ตำนานที่เล่าขานผ่านกาลเวลา เต็มไปด้วยปริศนาแห่งอดีตชาติ

วงศ์นาคา - 2 นาคปรากฎ(กลับมาแย้วค่า) โดย ทิพย์ชลาลัย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,แฟนตาซี,ลึกลับ,พญานาค,โรแมนติก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วงศ์นาคา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,แฟนตาซี,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พญานาค,โรแมนติก,แฟนตาซี

รายละเอียด

วงศ์นาคา โดย ทิพย์ชลาลัย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตำนานที่เล่าขานผ่านกาลเวลา เต็มไปด้วยปริศนาแห่งอดีตชาติ

ผู้แต่ง

ทิพย์ชลาลัย

เรื่องย่อ

‘วิรัลวีร์ วงค์ภุชงค์’นักศึกษาปริญญาโทเดินทางไปภาคอีสานเพื่อหาข้อมูลเรื่องความเชื่อพญานาคมาทำงานวิจัย ขณะที่หาข้อมูลกลับมี ‘ภาธร’ชายหนุ่มปริศนาปรากฎตัวขึ้น เขามาพร้อมกับตำนานที่ไม่เคยถูกเปิดเผย ความศรัทธาและสัญญาเก่าของใครบางคนที่รอคอยอยู่กำลังปรากฎขึ้นอีกครั้งท่ามกลางดินแดนแห่งพญานาคที่เต็มไปด้วยตำนานความรักโศกนาฎกรรม แท้จริงแล้วตำนานรักจะพาไปพบกับอะไรกันแน่!?








❗️เรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้เขียนเพื่อความบันเทิงเท่านั้น บางสถานที่ ตำนานและตัวละครไม่ได้มีอยู่จริง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ

สารบัญ

วงศ์นาคา-1 บทนำ,วงศ์นาคา-1 บทนำ(ต่อ),วงศ์นาคา-2 หมู่บ้านนาคา,วงศ์นาคา-1 หมู่บ้านนาคา (ต่ออ),วงศ์นาคา-2 นาคปรากฎ,วงศ์นาคา-2 นาคปรากฎ(กลับมาแย้วค่า)

เนื้อหา

2 นาคปรากฎ(กลับมาแย้วค่า)

“คุณหมายความว่าอะไรคะ”เธอขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกทะแม่งๆกับคำพูดที่ดูเป็นปริศนาของเขา

“ผมชื่อภาธรครับ”ภาธรแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ เพราะเธอไม่รู้จักเขา แต่เขารู้จักเธอดี 

“ไม่มีชื่อเล่นหรือคะ ชื่อเรียกสั้นๆน่ะค่ะ”

“ทุกคนเรียกผมว่าภาธร”นาคราชหนุ่มตอบ ในโลกพญานาคไม่มีชื่อเล่น ทุกคนต่างเรียกชื่อเต็มของกันและกัน จึงทำให้ภาธรไม่มีชื่อเล่น มีแต่ชื่อเต็ม 

“ก็ได้ค่ะ คุณภาธรฉันชื่อวิรัลวีร์นะคะ แต่คุณเรียกสั้นๆว่าเวลาก็ได้ค่ะ”หญิงสาวอมยิ้ม เพียงพบกันไม่นานแต่ทำไมเธอเหมือนเคยพบเขามามากกว่าหนึ่งครั้งนะ แล้วยังรู้สึกว่าเขาผูกพันกับเธออย่างไรก็ไม่รู้ และดูจากแววตาของภาธรเขาก็กำลังสงสัยว่าเช่นเดียวกัน

“คุณเป็นคนจริงๆหรือคะ เพราะการที่ฉันเห็นคุณที่วัดพระธาตุบังพวนเมื่อเช้าแล้วคุณหายไปต่อหน้าต่อตาฉันในเพียงพริบตาเดียว มนุษย์ทำไม่ได้นะคะ”เธอจ้องอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ

ภาธรยิ้มกับท่าทีเป็นตำรวจสาวที่จ้องจะเอานักโทษมาคาดคั้นเอาคำตอบ เขากำลังชั่งใจว่าจะบอกในชาติกำเนิดของตนดีหรือไม่ พญานาคไม่อาจผิดศีลห้าได้ แต่ถ้าหากวิรัลวีร์รู้ว่าเขาเป็นพญานาค เธอจะว่าอย่างไรในเมื่อมันน่าเหลือเชื่อเกินไปสำหรับมนุษย์ธรรมดา

“แล้วคุณคิดว่าผมเป็นอะไรล่ะครับ”

