'ฉันท้อง' ประโยคบอกเล่าจากโอเมก้าหลายต่อหลายคนเริ่มทำให้เลขาอย่าง 'พิต้า' รู้สึกเอียน เลขาหน้ามนชักกรุ่นโกรธ ประธานเฮงซวยที่ไปไข่ทิ้งไว้ตอนรัท ซ้ำยังทำพันธะไว้ ต้องนึกให้ออกได้แล้วว่าไปนอนกับใครมา!!!
ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,ตลก,ดราม่า,รัก,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ท่านประธานต้องนึกให้ออก(omegaverse)'ฉันท้อง' ประโยคบอกเล่าจากโอเมก้าหลายต่อหลายคนเริ่มทำให้เลขาอย่าง 'พิต้า' รู้สึกเอียน เลขาหน้ามนชักกรุ่นโกรธ ประธานเฮงซวยที่ไปไข่ทิ้งไว้ตอนรัท ซ้ำยังทำพันธะไว้ ต้องนึกให้ออกได้แล้วว่าไปนอนกับใครมา!!!
ชีวิตการเป็นเลขาสารพัดนึกที่คอยจัดการเรื่องต่างๆ ให้เจ้านายมักยุ่งวุ่นวายเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว ยิ่งเป็นท่านประธานสามเดือนจอมมากเรื่องด้วยแล้ว เหนื่อยสุดๆ แต่ถึงเหนื่อยยังไงพอเห็นเงินก็ชื่นใจ ชีวิตเลยไม่ได้แย่ไปเสียหมด หากแต่ไม่ได้มีเรื่องพลิกผันนี้เกิดขึ้น
“วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่กับเขาได้อะ”
“ทำงานล่วงเวลานิดหน่อย...”
พิต้าลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบคำถามของแอสเตอร์ออกไป อัลฟ่าหนุ่มจ้องมองใบหน้ายิ้มของเพื่อนตัวเองก่อนจะเงยหน้าไปมองอัลฟ่าอีกคนที่ยืนจับจ้องอยู่ด้านหลังพิต้า
“เอ้อ คือเราว่าจะย้ายมาอยู่ใกล้ที่ทำงาน แต่ยังหาที่พักไม่ได้ ขอไปพักอยู่กับเธอก่อนได้มั้ย”
แอสเตอร์มีบ้านหลังหนึ่งอยู่นอกตัวเมืองซึ่งเป็นบ้านที่พิต้าเคยอยู่มาก่อนสมัยเรียนมหาลัย เพราะในตอนนั้นแอสเตอร์อยู่บ้านคนเดียวเลยตัดสินใจปล่อยห้องในบ้านให้เช่าในราคาที่ไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ และคนที่โชคดีได้ไปอยู่ก็คือพิต้าที่เรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน ทั้งคู่จึงเริ่มสนิทกันตั้งแต่ตอนนั้น
พอเรียนจบเข้าช่วงวัยทำงาน พิต้าก็ไม่อยากจะอยู่รบกวนแอสเตอร์ต่อ เพราะตกลงกันไว้แค่เช่าอยู่ยันเรียนจบ แม้แอสเตอร์จะบอกให้อยู่ต่อได้ก็ตาม ประจวบเหมาะกับที่พิต้าได้เข้าทำงานในบริษัทของสามเดือน พิต้าเลยถือโอกาสนี้ย้ายมาเช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ ที่ทำงานแทน
ในตอนเรียนมหาลัยพิต้าค่อนข้างขัดสนเรื่องเงินพอสมควรเนื่องจากสุขภาพแม่ของเขาอยู่ ๆ ก็เริ่มแย่ลง เขาวิ่งทำงานพิเศษตั้งหลายที่เพื่อหาเงินช่วยลดภาระให้ที่บ้าน การที่เขาได้ที่พักดี ๆ ในราคาถูกจากการปล่อยเช่าของแอสเตอร์ก็นับว่าช่วยได้มาก อีกทั้งแอสเตอร์ยังใจดีและคอยช่วยเหลือเขาตั้งหลายเรื่อง ทำไมเรื่องแค่นี้จะช่วยแอสเตอร์บ้างไม่ได้
“ได้ดิ เรื่องแค่นี้เอง วันก่อนโทรคุยทำไมไม่บอก?”
“คือเรา...”
“ไม่ได้!!”
