ทุกคนเคยอยากย้อนเวลามั้ยครับ!? ส่วนผมถ้าทำได้ผมอยากย้อนกลับไปตอนนั้นตอนที่ผมกับเค้ารักกัน

Turn back time my first love ย้อนเวลากลับมาหารักแรก - ตอนที่2 ย้อนเวลา โดย 23.muffin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ชาย-ชาย,ไทย,วัยว้าวุ่น,ย้อนเวลา,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Turn back time my first love ย้อนเวลากลับมาหารักแรก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ชาย-ชาย,ไทย,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ย้อนเวลา,ดราม่า,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

ทุกคนเคยอยากย้อนเวลามั้ยครับ!? ส่วนผมถ้าทำได้ผมอยากย้อนกลับไปตอนนั้นตอนที่ผมกับเค้ารักกัน

ผู้แต่ง

23.muffin

เรื่องย่อ

เรื่องราวชีวิตของนักเขียนอิสระที่ชีวิตไม่มีอะไรดีเลยด้วยซ้ำเรียนจบม.6 ก็ไม่มีเพื่อนสักคน ส่วนเรื่องแฟนอย่าถามเลย เพราะไม่มี จำได้ว่า ตกหลุมรักคนคนหนึ่งครั้งแรกและครั้งล่าสุดก็กับคนคนนั้นรักแรกตอนมัธยม



สารบัญ

Turn back time my first love ย้อนเวลากลับมาหารักแรก-ตอนที่1 นึกถึง,Turn back time my first love ย้อนเวลากลับมาหารักแรก-ตอนที่2 ย้อนเวลา,Turn back time my first love ย้อนเวลากลับมาหารักแรก-ตอนที่3 ตกหลุมรัก(ตลอดมา)

เนื้อหา

ตอนที่2 ย้อนเวลา

กริ้ง กริ้ง

เสียงกริ่งแจ้งเตือนว่าตอนนี้หมดเวลาพักเที่ยงดังขึ้นก่อนนักเรียนจะทยอยเข้ามานั่งในที่นั่งของตัวเองเพื่อเตรียมตัวเรียนวิชาในภาคบ่าย เป็นธรรมดาของเด็กม.ปลายที่พอเข้ามาในห้องเรียนแล้วจะมีการจับกลุ่มคุยกัน บางคนก็จับกลุ่มกันแต่งหน้า บางคนก็จับกลุ่มกันทำงานเพื่อทำการบ้านส่งในคาบที่จะมาถึง





เสียงคุยกันเจี๊ยวจ้าวทำให้คนที่ฟุบหลับอยู่อย่างต้าตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย ใครมาคุยกันนักหนาว่ะ! ต้าเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะที่ตนฟุบนอนอยู่ก่อนหน้ามือก็เกาที่ท้ายทอยอย่างอารมณ์เสียงเพราะเหมื่อนโดนปลุกจากเสียงดังที่คุยกันอยู่ตอนนี้อยากจะด่าออกไปตรงๆว่าจะคุยอะไรกันหนักหนาไม่เห็นรึไงว่าคนเค้านอนอยู่ ปากที่กำลังจะสถบคำหยาบออกมากับต้องเงียบลงเพราะตอนนี้เค้านั่งอยู่ในห้องเรียน ห้องเรียนของเค้าตอนม.ปลาย..



“เชี่ยไรว่ะเนี้ย ทำไมกูมานั่งอยู่นี่ว่ะ”

ต้าสถบออกมาเบาๆ ก่อนจะก้มมองชุดที่ตัวเองใส่อยู่ไหนจะคนคุ้นตาคนในห้องที่จำชื่อได้บ้างไม่ได้บ้างทำไมทุกอย่างถึงเหมื่อนเค้าตอนอยู่ม.ปลายเลยล่ะ เมื่อเห็นว่าเป็นแบบนั้นต้าที่ยังคงงงกับสิ่งตรงหน้าอยู่ไม่รอช้ารีบขยี้ตาและตบหน้าเพื่อเรียกสติตัวเองทันที ตอนนี้เค้าต้องฝันอยู่แน่ๆ รีบตื่นเดี๋ยวนี้นะเว้ยไอ้ต้า!

