เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูจะเพ้อภพสำหรับ เขา อัลฟ่าที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะแพ้ให้กับใครในโลกใบนี้  จนกระทั้งวันหนึ่ง... ‘ผมไม่เคยรู้สึกแพ้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ’  

ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse) - บทที่ ๒ ดอกไม้แห่งการขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า โดย wah_cherly @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ไทย,Omegaverse ,น่ารัก,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

Omegaverse ,น่ารัก,#BL

รายละเอียด

เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูจะเพ้อภพสำหรับ เขา อัลฟ่าที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะแพ้ให้กับใครในโลกใบนี้  จนกระทั้งวันหนึ่ง... ‘ผมไม่เคยรู้สึกแพ้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ’  

ผู้แต่ง

wah_cherly

เรื่องย่อ

 เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูจะเพ้อภพสำหรับ เขา อัลฟ่าที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะแพ้ให้กับใครในโลกใบนี้ 

จนกระทั้งวันหนึ่ง...

‘ผมไม่เคยรู้สึกแพ้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ’  

ธีรัช  

เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูไกลห่างสำหรับ เขา โอเมก้า ที่ไม่เคยย่างก้าวออกจากอาณาเขตของตน

จนกระทั้งวันหนึ่ง...

“คุณทะเลของทัชใจดี” 

ทัชชา

 

You make me feel so safe whenever I’ m with you.

🎐

I’ m smitten with you

🌅

  พูคคุย: นิยายเรื่องนี้ ฟิลกูด ฮีลใจ ที่สุดเท่าที่เคยเขียนเลยค่ะ คุณธีรัช เดบิลเป็น ไมโครเวฟ สร้างความอบอุ่นหัวใจ น้องทัช เดบิลเป็น ดวงอาทิตย์ สาดส่องความสดใส 

 

#ธีรัชทัชชา

⚠️นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งไม่ได้มีการอ้างอิงถึงความเป็นจริงใดใดทั้งสิ้น อาจมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ⚠️

 

สารบัญ

ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๑ แรกกลิ่นคนึ่งหา,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๒ ดอกไม้แห่งการขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๓ คุณเชื่อในเรื่องคู่แห่งโชคชะตาหรือไม่,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๔ แพ้โดยสมบูรณ์,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๕ ยินดีที่ได้รู้จัก,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๖ รู้จักฉันรู้จักเธอ,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๗ จะอนุญาตให้ฉันจีบเธอไหมคนดี,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๘ เพื่อนบ้านคนนั้น,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๙ เธอรุกฉันแรงก่อนนะคนดี,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๑๐ ฉันจะไปหาเธอเอง,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-e-Book ว่าด้วยตอนพิเศษ

เนื้อหา

บทที่ ๒ ดอกไม้แห่งการขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า

ธีรัชรู้สึกคันยุบยิบในใจมีช่วงหนึ่งที่เขาได้กลิ่นหอมคล้ายกลิ่นดอกไม้ของเพื่อนข้างบ้านลอยปะทะจมูกอยู่ไม่ไกลเเต่เพราะความรีบเร่ง เลยไม่ทันสังเกตเมื่อนึกได้ ก็ย้อนกลับไปดูตามทางที่ผ่านมากลับไม่พบดอกไม้ใดๆมีเพียงกลิ่นจางที่เเทบจะเลือนหายไปหากเขาไม่ใช่อัลฟ่าเลือดบริสุทธิ์ที่จมูกดีก็คงไม่มีทางได้กลิ่น

คงต้องไปหาเอาตามร้านขายดอกไม้เเล้วสิ

เมื่อคุยงานในส่วนของตัวเองกับทางเลขาที่เป็นตัวเเทนจากบริษัทที่จะมาร่วมหุ้นในงานส่วนบริษัทของตระกูลเสร็จธีรัชก็ว่างยาว เขาจึงมีเวลามาเดินชมโครงการของคอนโดที่มาพักอาศัย ร่างสูงเดินมาหยุดยืนข้างบ่อปลา

“ใครให้อาหารกัน อ้วนเกินไปเเล้ว”

ปลาคาร์ฟที่อยู่ในบ่ออ้วนจนเกินงาม เป็นเพราะสัดส่วนของอาหารที่ให้ไม่ถูกต้อง

ธีรัชจ้องมองปลาที่อยู่ในบ่อวายอวดลวดลายและสัดส่วนอวบอั้นกันไปมา สักพักก่อนเดินออกทางไปตามจุดหมายที่ตั้งไว้ตั้งเเต่เมื่อคืน

ตามล่าหาดอกไม้ที่เพื่อนข้างบ้านปลูก

....