เสียงทุ้มเข้มดังมาจากใบหน้าถมึงทึงของท่านประธานสามเดือนที่ยืนฟังบทสนทนามาสักพัก พิต้ามีสีหน้าไม่เข้าใจขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าท่านประธานของเขามาอารมณ์ไหนอีก
“ท่านประธานเป็นอะไรครับ?”
“....”
สามเดือนหยุดชะงักไป พลางตั้งสติใหม่ หาข้ออ้างพูดไปเรื่อยอย่างตะกุกตะกัก
“เปล่า... ก็จะให้เขา...ให้อัลฟ่าอยู่กับเบต้าได้ไง!?”
“ครับ???? ก็ได้ปกตินี่ครับ”
ทั้งแอสเตอร์และพิต้าต่างขมวดคิ้วเข้าหากันและจ้องมองไปที่สามเดือน ท่านประธานกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะประมวลผลความคิดหาเรื่องมาตอบ
“ก็...คือ... มันรบกวนพนักงานผม”
“ก็ไม่รบกวนนะครับ ผมโอเค”
“รบกวน”
“เอ้า?”
สรุปว่าแอสเตอร์ขอมาพักอยู่บ้านพิต้าหรือสามเดือนกันแน่ ทำไมท่านประธานถึงตัดสินใจเหมือนเป็นบ้านตัวเองไปเสียอย่างนั้น คิดเองตอบเองไม่ฟังพิต้าสักนิด
“เพราะงั้น ผมมีคอนโดว่าง ๆ อยู่เยอะเลยครับ ยังหาที่อยู่ไม่ได้ใช่มั้ยครับ ลองไปดูคอนโดผมหน่อยมั้ย?”
“ผมหาแถวนี้มานานยังไม่เจอที่ว่างเลยครับ”
“คอนโดผมว่างครับ อยู่แถวนี้พอดีเลย”
“ผมไม่ค่อยมีเงินเช่าแพง ๆ”
“ผมปล่อยถูกมากครับ”
“แต่ตอนนี้ผมไม่มีเงินเลย กว่าเงินจะออก...”
“อยู่ฟรีได้นะครับ คนกันเอง ถือว่าเป็นสวัสดิการพนักงานผมครับ”
“แต่ผมไม่ใช่พนักงาน...”
“เพื่อนพนักงานก็อยู่ได้ครับ ผมอนุมัติ”
รอยยิ้มการค้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าของท่านประธานสามเดือน เมื่อไม่รู้จะแก้ยังไงก็ใช้เงินแก้ปัญหาแทน แอสเตอร์ขมวดคิ้วจ้องมองไปที่สามเดือนก่อนจะยอมแพ้แล้วเผยรอยยิ้มการค้าออกมาเช่นกัน
“ดีเลยครับ คุณเป็นหัวหน้างานที่ดีจริง ๆ ผมอยู่ได้นานจนกว่าพิต้าจะลาออกเลยไหมครับ?”
“เท่าที่ต้องการเลยครับ อีกนานเลยครับ”
จบบทสนทนาการตกลงก็ดูจะจบลงโดยที่พิต้าได้แต่ยืนงง ๆ แล้วโบกมือลาเมื่อแอสเตอร์ขอตัวไปทำงาน เลขาที่ยังคงมึนงงขยับตัวเข้าใกล้ท่านประธานแล้วเอ่ยถาม
“สวัสดิการนี่... มีนานยังครับ? ผมไม่เห็นรู้เลย”
“พึ่งมีเมื่อกี้เลย”
สามเดือนเอ่ยตอบอย่างหน้าไม่อาย พิต้ารู้สึกไม่เข้าใจท่านประธานของเขาเลยจริง ๆ พลางคิดว่านิสัยใช้เงินแก้ปัญหาสมควรถูกแก้ได้แล้ว
“ถ้างั้นผมขอคอนโดด้วยได้มั้ยครับ?”
“ว้า แย่จังครับ คอนโดเต็มแล้ว แต่บ้านผมยังว่างและกว้างมาก สนใจมาหารกันมั้ยครับ?”
“เกรงใจครับ”
พิต้าตัดบทท่านประธานทิ้งทันที เขาทำหน้าเบื่อหน่ายออกมานิดหน่อยก่อนจะหันหลังเดินหนีไป
เป็นเวลาหลายวันที่พิต้าใช้เวลาว่างและวันหยุดพาสามเดือนไปตระเวนเจอทั้งโอเมก้าและอัลฟ่าที่ตัวเองรู้จัก เขาทั้งล้าและเหนื่อยมาก ทำงานก็เยอะอยู่แล้วยังถูกดึงเวลาพักผ่อนไปอีก พิต้าแทบจะสลบคาเตียงทุกครั้งที่ได้นอน
“ตายแล้ว! พิต้า!! แกไหวไหมเนี่ย!?”
