เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูจะเพ้อภพสำหรับ เขา อัลฟ่าที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะแพ้ให้กับใครในโลกใบนี้  จนกระทั้งวันหนึ่ง... ‘ผมไม่เคยรู้สึกแพ้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ’  

ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse) - บทที่ ๔ แพ้โดยสมบูรณ์ โดย wah_cherly @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ไทย,Omegaverse ,น่ารัก,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

Omegaverse ,น่ารัก,#BL

รายละเอียด

เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูจะเพ้อภพสำหรับ เขา อัลฟ่าที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะแพ้ให้กับใครในโลกใบนี้  จนกระทั้งวันหนึ่ง... ‘ผมไม่เคยรู้สึกแพ้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ’  

ผู้แต่ง

wah_cherly

เรื่องย่อ

 เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูจะเพ้อภพสำหรับ เขา อัลฟ่าที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะแพ้ให้กับใครในโลกใบนี้ 

จนกระทั้งวันหนึ่ง...

‘ผมไม่เคยรู้สึกแพ้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ’  

ธีรัช  

เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูไกลห่างสำหรับ เขา โอเมก้า ที่ไม่เคยย่างก้าวออกจากอาณาเขตของตน

จนกระทั้งวันหนึ่ง...

“คุณทะเลของทัชใจดี” 

ทัชชา

 

You make me feel so safe whenever I’ m with you.

🎐

I’ m smitten with you

🌅

  พูคคุย: นิยายเรื่องนี้ ฟิลกูด ฮีลใจ ที่สุดเท่าที่เคยเขียนเลยค่ะ คุณธีรัช เดบิลเป็น ไมโครเวฟ สร้างความอบอุ่นหัวใจ น้องทัช เดบิลเป็น ดวงอาทิตย์ สาดส่องความสดใส 

 

#ธีรัชทัชชา

⚠️นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งไม่ได้มีการอ้างอิงถึงความเป็นจริงใดใดทั้งสิ้น อาจมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ⚠️

 

สารบัญ

ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๑ แรกกลิ่นคนึ่งหา,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๒ ดอกไม้แห่งการขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๓ คุณเชื่อในเรื่องคู่แห่งโชคชะตาหรือไม่,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๔ แพ้โดยสมบูรณ์,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๕ ยินดีที่ได้รู้จัก,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๖ รู้จักฉันรู้จักเธอ,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๗ จะอนุญาตให้ฉันจีบเธอไหมคนดี,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๘ เพื่อนบ้านคนนั้น,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๙ เธอรุกฉันแรงก่อนนะคนดี,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-บทที่ ๑๐ ฉันจะไปหาเธอเอง,ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)-e-Book ว่าด้วยตอนพิเศษ

เนื้อหา

บทที่ ๔ แพ้โดยสมบูรณ์

บทที่ ๔

แพ้โดยสมบูรณ์

ทัชชาขยับตัวเล็กน้อย เมื่อรู้สึกอึดอัด รอบด้านเต็มไปด้วยกลิ่นที่ไม่คุ้นเคย เปลือกตาขยับขึ้นเผยให้เห็นดวงตาสีน้ำตาลอ่อน ทัชชาขยับดันตัวลุกขึ้นมองไปรอบด้าน บรรยากาศที่ไม่คุ้นชิน ทำให้ต้องงอตัวเข้าหากันตามสัญชาตญาณเพื่อให้รู้สึกอุ่นใจ มือที่ยกมากอดเข่าข้างหนึ่งถูกแท่งสายน้ำเกลือข้างหนึ่งเอาไว้

ความเจ็บแปลบจากมันทำให้ทัชชาตื่นเต็มตา จึงรู้ว่าตนนอนอยู่ในห้องของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ดวงตาสีน้ำตาลกลมโต กระพริบถี่เพื่อเรียบเรียงเรื่องราวที่พอจะจำได้เลือนราง

