เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูจะเพ้อภพสำหรับ เขา อัลฟ่าที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะแพ้ให้กับใครในโลกใบนี้ จนกระทั้งวันหนึ่ง... ‘ผมไม่เคยรู้สึกแพ้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ’
ชาย-ชาย,รัก,ไทย,Omegaverse ,น่ารัก,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูจะเพ้อภพสำหรับ เขา อัลฟ่าที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะแพ้ให้กับใครในโลกใบนี้ จนกระทั้งวันหนึ่ง... ‘ผมไม่เคยรู้สึกแพ้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ’
เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูจะเพ้อภพสำหรับ เขา อัลฟ่าที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะแพ้ให้กับใครในโลกใบนี้
จนกระทั้งวันหนึ่ง...
‘ผมไม่เคยรู้สึกแพ้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ’
ธีรัช
เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูไกลห่างสำหรับ เขา โอเมก้า ที่ไม่เคยย่างก้าวออกจากอาณาเขตของตน
จนกระทั้งวันหนึ่ง...
“คุณทะเลของทัชใจดี”
ทัชชา
You make me feel so safe whenever I’ m with you.
🎐
I’ m smitten with you
🌅
พูคคุย: นิยายเรื่องนี้ ฟิลกูด ฮีลใจ ที่สุดเท่าที่เคยเขียนเลยค่ะ คุณธีรัช เดบิลเป็น ไมโครเวฟ สร้างความอบอุ่นหัวใจ น้องทัช เดบิลเป็น ดวงอาทิตย์ สาดส่องความสดใส
#ธีรัชทัชชา
⚠️นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งไม่ได้มีการอ้างอิงถึงความเป็นจริงใดใดทั้งสิ้น อาจมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ⚠️
ทัชชารู้สึกเหมือนชีวิตของตนเองขาดบางสิ่งที่สำคัญไป ร่างน้อยที่ขดตัวอยู่ในอ้อมเเขนของตุ๊กตาหมีตัวโตกัดเล็มเล็บตัวเองด้วยความคุ้นชินเมื่อวิตกกังวลกลิ่นประหลาดราวกับกลิ่นอายของทะเลยามต้องดวงอาทิตย์ชวนให้รู้สึกอบอุ่นใจเเละสดชื่นนั่น ล่อลวงให้ทัชชานึกถึงเเต่มันเสียเเล้ว ใจหนึ่งก็อยากออกจากห้องตามหาคุณอัลฟ่าเจ้าของกลิ่นฟีโรโมนใจจะขาดอีกใจก็นึกหวั่นถ้าเจอขึ้นมาจริงๆ ตนจะไม่เป็นอะไรไปเสียก่อนหรือ ทัชชายังคงคิดว่าตนเองยังไม่พร้อมที่จะเจอใครในตอนนี้
“เฮ้อ…ให้มันได้อย่างนี้สิกล้าๆ หน่อย”
ทัชชา ซบศีรษะของตัวเองกับตุ๊กตาหมีที่ตัวเองกำลังกกกอด อยู่บนโซฟา
“คุณดอล่าร์วันนี้ถ้าทัชชาออกไปจะเจอคุณอัลฟ่าเจ้าของกลิ่นนั่นไหม”