รถสัญชาติยุโรปสีขาว ขับไปจอดยังถนนที่เรียงรายด้วยร้านขายดอกไม้ เรียกสายตาจากผู้คนได้ไม่น้อยเมื่อร่างสูงเดินลงมาจากรถ กลิ่นอายของอัลฟ่าสูงศักดิ์เเพร่กระจายเสริมความสูงสง่าก่อนเดินหายเข้าไปในร้านขายดอกไม้

ใครจะเป็นผู้โชคดีที่ได้รับดอกไม้จากผู้ชายที่เเสนเฟอร์เฟคเเละโรเเมนติกกันนะ

ผู้ชายที่เดินเข้าร้านดอกไม้เลือกดอกไม้เองกับมือไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก เรือนร่างสูงใหญ่เดินไปทั่วร้านพลางยกดอกไม้ขึ้นราวกับกำลังพินิจหาดอกไม้ที่เล่อค่ามอบให้กับผู้รับ ผู้ที่เฝ้ามองได้เเต่นึกอิจฉา


...

ธีรัชรู้สึกหงุดหงิด เขาหาดอกไม้นั่นมาเกือบค่อนวันเเล้ว ไปสวนปลูกต้นไม้ดอกไม้ใหญ่ๆหลายเเห่งเเล้วก็ยังไม่สามารถหาดอกไม้ที่มีกลิ่นนั้นได้เลย


เจ้าของสวนเเนะนำให้เขามาหายังร้านขายดอกไม้ที่รับจัดช่อ คนพวกนี้มีความรู้เกี่ยวกับดอกไม้ที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าชาวสวนที่ปลูกต้นไม้เเละดอกไม้หลากหลายชนิด หากรู้ว่ามันเป็นดอกของต้นอะไรก็สามารถติดต่อสวนเพื่อหาต้นไม้ให้ได้

ดูเป็นคำเเนะนำที่เข้าท่าไม่น้อย…เฮ้อเเต่สู้ไปถามเพื่อนข้างห้องดูจะง่ายกว่าเสียอีกเเต่เพราะความว้าวุ่นใจที่เกิดขึ้นเมื่อขาดกลิ่นนั่นธีรัชก็หักพวงมาลัยมายังถนนที่เต็มไปด้วยร้านขายดอกไม้อย่างที่เห็น

ชายหนุ่มหยิบดอกสีม่วงที่คล้ายกับดอกกุหลาบขึ้นดม เเละกลิ่นของมันดูจะห่างใกล้จากกลิ่นที่เขาตามหา

“สวัสดีค่ะคุณลูกค้านั่นเรียกว่าดอกไลเซนทัส เป็นไม้ดอกขนาดเล็ก มันดูคล้ายดอกกุหลาบใช่ไหมล่ะคะ มันมีความหมายว่า การใส่ใจเอาใจใส่ต่อคนคนนั้น หรือมิตรภาพที่ยั่งยืนและความทรงจำที่ดี เหมาะสำหรับหลายโอกาสให้เลือกใช้ มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ”

พนักงานในร้านกล่าวเเนะนำพร้อมเอ่ยถาม

“ผมอยากได้ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม...ไม่สิผมกำลังตามหาดอกไม้ชนิดหนึ่งอยู่น่ะครับ ว่าจะหาไปปลูกด้วย รู้เพียงเเค่ว่ามันมีกลิ่นหอมเเบบไหนเเค่นั้น…ถ้าได้กลิ่นอีกครั้งคงจำได้”

“ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเหรอคะ เช่นนั้นคงยากหน่อยร้านเรามีหลายสายพันธุ์ที่มีกลิ่นหอมเสียด้วย ช่วยอธิบายลักษณะกลิ่นของมันหน่อยได้ไหมคะ”