นอกจากกลิ่นที่ไม่คุ้นเคยในห้องแห่งนี้แล้ว ทัชชายังได้กลิ่นที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดี ในห้องแห่งนี้ด้วย มือเรียวยาว ยกเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน แปลกตา ที่กองอยู่ต้องหน้าทองขึ้นมา ทัชชาจำได้เลือนรางว่าตนเองจับมันไม่ปล่อยและทุกครั้งที่มีคนเข้ามาใกล้พร้อมกลิ่นที่ตนไม่ชอบลอยมาแตะจมูกก็จะยกเสื้อนี้ขึ้นมาสูดดมให้ตัวเองคลายกังวลเสมอ ดูเหมือนเขาจะอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวันที่เดียว แม้จะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่ยอมตื่นขึ้นมา

ตึง

เสียงของประตูเปิดขึ้นและปิดลงพร้อมเสียงที่เดินเข้ามาใกล้ทำให้ทัชชาสะดุ้ง ลำตัวเผลอเกร็ง กอดเข่างอตัวเข้าหากันแน่นขึ้น

“โอ้ะ คนไข้ฟื้นแล้ว โอเคหมอจะยืนอยู่ตรงนี้ไม่เข้าไปใกล้คุณมากกว่านี้ ไม่ต้องกลัวนะ”

ทัชชาไม่ได้กลิ่นฟีโรโมนจากคนตรงหน้า แสดงว่า คุณหมอที่เข้ามาเป็น เบต้า แต่ถึงกระนั่น ทัชชาก็ยังไม่ลดท่าทีระวังตัวแต่อย่างใดจ้องเขม็งไปที่คุณหมอ ถอยตัวจนชิดหัวเตียง เสื้อเชิ้ตในมือถูกกางคุมหัวตัวเองไว้เหลือแต่ใบหน้า

“...”

ต่างฝ่ายต่างจรดจ้องกันอย่างไม่ลดละ คุณหมออย่างเมธิน ถอนหายใจ ถอดใจไม่ฝืนเข้าไปใกล้คนไข้มากว่านี้ถอยห่างออกมาอีกเล็กน้อย กดโทรศัพท์เพื่อโทรออกหาตัวช่วย

“...คุณพยาบาลครับช่วยติดต่อหาญาติผู้ป่วยห้อง 208 ทีครับคนไข้ฟื้นแล้ว...ครับด้วยก็ดีครับ”

“หมอโทรหา ผู้ปกครองให้แล้ว อีกเดี๋ยวคงมา หมอขอถามอาการนิดหน่อยนะครับได้ไหมครับ...”

“...”

คุณหมอหนุ่มมองท่าทีที่ไม่ไว้ใจใคร และขู่ฟ่องขนของคนไข้อย่างยอมใจว่าคงไม่ได้รับความร่วมมือแม้กระทั้งการร่วมสนทนาเพียงเล็กน้อย

“เฮ้อโอเค...ไม่ก็ได้ครับแต่อย่างน้อยช่วยดูเลขปริมาณน้ำเกลือให้หน่อยได้ไหมครับ อีกอย่างหมอก็เป็นเบต้าไม่มีกลิ่นฟีโมโมนติดไปแน่นอน ขอเข้าไปดูหน่อยได้ไหมครับ”

เมธินยังคงชวนคุยเผื่อมีหวัง

“...”

คนไข้โอเมก้าตัวน้อยขยับตัวใช้ผ้าห่มคลุมหัวตัวเองอีกทบ พร้อมกับเอาหมอนหนุนมาวางไว้ข้างหน้าทำราวกับเป็นโล่กำบังตัวเอง

เมธินทำท่าจำยอมกับท่าทางต่อต้านเขา ที่ยกระดับขึ้นของคนไข้จำใจขยับไปยืนพิงกำแพงและเขียนราวบอร์ดของตัวเองเท่าทีจะเขียนได้

“ถอย ...”