“ฉันคิดว่าคุณเป็นอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์ แต่คุณมาดี เป็นคนดี ใจฉัน…บอกแบบนั้น”เธอกล่าวตามความรู้สึกจริง ไม่ว่าเขาจะเป็นผี อมนุษย์ รุกขเทวา พระภูมิเจ้าที่ หรือเทพบุตรที่ตกลงมาจากสวรรค์ชั้นไหน ขอแค่เขามาดี แค่นี้เธอก็ไม่กลัวแล้ว 

“อย่าเอาผมไปเทียบกับรุกขเทวาหรือเทวดาเลยครับ ผมไม่อาจเอื้อมที่จะเป็นเทวดา”ภาธรที่ได้ยินความคิดของวิรัลวีร์รีบปราม เขาเป็นพญานาคก็จริง แต่อย่างไรพระสงฆ์และเทวดาล้วนสูงส่งกว่าทั้งสิ้น หากเอาเขาไปเทียบก็มีแต่จะบาปเปล่าๆ เพราะนาคไม่อาจจะบรรลุนิพพานได้ ตราบใดที่ยังไม่เกิดเป็นมนุษย์แล้วบวช

“หรือคุณจะเป็นพญานาคล่ะคะ”

“ไว้พบกันที่คำชะโนดนะครับ แล้วคุณจะรู้คำตอบ”ภาธรตอบก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินหนีไป เขาเดินเร็วจนวิรัลวีร์เดินตามไปไม่ทัน เธอยังติดใจกับคำพูดปริศนาของเขาอยู่เลย แล้วเกี่ยวอะไรกับองค์มุจลินท์?

“ไอ้เว จะไปไหนสุดถนนคนเดินแล้วนะ”อทิตยาตามมาคว้าแขนเพื่อนสนิทเอาไว้เมื่อเห็นว่าวิรัลวีร์เดินจนสุดร้านค้าแล้ว

วิรัลวีร์ยอมเดินกลับตามแรงจูงของเพื่อน แต่ในใจยังคงคิดฟุ้งซ่านเรื่องชายหนุ่มคนนั้นไม่หยุด เจอกันที่คำชะโนดแปลว่าพรุ่งนี้เธอกับเขาจะได้เจอกันอีกหรือ เขาจะรู้ได้ไงว่าคณะของเธอไปกี่โมงเวลาไหน ทำไมต้องพูดให้ดูเป็นปริศนาด้วย ก่อนที่วิรัลวีร์จะนึกอะไรบางอย่างออก เหมือนกับการแก้รหัสทางคติชนวิทยา บางทีถ้าเธอสามารถแกะรหัสจากคำพูดของเขาได้ เธออาจจะรู้อะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ก็ได้ 

“องค์มุจลินท์นาคราชเหรอ”

“อะไรเจ้ มีอะไรเกี่ยวกับพ่อปู่มุจลินท์เหรอ”เตชพัฒน์ถามรุ่นพี่สาวที่ดูทำตัวแปลกไปและหน้าตาจริงจังเหมือนคิดอะไรอยู่ 

“วัดเทวนาคาก็เกี่ยวกับองค์มุจลินท์ใช่ไหมเนสท์”

“ใช่ เพิ่งไปอุดรมาเมื่อวานเอง เจ้ลืมเหรอเนี่ย”

เธอลองร่างแผนผังในใจคร่าวๆ วัดเทวนาคากับวัดพระธาตุบังพวนล้วนมีพญานาคคุ้มครองเป็นองค์มุจลินท์นาคราชทั้ง

สิ้น งั้นก็แปลว่าเขาอาจจะเกี่ยวข้องกับองค์มุจลินท์ อย่างตระกูลเคารพนับถือหรือเป็นเชื้อสายนาคราชแบบเตชพัฒน์และเธอก็ได้




เช้าวันถัดมาพวกเธอออกจากตัวเมืองหนองคายตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อที่จะเดินทางไปวัดศิริสุทโธหรือ

คำชะโนด แต่เหมือนฟ้าจะไม่เป็นใจเพราะวันนี้วัดไม่เปิดให้เข้าเนื่องจากปรับปรุงซ่อมแซมภายใน ทำให้คณะต้องตัดสินใจว่าจะกลับกรุงเทพฯก่อนเพื่อนำข้อมูลไปเขียนหรือรอให้สถานที่เปิดค่อยกลับ เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยจำกัดเวลามาให้ไม่เกินสองสัปดาห์ ทำให้อาจารย์และนักศึกษาต้องรีบเก็บข้อมูลด้วยความรวดเร็วและครบถ้วนที่สุดเท่าที่จะทำได้

“อยู่ต่อให้ครบกำหนดเถอะค่ะอาจารย์ หนูว่าไม่เกินสองวัน วัดน่าจะเปิดให้ญาติธรรมเข้าไปไหว้พ่อปู่แน่ๆค่ะ รอไหว้ศาลเจ้าแม่นาคีที่เราผ่านมาด้วยก็ได้นะคะอาจารย์”อทิตยาขอร้องอาจารย์ปุณณ์ พนมมือพร้อมส่งสายตาอ้อนวอน