พนักงานทำหน้าคิดหนักกับโจทย์ที่ได้รับมา

“ครับ ถ้าให้ผมอธิบายมันเป็นกลิ่นที่หอมหวานชวนให้รู้สึกเคลิ้มฝันเลยเเหละครับ ฮาฮาผมว่ามันคงยากไปจริงๆ”

“ฮาฮ่า นั่นสินะคะ…โชคดีที่เราจัดโซนดอกไม้ไม่มีกลิ่นกับมีกลิ่นเเยกออกจากกันเชิญทางนี้ค่ะ…หวังว่าคุณจะเจอมัน”

พนักงานของร้านพาธีรัชเดินมายังหลังร้านที่เก็บเเยกดอกไม้ไว้เป็นหมวดหมูเพื่อสะดวกต่อการหยิบมาเติมในร้านบางส่วนยังคงอยู่บนต้นของมันอย่างดอกกุหลาบพันธุ์เล็กที่กระถางของมันวางเรียงรายไว้

“ถ้ากลิ่นหอมหวานสำหรับฉันคิดว่า ดอกลิลลี่ก็มีกลิ่นที่หอมหวานละมุนอ่อนๆชวนฝันอยู่เหมือนกันนะคะ…ลองดมดูสิคะ”

พนักงานร้านกล่าวอย่างเป็นกันเองหยิบดอกลิลลี่สีขาวนวลให้ชายหนุ่มได้ลอง ดมกลิ่นดู

“ดอกลิลลี่เป็นดอกไม้ที่ มีความหมายดีๆหลากหลายเลยค่ะ สามารถใช้สื่ออารมณ์ของผู้ให้ได้อย่างมากมาย…ผู้คนส่วนใหญ่อาจใช้ความหมายของมันสื่อไปในทางขอโทษ ขออภัยในเรื่องที่ผิดถึงคนที่รับให้รู้สึกอยากให้อภัย ดอกลิลลี่สีขาวนี่ ยัง สื่อถึงความบริสุทธิ์ใจ ไร้เดียงสา อ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งสีขาวเองก็เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ สันติสุข และสรวงสวรรค์ได้อีกด้วย ชาวตะวันตกจึงนิยมใช้ดอกลิลลี่สีขาวในงานศพ แต่ก็สามารถใช้ในงานแต่งงานได้ ช่อดอกลิลลี่สีขาวนั้นจะสื่อถึงชีวิตคู่ที่มีแต่ความจริงใจ ความเชื่อใจ ไม่คิดลวงหลอกกัน หรือหากนำไปให้คนรัก จะเป็นการบอกว่า ฉันรักเธอด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน…โรเเมนติกใช่ไหมล่ะคะ”

พนักงานสาวกล่าวบรรยายถึงความหมายของลิลลี่ด้วยรอยยิ้ม ธีรัชเองก็ไม่พูดขัดตั้งใจฟังเผื่อจะได้นำข้อมูลพวกนี้ไปประกอบในหนังสือสักเล่มของตัวเอง เรื่องราวความหมายของดอกไม้ชนิดต่างๆเองก็น่าหลงใหลไม่เเพ้ ตัวหนังสือที่เรียบเรียงเป็นกลอนบทกวี…ยิ่งรู้มากก็ยิ่งหลงใหลในดอกไม้ดอกนั้นเเละอยากรู้ความหมายของดอกไม้ต่อๆไปอย่างไม่สิ้นสุด….

สีหน้าของเด็กสาวที่กำลังบรรยายดอกไม้ที่เธอรักบอกความหลงใหลนั่นได้เป็นอย่างดี

ชายหนุ่มยกยิ้ม พลางจรดปลายจมูกโด่งพินิจกลิ่นของดอกลิลลี่ขาว

“…กลิ่นของมันใกล้เคียงนะครับเเต่ผมว่ามันยังไม่สุดอยู่ดี…”

“หว้าเสียดายจังเลยนั่นเป็นดอกไม้ที่ฉันชอบกลิ่นของมันที่สุด..”