เสียงของลลินดังขึ้นทันทีที่สังเกตเห็นสีหน้าอิดโรยของเพื่อน ใบหน้าของเพื่อนรักดูจะล้ามากเป็นพิเศษ เมื่อสัปดาห์ก่อนลลินพึ่งจะแซวพิต้าไปว่าหน้าผ่อง ตัวก็ดูจะมีเนื้อมีหนังขึ้น แต่พอมาวันนี้เพื่อนของเธอดันมีสภาพไม่ต่างกับศพเสียแล้ว
“ฉันไหว...”
พิต้าเอ่ยตอบด้วยเสียงเอื่อย ๆ ยิ่งส่งผลให้ลลินกังวลมากขึ้นไปอีก
“แกไม่ไหวก็พักเถอะ ท่านประธานใช้งานแกเกินไปแล้วนะ”
“แต่เขาก็ให้เงินเพิ่มนะ”
“เงินน่ะ ฉันให้แกยืมก็ได้ ต้องใช้เท่าไหร่ละ ฉันรู้ว่าแกอยากได้เงินไปเป็นค่ารักษาแม่ แต่แบบนี้ก็เกินไปแล้วนะ ห่วงสุขภาพตัวเองบ้างสิ!”
ลลินรู้ดีว่าที่พิต้าไม่ปฏิเสธงานอะไรเลยที่สามเดือนยื่นมาให้เพราะเขาต้องการเงินไปรักษาแม่ ทุกงานที่นอกเวลางาน สามเดือนจ่ายเงินให้เสมอและมักจ่ายในปริมาณค่อนข้างเยอะด้วย
“ไม่เป็นไร ฉันไหวน่า”
พิต้าเข้าใจถึงความเป็นห่วงของลลินดี และรู้สึกขอบคุณที่เธอหยิบยื่นน้ำใจให้ แต่พิต้าก็รู้ดีว่าตำแหน่งของลลินไม่ได้ได้เงินมากนัก ทุกคนล้วนมีภาระหน้าที่เป็นของตัวเอง และตัวเขาก็ไม่อยากไปรบกวน จึงเลือกที่จะปฏิเสธไป
แม้จะยังเป็นห่วงเพื่อนแต่ลลินก็ทำได้เพียงปล่อยไป และคอยเฝ้าดูอยู่เสมอ
ในวันนี้สามเดือนมีประชุมนอกบริษัทตอนบ่าย พิต้าจึงต้องตามออกมาด้วย หลังจบการประชุม พิต้าก็คอยเดินตามสามเดือนลงไปยังลานจอดรถ ตลอดการเดินสามเดือนคอยมองพิต้าที่ดูจะอ่อนล้ามากอยู่เสมอ และเขาคิดถูกที่ทำอย่างนั้น
พิต้าเดินตามสามเดือนไปก็รู้สึกว่าโลกเริ่มหมุนขึ้นเรื่อย ๆ เขาหยุดชะงักลงเมื่อเริ่มเดินต่อไม่ไหว ทำให้สามเดือนสังเกตเห็นและเริ่มเดินเข้าใกล้
“พิต้า?”
กลิ่นหอมที่คุ้นลอยมาเตะจมูก เป็นกลิ่นที่พิต้าคุ้นเคย กลิ่นของขนมปังอบใหม่กับกาแฟอุ่นยามเช้า และกลิ่นหอมจาง ๆ คล้ายน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไม่นานหลังจากได้กลิ่นภาพตรงหน้าก็ดับวูบลง เขาไม่รับรู้อะไรอีก..
พิต้าเกือบล้มหัวฟาดถ้าไม่ได้สามเดือนคอยประคองไว้ ทันทีที่พิต้าล้มลงแขนของสามเดือนก็โอบรอบตัวเขาไว้ทันที
“เป็นไงบ้าง?”
ทันทีที่รู้สึกตัวภาพตรงหน้าที่พิต้าได้เห็นก็คือใบหน้าของสามเดือนโดยมีเพดาขาวอยู่ข้างหลัง พิต้าขยับตัวลุกขึ้นนั่ง พอสังเกตดูรอบ ๆ ก็ได้รู้ตัวว่าเขาถูกพามาอยู่โรงพยาบาลแล้ว
“โอเคมั้ย?”
