เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูจะเพ้อภพสำหรับ เขา อัลฟ่าที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะแพ้ให้กับใครในโลกใบนี้ จนกระทั้งวันหนึ่ง... ‘ผมไม่เคยรู้สึกแพ้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ’
ชาย-ชาย,รัก,ไทย,Omegaverse ,น่ารัก,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ระฆังกลางใจสมุทร (#omegaverse)เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูจะเพ้อภพสำหรับ เขา อัลฟ่าที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะแพ้ให้กับใครในโลกใบนี้ จนกระทั้งวันหนึ่ง... ‘ผมไม่เคยรู้สึกแพ้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ’
เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูจะเพ้อภพสำหรับ เขา อัลฟ่าที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะแพ้ให้กับใครในโลกใบนี้
จนกระทั้งวันหนึ่ง...
‘ผมไม่เคยรู้สึกแพ้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยครับ ’
ธีรัช
เรื่องราวของ คู่แห่งโชคชะตา เป็นคำพูดที่ดูไกลห่างสำหรับ เขา โอเมก้า ที่ไม่เคยย่างก้าวออกจากอาณาเขตของตน
จนกระทั้งวันหนึ่ง...
“คุณทะเลของทัชใจดี”
ทัชชา
You make me feel so safe whenever I’ m with you.
🎐
I’ m smitten with you
🌅
พูคคุย: นิยายเรื่องนี้ ฟิลกูด ฮีลใจ ที่สุดเท่าที่เคยเขียนเลยค่ะ คุณธีรัช เดบิลเป็น ไมโครเวฟ สร้างความอบอุ่นหัวใจ น้องทัช เดบิลเป็น ดวงอาทิตย์ สาดส่องความสดใส
#ธีรัชทัชชา
⚠️นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งไม่ได้มีการอ้างอิงถึงความเป็นจริงใดใดทั้งสิ้น อาจมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ⚠️
บทที่๖
รู้จักฉันรู้จักเธอ
ทัชชารู้สึกตัวตื่นขึ้น เปลือกตาขยับขึ้นลงช้า ๆ เพื่อไล่อาการง่วงงุนและปรับสายตา มือเล็กที่จะยกมาขยี้ตา ติดมือใหญ่ของคนผู้หนึ่งมาด้วย กลิ่นหอมที่คุ้ยเคยและชมชอบรอยคละคลุ้งไปทั่ว...ทัชชาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือที่เฝ้ามองเขาด้วยรอยยิ้มอยู่ก่อนแล้ว
“คุณทะเล..”
“ธีรัช...ชื่อของฉันคือธีรัช...ยินดีที่ได้รู้จักระฆังน้อย...คู่แห่งโชคชะตาของฉัน”
“คู่แห่งโชคชะตา”
ทัชชาโคลงศีรษะ เมื่อได้ยินคำที่ไม่ค่อยคุ้นหู มือกอบกุ่มแก้วน้ำที่ถูกหยิบยื่นให้
“เป็นคู่โอเมก้าและอัลฟ่าที่ดึงดูดกันดัวยสัญชาตญาณความรู้สึก และกลิ่นฟีโรโมนน่ะ”
ธีรัชนวดมือที่ได้รับคืนจากทัชชา พลางกล่าวอธิบายโอเมก้าตัวน้อยที่ดูเหมือนจะลืมเลือนข้อมูลพวกนี้ไปแล้ว
“เพราะงั้นทัชเลยไม่รู้สึกต่อต้านคุณสินะ ดีจัง คุณทะ..ธีรัช ขอบคุณฮะที่อยู่เป็นเพื่อนจนทัชตื่น..เพราะมีคุณทัชเลยหลับได้สนิทใจ”
ทัชชาพึมพำกับตัวเองเมื่อพอจะเรียบเรียงเรื่องได้ อดจะรู้สึกยิ้มอย่างยินดีไม่ได้ที่ตนเองสามารถเข้าใกล้คุณทะเลเจ้าของกลิ่นฟีโรโมนที่เขาชอบได้ และคุณทะเลเองก็ทำตามคำขอแสนเอาแต่ใจของเขา อยู่เป็นเพื่อนจนเขาตื่นขึ้นมา