พนักงานสาวกล่าวอย่างเสียดายที่มันไม่ใช่ดอกไม้ที่ชายหนุ่มกำลังตามหา

“พี่นภา พี่นภา ช่อดอกไม้สำหรับงานเเต่งพี่สารินเอาไว้ตรงไหนดีหนูกลัวมันเหี่ยวเสียก่อน ยิ่งดูบอบบางอยู่ด้วยเจ้าดอกระฆังน้อยเเสนเเพงนี่”

เสียงร้องของพนักงานอีกคนที่เดินเข้ามาหาหญิงสาวที่กำลังเเนะนำดอกไม้ดอกต่อไปให้กับชายหนุ่ม ทำให้บทสนทนาหยุดชะงักลง

“โอ้พี่มีลูกค้าเหรอหนูไม่รบกวนดีกว่า ขออภัยคุณลูกด้วยค่ะ”

เด็กสาวเมื่อเห็นว่าพี่สาวของตนติดพันลูกค้าอยุ่ก็รีบเบรกเท้าที่กำลังเดินเร็วไปหา กลิ่นอายของอัลฟ่าสูงศักดิ์ที่เเผ่ออกมาดูจะทำให้เด็กสาวที่เป็นโอเมก้ารู้สึกสั่นกลัวเล็กน้อย ในมือของเด็กสาวหอบช่อดอกไม้ช่อโต ไม่บ่อยนักที่จะมีลูกค้ามาเยือนหลังร้านทำให้เด็กสาวไม่ทันระวัง

“ฮึอึม ต้องขออภัยที่น้องฝ้ายเสียมารยาทด้วยนะคะ เชิญชมดอกไม้ต่อได้เลยค่ะ ฉันคงต้องเเวะไปจัดการปัญหาของเเกก่อน ขอโทษจริงๆค่ะ ”

ช่อดอกไม้ที่เด็กสาวที่นภาเรียกว่าฝ้ายถือมามีมูลค่ามหาศาล ถ้าเกิดผิดพลาดคงโดนตำหนิจากคุณเเม่ผู้เป็นเจ้าของร้านเป็นเเน่

“…ไม่เป็นไรครับ…ตอนนี้ผมพอรู้เเล้วว่าดอกไม้ที่กลิ่นของมันติดอยู่ในหัวผมเป็นดอกอะไร”

ธีรัชหมุนตัวมามองช่อของดอกไม้สีขาวดอกเล็กที่รอยเรียงกันอยู่บนกิ่งก้านน้อยๆราวกับหยดน้ำบริสุทธิ์ คำเรียกระฆังใบน้อยที่เด็กสาวกล่าวทิ้งไว้ดูจะเหมาะสมกับเจ้าดอกไม้นี่เป็นอย่างมาก

“โอ้!…ถ้าเป็นดอกไม้นี่ฉันคิดว่าคุณคงไม่สามารถหามาปลูกได้ง่ายนัก ถ้าจะให้มันหอมหวานตามธรรมชาติของมันต้องปลูกเเถบประเทศที่มีอากาศหนาว…เเละพันธุ์ของมันคงต้องนำเข้ามาเสียด้วยสิ ”

นภามองตามสายตาของชายหนุ่มไปหยุดอยู่ที่ช่อดอกไม้ที่ฝ้ายกำลังถืออยู่…ราคาของมันไม่เบาเลย ที่อยู่ในมือของเด็กสาวก็ครึ่งเเสนเข้าไปเเล้ว….เธอเชื่อว่าอัลฟ่าตรงหน้าที่ขับรถซูเปอร์คาร์มาจอดหน้าร้านมีตังพอที่จะซื้อมันมาครอบครองได้อย่างไม่ยากเย็น เเต่ถึงกระนั้นดอกไม้ชนิดนี้จำต้องสั่งจองล่วงหน้าพอสมควร

“เออฉันเกรงว่าคงไม่สามารถจัดหาดอกไม้นี้ในเวลานี้ให้คุณได้…ช่อดอกไม้นี้จำต้องสั่งจองก่อนต้องขออภัยด้วยนะคะ…คุณจะรับช่อดอกไม้อื่นเเทนไหมคะฉันสามารถที่จะหาดอกไม้ที่มีความหมายใกล้เคียงกับดอกไม้นั่นได้”