ทัชชาโยกตัวไปมาจ้องมองไปยังหน้าของตุ๊กตาพลางถามความคิดเห็น
“ถ้าไม่ออกไปก็ไม่เจอใช่ไหมล่ะ…วันนี้ทัชชาจะขึ้นห้องช้ากว่าปกติเเล้วกันพวกพี่หมีคงไม่เหงากันนะ”
หลังหาข้อสรุปกับตัวเองได้ทัชชาก็เริ่มทำภารกิจประจำวัน นาฬิกาชี้บอกเวลาว่าตีสี่ไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว
“หืมวันนี้ลงมาช้ากว่าทุกวันนะ”
อชิที่เห็นร่างคุ้นตาในชุดเสื้อกันหนาวตัวใหญ่เเม้วันนี้จะไม่มีเเว่นกันเเดดบดบังใบหน้าให้รู้สึกขัดใจเเต่หมวกฮู้ดของเสื้อก็คุมปิดหน้าเจ้าตัวไปกว่าครึ่ง
“สวัสดีครับพี่อชิ”
“อ่าสวัสดีมีอะไรให้พี่ช่วยไหม”
อชิที่เห็นน้องแบกถุงบางอย่างมาด้วยเลิกคิ้วขึ้นถาม
“ไม่เป็นไรครับ”
ถุงในมือที่หยิบติดมือมานอกจากถุงขยะเเล้วทัชชายังหยิบถุงอาหารปลาคาร์ฟมาทั้งถุงจากปกติที่จะเเบ่งใส่ถุงเล็กใส่ในช่องกระเป๋าเสื้อ
เพราะตั้งใจจะอยู่นานกว่าปกติทัชชานั่งลงบนม้านั้งข้างบ่อปลา อาหารปลาถูกโปรยทีละเม็ดอย่างใจเย็น
เเสงเเรกของวันเริ่มเห็นเด่นชัดที่ขอบฟ้า ตัดกับสีครามที่เริ่มจางลงอย่างช้าๆเเทนที่ด้วยสีเหลืองของอรุนและดวงอาทิตย์ อันอบอุ่น
ทัชชาพ่นลมหายใจเข้าออกเพื่อควบคุมจังหวะการหายใจที่เริ่มติดขัดเมื่อมีกลุ่มคนสี่คนเดินผ่านเขาไป
“ทัชชายังไม่กลับขึ้นห้องหรือ วันนี้เราทำให้พี่แปลกใจนะ”
อชิที่ได้เวลาเลิกงานเดินออกมาเจอร่างเล็กที่นั่งตัวกลมอยู่บนม้านั่งร้องทักอย่างตกใจ เขาคิดว่าทัชชากลับขึ้นห้องไปนานเเล้ว โอเมก้าหนุ่มมองรอบๆที่เริ่มพลุ่งพล่านไปด้วยผู้คนอย่างกังวล
“ไหวไหมทัชชา”
อชิเดินเข้าไปใกล้ร่างน้อยที่บรรยากาศรอบกายดูเหงาหงอย
“หน้าซีดหมดเเล้ว กลับขึ้นห้องเถอะ ให้พี่ช่วยไหม”
ทัชชาเงยขึ้นสบตากับรุ่นพี่โอเมก้าที่กำลังเเสดงใบหน้ากระวนกระวายเมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของเจ้าตัว
“คุณอัลฟ่าเจ้าของกลิ่นไม่มา…”
ทัชชาพึมพำเเผ่วเบาพลางเกาะเสื้อของอชิเมื่อตัวเองรู้สึกผิดหวังเเละอยากอ้อนใครสักคนหรือตุ๊กตาสักตัว
“หืมว่าไงนะ”
ทัชชาส่ายศีรษะ
“ขึ้นห้องเถอะเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
อชิอาสา เเปลกใจเล็กน้อยที่เห็นน้องเเตะต้องตนเองก่อนเเม้จะแค่เพียงปลายเสื้อก็เถอะ ทัชชาคงเริ่มเปิดใจให้ตนบ้างเเล้วสินะนับเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยกับพัฒนาการเล็กๆนี่