“ได้เช่นนั้นก็ดีแล้ว ยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม”
“ไม่แล้วฮะ”
ทัชชา ส่ายหัวไปมา ส่งแก้วน้ำที่ว่างเปล่าให้เมื่อคนตัวสูงยื่นมือมารอรับ
“แล้วพี่ทิกับคุณอชิ ล่ะครับ”
“กลับไปแล้วน่ะ มันดึกแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ชายเธอจะมาเยี่ยมใหม่”
โต๊ะอาหารที่มีถ้วยโจ๊กอุ่นเลื่อนมาให้คนป่วยบนเตียง ก่อนธีรัชจะช่วยปรับเตียงให้คนไข้ได้นั่งได้สบายขึ้น
“ขอบคุณฮะ”
ทัชชารับช้อนที่ถูกทำความสะอาดอย่างดีก่อนยื่นให้มาตักโจ๊กที่อุ่นพอดีเข้าปากไม่ปฏิเสธเพราะตอนนี้เขาหิวมากมากไม่คิดจะถามด้วยว่าโจ๊กนี่มาจากไหน
“พรุ่งนี้คุณพ่อกับคุณแม่ของเธอจะมาพร้อมพี่ชายเธอด้วย”
ทัชชาชะงักมือที่กำลังตักโจ๊กขึ้นทาน ช้อนตาขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ข้างเตียง ก่อนจะก้มลงมองโจ๊กในชามกระเบื้องเคลือบ คุณพ่อคุณแม่อย่างนั้นเหรอ…เขาไม่ได้เจอพวกท่านมานานแล้ว…ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลครั้งนั้น…คุณพ่อคุณแม่ของเขาล้วนแล้วแต่เป็นอัลฟ่า...
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสั่นไหว
เมื่อเห็นโอเมก้าตัวน้อยซึมลง เขาเองก็พอจะเข้าใจ บ้านของทัชชามีเพียงเจ้าตัวที่เป็นโอเมก้า…ตั้งแต่เกิดเรื่องเด็กคนนี้ก็ไม่สามารถเจ้าใกล้ผู้เป็นพ่อแม่ได้อีก ไม่ได้รับอ้อมกอด ไอ้อุ่น และการดูแลอย่างที่เด็กปกติควรได้รับ คงเหงาและทรมานใจจากอาการนั่นไม่น้อย
“ฉันจะอยู่ข้าง ๆ เธอ ไม่มีอะไรต้องกังวลเด็กดี”
ฝ่ามือหนา วางแปะลงบนกลุ่มผมนิ่ม ขยับลูบเบา ๆ ทัชชาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของฝ่ามือที่ส่งรอยยิ้มที่อบอุ่นไม่แพ้ฝ่ามือนั่นเลย
“ขอบคุณครับ”
ทัชชาส่งยิ้มตอบ ถึงแม้เขาจะพึ่งรู้จักคุณธีรัช ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคู่แห่งโชคชะตาคนนี้ช่วยทำให้อารมณ์ที่สั่นไหวของเขากลับมาสงบนิ่งได้อย่างไม่ยากเย็น…
“ทัชชื่อทัชชา เรียกสั้น ๆ ว่า ทัช ก็ได้ครับ”
ทัชชากล่าวแนะนำตัวเอง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าธีรัชยังไม่รู้จักชื่อของตนจึงเรียกแทนเขาว่าระฆังน้อย
“ทำไมคุณธีเรียกทัชว่าระฆังน้อยเหรอ”
ทัชชาร้องถามอย่างสงสัยและเริ่มบทสนทนาให้ห้องไม่ตกอยู่ในความเงียบที่น่าอึดอัด
“ฟีโรโมนของเธอน่ะเหมือนกับ ดอกระฆังน้อยนี่”
ธีรัชหันหน้าจอล็อกของโทรศัพท์ที่ถูกตั้งภาพพักหน้าจอเป็นภาพของดอกไม้ดอกเล็ก ๆ สีขาวที่มีรูปร่างเหมือนระฆังใบน้อยที่อัลฟ่าตรงหน้ากล่าวเรียก
“ทัชก็พึ่งรู้...มันไม่ได้แย่ใช่ไหมฮะ”
“ไม่เลยมันดูเหมาะสมกับเธอดี...ระฆังใบน้อยแสนน่าเอ็นดูที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอันหอมหวานชวนผ่อนคลาย”
“เหมือนทะเล! ฟีโรโมนของคุณธีรัช เหมือนทะเลสดชื่นและก็อบอุ่นสุด ๆ !”