นภารีบกล่าวบอกกลัวว่าจะเกิดปัญหาขึ้น

“ไม่เป็นไรครับ…ผมเข้าใจวันนี้คงต้องตัดใจจริงๆถ้าไม่ใช่ดอกไม้นั่นเอาไปก็ไร้ความหมายครับ”

ธีรัชรู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อยทั้งที่ดอกไม้ที่ตัวเองตามหามาค่อนวันอยู่ตรงหน้าเเท้ๆ เเต่ก็ไม่สามารถหามาครอบครองได้ตามความปรารถนาของตัวเอง พนักงานมีสีหน้ากระอักกระอ่วนที่ไม่สามารถจัดช่อดอกไม้ให้เขาได้ ถึงเขาจะซื้อช่อดอกไม้อื่นไปหากไม่ใช่กลิ่นของดอกไม้นั่นก็คงไม่อาจทำให้เขาสงบใจได้เช่นตอนนี้…เเม้เขาจะยืนอยู่ห่างจากดอกนั่นอยู่ไม่น้อยเเต่กลิ่นของมันที่โชยมาทำให้เขาใจเย็นลง คลายความว้าวุ่นใจตลอดทั้งวันของเขาให้รู้สึกดีขึ้นไม่มากก็น้อย

ธีรัชยิ้มขำตัวเองที่ถูกกลิ่นดอกไม้เล็กๆนั่นล่อลวง

“เออ ฉันขอทราบได้ไหมคะว่าทำไมถึงต้องเป็นดอกระฆังน้อยนี่”

ฝ้ายที่เงียบดูเชิงอยู่นาน อดจะเอ่ยถามขึ้นมาเสียไม่ได้เมื่อชายหนุ่มจ้องมองมายังช่อดอกไม้ในมือเธออย่างโหยหา…เเละเสียดายมันอยู่ไม่น้อย

“…กลิ่นของมันช่วยให้ฉันรู้สึกสบายเเละนอนหลับได้น่ะ”

ธีรัชยิ้มบอกเด็กสาวโอเมก้าอย่างไม่ถือสา

“หรือว่าคุณลูกค้าต้องห่างคนรักเหรอคะ ตอนพี่สารินไปทำงานที่ต่างประเทศพี่ชีวันมากวานซื้อดอกลาเวนเดอร์ไปหมดเลย…เห็นว่ามันเป็นกลิ่นฟีโรโมนของพี่สาริน...”

“หืม?”

ธีรัชขมวดคิ้วสงสัย เด็กสาวเลยยิ้มรับพลางเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่มอย่างไม่นึกกลัวเมื่อคิดว่าคนตรงหน้ามีคู่เเล้ว

“พี่ชีวันกับพี่สาริน เป็นคู่รักโอเมก้ากับอัลฟ่าน่ะค่ะ กลิ่นฟีโรโมนของพี่สารินเเกเป็นกลิ่นดอกลาเวนเดอร์พอดี เมื่อพี่สารินไปทำงานไกล พอขาดกลิ่นของพี่สารินก็หงุดหงิดว้าวุ่นใจ พี่ชีวันเลยมาซื้อดอกลาเวนเดอร์เเก้ขัดไปใช้เป็นกลิ่นเเทนพี่สาริน…”

“อืม เป็นข้อมูลใหม่สำหรับฉันเลยนะนี่…ขอบใจนะ”

“งั้นอันนี้หนูให้ค่ะ หนูเข้าใจค่ะการห่างไกลคนรักมันทรมาน”

เด็กสาวปลดเข็มกลัดที่ติดก้านของดอกไม้นั้นไว้ ยื่นให้กับชายหนุ่มอย่างมีน้ำใจ เข้มกลัดดอกไม้นี่เธอว่าจะใช้กลัดมันในงานเเต่งของสารินเเละชีวัน เจ้าของช่อดอกไม้ลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ ระฆังน้อยเเห่งความสุขที่หวนคืนมา มันเป็นเศษที่เหลือจากการจัดตกเเต่งดอกไม้ เธอจึงนำมาทำเป็นเข้มกลัด

“ขอบใจนะเธอเป็นเด็กดี..จริงๆ”