ศาลเจ้าแม่นาคีที่ว่าตั้งอยู่แถวคำชะโนดเช่นกัน เป็นศาลกลางน้ำ ชาวบ้านเชื่อว่าเจ้าแม่นาคีเป็นหลานสาวเพียงองค์เดียวขององค์ศรีสุทโธนาคราชและเจ้านางศรีปทุมมา แค่ได้ยินที่เล่าพวกเธอก็แทบอยากจะลงเรือไปไหว้สักการะท่านแล้ว ในเมื่อเวลายังเหลืออีกหลายวัน ไม่เห็นจะต้องรีบกลับกรุงเทพฯ

“ก็ได้ๆ อาจารย์ก็จะรอคำชะโนดเหมือนกัน สักครั้งหนึ่งในชีวิตสายนาคาคติต้องได้มาไหว้สักการะท่าน”สิ้นสุดคำอาจารย์หนุ่ม นักศึกษาทุกคนพากันยิ้มด้วยความดีใจ ก่อนจะวางแพลนกันว่าทั้งวันนี้จะตะลอนเที่ยวในเมืองอุดรไปก่อน อีกสองสามวันค่อยกลับมาที่คำชะโนดใหม่ ทุกคนเริ่มตะลอนกินเที่ยวร้านดังในเมืองกัน จนเมื่อสามทุ่มก็ได้เช็คอินเข้าที่พักใกล้ๆกับคำชะโนด เป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ แยกห้องเหมือนคืนแรกคือแบ่งฝั่งผู้ชายและ

ผู้หญิง วิรัลวีร์ ฉัตรดาวและอทิตยา จัดการเอาข้าวของไปเก็บในห้องพัก ระหว่างที่ฉัตรดาวและอทิตยากำลังยุ่งกับการอาบน้ำและเก็บของ เธอจึงตัดสินใจออกมาเดินเล่นบริเวณล็อบบี้ของรีสอร์ท 

สุดท้ายก็ไม่ได้เจอกับภาธร นี่ล่ะนะ บทจะอยากเจอแต่ไม่ได้เจอ เขาเคยพบเธอและเหมือนจะรู้จักเธอดีเสียด้วย เธอกลับไม่เคยรู้จักเขามาก่อน แต่รู้สึกผูกพันราวกับมีคนมาดึงใจเธอกับเขาผสานกันไว้มานานแล้ว เธอจะเจอเขาได้ที่ไหนอีก ยิ่งชอบทำตัวปริศนาเบอร์นั้น วิรัลวีร์ตัดสินใจเดินไปถามพนักงานที่พัก

“พี่คะ จากที่นี่ไปวัดเทวนาคาไกลมากไหมคะ”

“ไม่ไกลค่ะ นั่งรถไปประมาณสี่สิบห้านาทีถึงค่ะ”ฟรอนต์สาวตอบยิ้มๆ ก่อนจะให้รถของรีสอร์ทไปส่งวิรัลวีร์ที่วัดเทวนาคา แม้จะสงสัยว่าลูกค้าจะไปทำอะไรดึกๆดื่นๆที่วัด แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะอาจจะอยากต่อไปในตัวเมืองก็เป็นได้


วิรัลวีร์มาถึงวัดเทวนาคาได้ด้วยความกรุณาจากรถรีสอร์ท เธอขอบคุณและจ่ายเงินค่ามาส่งให้เขาตามความเหมาะสม ก่อนจะเดินมาที่หน้าวัดอีกครั้ง ภายในวัดไม่ได้มืดมิดน่ากลัว เพราะมีไฟส่องสว่างไว้อยู่เสมอ บรรยากาศเหมือนตอนเช้าคือเงียบ สงบ ไม่มีเเม้แต่เสียงใบไม้ เธอเดินเข้ามาไหว้รูปปั้นองค์มุจลินท์อีกครั้ง ก่อนจะเดินตรงไปที่เทวาลัยโบราณที่ติดป้ายว่าห้ามนักท่องเที่ยวเข้า เนื่องจากกลัวโบราณสถานจะชำรุดเสียหาย แต่เธอคิดว่าข้างในนั้นต้องมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับเขาแน่ๆ จึงตัดสินใจเข้าไปในเทวาลัย 

 ภายในเทวาลัยโบราณมีรูปปั้นองค์มุจลินท์ที่งดงามตระการตาไม่แพ้ข้างนอก แต่ที่งามกว่าคือความมนต์ขลัง เนื่องจากเป็นสถาปัตยกรรมอย่างสมัยเก่า นอกจากนี้ภายในเทวาลัยยังมีรูใหญ่จนเรียกว่าเหมือนปากถ้ำซ่อนอยู่หลังรูปปั้น แต่เธอไม่่ทราบว่า