ทัชชารู้สึกตาลายไปหมด เสียงของผู้คนรอบๆมันดังวนๆก้องอยู่ในหัว ร่างกายของเขารู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อผ่านกลุ่มคนจำนวนมาก เเต่ถึงกระนั้นทัชชาก็ยังพยายามควบคุมลมหายใจของตัวเองหายใจเข้าออกอย่างช้าๆด้วยสติที่เหลืออยู่
โชคดีที่ร่างกายของทัชชาเริ่มคุ้นชินเเละไว้ใจจึงไม่ออกอากาศต่อต้านหรือหวาดกลัวอชิอย่างที่ตนคิดไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าเป็นโอเมก้าเหมือนกันหรือเปล่า เเม้ไม่ได้ให้ความรู้สึกปลอดภัยมากนักเเต่ก็เหมือนมีเพื่อนคอยเคียงข้างให้รู้สึกอุ่นใจ
ทัชชาเบียดกายชิดหลังของอชิมากขึ้น เมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาในลิฟต์ด้วย2คน หลบอยู่หลังรุ่นพี่โอเมก้า
“โถ่เว้ยไอเวรนั่นไม่รู้เป็นเหี้ยอะไรเรียกใช้งานกูอยู่ได้”
“เอาน่ามึงอย่างไงก็เพื่อนกัน”
สองคนที่เข้ามาใหม่เริ่มสนทนากัน ทัชชาจะไม่รู้สึกอะไรมากเลยถ้าทั้งสองคนนั้นไม่ใช่อัลฟ่า
“อึก”
ทัชชาหายใจสะดุด เมื่อรับรู้ถึงฟีโมนรุ่นเเรงของอัลฟ่าที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธร่างเล็กเริ่มสั่นกลัว
อชิขมวดคิ้วให้กับฟีโรโมนของอัลฟ่าร่วมลิฟต์ เพราะมันไม่ได้เจาะจงมาที่ตนจึงไม่มีผลกับอชินอกจากทำให้รู้สึกรำคาญ อชิรีบหันไปหาคนที่หลบอยู่หลังตนทันที เมื่อรู้สึกถึงความผิดปกติของลมหายของทัชชา
“ทัชชาไหวไหม คุณช่วยหยุดปล่อยฟีโรโมนได้เเล้ว! ”
อชิเอนตัวทัชชาให้ซบอกตนปล่อยฟีโรโมนของโอโมก้าหวังให้มันช่วยกลบกลิ่นอัลฟ่าเเละบรรเทาอาการของทัชชาได้
“ฮ่ะทำไม…กลิ่นนมเย็นนี่ฟีโรโมนเธอหรอจะฮีทเหรอไม่ได้เตรียมยาไว้หรือไง ฟีโรโมนเเค่นี้ก็มีผลกับเธอเเล้วหรือไงพวกโอเมก้านี่อ่อนเเอกันทุกตัวเลยหรือไงวะจินเหวิน”
อชิอยากพุ่งไปซัดปากอัลฟ่าอีกคนมากถ้าไม่ติดว่าทัชชากำลังพิงตนอยู่
“เฮ้อ..ใจเย็นไอคินอย่าพาลไปทั่ว เออมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ ”
จินเหวิน อัลฟ่าอีกคนเมื่อเห็นเพื่อนของตนกำลังเดือดเอ่ยปราม พรางขยับเข้าใกล้ ร่างของโอเมก้าที่ปล่อยฟีโรโมนกลิ่นนมเย็นเข้าข่มกลิ่นฟีโรโมนของเพื่อนที่กำลังโกธร จึงมองเห็นร่างของโอเมก้าอีกคนที่ดูอาการไม่สู้ดี
จินเหวินไม่ได้กลิ่นฟีโรโมนจากร่างที่กำลังพิงเเอบโอเมก้าเจ้าของกลิ่นนมเย็น เพราะฉะนั้นร่างตรงหน้าไม่ได้จะฮีทเเต่ดูเหมือนจะป่วยเเละดูหายใจลำบาก…
“หยุดอยู่ตรงนั้นถอยออกไป ทัชชาหายใจก่อน ทัชชา!”