น้ำเสียงแผ่วเบาจากร่างบนเตียง ทำให้คุณหมอเงยหน้าขึ้นยิ้ม

“..ครับให้หมอเข้าไปตรวจได้แล้วเหรอ”

“ถอยไปอีก”

"..."

คุณหมอรู้สึกเหมือนถูกรังเกียจอย่างที่ไม่เคยโดน แม้จะพึ่งกล่าวว่าตนไม่มีกลิ่นที่อีกคนไม่ชอบก็ตามแต่ก็ยังคงถูกไล่ ยกมือขึ้นอย่างจำยอมเนรเทศตัวเองออกมายืนหน้าประตูให้คนไข้สบายใจ

.......

“อ้าวพี่หมอ..”

อชิเปิดประตูเข้ามาเห็นพี่หมอที่เคยจีบตนเองยืนพิงกำแพงหน้าประตูอยู่ เมื่อกี้เกือบเปิดชนคนตัวสูงแล้วด้วยซ้ำดีที่ยั้งมือทัน

“โดนไล่มาเล่นตรงนี้ครับ”

คุณหมอกล่าวติดตลก ทำท่าทางน่าสงสารส่งให้โอเมก้าที่ตนเองรู้สึกดีด้วย

“ถึงพี่จะเป็นเบต้า ทัชไม่รู้จักพี่ น้องจะระแวงพี่ก็ไม่แปลกครับ”

อชิกล่าวปลอบคุณหมอที่มีนิสัยเฟรนลี่เข้ากับผู้คนได้ง่ายมาโดนทัชชาทำท่าทางรังเกียจใส่คงรู้สึกเสียความมั่นใจไปพอตัว

“ทัชชาเป็นอย่างไรบ้าง พี่แจ้งทางครอบครัวเราไปแล้วอีกสักพักคงมาถึงกัน

ทัชชาที่ใช้ผ้าห่มคลุมหัวยอมโผล่หน้าออกมาเมื่อได้ยินเสียงของคนคุ้นเคย

“พี่อชิ”

“เป็นอย่างไรบ้างเรารู้สึกดีขึ้นหรือยังให้พี่เข้าไปใกล้ได้ไหม”

ทัชชานิ่งคิดก่อนจะพยักหน้า

“ได้ฮะ…แต่ว่าห้ามจับนะครับ”

“หืม?”

อชิมองใบหน้าที่ออกจะข่มขู่ตนอย่างงงงวย..ก่อนจะร้องอ๋อเมื่อได้กลิ่นของอัลฟ่าจาง ๆ จากก้อนผ้าที่มีร่างทัชชาอยู่ภายใน อชิเคยได้ยินมาเหมือนกันว่า โอเมก้าที่ขี้ระแวงมักสร้างรังเทียมให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัย เขาเองก็เคยสร้างรังเทียมตอนรู้สึกอ่อนไหวหรือรู้สึกอ่อนแอ

“โอเค พี่จะไม่ยุ่งกับรังเรา”

อชิยกมือขึ้นเป็นเชิงยอมรับข้อตกลง เดินไปหยุดห่างจากเตียงเล็กน้อย

“อชิดูน้ำเกลือให้พี่หน่อยครับ”

อชิทำตามที่คุณหมอร้องขอ

“พี่จะตรวจร่างกายยังไงดีนี่ ไม่ยอมให้แตะขนาดนี้ มีฉีดยาด้วย”

คุณหมอที่ยืนอยู่หน้าปะตูถูกอนุญาตให้มายืนใกล้ขึ้นมองไปที่ร่างเล็กของคนไข้ในรังเทียมอย่างหนักใจ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นตามด้วยร่างสูงโปร่ง ที่อชิพอจะคุ้นหน้าคุ้นตา เดินเข้ามา

“ขอโทษที่มาช้าครับ ทัชเป็นอย่างไรบ้าง”

ทิวากร เมื่อได้รับข่าวว่าน้องรักเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเขาก็รีบร้อนขับรถมาจากเมืองหลวงทันทีที่ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาล

“พี่ทิ”