“หึ...ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว”
ฝ่ามือหนาวางลงบนศีรษะทุยที่จ้องมองเขาด้วยใบหน้าจริงจังเมื่อพูดถึงฟีโรโมนของเขา....ทำตัวน่าเอ็นดูอีกแล้วคู่แห่งโชคชะตาตัวน้อยของเขา
ดวงตากลมสีน้ำตาลอ่อนจ้องสบกับดวงตาสีน้ำเงินของห้องสมุทรที่โค้งลงมองเขาอย่างเอ็นดู...ความอบอุ่น
“คุณทะเล...ทัชขอเรียกว่าคุณทะเลได้ไหม”
“ตามที่เธอต้องการเลย...อยากเรียกอะไรก็เรียก”
ดวงตาออดอ้อนของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองพร้อมเป็นทุกสิ่งที่เจ้าตัวเอ่ยเรียก จะเป็นภูเขาท้องฟ้าท้องทะเล
ทัชชายกยิ้มกว้างอย่างยินดีเมื่อได้ยินคำตอบรับโถมกายกอดเอวอัลฟ่าที่ยืนอยู่ข้างเตียง
“คุณทะเลของทัชใจดี”
แต่เธอน่ะใจร้าย...ทำเขาไม่อาจควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจหรือร่างกายของเองได้เลยทุกอย่างดูเหมือนจะอยู่เหนือการควบคุมไปเสียหมด...
“หึฉันอาจจะใจร้ายก็ได้...”
ธีรัชพึมพำแผ่วเบา ลูบหลังคนที่ยังคงกอดเอวตนอย่างออดอ้อน เจ้าตัวน้อยลืมไปแล้วหรือเปล่าว่าเขาคือ อัลฟ่า ที่มีสถานะไม่ต่างจากนักล่า...ที่พร้อมขย่ำเหยื่อตัวน้อยอย่างโอเมก้า อาจเป็นเพราะทัชชาไม่สามารถเข้าใกล้ใครได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในความมืดมิดมาตลอด...เขาก็ไม่ต่างจากแสงสว่างที่ปรากฏในความมืดมิดแห่งนั้น...ไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะจับยึดติดไว้อย่างหวงแหน
มือหนาเลื่อนขึ้นลูบผ่านปลอกคอโอเมก้าสีดำที่ตัดกับผิดขาวซีดของเจ้าตัวน้อย
ลึก ๆ แล้วธีรัชก็แอบชอบที่ทัชชายอมให้เพียงเขาที่สามารถอยู่ข้างกายอีกฝ่ายได้เช่นนี้
“ทัชขอโทษ...”