“มึงทำไรว่ะต้า ตบหน้าตัวเองทำไมให้กูช่วยตบป่ะ”

ต้าหันไปมองกับเสียงของคนที่เค้ามาทักถ้าจำไม่ผิดนี่คือเสียงของไพรินเพื่อนที่นั่งข้างๆ เค้า ต้ากับไพรินตอนเรียนไม่ได้สนิทกันเลยด้วยซ้ำ ไพรินเป็นผู้หญิงเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใครแล้วก็ไม่มีใครอยากสุงสิงด้วยนั่นก็เพราะมีคนพูดปากต่อปากมาว่าไพรินเป็นคนมีเซ้นท์หรือที่เรียกว่าสัมผัสสิ่งลี้ลับได้ยังไงล่ะ ตอนนั้นถึงต้าจะเชื่อเรื่องผีบ้างไม่เชื่อบ้างแต่ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งกับไพรินทำแค่นั่งอยู่ข้างๆ โต๊ะเวลาเรียนเท่านั้น

“มึงตกใจหรอที่มาอยู่ที่นี่”

ต้ายิ่งตกใจเข้าไปใหญ่เมื่อไพรินพูดเหมื่อนรู้เรื่องว่าเค้ากำลังคิดอะไรอยู่นอกจากเห็นผีมันอ่านใจได้ด้วยหรอว่ะ!?

“มึงรู้หรอ”

“รู้ดิ มึงไม่ใช่ต้าที่อายุ16ใช่ป่ะ”

“!!!!!”

“มึงอยากรู้มั้ยว่าทำไมมึงถึงกลับมา เพราะนั่นไง”

ไพรินพูดก่อนจะชี้ไปที่บุคคลที่เดินเข้ามาในห้องเรียน ตัวขาว สูง ดวงตาที่มีเสห่น์จนใครๆ ก็ตกหลุมรัก รอยยิ้มที่ใครๆ ก็ต้องยอมและใช่นั่นคือรอยยิ้มของวินรักแรกของต้า…..







“มึงตามกูมาทำไมเนี้ยต้า”

“ก็กูมีเรื่องจะถาม กูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

ต้าพูดก่อนจะพยายามอธิบายให้ไพรินที่ยืนอย่างเบื่อหน่ายอยู่ตรงหน้าฟัง ตลอดระยะเวลาที่รู้ตัวว่ามาอยู่ที่นี่ต้าแทบไม่เป็นอันทำอะไรนอกจากคิดวนไปวนมาว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น เค้าจำได้ว่าเค้าถูกรถชนหลังจากกลับมาจากเอาสร้อยนาฬิกากับน้าจันทร์กลับมาให้แม่ซึ่งตามจริงตอนนี้เค้าต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลสิไม่ใช่มาอยู่ที่โรงเรียนที่เค้าจบออกมาแล้วหลายปีแบบนี้ ไหนจะกลับมาเจอเพื่อนๆ ที่เคยเรียนด้วยกันอีกแล้วไหนจะกลับมาเจอวินที่ตายไปแล้วนี่อีก

“กูจะรู้กับมึงหรอต้า กูก็ไม่รู้”

“มึงจะไม่รู้ได้ไงไพริน มึงทักกูซะถูกทุกอย่างแบบนี้”

“เหี้ย ที่กูทักคือเรื่องจริงอ่อ นี่มึงย้อนเวลามาจริงๆ หรอต้า”

ไพรินพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้เห็นสีหน้าของต้าที่ดูตื่นตระหนก ก่อนหน้านี้แม่ของตนพูดจาแปลกๆ ว่าจะมีคนกลับมาแก้ไขอดีดให้ไพรินคอยช่วยเหลือ เค้าเองก็ไม่อยากเชื่อเพราะลำพังไพรินจะช่วยใครได้ตัวเองยังแทบไม่รอด

“ถ้ากูบอกมึงมึงอย่าบอกใครนะ….”