ธีรัชรับเข้มกลัดดอกไม้มาไม่ขัดน้ำใจของเด็กสาวที่หยิบยื่นให้อย่างใจดี แม้เด็กสาวจะเข้าใจผิดอยู่หน่อยก็ตาม 

“เเต่ว่า ฉันจะขอซื้อมันเเล้วกัน…พอหรือไม่”

“…ไม่เป็นไรค่ะ ฝ้ายให้ค่ะ”

ธีรัชยื่นธนบัตรใบใหญ่ให้กับเด็กสาว ฝ้ายตาโตกล่าวปฏิเสธพลางเดินถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างการที่ธีรัชเป็นอัลฟ่าทำให้ฝ้ายยังคงเกร็งๆเมื่อถูกก้าวประชิดย่อมถ่อยห่างตามสัญชาตญาณ

“เฮ้อ…งั้นผมขอซื้อเป็นช่อดอกลิลลี่ขาวนั่นเเทนเเล้วกันครับ..ช่วยจัดให้ด้วยนะครับ”

“…รับทราบคะ”

เมื่อฝ้ายไม่รับเงินเเละถอยหนีชายหนุ่มไป ธีรัชจึงหันไปหานภาที่ดูจะเป็นผู้ดูเเลเด็กสาวหวังให้อีกฝ่ายช่วยพูด เเต่นภากับยิ้มพร้อมถอยหลังปฏิเสธให้การช่วยเหลือสุดท้ายก็เหลือเเต่วิธีสุดท้ายคือการอุดหนุนอีกฝ่ายเเทน

“ขอบคุณนะคะหากต้องการช่อดอกไม้พิเศษ เรือนผกา ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ”

รถสกุลต่างชาติเคลื่อนตัวออกตรอกร้านขายดอกไม้ หลังรู้ว่ากลิ่นดอกไม้เพื่อนข้างห้องที่กวนใจตนมาตั้งแต่เมื่อวานคือดอกอะไร เข็มกลัดดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ ถูกกลัดไว้ที่อกเสื้ออย่างงงๆตามสัญชาตญาณของร่างกายที่เรียกร้องหามัน

ดูเหมือนร่างกายเขาจะชอบกลิ่นดอกไม้เล็กๆนี่เกินไปเเล้ว!


....

“สวัสดีค่ะ อาจารย์ธีรัชไม่เจอกันนานเลยนะคะ ”

ธีรัชมีนัดคุยกับผู้ที่จะมาดูเเลเขาในการเขียนหนังสือเล่มต่อไป ให้เสร็จตรงตามกำหนดของทางสำนักพิมพ์

หญิงสาวค่อนข้างที่จะสนิทกับเขาเพราะเคยร่วมงานกันมาก่อน

“สวัสดีเช่นกันครับคุณ วาดดาว คงตั้งเเต่งานหนังสือเมื่อปลายปีที่เเล้ว”

“ค่ะ เป็นเกียรติมากเลยค่ะ ที่ได้ร่วมงานกับอาจารย์อีกครั้ง”

“เช่นกันครับ”

ธีรัชจับมือทักทายวาดดาวก่อนนั่งลงตรงโซฟาที่หญิงสาวผายมือไป เเก้วกาเเฟถูกยกมาเสริฟพร้อมขนม

“ ห้องพักไม่มีปัญหา อะไรใช่ไหมคะ”

“ครับ อยู่สบาย ต้องขอบคุณคุณวาดดาวที่เป็นธุระให้ ลำบากคุณวาดดาวเเล้ว”

สำนักพิมพ์นี้ย้ายที่ตั้งใหม่ซึ่งค่อนข้างตั้งอยู่ไกลตัวเมืองเเละที่อยู่เก่าของเขา เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปกลับให้เหนื่อย ธีรัชจึงมองหาห้องเช่าไปพลางก่อนว่าควรหาซื้อที่ดินเเถวนี้ไว้ดีไหม ได้วาดดาวช่วยหาห้องให้

“ไม่ลำบากหรอกคะ ดาวเองก็กำลังหาคนเช่าให้น้องชายพอดี ดาวเองก็ได้ประโยชน์เล็กน้อยๆด้วยไม่ลำบากเลยคะ ”