ทัชชาผละตัวออกมาเมื่อรู้สึกว่าเผลอกอดรัดอีกฝ่ายโดยไม่ได้ขออนุญาต เขาเกลียดร่างกายตนเองที่ชอบทำอะไรไปตามสัญชาตญาติของโอเมก้าและอาจจะเป็นเพราะความเคยชินของเขาที่ชอบกอดอ้อนตุ๊กตาที่ห้องอยู่เสมอ
ดวงตากลมที่น้ำตาลช้อนมองอย่างรู้สึกผิด...ธีรัชรู้สึกหัวใจสั่นไหว
“ไม่เป็นไรฉันเข้าใจ...เธออยากกอดก็กอด อยากจับก็จับ...อยากจะทำอะไรก็ทำเถอะ” อย่าได้ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้นเลย
ธีรัชรู้สึกว่าตัวเขาไม่ใช่ของเขาอีกต่อไปแล้ว เป็นทะเลของเธอแต่เพียงผู้เดียว...
คู่แห่งโชคชะตานอกจากจะทำให้เขาคุ้นเคยกันอย่างขี้โกงแล้ว ยังทำให้ตัวเราไม่เป็นของเราอีกต่อไปได้อีกด้วย คำกล่าวอ้างพวกนี้ไม่เกินจริงไม่เกินจริงเลยสักนิด...
ธีรัชอยากจะรู้จักอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก อยากรู้ว่าคู่แห่งโชคชะตาตัวน้อยจะทำให้เขามีอาการเช่นไรอีก..อยากรู้ว่าความน่ารักของอีกฝ่ายมีจุดสิ้นสุดหรือไม่ เหตุใดไม่ว่าจะทำอะไรก็น่าเอ็นดูไปเสียหมด…นี่มันยิ่งกว่าตกหลุมรักไปแล้วนะคนดี
....
“ไหวไหม”
ธีรัชกุมมือเล็กที่สั่นเทาอยู่บนตักของทัชชา ตอนนี้พวกเขาสองคนอยู่ที่สวนพักผ่อนของโรงพยาบาล เพื่อรอพบคุณพ่อคุณแม่ของทัชชา
“ฮะ”
ทัชชาพยักหน้าตอบรับคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ บนเก้าอี้ตัวยาวในสวนสาธารณะนอกจากจะมีพวกเขาแล้วยังมีญาติของผู้ป่วย คนไข้และบุคลากรของโรงพยาบาลแวะเวียนมาใช้งานผู้คนไม่ได้หนาตาหรือเดินเบียดเข้ามาใกล้มากมีเพียงแต่เดินผ่านเขาไปมาเป็นครั้งคราว
ต้นไม้ใหญ่ช่วยทำให้บรรยากาศไม่ร้อนผ่าวแม้จะเข้าช่วงสายของวันแล้วก็ตาม ลมเย็นพัดปอยผมสีน้ำตาลที่เริ่มยาวคลอเคลียแก้มที่เริ่มขึ้นสีอมชมพูเพราะออกมารับแดดยามเช้า
ทัชชายังคงรู้สึกสงบแม้จะอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่รายล้อมอยู่ห่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายก็มักบดเบียดร่างของอัลฟ่าข้างกายเมื่อมีคนหรือกลุ่มคนเดินผ่านเข้ามาใกล้ในช่วงสองเมตร แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือหายใจไม่ออกแต่อย่างไร คงเพราะอยู่ฟีโรโมนที่แผ่ออกมาของคนข้างกายช่วยให้เขารู้สึกปลอดภัย…ราวกับถูกทะเลโอบกอดไว้ขอเพียงอยู่ที่ศูนย์กลางของใจกลางทะเลฟีโรโมนนี้ คลื่นทะเลก็จะซัดพาทุกอย่างออกไปให้เขาเอง