“ใช่ กูย้อนมาจริงๆ กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลับมาได้ยังไง”

“จริงๆ แล้วแม่กูเป็นคนบอกว่าจะมีคนย้อนอดีตมาแก้ไขให้กูคอยช่วย พอวันนี้เห็นมึงแปลกๆ จากทุกวันเลยลองทักดูไม่คิดว่าจะจริง”

“เหี้ย จริงหรอว่ะ”

ไพรินยังคงพูดอย่างตื่นตระหนก นี่เป็นครั้งแรกเหมื่อนกันมั้งที่ผมเห็นผู้หญิงอย่างไพรินมีปฏิกิริยาแบบนี้เพราะปกติไพรินมักจะนิ่งๆ ทำหน้าตาเบื่อหน่ายเป็นประจำหรือไม่ไพรินก็อาจจะเคยมีปฏิกิริยาแบบนี้แต่เป็นผมเองที่ไม่ได้สนใจ

“ถ้ากูขอไปหาแม่มึงได้ไหม กูอยากไปถามให้รู้เรื่อง”

“ไอ้ได้มันก็ได้ แต่ตอนนี้แม่กูไม่อยู่”

“เอ้า ไปไหนว่ะ”

“ต่างจังหวัดอาทิตย์นึ่ง รอหน่อยละกัน”

“อาทิตย์นึ่ง!”









ผมเดินกลับมาบ้านด้วยความรู้สึกแปลกๆ เพราะมันเดจาวูทุกอย่างไปหมด ทั้งกังวลทั้งสงสัยว่านี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น หรือว่าจะเป็นเบญจเพชโอ๊ยยยยยิ่งคิดยิ่งปวดหัว

“อ้าว กลับมาแล้วหรอต้า ไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าว”

แน่นอนว่าคนที่ทักเค้าทันทีที่ถึงบ้านคือแม่ แต่ย้อนกลับมาแบบนี้ก็ดีเหมื่อนกันดีตรงที่ได้กลับมาเจอแม่อีกครั้งเพราะตั้งแต่ที่ไปเรียนมหาลัยจนจบต้าก็เลือกที่จะใช้ชีวิตต่อที่กรุงเทพโดยที่ไม่ได้กลับมาที่บ้านเลยด้วยซ้ำ ต้ายืนมองหน้าคนเป็นแม่ที่เค้าคิดถึงอยู่สักพักก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดจนแม่เองก็ตกใจว่าลูกของตนเป็นอะไร

“มีอะไรรึป่าวต้า เป็นอะไรลูก”

“ป่าว..ต้าแค่อยากกอดแม่ คิดถึงแม่นะ ขอโทษที่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านบ่อยๆ”

“หื้มม พูดอะไรของแกเราก็เจอกันทุกวันไม่ใช่หรอ หรือแกเดินตากฝนจนไม่สบายแม่บอกแล้วไงว่าให้พกร่ม”

“เดี๋ยวต้าไปอาบน้ำดีกว่าจะได้ลงมากินข้าวฝีมือแม่”







ต้าเดินขึ้นมาบนห้องของตัวเองห้องที่อยู่มาตั้งแต่เด็กภายในห้องเหมื่อนเดิมทุกอย่าง ต้าเลือกที่จะเอากระเป๋าไปวางที่โต๊ะเขียนหนังสือเหมื่อนที่เคยทำประจำตอนสมัยเรียนก่อนจะมองไปรอบๆ บริเวณโต๊ะมองของสะสมมากมายที่วางอยู่ตรงนั้นอย่างตื่นเต้น ถึงตอนที่โตจะไม่อินแล้วแต่พอกลับมาดูอีกครั้งก็คิดถึงเหมื่อนกันแหะ

“นาฬิกา! นาฬิกาของน้าจันทร์นิ”

ต้าหยิบสิ่งของที่ตนไม่คิดว่าจะมาอยู่ที่โต๊ะของตนขึ้นมาดูก่อนจะตระหนักได้ว่านี่คือนาฬิกาที่ตนไปเอามากับน้าจันทร์ก่อนที่จะถูกรถชนแล้วย้อนเวลามาที่นี้ หรือว่านาฬิกาเรือนนี้จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าย้อนเวลามากันนะ





“แม่ แม่”