“พี่จะยืนอยู่ตรงโน้นไม่ต้องห่วง”

ทิวากรที่เห็นน้องมองตนอย่างหวาดระแวง ชะงักเท้าที่กำลังเข้าไปหา เดินเลยออกไปยืนตรงระเบียงเพื่อไม่ให้กลิ่นของอัลฟ่าของตนไปทำให้น้องกลัว…ขอแค่จ้องมองว่าน้องยังคงปลอดภัยก็พอแล้ว

“คนไข้รู้สึกอึดอัดไหม”

คุณหมอหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าที่เริ่มซีดเผือดของทัชชา

เจ้าตัวส่ายหน้า มองไปยังที่พี่ชายอย่างขอโทษ..

“พี่ไม่เป็นไร…ทัชไม่เป็นไรพี่ก็ดีใจแล้ว คุณแม่กับคุณพ่อเป็นห่วงเรามากน่ะ…แต่กลัวว่าถ้ามากันทุกคนทัชจะอาการแย่ลง”

ปลายเสียงของทิวากรแผ่วเบาลง

ก็อก กอก

ประตูถูกเคาะและเปิดอีกครั้งทำให้บรรยากาศที่กำลังดำดิ่งของสองพี่น้องหยุดชะงัก

“ขออนุญาตครับ”

เสียงนุ่มทุ้มมาพร้อมกับกลิ่นอายของอัลฟ่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความน่าเกรงขามของสายเลือดอัลฟาที่เข้มข้น

ดวงตาคมกล้าของธีรัช จรดจ้องไปยังอัลฟ่าอีกคนที่อยู่ตรงระเบียงข้างหน้าเขา ก่อนเลือนมามองร่างที่ใช้ผ้าคลุมตัวเองจนตัวกลมอยู่บนเตียงคนไข้ ร่างสูงยิ้มบางเมื่อไม่ได้กลิ่นของอัลฟ่าคนนั้นเข้าใกล้คู่แห่งโชคชะตาของเขา..

“เขาไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้…ถ้าเป็นคุณน่าจะช่วยอะไรได้ขอโทษที่โทรไปรบกวนคุณแต่ช่วยหน่อยนะครับ”

อชิเอ่ยขอร้องผู้มาใหม่ เขาเป็นคนติดต่ออีกคนไปโดยพลการหลังได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลว่าการรักษามีปัญหา..ทางแก้ปัญหาที่เขาคิดออกก็มีแต่ทางนี้…คู่แห่งแห่งโชคชะตาน่ะมีหรือโอเมก้าเจ้าของคู่จะไม่อยากเข้าใกล้ยิ่งเมื่อเห็นว่าร่างกายของทัชชาไม่ต่อต้านอีกคนอชิก็เชื่อไปกว่าครึ่งแล้วว่ามีเพียงอัลฟ่าคนนี้ที่ทัชชายอมให้เข้าใกล้…อชิเดินไปหาทิวากรที่อยู่ตรงระเบียงชวนอีกคนออกมาเพื่ออธิบายให้เข้าใจถึงเรื่องตรงหน้า

“คุณทะเล”

ทัชชาล่ะความสนใจจากพี่ชายที่เดินออกไปพร้อมอชิไปหาเจ้าของกลิ่นทะเลแสนสดชื่นที่เขาหลงใหล

“ให้ฉันเข้าไปหาเธอได้ไหม”

ธีรัชที่เห็นอีกคนอยู่ในกองผ้า เอ่ยถาม เขาสอบถามอาการของทัชชาจากอชิมาพอสมควรจึงพอรู้ว่าอีกคนมีโรคที่หวาดกลัวอัลฟ่าจนสะสมไปจนเป็นการระแวงทุกคน สุดท้ายก็ไม่สามารถอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนได้ และอ่อนไหวกับกลิ่นฟีโรโมนมาก…

ฟีโรโมนที่แฝงไปด้วยความอยากปกป้องถูกปล่อยออกมาบางเบาเพื่อคลายบรรยากาศกดดันจากฟีโรโมนของอัลฟ่าอีกคนที่หลงเหลือ…

