'ฉันท้อง' ประโยคบอกเล่าจากโอเมก้าหลายต่อหลายคนเริ่มทำให้เลขาอย่าง 'พิต้า' รู้สึกเอียน เลขาหน้ามนชักกรุ่นโกรธ ประธานเฮงซวยที่ไปไข่ทิ้งไว้ตอนรัท ซ้ำยังทำพันธะไว้ ต้องนึกให้ออกได้แล้วว่าไปนอนกับใครมา!!!
ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,ตลก,ดราม่า,รัก,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ท่านประธานต้องนึกให้ออก(omegaverse)'ฉันท้อง' ประโยคบอกเล่าจากโอเมก้าหลายต่อหลายคนเริ่มทำให้เลขาอย่าง 'พิต้า' รู้สึกเอียน เลขาหน้ามนชักกรุ่นโกรธ ประธานเฮงซวยที่ไปไข่ทิ้งไว้ตอนรัท ซ้ำยังทำพันธะไว้ ต้องนึกให้ออกได้แล้วว่าไปนอนกับใครมา!!!
ชีวิตการเป็นเลขาสารพัดนึกที่คอยจัดการเรื่องต่างๆ ให้เจ้านายมักยุ่งวุ่นวายเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว ยิ่งเป็นท่านประธานสามเดือนจอมมากเรื่องด้วยแล้ว เหนื่อยสุดๆ แต่ถึงเหนื่อยยังไงพอเห็นเงินก็ชื่นใจ ชีวิตเลยไม่ได้แย่ไปเสียหมด หากแต่ไม่ได้มีเรื่องพลิกผันนี้เกิดขึ้น
‘พลาดแล้ว’
ประโยคนี้ดังก้องในหูพิต้า เขาพลาดแล้ว...
.
.
“มีอะไรเหรอครับ?”
“คนไข้เข้ารับการตรวจระบุเพศตอนอายุเท่าไหร่ครับ?”
เมื่อวานนี้หลังจากเขาถามหมอออกไป คุณหมอก็ตอบเขาด้วยคำถามกลับมา พิต้ามีรางสังหรไม่ค่อยดีแต่ก็ตอบออกไป
“ช่วงหกขวบ...”
“หกขวบ? หลังจากนั้นได้ตรวจอีกครั้งไหมครับ?”
คุณหมอยังคงถามคำถามเขา พิต้ารู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ลางสังหรของเขาแย่ลงทุกที หัวใจในอกเต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เขาคิดว่าตัวเองพอจะเดาออกว่าเรื่องอะไร ยังไงเขาก็ไม่ใช่คนโง่
“ไม่เคยครับ ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ตรวจคือตอนหกขวบ ที่โรงเรียนประถม เป็นการตรวจระบุเพศขั้นพื้นฐานครับ”
พิต้าตอบทุกอย่างชัดเจนตามที่ตนเองรู้ เขาเงียบและรอฟังคุณหมอ รอว่าเขาจะสรุปหรือจะถามอะไรอีก คุณหมอพลิกหน้ากระดาษเปิดขึ้นลง ขีดเขียนอะไรสักอย่างก่อนจะหันมาหาเขา พยาบาลสาวที่อยู่ข้างคุณหมอเข็นชั้นวางอุปกรณ์มีล้อมาทางเขาและขออนุญาติเจาะตรวจเลือดของเขา
“หมอคาดว่ามีโอกาสสูงที่คุณจะไม่ใช่เบต้าครับ”
เป็นดั่งที่พิต้าคิด เขาสงบใจลงได้เพราะคาดการณ์เอาไว้ในใจแล้ว เขาไม่ได้สะเพร่าที่หลังจากตรวจระบุเพศตอนหกขวบแล้วไม่ได้ตรวจอีก นั่นเป็นเรื่องปกติ หลังจากระบุเพศตอนหกขวบแล้วหากไม่ได้มีอาการผิดแปลกอะไรไปจากเพศของตัวเอง คนทั่วไปก็จะไม่ได้มีการเข้าตรวจซ้ำ ที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตได้ปกติดีในฐานะเบต้ามาตลอด ไม่มีอะไรผิดปกติไปจากเบต้าเลย น่าแปลกที่เขากลับไม่ใช่เบต้า แต่เคสแบบนี้ก็เหมือนจะเกิดขึ้นได้เหมือนกัน
เพียงหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น คุณหมอและพยาบาลสาวก็กลับมาอีกครั้งพร้อมลากเครื่องบางอย่างเข้ามาด้วย คุณหมอเปิดเอกสารในมือแล้วหันมาพูดกับเขา
“จากผลการตรวจ คนไข้ไม่ใช่เบต้า แต่เป็นโอเมก้าครับ”
คำพูดของคุณหมอหยุดลงเพียงเท่านั้น แล้วจ้องมองเขาสักพัก พิต้าสับสนเล็กน้อยแต่ก็สงบใจกลับเป็นปกติ ยังไงก็แค่เป็นโอเมก้า ไม่ได้มีอะไรเสียหาย ยังไงเขาก็เป็นเขา ยังคงเป็นเขาที่ตั้งใจเรียน เรียนจบด้วยเกียรตินิยมและเข้าทำงานในเครือบริษัทใหญ่ เขาพลางนึกว่าจะโทรไปบอกแม่ยังไงดี ท่านคงตกใจน่าดู คิดเพลินได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องชะงักกับประโยคถัดมาของคุณหมอ
“และคนไข้กำลังตั้งครรภ์ครับ”
ราวกับโลกหยุดหมุนโดยอัตโนมัติ เขามั่นใจว่าเมื่อครู่ฟังไม่ผิดไป พยาบาลสาวกำลังจัดแจงเครื่องบางอย่างที่ลากเข้ามาด้วย เมื่อพิต้าหันไปมองอีกครั้งก็รับรู้ได้แล้วว่าสิ่งนั้นคืออะไร..
พิต้านอนนิ่งให้คุณหมอเช็ดทำความสะอาดบริเวณหน้าท้อง เขาจ้องมองท้องเนียนของตัวเองที่ก็ดูปกติดี อาจจะติดอ้วนนิดหน่อย? หรือบางทีเขาอาจคิดไปเอง มันดูปกติดีจริง ๆ
คุณหมอลากเครื่องมือไปมาบนหน้าท้องของพิต้า บนจออัลตร้าซาวด์ปรากฏภาพสีขาวท่ามกลางสีดำ พิต้าจ้องมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่เต้นราวกับจะทะลุออกมาจากอก เป็นความรู้สึกที่ปนเปกันจนยากจะอธิบาย
“คนไข้ท้องได้สิบเอ็ดสัปดาห์แล้วครับ เด็กในครรภ์แข็งแรงปกติดีครับ”
พิต้าทำเพียงเงียบฟังคุณหมออยู่อย่างนั้น ความจริงแล้วคล้ายว่าเขาสติหลุดลอยไปเสียแล้วมากกว่า
“สาเหตุที่คนไข้หน้ามืดเป็นลม เป็นเพราะกำลังตั้งครรภ์และพักผ่อนไม่เพียงพอครับ และที่ผ่านมาคนไข้เป็นโอเมก้าที่ไม่แสดงอาการตามที่โอเมก้าควรจะเป็น หมอคาดว่าฮอร์โมนและฟีโรโมนของคนไข้ผิดปกติ จึงไม่แสดงลักษณะที่ควรเป็น และเมื่อเกิดการตั้งครรภ์ทำให้ฮอร์โมนและฟีโรโมนเปลี่ยนแปลงกระทันหัน นั่นอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่คนไข้เป็นลมครับ”
คุณหมอพับปิดเอกสารในมือแล้วเบนสายตามาหาพิต้าแทน
“เคสลักษณะแบบนี้มีเกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่ในกรณีของคนไข้ดูเหมือนจะมีบางส่วนที่แตกต่าง หมอแนะนำให้คนไข้ทำการฝากครรภ์ และมาพบหมอทุกสัปดาห์นะครับ หมอจะทำใบนัดให้ หากสรุปผลได้ว่าไม่มีอันตรายอะไรอีก หมอจะลดความถี่ในการมาพบหมอลงครับ คนไข้ไม่ต้องกังวลนะครับ”
พิต้าคล้ายว่าสติหลุดลอยไปแล้วจริง ๆ เขาเหม่อมองคุณหมออยู่อย่างนั้น ก่อนจะพยักหน้าเข้าใจแล้วมองดูคุณหมอเดินจากไป..
“พิต้า...”
