“คนอย่างเธอไม่มีวันได้ใจฉัน เพราะสิ่งที่เธอจะได้มีเพียงร่างกายนี้เท่านั้น”

นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก - 14 ฉันนำเหนือกว่า โดย อณีญา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ดาร์ค,18+,อีโรติก,พระเอกเลว,นางร้าย,เกิดใหม่ ,ทะลุมิติ,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ดาร์ค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

18+,อีโรติก,พระเอกเลว,นางร้าย,เกิดใหม่ ,ทะลุมิติ,ดราม่า

รายละเอียด

นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก โดย อณีญา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“คนอย่างเธอไม่มีวันได้ใจฉัน เพราะสิ่งที่เธอจะได้มีเพียงร่างกายนี้เท่านั้น”

ผู้แต่ง

อณีญา

เรื่องย่อ


"ตัวเธอมันก็มีค่าแค่เรื่องบนเตียงนั่นแหละ"


 "ทำเหมือนที่เคยทำสิ แค่อ้าขาให้ฉัน นี่คือสิ่งเดียวที่เธอทำได้ดีไม่ใช่เหรอ?"


"ฉันเกลียดคุณ!"


เป็นแค่ 'นางร้ายตัวประกอบ' อย่าหวังว่าจะได้ความรักจากเขา ในเมื่อไม่ได้รักกัน เธอก็ต้องการที่จะหย่า แต่ทว่ามันไม่ง่ายเช่นนั้น ในเมื่อหย่าไม่ได้เธอก็จะหนีไป! เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาและหลุดพ้นจากการถูกเหยียดหยาม


มารีน่าจะสามารถหลุดพ้นจากพระเอกแสนเลวและปากร้ายได้หรือไม่ โปรดติดตาม...


คำเตือน


นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาและฉากที่เหมาะสมสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น เนื้อหาบางส่วนอาจมีความรุนแรงและฉากที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กหรือเยาวชน


มีฉาก NC การบังคับ การพยายามข่มขืน และคำหยาบเล็กน้อย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


ทุกตัวละคร สถานที่ และเหตุการณ์ในเรื่องนี้ล้วนเป็นเรื่องสมมติที่มาจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลจริง หรือสถานที่ใดๆ ในชีวิตจริง


#เป็นนิยายรักมีดราม่า


#ไม่มีการนอกใจ #รักเดียวใจเดียว #พระเอกนิสัยออกธง🚩🏴 #จบสุขนิยม 


ฝากกดหัวใจ กดคอมเมนท์ และกดติดตามด้วยนะคะ



สารบัญ

นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-1 บทนำ,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-2 เรื่องราวนางร้ายตัวประกอบ,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-3 หย่ากันเถอะ,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-4 ทำหน้าที่ พี่สาวที่แสนดี,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-5 คำอธิษฐานของเด็กน้อย,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-6 เหตุเกิดในงานเลี้ยง,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-7 พลิกบทบาท,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-8 ฉันจะไม่ยอมตกเป็นทาสของคุณหรอกค่ะ NC20++,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-9 หวังว่าจะรับฟัง,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-10 ความหวัง,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-11 ขุมนรก NC18++,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-12 วางแผน,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-13 เปลี่ยนไป,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-14 ฉันนำเหนือกว่า,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-15 เรื่องของผัวเมีย,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-16 ยำ้เตือนสถานะ NC20++,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-17 ไม่ยอมแพ้,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-18 คำ่คืนที่ยาวนาน,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-19 แผนนัดเจอ,นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก-20 ตายทั้งเป็น

เนื้อหา

14 ฉันนำเหนือกว่า

"เธอเปลี่ยนไปจริง ๆ มารีน่า" ภาวินพูดเสียงต่ำพร้อมแสยะยิ้มมุมปาก มือของเขาค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธออย่างจงใจ ผิวเนียนนุ่มที่เขาสัมผัสทำให้สายตาของเขากระหายมากขึ้นทุกที เขาไม่หยุดที่จะสำรวจด้วยความปรารถนา เหมือนสัตว์นักล่าที่กำลังเพลิดเพลินกับเหยื่อที่ขัดขืนเพียงเล็กน้อย


เธอรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในกรงทอง ไม่อาจขยับหนี ไม่อาจปฏิเสธ เธอได้แต่นั่งนิ่ง พยายามควบคุมลมหายใจที่สั่นรัว ขณะที่นิ้วมือของภาวินยังคงลูบไล้บนผิวของเธออย่างช้า ๆ ราวกับกำลังลูบไล้สมบัติล้ำค่าของตน


“คุณมองออกแล้วค่ะ ฉันเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนแล้ว เพราะแต่ก่อนฉันอาจจะรักคุณจริงจนยอมได้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้ไม่อีกแล้ว เพราะฉัน ไม่.ได้.รัก.คุณ” เน้นย้ำคำพูดประโยคสุดท้ายชัดเจน


ชายหนุ่มเบิกตากว้างนิ่งไปชั่วครู่ สีหน้าเปลี่ยนจากความมั่นใจเป็นความตกตะลึง คำพูดของมารีน่าทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ หลากหลายความรู้สึก


"และอีกอย่าง ฉันอาจจะเป็นภรรยาของคุณ แต่ร่างกายฉันก็ยังเป็นของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์บังคับฉัน" น้ำเสียงขุ่นเคือง