ทัชชาพยักหน้าขยับตัวไปจับชายชุดสูทของธีรัชเมื่อคนตัวสูงเข้ามาใกล้ ก่อนเลื่อนขยับแนบใบหน้าของตนเองเข้ากับมือใหญ่ที่ตัวเองหยิบฉวยขึ้นมา

“ให้คุณหมอ ตรวจได้ไหม..แน่นนอนฉันจะอยู่ตรงนี้ไม่มีใครทำร้ายเธอได้แเน่นอน…ได้ไหมเด็กดี”

ดวงตากลมสีอ่อนของทัชชาเงยขึ้นสบกับดวงตาคู่คมของธีรัช คนตัวสูงยกยิ้มยกมืออีกข้างขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างเอ็นดูในท่าทางออดอ้อนของอีกฝ่ายที่เป็นไปตามสัญชาตญาณของโอเมก้า

“กอด...เหมือนตอนนั้น…ได้ไหม”

“อืม…ตามที่เธอปรารถนา”

ธีรัชนั่งลงบนขอบเตียงโอบประคองร่างที่โผลเข้ามาบนตักตน ริมฝีปากหยักยกยิ้มอย่างชอบใจเมื่อเห็นเสื้อเชิ้ตของตัวเองคุมอยู่บนไหล่บาง

ทัชชาถูกสัญชาตญาณชักนำโผลเข้าหากลิ่นอายที่ทำให้ตนรู้สึกปลอดภัย สัมผัสอุ่นจากฝ่ามือแกร่งโอบประคองเอวตนอย่างอ่อนโยน ทัชชายกมือคล้องคอแกร่งซบใบหน้าลงกับบ่าและซอกคอที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นฟีโรโมนที่เขาชอบ สูดดมจนพอใจก็ไถลตัวลงมาซบพิงอกของคนตัวสูงอย่างที่ชอบทำกับตุ๊กตา ใช้คนตัวสูงต่างเก้าอี้

คุณหมอลองเดินเข้ามาใกล้ เมื่อไม่เห็นอาการต่อต้านของร่างที่ถูกโอบกอดก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ปัญหาดูเหมือนได้รับการแก้ไขไปได้อีกขั้น

“อันนี้ที่วัดไข้เอาเหน็บไว้ใต้รักแร้ครับ”

ธีรัชทำตามที่คุณหมอเอ่ยสั่งอย่างเคร่งขัด พร้อมกับคุณหมอที่เร่งจดบันทึก ข้อมูลต่าง ๆ ด้วยตัวเองซึ่งปกติเป็นหน้าที่ของคุณพยาบาล เมธินรู้สึกว่าตอนนี้ตนเองเป็นพยาบาล ส่วนอัลฟ่าตรงหน้าเป็นคุณหมอไปเสียแล้ว เพราะคนไข้ค่อนข้างอ่อนไหวเขาจึงต้องมาคนเดียวจะได้ไม่ยุ่งยาก

“คุณคงฉีดยาเป็น”

ธีรัชพยักหน้า เขาฉีดยากันรัทให้ตัวเองเสมอ ไม่มีปัญหาอะไร

เข็มฉีดยาที่ถูกยื่นให้ไม่ต่างจากเข็มฉีดยากันรัทที่เขาใช้ มันเป็นแบบปากกาแค่กดลงไปเท่านั้น

“กลัวเข็มไหม”

ศีรษะทุยตรงอกเขาขยับขึ้นลง

“งั้นอย่ามอง ซบบ่าเหมือนเดิมไหม”

ธีรัชถามคนในอ้อมแขน ก่อนจะยกยิ้มเมื่อมืออีกข้างของตนถูกหยิบมากุ่ม เขาเองก็ให้ความร่วมมือไม่ขัดขืน สองมือน้อยกอบกุ่มมือใหญ่ของเอาเอาไว้ คล้ายเป็นที่พึ่งพิง

เข้มฉีดยาถูกเขากดแท่งอย่างรวดเร็วแต่เบามือที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ คนในอ้อมกอดสะดุ้งเล็กน้อย มือแกร่งถูกกุ่มแน่น เพราะถูกฉีดอย่างไม่ทันตั้งตัวดี

ดวงตาที่คลอคล้ำด้วยน้ำตาเงยหน้าขึ้นมองเขา คล้ายตำหนิ

"เจ็บ..."