“ระหว่างนี้รอเรามาทำความรู้จักกันมากขึ้นดีกว่า…ฉันยังไม่รู้เลยว่าเธอชอบกินอะไรไม่ชอบอะไร”
“อือ ทัชชอบกินปลาส้มแล้วคุณทะเลล่ะ”
“ฉันเหรอ…สลัดมั้ง”
สลัดเป็นอาหารที่เขาทำกินเองอยู่บ่อยครั้งเพราะทำง่ายและมีประโยชน์สามารถพลิกแพลงได้หลายอย่าง
“คุณทะเลเป็นมังสวิรัติเหรอฮะทัชเป็นสัตว์กินเนื้อ ทัชไม่ชอบกินผัก”
“ฮะฮะ ไม่หรอกฉันเองก็เป็นสัตว์กินเนื้อเหมือนกัน”
เจ้าตัวที่เหมือนสัตว์กินพืชตัวเล็กขนปุยริอาจบอกว่าตัวเองเป็นสัตว์กินเนื้อไปเสียแล้วเขารู้ดีว่าทัชชาหมายความ คำว่าสัตว์กินเนื้อ แต่ต่างจากเขา แต่ก็อดจะยิ้มขำไม่ได้เมื่อนึกถึงความหมายแฝงของคำว่า ‘สัตว์กินเนื้อ’ ไหนจะกล่าวว่าอัลฟ่าอย่างเขาเป็นมังสวิรัติอีก
“อืมถามอะไรอีกดีล่ะนี่ ทัชไม่ค่อยได้คุยกับใครเลยไม่รู้ว่าเขาคุยกันอย่างไร ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไร งั้นเอางี้ไหมเธอตั้งตัวเลือกมาสองอันฉันจะเลือกสิ่งที่ชอบ ผลัดกันถามผลัดกันตอบอย่างนี้ดีไหม”
ทัชชาพยักรับเมื่อได้ยินวิธีการทำความรู้จักกันที่น่าตื่นเต้นของอัลฟ่าหนุ่ม
“นมหรือกาแฟ”
ธีรัชเป็นคนเริ่มเป็นตัวอย่างให้โอเมก้าตัวน้อย
“นมครับ กาแฟขม”
ธีรัชยกยิ้ม ไม่ได้หลุดจากสิ่งที่คาดเดานักหรอก
“ปีโป้หรือเยลลี่หมีฮะ”
“หืม..เออเยลลี่หมี”
คำถามของเจ้าระฆังน้อยตั้งหากที่หลุดไปจากการคาดเดาของเขามาก
“สีขาวหรือสีดำ”
“สีขาวฮะ…ดวงจันทร์หรือดวงอาทิตย์”
“ดวงจันทร์…ดวงอาทิตย์มันร้อนไปหน่อย…เมฆหรือท้องฟ้า”
“เมฆฮะ เหมือนสายไหมน่าอร่อย”
…
ธีรัชส่ายหน้าให้กับเหตุผล จากที่คำถามและคำตอบของทัชชาแล้วดูเหมือนจะชอบทานขนมกับของหวานสินะ…ทัชชายังคงตั้งคำถามและตอบอย่างกระตื้อรือร้น คำถามสั้น ๆ พวกนี้ทำให้ทัชชาได้รู้สึกเข้าใกล้และรู้จักธีรัชมากขึ้นแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตามแต่มันก็เป็นก้าวแรกที่ดีในการเข้าสังคมของเขาเช่นกัน
“ทะเลหรือภูเขาฮะ”
ธีรัชเคยชอบภูเขาที่สงบเงียบ…
“ก็ต้องทะเลสิ”
แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกชอบทะเลมากกว่าภูเขาเสียแล้ว…
“ทะเลดีที่สุด”
ทัชชาครางรับอย่างเห็นด้วยจนธีรัชอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นยีหัวอีกฝ่ายเบา ๆ
ใช่ทะเลที่มีเธอน่ะดีที่สุด
“แล้วทะเลกับคุณทะเล”