“อะไรของแกต้าเรียกแม่เสียงดังเชียว”

“นาฬิกาอันนี้มาอยู่บนโต๊ะต้าได้ยังไง”

ต้าพูดก่อนจะชูสร้อยนาฬิกาเรือนสีทองอร่ามให้แม่ดู

“แล้วแม่จะไปรู้กับแกหรอต้า แกไปเอามาจากไหนล่ะซื้อมือสองมาหรอ”

คนเป็นแม่ตอบก่อนจะหันไปสนใจสิ่งที่ทำอยู่นั่นก็คือนั่งดูโทรทัศน์

“ต้าเองก็ไม่รู้เหมื่อนกัน”

“เอ่อ แม่ แม่มีเพื่อนชื่อจันทร์มั้ย”

“จันทร์!? ทำไมแกถามอะไรอีกแล้วเนี้ยแปลกๆ นะวันนี้”

“เถอะหน่าแม่ มีมั้ยเพื่อนชื่อจันทร์”

“ไอ้มีหน่ะก็มีแต่เค้าไปอยู่ต่างประเทศ”

“เอ้าแม่บอกว่าเค้าไปต่างประเทศตอนต้าไปเรียนมหาลัยไม่ใช่หรอ”

“พูดอะไรของแกอีกแล้วต้า น้าจันทร์เค้าแต่งงานใหม่อยู่ต่างประเทศนานๆ จะกลับมาเยี่ยมลูกที่ไทย”

นี่มันเรื่องอะไรกันว่ะเนี้ยยยยยยยทำไมยิ่งถามแม่ยิ่งสับสนไปหมดว่ะ









ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เป็นเวลาเช้าวันใหม่ที่เค้าจำเป็นต้องตื่นไปโรงเรียน อุสาหนีจากการตื่นเช้าไปโรงเรียนได้แล้วทำไมกูต้องย้อนกลับมาใหม่ด้วยว่ะ คิดแล้วหงุดหงิด! แต่อย่างน้อยก็ได้กลับมากินหมูปิ้งป้าศรีละว้านี่ตั้งแต่ป้าแกตายก็ไม่ได้กินเลยแต่พอมองหน้าแกแบบนี้ก็แปลกๆ แหะ

“เอาหมูปิ้ง5ข้าวเหนียว2ครับ”

ต้าหันไปมองบุคคลที่เดินเข้ามาสั่งหมูปิ้งถ้าเป็นคนอื่นต้าคงไม่มีอาการลุกลี้ลุกล้นแบบนี้แต่เพราะนี้คือวินไงต้าถึงมีอาการตื่นตระหนกแบบนี้ ป้าศรีครับปิ้งเร็วๆ ได้มั้ยเนี้ยยย!!!!!

“อ้าว ต้าซื้อหมูปิ้งเหมื่อนกันหรอ”

“อะ..อื้อ”

“บ้านวินอยู่แถวนี้หรอ”

“ใช่ อยู่ซอยตรงนั้นเอง”

“อ่อ”

“แล้วนี่ต้าทำการบ้านอังกฤษเสร็จรึยัง”

“เรามีการบ้านอังกฤษด้วยหรอ”

เวรละไงเมื่อวานก็ไม่ตั้งใจเรียนด้วยสิ

“มีสิวันนี้ครูจะมีเทสด้วยนะ”

“ห๊ะ จริงหรอ”

“จริงสิเราจะโกหกทำไม “

เวรของแท้แล้วไงไอ้ต้า!ตอนม.4ตอนนั้นก็ตกย้อนกลับมายังจะตกอีกหรอว่ะ

“อาการแบบนี้แสดงว่ายังไม่ทำอะดิ ถ้างั้นเอาของเราไปดูมั้ย!?”

วินพูดก่อนจะยิ้มให้กับต้าเหมื่อนที่ตนเคยทำประจำวินก็เป็นแบบนี้แหละใจดียิ้มหวานให้คนอื่นไปหมดแบบนี้จะไม่ให้เค้าตกหลุมรักได้ยังไงล่ะ…











ติดตามตอนต่อไป

#ยังไม่แก้คำผิด