พิต้าหันไปมองสามเดือนที่ใบหน้าฉายความรู้สึกผิดอยู่ทั่วใบหน้า คาดได้ว่าคนคนนี้คงจะกำลังรู้สึกผิดที่ใช้งานพนักงานหนักจนเป็นลมล้มพับไป ข้างกายของสามเดือนมีพยาบาลคนหนึ่งยืนอยู่
“ผมไม่เป็นไร”
พิต้ากำลังจะหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ก็โดนกดไว้ด้วยมือของสามเดือน ไม่ทันที่เจ้าตัวจะได้พูดอะไรมือถือของสามเดือนก็เกิดส่งเสียงดังขึ้นมา ท่านประธานอัลฟ่าหยิบมือถือออกมาดูพลันปรากฏสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนจะหันมาบอกพิต้าให้พักผ่อนแล้วตนเองก็เดินออกไปรับโทรศัพท์อย่างเสียไม่ได้
คล้อยหลังสามเดือนไปพักหนึ่งก็มีร่างของชายในชุดขาวเดินเข้ามาในห้อง คนผู้นั้นก็คือคุณหมอท่านหนึ่ง เขาเดินถือเอกสารบางอย่างอยู่ในมือ สีหน้าของหมอยังคงสงบนิ่งอยู่เสมอในตอนที่มองมาทางเขา แต่พิต้ากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ จึงเอ่ยถามออกไป
“มีอะไรเหรอครับ?”
ในคืนวันนั้นพิต้าต้องนอนค้างคืนอยู่ในโรงพยาบาล หลังจากสามเดือนออกไปรับโทรศัพท์เขาก็ไม่ได้กลับเข้ามาอีก ทำเพียงส่งข้อความมาหาเขาว่ามีเรื่องต้องกลับก่อนและบอกให้เขาพักผ่อนให้ดี ในช่วงเย็นพยาบาลสาวถือของใช้จำเป็นเข้ามาให้เขา พิต้ามองดูห้องกว้างขวางที่ตัวเองอยู่ก็พลันคิดเอาเองว่านี่คงเป็นสวัสดิการที่ได้จากการจ่ายเงินแพง ๆ ให้กับห้องพิเศษแบบนี้
คล้อยหลังพยาบาลสาวไปได้ไม่นานก็มีชายมีอายุคนหนึ่งมาหาพิต้า ชายคนนั้นแต่งตัวดูสะอาดเรียบร้อยเดินถือเอาของใช้จำเป็น ผลไม้และของกินอีกนิดหน่อยมาให้พิต้า ของทั้งหมดล้วนเป็นของใหม่
“คุณเป็นใครครับ?” พิต้าเอ่ยถามออกไปพลางคิดว่าคนคนนี้อาจเข้าห้องผิด
ชายคนนั้นมองเขาแล้วกล่าวขอโทษที่ลืมแนะนำตัวก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวว่าเขาเป็นผู้ช่วยของประธานโคอาจิไซ พิต้าฟังคำนั้นจึงเข้าใจแล้วว่าท่านประธานคงสั่งให้เอาของมาให้เขา เขาพลางคิดว่าท่านประธานมีผู้ช่วยคนอื่นอยู่อีกด้วยหรือ นึกไปมาก็นึกขึ้นได้ว่าตำแหน่งตนคือเลขาไม่ใช่ผู้ช่วย แต่พอนึกแบบนั้นก็เกิดสงสัยขึ้นมาอีกว่าท่านประธานมีผู้ช่วยอยู่แล้วทำไมยังใช้งานเขาเยอะขนาดนี้อีก
คิดไปก็เปล่าประโยชน์ ท่านประธานปกติก็แปลกสำหรับเขาอยู่แล้ว
พิต้านั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดสนิทพลางย้ายสายตามาที่ของใช้ที่ถูกวางไว้บนตู้ข้างเตียงอย่างละสองชิ้น เนื่องจากการที่มีคนเอาของมาให้เขาซ้ำถึงสองคน ดวงตาค่อย ๆ เลื่อนหนีออกมากของใช้เหล่านั้นไปที่ของกินและผลไม้ที่แลดูสดใหม่และดีต่อสุขภาพ
