Vampires per Day #ต่อชีวิตแวมไพร์ - บทความว่าด้วยเรื่อง ‘แวมไพร์’ (3) โดย hischool @Plotteller

มนุษย์เลี้ยงสัตว์ไว้เป็นอาหารฉันใด แวมไพร์ก็เลี้ยงมนุษย์ไว้เป็นอาหารฉันนั้น เป็นเรื่องปกติมิใช่หรือ?

Vampires per Day #ต่อชีวิตแวมไพร์ - บทความว่าด้วยเรื่อง ‘แวมไพร์’ (3) โดย hischool @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,นิยายรัก,แฟนตาซี,โรแมนติก,แวมไพร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ผู้แต่ง

hischool

เรื่องย่อ

“หยุดให้หมดทุกคน...แม่ของนางอุตส่าห์ดูแลเก็บซ่อนนางไว้อย่างดี เราก็ควรทำเช่นเดียวกัน” อาโนฟาลิสกล่าว

“เห็นว่ามนุษย์เปิดเพลงให้วัวฟังแล้วทำให้มันอร่อยขึ้นหนิ...ดังนั้นหากเลี้ยงนางดี ๆ หน่อย เลือดของนางอาจจะอร่อยขึ้นก็ได้” อาอีดีสเสริม

“จะทำอะไรก็ทำ แต่อย่าให้นางเพ่นพ่านเกินไปนัก...ผมไม่ชอบเห็นอาหารที่ยังไม่ตาย” และนี่คำพูดจากปากอาร์มีกริซ

“นี่คือข้อเสนอที่เราจะให้ และเธอไม่ควรปฏิเสธนะ...เบเรนส์”

*นิยายเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือสถานที่ใดที่มีอยู่จริงทั้งสิ้น เป็นเพียงจิตนาการของผู้เขียน*

**โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน**

#ต่อชีวิตแวมไพร์

*** ถ้าชอบผลงานของเราคอมเมนท์บอกกันได้ตามสะดวก จะสติ๊กเกอร์ จะกดหัวใจได้หมดเลยนะคะ

หากจะกันติเตือนกันได้โปรดเป็นคำสุภาพนะคะ ถึงเราจะเป็นคนหยาบช้า แต่จิตใจลิตเติ้ลโพนี่ค่ะ ***

twitter : hischool.b

@bhischools

สารบัญ

เนื้อหา

บทความว่าด้วยเรื่อง ‘แวมไพร์’ (3)

โดย Lady Hischooly

วันที่ 1 เดือน V 10 ปีหลังพระเจ้าอุนัสปกครอง

หลายคนที่อ่านบทความของดิฉันกล่าวว่าดิฉันนั้นเป็นพวกนอกรีตเข้าข้างพวกแวมไพร์

หามิได้เลยท่านทั้งหลาย ดิฉันเพียงแต่ต้องการบอกเล่าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องของแวมไพร์ ตามที่ดิฉันได้พบเจอมาเท่านั้น แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าดิฉันใส่ความเห็นของตนเองลงไปเยอะพอตัว

ก็นี่หาใช่ตำราหนังสือเรียนเรื่องแวมไพร์เสียเมื่อไหร่ เป็นเพียงบทความเล็ก ๆ รายเดือนที่ดิฉันจัดทำเองโดยมิได้ขึ้นตรงกับสำนักใด ไม่ได้มีบรรณาธิการคนไหนมาตรวจแก้ขัดเกลาเนื้อหา

นายของดิฉันก็มีเพียงพวกท่านทั้งหลายที่ยังอุดหนุนกระดาษพิมพ์หน้าเดียวนี้ ให้พอได้มีค่ากระดาษ ค่าน้ำหมึกบ้างก็เท่านั้น หรือหากแม้นไม่มีผู้อ่านแล้วไซร้... ดิฉันก็ยังจะเขียนอยู่ดีนั่นแหละ

ดังนั้นเพื่อมิให้ถูกตราหน้าว่าเข้าข้างพวกแวมไพร์มากจนเกินไป หัวข้อในบทความนี้จึงมาในเรื่องที่ว่าด้วย ‘อันตรายจากแวมไพร์ และแนวทางการป้องตัว’

แวมไพร์นั้นดำเนินชีวิตโดยการกินเลือดมนุษย์เป็นอาหาร เหมือนยุงป่า แต่เนื่องด้วยมันมีพละกำลังเหนือมนุษย์มากนักทำให้ต้านทานได้ยากเมื่อเผชิญหน้ากับแวมไพร์ที่หิวโหย การถูกกัดที่จุดสำคัญเพียงครั้งเดียวสามารถถึงแก่ชีวิตได้ราวกับถูกเสือร้ายขย้ำคอ

และอย่างที่ดิฉันเคยกล่าวไปในบทความก่อนหน้าว่า แวมไพร์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง มิใช่ภูตผีปีศาจ ดังนั้นเครื่องรางของขลังใดก็ไม่อาจจัดการกับมันได้ตามที่ผู้นำศาสนาใดกล่าว แต่ความเชื่อที่ว่าให้เอาเหล็กกล้าตอกอกนั้นยังเชื่อถือได้ เพราะสิ่งมีชีวิตใดถูกของแหลมแทงทะลวงก็ล้วนรอดชีวิตยากทั้งสิ้น

ซึ่งแนวทางการป้องกันตัวจากแวมไพร์นั้น ตาม ‘ความเห็นของดิฉัน’ คือ หากใครก็ตามเมื่อได้เผชิญหน้ากับแวมไพร์ที่จ้องจะดูดเลือดคุณแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องป้องกันจุดสำคัญอย่างต้นคอเอาไว้ แม้จะหลีกเลี่ยงการถูกกัดไม่ได้ แต่การถูกกัดที่อื่นจะมีโอกาสรอดมากว่า ข้อสันนิฐานของดิฉันนี้มาจากการสอบถามบุคคลที่รอดชีวิตการการถูกแวมไพร์กัด 115 คนในหมู่บ้านหนึ่งแถบตะวันออกเฉียงใต้

หรือหากถูกโจมตีที่ต้นคอ ให้พยายามตั้งสติ อย่าดิ้นหรือขยับตัว เพราะแม้คุณถูกกัดที่ต้นคอ คุณก็จะไม่ตายหรือหมดสติในทันที หากคุณทนอยู่นิ่ง ๆ ให้แวมไพร์ตายใจ มันจะคิดว่าคุณอ่อนแอ สำเร็จการล่าได้ง่าย และผ่อนแรงที่ใช้จัดการกับคุณ นี่จะทำให้คุณพอมีเวลาและโอกาสในการหาทางรอดมากขึ้น

การดิ้นรนขยับตัวอย่างรุนแรงจะทำให้แวมไพร์จะกัดและจับคุณแรงขึ้น จนทำให้เส้นเลือดใหญ่คุณขาด และหมดโอกาสรอดในที่สุด ข้อสันนิฐานของดิฉันนี้มาจากการที่เคยไปพบเห็นร่องรอยการตายของมนุษย์ที่ถูกแวมไพร์กัดเท่านั้น มิได้เคยเห็นการจู่โจมของแวมไพร์จริง ๆ แต่อย่างใด

ก่อนจากกันสำหรับบทความกระดาษพิมพ์หน้าเดียวฉบับนี้ ดิฉันขอย้ำอย่างหนักแน่นอีกครั้งท่านผู้อ่านที่เคารพ ทั้งหมดเป็นเพียงขอสันนิฐานของดิฉัน ด้วยเพียงหวังก็แต่ว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนมากที่สุด