"หึ ไม่เจ็บแล้ว"

โอเมก้าช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักเสียจริงโดยเฉพาะโอเมก้าที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่แห่งโชคชะตาของเขาทำอะไรก็น่ามองไปหมด น่ารักนุ่มนิ่ม อยากจะกดให้จมเขี้ยวเสียจริง

“หมอให้ยาผ่อนคลายไปอาจจะรู้สึกง่วงเล็กน้อย ดูจากผลตรวจพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วไม่มีอะไรหน้าเป็นห่วง ถ้าอยู่โรงพยาบาลคงจะทำให้คนไข้เครียดมากกว่าเดิม…”

ทัชชาพยักหน้ารับรู้เบียดตัวเข้าหากลิ่นทะเลมากขึ้นเมื่อรู้สึกอยากนอน…คุณหมอเดินออกจากห้องเมื่อภารกิจตรวจคนไข้เสร็จสิ้นทิ้งคู่แห่งโชคชะตาให้อยู่ในห้องสองต่อสอง

ธีรัชขยับประคองอุ้มร่างน้อยของทัชชาให้นอนลงบนเตียงจะได้รู้สึกสบายตัวขึ้น ดูเหมือนยาจะเริ่มออกฤทธิ์แล้วความง่วงงจึงเข้าจู่โจมทัชชาแม้เจ้าตัวจะไม่อยากนอนก็ตาม

ทัชชาที่สะลึมสะลือปรายตาขึ้นมองร่างสูงที่กำลังถอดเสื้อสูทตัวนอกคุมทับให้บนอกรับรู้ว่าอีกคนจะไปแล้วก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์ไม่อยากให้ไป ไม่อยากให้เจ้าของกลิ่นที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยเจือจางลง อยากให้อีกคนโอบกอดตนเองไว้ตลอดอยากอยู่ใกล้ ๆ สัญชาตญาณของทัชชาร้องบอกว่าตราบเท่าที่มีคุณเจ้าของกลิ่นทะเลอยู่ข้างกายเขา…เขาจะปลอดภัย

มือเล็กเอื้อมจับปลายนิ้วแกร่งที่กำลังผละออกกอบกุมได้เพียงสองนิ้วก็เต็มมือน้อยของเขาแล้ว ดวงตากลมที่ปรือด้วยความง่วง ฝืนลืมมันอย่างสุดกำลัง จึงคลอหน่วงด้วยน้ำตาจนดวงตาโตช่ำวาว

“คุณทะเล…อยู่ได้ไหม..อยู่กับทัช”

ทัชชาร้องขออย่างออดอ้อนจับจูงมืออุ่นแนบกับแก้มของตนเอง

ธีรัชรู้สึกตัวใจกระตุก…ดวงใจของเขาสั่นไหว…ยามสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นเขารู้สึกพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์สัญชาตญาณอัลฟ่าของเขากู่ร้องอย่างยินดี ปฏิบัติตามโดยไร้ข้อโต้แย้ง 

โทรศัพท์ในมือเลื่อนกดตัดสายที่โทรเข้ามา

“หากเธอต้องการฉันก็ยินดี..หลับเถอะเด็กดีฉันจะอยู่ข้างเธอจนกว่าเธอจะตื่น…”

ใช่คู่แห่งโชคชะตาน่ะขี้โกง…แต่แบบนี้มันเกินไปแล้ว…

เขารู้สึกแพ้…แพ้โดยสมบูรณ์