เลขาเบต้าจ้องมองเหล่าของกินอยู่พักหนึ่งก่อนค่อยขยับตัวเชื่องช้าเข้าไปหยิบของเหล่านั้นมากิน เวลาผ่านไปอย่างเนิบช้า พิต้ากลับขึ้นเตียงดึงผ้าห่มขึ้นคลุมทั้งตัว เข้าซุกใบหน้าลงไปใต้ผ้าห่มเปิดโทรศัพท์กดเข้าค้นหาเบอร์โทรของคนรู้จัก เขามองไปที่เบอร์ที่ระบุชื่อว่า ‘แม่’ นิ้วโป้งสวยขยับลังเลอยู่บนชื่อนั้น พอคิดได้ว่าอีกฝ่ายควรพักผ่อนในเวลานี้ เขาก็เลื่อนหน้าจอไปที่อีกเบอร์ ‘ป้าสร’ พิต้าจ้องมองชื่อนั้น พอคิดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ควรโทรไปรบกวนแล้ว สุดท้ายแล้วเขาก็ดับแสงหน้าจอลง วางโทรศัพท์ไว้ข้างหัวเตียงแล้วซุกตัวกลับเข้าไปใต้ผ้าห่ม ความล้าทำให้เขาตกสู่นิทราอย่างรวดเร็ว
ในช่วงสายวันถัดมา ลมหายใจของเลขาเบต้ายังคงเข้าออกแผ่วเบาสม่ำเสมอ เป็นเครื่องยืนยันว่าคนคนนี้ยังคงหลับใหล
ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมร่างสูงที่ก้าวเข้ามา สามเดือนย่างก้าวแผ่วเบาเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเลขาคนเก่ง เขาเดินถือเอาของกินและดอกไม้ไปวางบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา ของเหล่านี้บางส่วนคือของเขาบางส่วนคือของเพื่อนพนักงานที่พอรู้เรื่องตอนเช้าก็หอบเอาของมาฝากให้เขาเอามาให้พิต้าด้วย
สายตาของสามเดือนไล่มองเส้นผมดำขลับที่โผล่พ้นขอบผ้าห่มออกมา พลางไล่สายตาไปที่ตู้หัวเตียง คิ้วได้รูปย่นเข้าหากันเล็กน้อยจ้องมองของใช้ที่ดูจะเยอะผิดปกติ ไม่ทันได้นึกอะไรก็ได้ยินเสียงงัวเงียดังขึ้น
เป็นพิต้าที่ตื่นนอน ตาที่ยังตื่นไม่เต็มที่มองไปยังสามเดือน นิ้วเรียวขยี้ตาเล็กน้อยแล้วเอ่ยเรียกเสียงอ่อน
“ท่านประธาน?”
สามเดือนไม่ได้ตอบอะไร ทำเพียงจ้องมองพิต้าที่ยกมือขึ้นปิดจมูกพลางทำหน้าบึ้งตึง
“ฉีดน้ำหอมเยอะเกินไปแล้วครับ”
คำพูดนั้นของเลขาทำให้สามเดือนขยับเข้าใกล้เขามากขึ้น สามเดือนโน้มตัวเข้าใกล้พิต้าจนหน้าแทบจะติดกัน พิต้าดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดจมูกเพื่อหนีจากกลิ่นหอมที่รุนแรงเกินไป
“กลิ่นอะไร?”
เสียงสามเดือนราบเรียบยามเอ่ยถาม พิต้าเข้าใจคำถามดังกล่าวจึงเอ่ยตอบออกไป
“ไฮเดรนเยีย”
“...”
ความเงียบปกคลุมขึ้นชั่วขณะแล้วกินเวลายืดยาวขึ้น สามเดือนยืดตัวยืนตรงแล้วนิ่งไปทั้งอย่างนั้น พิต้าจึงลืมตาเต็มแล้วมองอย่างสงสัย เขาจ้องมองไปที่ดวงตาสั่นที่ยากจะอธิบายอารมณ์ ไม่รู้ว่าทำไมท่านประธานถึงทำหน้าอย่างนั้น
สามเดือนมองคนตรงหน้าทบทวนหลายอย่างก่อนจะปักใจยืนยันเรื่องหนึ่ง พิต้าไม่เคยฉีดน้ำหอม เขาจึงคิดว่าอีกฝ่ายไม่ชอบกลิ่นน้ำหอม ดังนั้นแล้วในช่วงเวลาที่รู้ว่าต้องอยู่ใกล้พิต้าเขาจึงไม่เคยฉีดน้ำหอม และในวันนี้ก็เช่นกัน....
TBC.