รูใหญ่นั้นคืออะไร 

“เข้ามาโดยไม่เห็นป้ายเลยหรือไงครับ”

วิรัลวีร์หันกลับไปมองตามเสียง เห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่า ในเสื้อสีขาวกำลังส่งสายตามองเธอออย่างตำหนิ ภาธรอยู่ที่นี่จริงๆด้วย แต่ทำไมโผล่มาแบบไม่มีสุ้มไม่มีเสียงอีกแล้ว

“เห็นค่ะ แต่ฉันคิดว่าเข้ามาแป๊ปเดียวคงไม่เป็นไร”วิรัลวีร์จ้องเขากลับอย่างไม่ละสายตา

“นี่มันดึกมากแล้วนะครับ มาทำไม”ภาธรดุหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง มาวัดในยามวิกาลแบบนี้ ไม่กลัวผีสางเลยหรือไงมนุษย์คนนี้ 

วิรัลวีร์แอบค่อนเขาในใจ ดุอย่างกับเป็นพ่อ รู้ว่าอาจจะเป็นห่วง แต่จะทำตัวเป็นคนโบราณที่ไม่ชอบให้ลูกออกบ้านยามวิกาลไม่ได้ หรือเขาจะแก่จริงๆเพราะดูจากลักษณะการพูดการจาของเขาล้วนเป็นลักษณะของปู่ย่าตายายสมัยก่อน หน้าตาก็ดูดี แต่ดันเป็นหนุ่มสมัยต้นอยุธยาซะงั้น

“ผมก็เป็นคนโบราณจริงๆนั่นแหละครับ ผมถามก็เพราะเห็นว่าคุณเป็นผู้หญิง การออกมาข้างนอกเวลาแบบนี้มันอันตราย”เขาเอ่ยขึ้นมาเมื่อได้ยินในสิ่งที่เธอคิดในใจ 

“ฉันอยากเจอคุณ แล้วไม่รู้ทำไมฉันก็นึกถึงที่นี่เป็นที่แรกเหมือนกับมีใครพยายามบอกว่าคุณอยู่ที่นี่”

ภาธรนิ่งไปสักพัก ก่อนจะพาวิรัลวีร์เดินออกมาจากวัดแล้วมานั่งคุยกันที่ศาลาริมน้ำหมู่บ้านนาคนคร เพราะเขากับเธอไม่ควรสนทนากันในวัด แม้ว่าเขาจะไม่ใช่มนุษย์ก็ตาม มันไม่เหมาะสม

บรรยากาศศาลาริมน้ำดีไม่น้อย มีลมพัดเบาๆให้เย็นตลอดเวลา อีกทั้งยังมีเปลไว้ให้นอนงีบอีกด้วย เรียกได้ว่าสงบและสดชื่น น่ามานั่งพักใจพักกาย วิรัลวีร์ชมบรรยากาศรอบข้าง ก่อนจะหันมามองชายหนุ่มที่นั่งลงที่ตั่งไม้

“ตกลงคุณอยู่ที่วัดเทวนาคาจริงๆเหรอคะ”

“ผมอยู่ทุกที่ที่มีองค์มุจลินท์นาคราช”เขาตอบเหมือนเดิม เขาไม่ใช่เจ้าของวัด เขามีหน้าที่ดูแลปกป้องศาสนาตามที่เคยปวารณาตนไว้เมื่อครั้นเป็นพญานาคใหม่ๆ และคอยดูแลผู้ที่ศรัทธาในองค์มุจลินท์รวมทั้งลูกหลานพญานาคทุกคน

“นั่นก็เพราะว่าคุณเกี่ยวข้องกับองค์มุจลินท์ใช่ไหมละคะ”เธอหยั่งเชิงถามในสิ่งที่วิเคราะห์มา

“ใช่ครับ แล้วทีนี้คุณพอจะเดาได้ไหมว่าผมเป็นใคร”

“คุณเป็นพญานาคเหรอคะ”ตอบแบบไม่ต้องเดา รอยยิ้มมุมปากของภาธรน่าจะเป็นคำตอบว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ แต่ทำไมเธอไม่กลัว ก็คงเพราะเธอศรัทธาและชินกับเรื่องพญานาค ทำไมไม่รู้สึกแปลกใจที่เขาเป็นพญานาค



ขอโทษที่หายไปนานอีกแล้วค่า งืออ กลับมาแล้วนะคะ กำลังจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนค่ะ อย่าเพิ่งหายไปน้าฝากติดตามกันต่อด้วยนะคะ