อาการของทัชชาเริ่มเเย่งลง อชิจับร่างของทัชชาไว้แน่นเมื่อร่างน้อยทำท่าจะไถลลงไปกองกับพื้น
“เฮ้ยๆไม่ตลกนะเว้ย เกิดอะไรขึ้น”
“ให้ผมช่วยไหม”
“เด็กคนนี่เป็นโรคหวาดกลัวอัลฟ่าขั้นรุนเเรง กลิ่นฟีโมนนายไปกระตุ้นเขา”
“ฮะเฮ้ยกูไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษ ”
อคินที่เริ่มรู้ความผิดตัวเองเเปรเปลี่ยนเป็นความตกใจเเทบสลายฟีโรโมนของตัวเองทิ้งทันที พยายามเก็บกันอารมณ์ไม่ให้ฟีโรโมนของอัลฟ่าหลุดลอดออกไปโชคดีที่เขาเป็นอัลฟ่าเลือดเเท้จึงสามารถควบคุมฟีโรโมนของตัวเองได้อย่างดี
ลิฟต์เปิดออกสองอัลฟ่ารีบถอยห่างออกมาทันทีเมื่อเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีจากใบหน้าที่เคร่งเครียดของโอเมก้าเจ้าของกลิ่นนมเย็ม
“พี่จรินติดต่อรถพยาบาลให้ผมที เรียกพี่หมอจากคลีนิกมาด้วยชั้น5หน้าลิฟต์ ด่วนเลยครับ”
โชคดีที่คอนโดมีคลีนิคมาเปิดใกล้ๆเเละมีหมอมาอาศัยที่ดอนโดนี้ อชิที่เป็นนิติประจำคอนโดจึงถูกฝากให้ประชาสัมพันธ์เเละได้เบอร์มาเป็นที่ระทึกจากการถูกจีบเมื่อเช้า เบอร์ถูกวางไว้ที่นั่งนิติที่ตอนนี้มีจรินประจำการอยู่
“โถ่เว้ย อย่ามุง ใครรู้ตัวเป็นอัลฟ่าถอยไปให้ไกลเลย นายสองคนกันพื้นที่ดิยืนโง่อยู่ทำไม!!”
อชิตวาดอย่างเกี่ยวกราดเมื่อคนเริ่มมุง สองอัลฟ่าก็ดูเหมือนจะสติเเตกไปเเล้ว
“ตัวเย็นเฉียบเลย ทัชชา ทัชชา! หายใจตามพี่สิ”
โอเมก้าหนุ่มนวดไปตามเนื้อตัวที่เริ่มเย็นของทัชชา พลางส่งเสียงเรียกสติทัชชาที่พยามกลั่นหายใจจนตัวเกร็ง
“คุณเป็นอัลฟ่าไม่ใช่หรือไงถอยออกไป!”
อัลฟ่าคนหนึ่งตรงเข้ามาคุกเข่า ทอดมองร่างของทัชชาด้วยคิ้วที่ขมวดเป็นปมอย่างคนคิดไม่ตก เเต่ถึงอย่างงั้นบรรยายกาศรอบกายที่แผ่ออกมาก็ทำให้อชิรู้สึกหวั่นเกรง
“เธอเชื่อในเรื่องคู่เเห่งโชคชะตาหรือไม่…ส่งเขามาให้ฉันเเล้วเขาจะดีขึ้น…”
กลิ่นของอัลฟ่าที่ผสมปนเปกระตุ้นอดีตเเสนเจ็บปวดที่กำลังตามหลอกหลอนทัชชาให้ตื่นขึ้น
สติของเขาถูกดึงเข้าไปในนั้น ภาพในอดีตหวนกลับคืนร่างของเขาที่กำลังวิ่งหนี เพื่อนๆในห้องเเละคุณครูที่กำลังวิ่งตามล่าเขา สายตาที่น่าหวาดหวั่นของคนพวกนั้น ล้วนเป็นภาพจำที่เขาไม่อาจลบมันออกจากหัว ร่างของเขาถูกอัลฟ่าคนหนึ่งดึงเข้าหาตัวได้สำเร็จเสื้อผ้าของเขาถูกฉีก เขาในตอนนั้นกรีดร้องอย่างหวาดผวา