ทัชชาเงยหน้าขึ้นจากแก้วน้ำที่ก้มลงไปดูดน้ำหวาน เสียงนุ่มทุ้มน่าฟังคล้ายดังกระซิบที่ข้างใบหู…
“เธอชอบสิ่งไหนมากกว่ากัน”
ทัชชานิ่งคิด…ตลอดมาทัชชาเคยคิดว่าตัวเองชอบทะเลมากที่สุดไม่ว่าจะเลือกสิ่งใดเขาก็คงเลือกทะเลอย่างไม่ต้องคิดมาก…แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับคุณทะเลของเขามันทำให้ทัชชานิ่งคิดหนัก…และตระหนักถึงบางสิ่ง ทำไมเขาถึงชอบทะเลมากขนาดนั้นกันนะ…เพียงแค่ภาพทะเลก็ทำให้เขารู้สึกสงบใจลงได้..แต่คุณทะเลให้ความรู้สึกมากกว่าความสงบใจอีกด้วย
“คุณทะเล…ชอบคุณทะเลมากกว่าเพราะคุณทะเลเป็นทะเลของทัชนี่น่า”
จริง ๆ แล้วที่เขาชอบทะเล อาจจะเป็นเพราะคนตรงหน้าที่ได้ชื่อว่าคู่แห่งโชคชะตามีกลิ่นอายของทะเลก็เป็นได้…
ธีรัชชะงักเล็กน้อยกับรอยยิ้มสดใสที่ส่งมาพร้อมคำตอบน่าฟังของโอเมก้าตัวน้อย...คู่แห่งโชคชะตาของเขาทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้กันนะ....ฝ่ามือยกลูบผมสีน้ำตาลอ่อนที่นุ่มละมุน
....
การทำความรู้จักฉบับรวดลัดจบลงเมื่อ ทิวากรส่งข้อความว่า คุณพ่อคุณแม่ของทัชชาเดินทางมาถึง ฝ่ามือของทัชชาที่กอบกุมไว้ตรงตัก สั่นไหว
“ยังไหวไหม”
ทัชชาพยักหน้าตอบรับเขาไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่กำลังรู้ประหม่ามากกว่า เขาไม่ได้พบคุณพ่อกับคุณแม่มาหลายปีแล้วเนื่องจากอาการป่วยของตนเองที่จะทำให้ตนแสดงพฤติกรรมไม่ดีออกไปทำให้พวกท่านต้องร้องไห้หลายต่อหลายครั้ง...ทัชชารู้สึกผิดต่อครอบครัวจนไม่กล้าที่จะสู้หน้า
“ฉันอยู่ตรงนี้ เธอจะไม่เป็นอะไร ถ้ารู้สึกไม่ไหวให้รีบบอก ฉันจะพาเธอออกมาจากจุดนั้นทันที”
ฝ่ามือหนาวางลงบนศีรษะที่ก้มโค้งลงอย่างเซื่องซึมของโอเมก้าตัวน้อย
พี่ชายของเจ้าตัวเล็กเดินนำบุคคลสองคนที่เขาเดาได้อย่างไม่ยากเย็นว่าเป็นคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าตัว คนตัวสูงลุกขึ้นยืน ยื่นมือให้คนที่นั่งซึมอยู่จับเป็นที่พักพิงอย่างยินดีให้ลุกขึ้นยืนเคืองข้างกันก่อนก้าวเดินออกไปหาบุคคลทั้งสองที่หยุดยืนรออยู่ไม่ไกล
ทัชชามองฝ่ามือหนาที่กอบกุมมือน้อยของเขาไว้ ก่อนจะเลือนสายตาขึ้นมองแผ่นหลังกว้างที่ก้าวนำอยู่ด้านหน้า ก่อนจะยกยิ้มออกมาพึมพำขอบคุณแผ่วเบา...
ธีรัชทำให้เขารู้สึกว่า...เขาจะไม่เป็นอะไรตราบเท่าที่มีคุณทะเลของเขาอยู่ข้างกาย
“ยินดีที่ได้รู้จักครับผมธีรัช คู่แห่งโชคชะตาของทัชชา”