วาดดาวพูดพร้อมยิ้มขำ

เจ้าของห้องพักที่ธีรัชมาอยู่เป็นห้องของน้องชายของวาดดาว ซึ่งหลังได้สามีเป็นอัลฟ่าก็บินไปอยู่กับสามีนานเเล้ว ปล่อยห้องร้างเกือบ5ปีไปอย่างน่าเสียดาย ก็รู้เเหละว่าเเฟนรวย เเต่ค่าเช่าเดือนหนึ่งนี่เกือบครึ่งของเงินเดือนเธอเลยนะ เธอจึงอดที่จะโทรไปบ่นเสียไม่ได้ เจ้าของห้องเลยยกให้เธอเป็นผู้ดูเเลการปล่อยเช่าเเทน เเบ่งเงินกันไป70ต่อ30 น้องเธอ70เธอ30 ตอนเเรก เจ้าน้องชายให้เธอ50ต่อ50ด้วยซ้ำ จนต้องบ่นเทศอีกยก เจ้าตัวถึงยอม

“เข้าเรื่องงานกันดีกว่าค่ะ จะได้ไม่รบกวนเวลาอาจารย์มาก อาจารย์รู้ยังคะว่าจะเขียนเป็นหนังสือเเนวไหน”

“หึหึ พูดตามตรงตอนนี้ยังโล่งอยู่เลยครับ คุณวาดดาวลองเสนอเเนวให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”

“ถ้ายังไม่ได้ก็ไปเป็นไรค่ะ ดาวเข้าใจงานพวกนี้ต้องใช้อารมณ์เป็นเเนวร่วม อือ เเนะนำเหรอคะ อาจารย์ลองเขียนหนังสือเกี่ยวกับความรักไหมคะ ปีนี้เขาว่าเรื่องเเนวรักๆกำลังมาเเรงเลยค่ะ โดยเฉพาะ เรื่องเกี่ยวกับคู่เเห่งโชคชะตา”

“คู่เเห่งโชคชะตา?”

ธีรัชเลิกคิ้วขึ้นสูงจ้องมองวาดดาวที่เสนอขึ้นมา

“ใช่ค่ะ อาจารย์เองก็เป็นอัลฟ่าไม่เคยได้ยินมาบ้างเหรอคะ ที่เขาว่ากันว่าอัลฟ่าเเละโอเมก้าจะมีคู่ของกันเเละกันที่ถูกโชคชะตากำหนดให้คู่กัน กลิ่นฟีโรโมนคู่เเห่งโชคชะตาจะมีผลรุนเเรงต่อพวกเขา ว่ากันว่าเขาจะได้กลิ่นกันโดยไม่ต้องมีอาการฮีต รัท หรือผูกพันธะกันก่อนด้วยซ้ำ บางทีเพียงเเค่คู่เเห่งโชคชะตาได้สบตากันพวกเขาก็รู้ทันทีว่านี่คืออีกครึ่งชีวิตที่ตามหา อาจจะกล่าวได้ว่าคู่เเห่งโชคชะตาเป็นคู่ที่ ผูกพันกันด้วยจิตวิญญาณเลยก็ว่าได้ค่ะ ฟังดูโรเเมนติกไหมล่ะคะ ”

“หึ ฟังดูเพ้อฝันมากกว่าครับ”

“โถ่อาจารย์ไม่อินกับเรื่องรักๆจริงๆด้วย ขนาดดาวเป็นเบต้ายังอดนึกอิจฉาพวกอัลฟ่ากับโอเมก้าไม่ได้เลยค่ะที่อย่างน้อยๆก็ยังมีคู่อยู่บนโลกใบนี้เเม้จะยังหากันไม่เจอก็ตาม ”

ธีรัชมองหน้าเพ้อฝันของคุณผู้ดูเเลสวยอย่างเอ็นดู เธออายุน้อยกว่าเขาอยู่ไม่น้อย วาดดาวเป็นผู้ดูเเลนักเขียนหลายคนนับว่าเธอเป็นคนเก่งมากๆคนหนึ่งที่ธีรัชรู้จัก เป็นคนที่ชอบเล่าเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจให้เขาเป็นเเรงบันดาลใจได้ไม่มากก็น้อย