ความทรมาณในกายที่เริ่มประทุไม่อาจดึงสติของเขากลับมาได้เลย อัลฟ่าคนนั้นและอัลฟ่าอีกคนดึงพากันล้มลงทำให้เขาสามารถที่จะวิ่งต่อได้ เขาขังตัวเองที่เริ่มไม่เหลือสติเพราะความหวาดกลัวกับตู้เหล็กใบเล็กหาของมาทำให้ตู้ไม่สามารถเปิดได้ ในนั้นมืดมากเเละเขาก็เริ่มหายใจไม่ออกเสียงของเหล่าอัลฟ่าที่กำลังรัทเพราะถูกกระตุ้นจากฟีโรโมนของโอเมก้าที่ฮีทกำลังวนเวียนหาโอเมก้าเพื่อบำเรออาการรัทที่เเห่งนั้นฉุนด้วยกลิ่นฟีโรโมนของอัลฟ่าจนเขารู้สึกหายใจไม่ออกอากาศในตู้ใบเล็กก็มีน้อยทำให้หายใจลำบาก เเสงไฟเริ่มหายไปเมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน ความมืดของตู้เริ่มมืดมิดเข้าไปอีก เขาเริ่มหายใจไม่ออก….อัลฟ่าคนนึงคล้ายสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของเขากลิ่นฟีโรโมนที่น่าอึดอัดเข้ามาใกล้ เขาหายใจช้าลงเพราะเกรงว่าเสียงของลมหายใจจะดังรอดออกไป…..ตัวเขาค่อยๆสิ้นสติอย่างช้าๆพร้อมเสียงของฝีเท้าที่ขยับเข้าใกล้พร้อมกลิ่นอัลฟ่าอันน่าสะอิดสะเอียด…
ร่างกายของเขารู้สึกหายใจไม่ออกพร้อมสติของเขาหลุดลอยไป
….ทรมาน….
.......
“ทะเล…”
ทัชชาได้กลิ่นทะเล…มันทำให้เขารู้สึกสดชื่น…ร่างกายของเขาขยับเข้าหาสิ่งนั้นอย่างเผลอไผลเเละโหยหา
เริ่มหายใจสูดกลิ่นที่ทำให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัยเเละสงบเข้าสู่ร่างกาย
“นั่นเเหละเด็กดี หายใจอย่างนั้นเเหละดีมากเธอเก่งมาก”
“งือ…”
ทัชชาขยับเข้าใกล้จุดที่กลิ่นเข้มข้นเมื่อจุดนั้นดูเหมือนจะขยับ ใบหน้าขยับย่นอย่างหวาดกลัวว่าจะโดนพรากสิ่งที่ทำให้ตนรู้สึกดีไป มือที่ไคว้คว้าจับโน้มมันเข้าหาตัวอย่างหวงเเหน
“ฉันอยู่ตรงนี้ เธอปลอดภัยแล้ว”
น้ำเสียงทุ่มน่าฟังกระซิบที่ข้างหูของเขาเเผ่วเบา
ดวงตาสีอ่อนปรือขึ้นเเต่ก็พร่ามัว สติของทัชชาเลือนลางเต็มทีราวกับที่นี่คือห้วงเเห่งความฝัน เขากำลังซบบ่าของใครบ้างคนอยู่ทัชชากอดคอคนคนนั้นไว้เเน่น ร่างกายเล็กผละออกเล็กน้อย คนที่โอบกอดเขาอยู่ก็ขยับเลือนใบหน้ามาจ้องมองดวงหน้าของเขา
ดวงตาสีสมุทรงดงามทำให้ทัชชายกมือขึ้นสัมผัสเสี่ยวหน้าของอีกคนอย่างเผลอไผล
“คุณทะเล…เจอเเล้ว..”
ทัชชาระบายยิ้มอ่อน ก่อนสติทุกอย่างจะดับวูบลงเมื่อรู้สึกปลอดภัยและสบายตัว
“หึ…เจอเเล้วเช่นกันเจ้าระฆังน้อยเเสนกวนใจ”
....
..
.