น้ำเสียงคล้ายเหม่อลอยที่เอ่ยเรียกชื่อ ดึงสติเขาให้กลับมาโฟกัสกับคนตรงหน้าในปัจจุบัน
สองสายตาผสานเข้าด้วยกันเนิ่นนาน สามเดือนคล้ายจะพูดอะไรแต่กลับไม่พูดออกมา ในตอนที่พิต้าคิดว่าจะต้องพูดอะไรสักอย่างเสียงมือถือของสามเดือนก็ดังขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คุณพยาบาลเดินเข้ามา
สามเดือนขมวดคิ้วแลดูหงุดหงิด เข้ามองจอมือถือสลับมามองพิต้าที่นอนเอาผ้าห่มปิดจมูกตัวเองไว้ ก่อนจะหันไปมองพยาบาลแล้วตัดสินใจเดินออกจากห้องไป
พิต้าราวกับหายใจโล่งคอขึ้นมา พยาบาลสาวเดินถือเอาเข็มมาเพื่อเจาะเลือดของพิต้าไปตรวจ หลังจากเจาะเลือดเสร็จเธอก็แจ้งว่า พิต้าสามารถกลับบ้านได้ถ้าต้องการ แน่นอนว่าพิต้าไม่ลังเลเลยที่จะกลับบ้าน
เขาไม่รู้ว่าใครที่โทรมาหาสามเดือน แต่คนคนนั้นก็ดึงเวลาทำให้สามเดือนไม่สามารถย้อนกลับเข้ามาหาเขาได้หลายชั่วโมง พิต้าจึงใช้จังหวะนั้นหนีหายจากเขาไป พิต้ารีบกลับบ้านไปก่อนที่สามเดือนจะกลับมา
หลังจากวันนั้นที่โรงพยาบาล พิต้าก็เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ที่บ้าน เขาไม่ออกไปทำงาน ไม่ได้ติดต่อกับใครเลย เอาแต่อยู่ในห้องของตัวเองมาเกือบอาทิตย์แล้ว
ร่างที่ดูจะโทรมลงนั่งกอดเข่าพิงขอบเตียง ในสายตาคู่สวยคล้ายสะท้อนเงาความคิดอันยุ่งเหยิงที่วิ่งพันกันไปมาในนั้น เวลาแห่งความยุ่งเหยิงดำเนินไปเนิ่นนาน
จนกระทั่งถึงเวลาของอาหารเที่ยง พิต้าไม่มีใจจะลุกไปกิน แต่เสียงครวญครางของท้องร้องที่ดังขึ้นก็ทำให้ร่างบางตระหนักขึ้นได้ทุกครั้งว่าไม่ได้ตัวคนเดียว ความหิวของเขา จะมีอีกหนึ่งชีวิตที่หิวเหมือนกัน เขาจึงจำต้องลุกไปหาข้าวกินเสียทุกครั้งไป
ร่างบางขยับหยุดเดินอยู่หน้ากระจกเต็มตัว มือสวยยกขึ้นจับหน้าท้องเบา ๆ
ไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่กี่วันก่อนเขายังเข้าใจว่าสักวันตัวเองจะได้แต่งงานเป็นพ่อคน แต่วันนี้เขากลายเป็นโอเมก้าแถมยังได้แม่คนแล้วด้วย
เป็นเรื่องกระทันหันอย่างน่าเหลือเชื่อ เลขาหนุ่มขยับหันซ้ายทีขวาที ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนท้องเลยสักนิด แต่ในท้องของเขามีเด็กอยู่จริง ๆ เขาเห็นในเครื่องอัลตราซาวด์
ไม่รู้อะไรดลใจ แต่พิต้าคล้ายรู้สึกสนุกขึ้นมานิดหน่อย นิ้วเรียวยกขึ้นแตะท้องสามทีพลางทำเสียง ก๊อก ๆ ๆ คล้ายเคาะประตูแล้วเอ่ยถาม
“มีเด็กอยู่ในนั้นมั้ย? นี่ ได้ยิน..”
เสียงของพิต้าหยุดชะงักไป ก่อนจะเอ่ยต่อ
“ได้ยิน... แม่มั้ย?”
คล้ายหัวใจพองโตขึ้นฉับพลัน แม้ทุกอย่างจะดูยุ่งเหยิง แต่พิต้าก็คือพิต้า พิต้าคนนี้จัดการปัญหาในชีวิตได้ตั้งหลายเรื่องและผ่านมันมาได้ เรื่องในครั้งนี้พิต้าก็จะผ่านมันไปได้เหมือนกัน...