“ถ้าว่ากันตามทฤษฎีที่ผมเคยอ่านผ่านตามาบาง เปอร์เซ็นต์ของการพบคู่เเห่งโชคชะตาบนโลกใบนี้มีอัตราเพียง0.01เปอร์เซ็นต์เองครับ มีความเป็นไปได้น้อยมากจนเเถบริบหรี่เลยก็ว่าได้ครับ เเละเมื่อคู่เเห่งโชคชะตาทำพันธะสัญาคู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่ไปเเล้วก่อนที่จะเจอกัน การพบรักเพื่อครองรักของพวกเขาดูจะเป็นไปไม่ได้ยิ่งกว่าเก่าเสียอีก มันถึงเป็นได้เเค่เพียงนิทานชวนฝันหวานเท่านั้นเเหละครับ”

“อาจารย์เล่นเอาข้อมูลวิจัยมาอ้างขนาดนี้ดาวไปต่อไม่ถูกเลยค่ะ เฮ้อ ดาวอยากให้อาจารย์ได้เจอคู่โชคชะตาจริงๆเลย”

“หึหึขอบคุณครับ อันนี้เป็นเเบบสำรวจ ผมคิดว่าจะทำหนังสือเกี่ยวกับนำเที่ยวดีไหม ดูเหมือนช่วงนี้ผู้คนนิยมไปเที่ยวออกทิปตามที่ต่างๆ…”

ธีรัชเริ่มออกความคิดเห็นประกอบจากผลสำรวจที่ได้หามา

“ดาวยังไม่อยากหลุดจากคอนเซปโรเเมนติกเลยค่ะทิปคู่รักไหมคะ!!!”

ผู้ช่วยสาวยังคงเสนอเเนวคิดของตนเองอย่างกระตือรือร้น

“คุณวาดดาว เผื่อคุณลืมผมยังโสดไม่สามารถเขียนเรื่องที่ไม่มีประสบการณ์ได้หรอกครับ”

“อาจาร์ยออกจะหล่อขนาดนี้ เเฟนหาไม่ยากเลยค่ะ หรือเอาเป็นทิปตามหารักเเท้ดีไหมคะ”

“….”

“ดาวล้อเล่นไม่อยากให้อาจารย์เครียดนะค่ะ…เเต่ถ้าได้ก็ดีนะคะ”

เรื่องงานเขียนถูกคุยอย่างผ่อนคลายเมื่อดูจะทักทายเเละปรึกษาหารือกันพอประมาณธีรัชก็เอ่ยขอตัวออกมา

“ไว้ผมจะเก็บไปพิจารณาเรื่องที่คุณเสนอมานะครับ”

“ขอบคุณค่ะอาจาร์ยไว้ได้เรื่องค่อยติดต่อหาดาวก็ได้ค่ะ ช่วงนี้ก็สบายไปก่อนค่ะ ”

เรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ช่างดูเป็นคำที่ไกลห่างออกจากชีวิตของเขามากเลย หากจะมีความรักมันก็คงไม่ใช่ช่วงเวลานี้ ธีรัชยังคงสนุกกับงานที่ทำและยังไม่มีใครมีเเรงดึงดูดตัวเขาออกมาจากสิ่งนั้นได้เลย


....


ธีรัชทิ้งตัวลงเตียงอย่างหมดสภาพวันนี้เขาตะลอนหาดอกไม้เจ้าปัญหาไปทั่วเลย ไหนจะอยู่คุยงานอีก

“เเกนี่ทำให้ฉันยุ่งทั้งวันเลยนะ”

ธีรัชยกดอกไม้ขึ้นจรดจมูกเพื่อสูดดมกลิ่นของมัน…เเม้ดอกไม้จะเริ่มเหี่ยวเฉาไปเยอะเเล้วเเต่ก็ยังคงมีกลิ่นหอมให้อัลฟ่าหนุ่มได้รู้สึกปลอดโปร่ง…ร่างที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันเผลอไผลไปกับกลิ่นของดอกไม้หลับโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

…ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานมันให้เขาจนสามารถพักผ่อนในยามค่ำคืนนี้ได้อย่างเป็นสุข…


.


.


.





Talk; ถ้าไม่ใช่เธอก็ไร้ความหมาย...