะเปิดรับคนมาแชร์บ้านแทนไอ้ลีไหมวะ”

“คงไม่ว่ะ” สรัลส่ายหัว “ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้วนี่หว่า ถ้าเกิดเจอคนประสาทแดกกูกับมึงคงอยู่ไม่สุข”

“ก็ดีว่ะ”

“กูสังหรณ์ว่ามึงก็คงอยู่กับกูอีกไม่นานหรอก”

“ไม่หรอกมั้งมึง” โปรดปรานไม่เชื่อสิ่งที่สรัลพูดจึงได้แต่ส่ายหน้าและหัวเราะ...

ทางด้านลิขิตกับอวิกานั้นก็เดินทางถึงคอนโดใหม่ของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว และใช้เวลาทั้งวันไปกับการช่วยกันจัดข้าวของของคนทั้งคู่ให้เข้าที่เข้าทาง

 “น้องเพชรพี่ปูเตียงของพวกเราเสร็จแล้วครับ” ชายหนุ่มชะโงกหน้าออกมาบอกกับหญิงสาวที่กำลังเรียงหนังสือของเธอไว้บนชั้น “มาดูหน่อยเร็ว”

อวิกาหันไปทางลิขิตแล้วค้อนเบาๆ แต่ก็ลุกเดินไปตามเสียงเรียกของแฟนหนุ่ม สุดท้ายจึงถูกดึงให้ล้มลงบนเตียงและถูกกอดเอาไว้

“อย่าเพิ่งซนสิคะ ยังจัดของไม่เสร็จเลย” ถึงปากจะห้าม แต่การกระทำกลับตรงข้าม เธอหันไปหอมแก้มชายหนุ่มฟอดใหญ่ “วันนี้กินอะไรดีคะ”

“อะไรก็ได้เหรอ” แววตาของลิขิตทอประกายวิบวับ

“กินที่ว่า หมายถึงกับข้าวนะคะ”

ชายหนุ่มยิ้มละไม “อะไรก็ได้ครับ น้องเพชรทำ พี่ก็กินหมดนั่นแหละ”

“ของที่ไม่ชอบก็กินเหรอคะ”

“ไม่เอาสิครับ” เธอหัวเราะคิกคัก

“เย็นแล้วนะคะ ออกไปตลาดซื้อของมาทำกับข้าวกันดีกว่าค่ะ”

         ดังนั้นชายหนุ่มจึงยอมปล่อยแฟนสาวออกจากอ้อมแขน ก่อนจะมองหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่ไม่รู้ว่าเผลอเอาไปวางไว้เสียที่ไหนแล้ว

         ลิขิตมองหาอยู่พักใหญ่ก็ยังไม่เจอ ดังนั้นจึงขอให้อวิกาช่วยโทรหน่อย “น้องเพชร พี่หาโทรศัพท์ไม่เจอ ช่วยโทรเข้าเครื่องพี่หน่อย”

         “ค่ะ” เธอกดโทรและช่วยมองหาด้วย เมื่อเสียงโทรศัพท์ของลิขิตดังขึ้น ก็พบว่าอยู่บนโซฟาและถูกหมอนอิงทับอยู่ อวิกาหยิบมันขึ้นมา พอเห็นชื่อบนหน้าจอก็อมยิ้ม

         “เจอหรือยังครับ”

         “อยู่นี่ค่ะ” อวิกายกโทรศัพท์ของลิขิตขึ้นมา บนหน้าจอกำลังขึ้นชื่อที่โทรหาว่า ที่รักของผม เธอยิ้มหวานพลางส่งมันคืนให้กับลิขิต “บันทึกชื่อเพชรไว้แบบนี้นี่เอง”

         “ในแผนกพี่มีน้องชื่อเพชรเหมือนกันครับ พี่เลยบันทึกชื่อน้องเพชรของพี่ไว้แบบนี้”

         เธอยิ้มกว้างจนแก้มป่อง มองดูแล้วน่ารักจนชายหนุ่มอดใจไม่ไหว ต้องดึงมากอดและจูบให้หายมันเขี้ยว ดังนั้นแผนการไปตลาดเพื่อซื้อของมาทำกับข้าวจึงช้าลงกว่าเดิมมาก

         ความรักของลิขิตกับอวิกานั้นผลิดอกออกผลเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมในอีกหนึ่งปีต่อมา ในระหว่างที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกัน เขาก็ขอเธอแต่งงาน...

 

:: จบ ::