ต้มจืดถูกต้มอย่างง่าย ๆ พร้อมทานวางบนโต๊ะ พิต้าคดข้าวสวยใส่จานมานั่งกินกับต้มจืดไปพลางนึกจิตนาการอะไรหลายอย่าง
เด็กคนนี้เกิดมาแล้ว ลองนึงภาพเด็กน้อยน่ารักที่เคยพบเห็น พิต้ากำลังมีลูกน่ารักแบบนั้นเหมือนกัน เขาพลันนึกว่าอยากทำอะไรบ้างกับประสบการณ์เป็นแม่คนครั้งแรก
ไม่ว่ายังไงเด็กคนนี้ก็จะเกิดมา แม้จะไม่คาดฝัน แต่พิต้าจะไม่เรียกเด็กคนนี้ว่าความผิดพลาดเด็ดขาด จะเลี้ยงเขาให้ดี จะมอบทุกอย่างที่มีให้เขา
พิต้ารู้ว่าความผิดพลาดเป็นยังไง เพราะเขาก็เคยเป็นความผิดพลาดของพ่อแม่เหมือนกัน ความผิดพลาดที่ไม่ได้อยากให้เกิดมา แต่ก็เกิดมาแล้ว เป็นความผิดพลาดที่พ่อไม่ยอมรับและทิ้งไป เป็นความผิดพลาดที่แม่พลาดไปจึงต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตลอด
ไม่ว่ายังไง เด็กคนนี้จะไม่ใช่ความผิดพลาดของเขา เด็กคนนี้จะเป็นความตั้งใจ เขาจะตั้งใจดูแล รักและเลี้ยงให้ดี จะตั้งใจทำงานและใช้ชีวิตของตัวเองให้ดีด้วยเหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ไม่ว่ายังไง เด็กคนนี้ก็ไม่ใช่ความผิดพลาด
พอคิดได้แบบนั้น พิต้าก็ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะลาออกจากบริษัท เงินเก็บเขาก็พอมี.. อันที่จริงก็ค่อนข้างมากอยู่เป็นเพราะเดือนหลัง ๆ มานี้เขาได้เงินจากงานล่วงเวลาของท่านประธานสามเดือนกระเป๋าหนัก อีกทั้งอาการของแม่ก็ดูจะทรงตัวมากขึ้น เลขาหนุ่มกำลังคิดว่าจะกลับไปขายบ้านเก่าทิ้งแล้วพาแม่ไปอยู่ด้วยในที่ทำงานใหม่ คนเก่งแบบเขามีหลายบริษัทอยากได้ตัวเหมือนกัน..
พิต้าจัดแจงเตรียมตัวอยู่สองวัน หลังจากไปพบแพทย์มาอีกหน พิต้าก็ทำการโทรไปลาออกจากบริษัททันที แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือต้องไปลาออกที่บริษัท
ทำให้ตอนนี้เลขาที่กำลังจะพ้นสถานะเลขาต้องมานั่งอยู่ต่อหน้าคนที่กำลังจะกลายเป็นอดีตเจ้านาย
“ลาออก?”
“ครับ”
ในห้องพลันเกิดความเงียบขึ้นฉับพลันและถูกทำลายลงโดยท่านประธาน สานเดือนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูใจเย็นเป็นอย่างมากจนพิต้าแปลกใจ
“คุณเลขาทราบไหมครับ ว่าถ้าจะลาออกต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน”
“อ่า...ครับ”
พลาดแล้ว พิต้าพลาดอีกแล้ว เขาลืมไปเสียสนิทเลย
“ก็เป็นอย่างนั้นแหละครับ บริษัทต้องหาคนมาแทนคุณ เข้าใจหน่อยนะครับ”
“...”
เมื่อพิต้าเงียบไปก็คล้ายเข้าทางสามเดือน
“แล้วก็ถ้าคุณพิต้าลาออกสวัสดิการพนักงานก็ถือว่าเป็นอันจบลงเช่นกัน ดังนั้นแล้วคุณแอสเตอร์ที่เข้ามาใช้คอนโดอยู่ในสวัสดิการพนักงานเมื่อเกือบเดือนก่อนก็ต้องย้ายออกด้วยนะครับ”
พลาดอีกแล้ว ยิ่งฟังพิต้าก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองพลาดไปหลายอย่างเลย เขาลืมคิดไปได้ยังไงกันนะ ยิ่งสีหน้าที่ดูยิ้มพอใจของสามเดือนยิ่งตอกย้ำเขาเข้าไปอีก
“ไม่อยากให้ผมลาออกเหรอครับ?”