เนื่องจากวันนี้ธีรัชไม่มีงานจึงไม่ได้รีบร้อนที่จะออกจากห้อง ตอนเช้าธีรัชมีแพลนว่าจะไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสเนสที่อยู่ชั้นห้าของคอนโดเท่านั้น..เขาอยู่ออกกำลังกายตั้งเเต่ค่อนเช้าเมื่อคนเริ่มเยอะจึงเลิก เพื่อให้คนที่มาทีหลังได้มีที่ว่างเเละเขาเองก็รู้สึกพอเเล้วกับการออกกำลังกายสำหรับเช้านี้
“โถ่เว้ย อย่ามุงใครรู้ตัวเป็นอัลฟ่าถอยไปให้ไกลเลย นายสองคนกันพื้นที่ดิยืนโง่อยู่ทำไม”
เสียงของบางคนดังทะลุเพลงที่เขากำลังเปิดใส่หูฟังไว้ เมื่อมองยาวตรงไปทีโซนลิฟต์ของทางขึ้นมีคนกลุ่มหนึ่งทั้งที่ออกจากฟิตเนสเเละกำลังเข้า มุงกันอยู่หน้าลิฟต์ กลิ่นของบางอย่างทำให้ธีรัช ก้าวเข้าหากลุ่มคนอย่างลืมตัว กลิ่นของฟีโรโมน นมเย็นคลุ้งเต็มอากาศ แต่มีกลิ่นหนึ่งที่ดึงดูดเขามากกว่าสิ่งใด
“ระฆังน้อย...”
กลิ่นของดอกลิลลี่ออฟดิบัลเลย์ที่เขาจรดจำจนขึ้นใจ
ธีรัชมองร่างหนึ่งร่างที่อยู่ในอ้อมแขนของโอเมก้าเจ้าของกลิ่นนมเย็น ราวกับตกอยู่ในภวังค์
‘ อาจารย์เองก็เป็นอัลฟ่าไม่เคยได้ยินมาบ้างหรอคะ ที่เขาว่ากันว่าอัลฟ่าเเละโอเมก้าจะมีคู่ของกันเเละกันที่ถูกโชคชะตากำหนดให้คู่กัน กลิ่นฟีโรโมนคู่เเห่งโชคชะตาจะมีผลรุนเเรงต่อพวกเขา ว่ากันว่าเขาจะได้กลิ่นกันโดยไม่ต้องมีอาการฮีต รัท หรือผูกพันธะกันก่อนด้วยซ้ำ บางทีเพียงเเค่คู่เเห่งโชคชะตาได้สบตากันพวกเขาก็รู้ทันทีว่านี่คืออีกครึ่งชีวิตที่ตามหา อาจจะกล่าวได้ว่าคู่เเห่งโชคชะตาเป็นคู่ที่ ผูกพันธ์กันด้วยจิตวิญญาณเลยก็ว่าได้ค่ะ ฟังดูโรเเมนติกไหมล่ะคะ ’
บทสนทนาที่เคยคุยเล่นกับวาดดาวย้อนกลับมาในหัวเขาอย่างรวดเร็ว
ใช่เขาไม่เชื่อในเรื่องของคู่แห่งโชคชะตา...จนกระทั่งตอนนี้ เขาได้กลิ่นที่ทำให้เขาวุ่นวายใจมาตลอดสองวัน จากร่างของเด็กคนนั้น เป็นความรู้สึกที่ไม่ไกลจากคำที่วาดดาวกล่าวทิ้งไว้ในความทรงจำเลยซักนิด...ราวกับพบเจออีกครึ่งของชีวิตที่ขาดหาย...มันไม่เกินจริงอย่างที่เขาเคยคิดเลยสักนิด...ทั้งที่สำหรับเขาคนตรงหน้าไม่ต่างไปจากคนที่เดินผ่านกันไปมา ห่างไกลกันยิ่งกว่าคนแปลกหน้าเสียด้วยซ้ำ...แต่มีผลต่อความรู้สึกเขาอย่างน่าประหลาด
ยามเมื่อเห็นใบหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวดของเจ้าของกลิ่นระฆังน้อย เขาก็เคลื่อนกายตรงดิ่งเข้าหาร่างนั้นอย่างรวดเร็ว
เอื้อมกระชับกอดอีกคนได้อย่างไม่รู้สึกระแคะระคาย
เป็นความรู้สึกที่ขี้โกงกันเกินไปแล้ว...คู่แห่งโชคชะตา
Talk:เห็นแววคนคลั่งรักไหมคะ🤭 มาดูคุณธีรัชกับคุณทัชชาเขาจีบกันดีกว่า...ใครจะคลั่งรักใครมากกว่ากันน้า...