“...”
“คุณเลขา ไม่สิ พิต้า ผมเข้าใจนะว่า...”
อยู่ ๆ สามเดือนก็ทำท่าทางจริงจัง พร้อมทำทางคล้ายเข้าอกเข้าใจ ปรับสรรพนามการเรียกกันใหม่พร้อมเอ่ยเรื่องราวเป็นตุเป็นตะ
“ผมเข้าใจดีว่าการเป็นโอเมก้าทำให้หางานได้ยากคุณเลยต้องแสร้งเป็นเบต้ามาตลอด แต่ไม่เห็นต้องปิดบังเลย ผมไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น อีกอย่างนายก็ทำงานได้ดีมาตลอด”
“ห๊ะ?”
“คือว่าผมเข้าใจจุดประสงค์ของนายนะ ดังนั้นแล้ว...”
“ไม่... คือผมไม่ได้ปลอมเป็นเบต้านะ คือผลตรวจมันออกมาเป็นแบบนั้นจริง ๆ ตอนนั้นผมหกขวบ ผม ผมไม่ได้ปลอมแปลงนะ ผม...ผม... คุณอย่าแจ้งความนะ...ครับ”
พิต้ารีบโพล่งประโยคต่าง ๆ ออกไปทันทีหลังจากได้ยินคำว่าแสร้งเป็นเบต้า การปลอมแปลงข้อมูลการระบุเพศถือเป็นความผิดทางกฎหมาย พิต้าพลันนึกว่าคนตรงหน้าอาจกำลังจะจับเขาโยนเข้าคุก แต่สีหน้าของคนตรงหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นงุนงงก่อจะเอ่ยสวนกลับมา
“แจ้งความ? ไม่คือฉันไม่ได้จะแจ้งความ นายใจเย็นก่อน ฉันแค่จะบอกว่าไม่ว่านายจะเป็นเบต้าหรือโอเมก้านายก็ทำงานต่อที่นี่ได้ไม่จำเป็นต้องลาออก!”
“...”
“ไม่ ผมจะลาออก”
“เดี๋ยวสิ! อย่าลาออกเลยนะ อยู่ต่อเถอะ ฉันจะใช้งานนายให้น้อยลง ขอโทษที่ใช้งานนายมากเกินไปจนนายเป็นลม ฉันจะปรับปรุงตัว”
อยู่ ๆ สถานการณ์ก็พลิกกลับในเวลาไม่ถึงนาที สามเดือนคล้ายน้ำที่ถูกแช่แข็งไว้เตรียมให้ความเย็น แต่พอละลายก็กลายเป็นน้ำธรรมดาดังเดิม แถมยังหกเลอะไปหมด
พิต้ามองท่านประธานที่หันมาขอโทษขอโพย ต่างจากมาดที่วางไว้เมื่อครู่ลิบลับ พลันเกิดสงสัยว่าอะไรจะต้องดึงรั้งขนาดนั้น
“ขอโทษครับผมตัดสินใจแล้ว”
“ขอร้องเถอะนะ อยู่ต่ออีกสักหน่อยจนกว่าจะหาคนใหม่ได้ก็ได้ ถ้าอยู่ต่อผมจะตีเป็นจ้างออกให้ก็ได้”
พิต้าหยุดชะงักมองท่านประธานที่ก้มหัวแล้วก้มหัวอีก พลางคิดตามก่อนจะตอบตกลง หนึ่งเลยคือเริ่มรู้สึกเห็นใจต่อความตื้อนี้ขึ้นมา สองคือยังไงเขาก็ออกไม่ได้จนกว่าจะครบเดือน และสามต้องช่วยแอสเตอร์หาที่พักใหม่ด้วย
สามเดือนคล้ายยกภูเขาออกจากออก แต่พิต้าดันเหมือนยกภูเขากลับเข้าอก นี่เขาพลาดอีกแล้วหรือเปล่านะ? แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว...
TBC.