“ฮึ!” มองร่างหญิงสาวที่กำลังสั่นเทา ก่อนจะถอนหายใจและผละออก "เธอนี่มันช่างน่ารำคาญ" เขาพูดเสียงเย็น ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะเครื่องดื่ม รินวิสกี้ใส่แก้ว "ไปซะ แล้วอย่าลืมเรื่องที่ฉันบอกล่ะ"


มารีน่ารีบลุกขึ้นและเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว หัวใจของเธอยังคงเต้นรัว เธอรู้สึกโล่งอกที่ภาวินถอยออกไป แต่คำพูดของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกหนาวสะท้าน เธอตระหนักได้ว่า ชีวิตคู่ของพวกเขาไม่ได้มีแค่ความห่างเหิน แต่ยังเต็มไปด้วยการควบคุมและการข่มขู่


‘อย่างน้อยครั้งนี้เขาก็ยอมปล่อยฉันออกมาง่าย ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เหมือนคนผีเข้าผีออก”


“จากนกน้อยที่คอยเชื่อฟังและอยู่ใต้อานัสของฉันมาโดยตลอด ตอนนี้กลับเริ่มพยศต่อเจ้าของ และหวังอิสระสินะ ฉันควรจะหักปีกของเธอตั้งแต่ตอนนี้เลยหรือเปล่า มารีน่า”


สองวันผ่านไป


มารีน่าก้าวขึ้นรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ S-Class สีดำขลับที่จอดรออยู่หน้าคฤหาสน์ของภาวิน เธอสัมผัสได้ถึงความนุ่มของเบาะหนังสีครีม กลิ่นหอมของน้ำหอมปรับอากาศลอยอ่อน ๆ ในรถ


“วันนี้ไอริสจะร่วมเดินทางไปด้วยนะ” ภาวินพูดขึ้น ในขณะที่สายตามองไปด้านหน้า


“ค่ะ” มันคือเรื่องที่หญิงสาวรู้อยู่แล้ว เพราะการเจรจาธุรกิจในครั้งนี้ ไอริสผู้เป็นรักแรกของเขาได้ร่วมลงทุนด้วย และเป็นผู้ร่วมลงทุนถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์


ระหว่างทางมารีน่าพยายามไม่สนใจเสียงหัวเราะคิกคักของไอริสที่คุยกับภาวินอย่างสนิทสนม เธอหันไปมองวิวนอกหน้าต่างโดยไม่ใส่ใจ


"วินคะ เราจะถึงเมื่อไหร่คะ?" ไอริสถามด้วยน้ำเสียงหวานใส


"อีกประมาณชั่วโมงครึ่งครับ" ภาวินตอบพร้อมรอยยิ้ม


‘ชิ! กระหนุงกระหนิงกันหัดช่วยเกรงใจฉันที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยนะ’


หลังจากการเดินทางกว่าสองชั่วโมงครึ่ง รถก็แล่นเข้าสู่ประตูใหญ่ของโรงแรมภูธารา ลักชูรี่ รีทรีต ท่ามกลางขุนเขา มารีน่าก้าวลงจากรถ สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด


‘สดชื่นจริง ๆ นี่สินะบรรยากาศของธรรมชาติ ถ้าสเตฟานเจอฉันที่นี่ เขาจะตกใจมากแค่ไหนนะ ฉันยังไม่ได้บอกเขาด้วยสิ’


หลังจากเช็คอินเข้าที่พัก ทุกคนเดินทางไปยังห้องประชุมที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ ห้องประชุมตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น ผนังไม้สีเข้ม และหน้าต่างบานใหญ่มองเห็นวิวป่าเขียวขจี


การประชุมดำเนินไปอย่างเข้มข้นเป็นเวลาสามชั่วโมง มารีน่าสังเกตว่าสเตฟานดูสนใจในข้อเสนอของพวกเขา แม้จะมีบางจังหวะที่เขาดูลังเลบ้าง แต่ภาวินก็สามารถโน้มน้าวได้อย่างมีชั้นเชิง


[เวลา 19:56 น.]


เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง งานเลี้ยงสังสรรค์ก็เริ่มขึ้นที่ห้องโถงจัดเลี้ยงของโรงแรม ท่ามกลางแสงไฟสลัว ๆ และดนตรีบรรเลงเบา ๆ มารีน่ายืนจิบแชมเปญอยู่มุมหนึ่ง สายตากวาดมองหาสเตฟาน


ไม่นานนัก สเตฟานก็เดินตรงมาหาเธอ พร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้าหล่อเหลา


"คุณรีน่า" เขาทัก "ผมแปลกใจมากที่ได้เจอคุณที่นี่ ไม่คาดคิดเลยจริง ๆ"


มารีน่ายิ้มตอบอย่างสุภาพ


"ดีใจจังที่ได้มาเจอคุณ ฉันเองก็เหมือนกันค่ะ"


“ทำไมคุณถึงได้มาที่นี่ล่ะ หรือว่าคุณเองก็เป็นผู้ร่วมลงทุนกับโปรเจคใหม่?”


“ไม่ใช่หรอกค่ะ คือว่า…”


เธอกำลังจะอธิบายว่าเธอมากับภาวินในฐานะภรรยา แต่ทันใดนั้น เสียงหัวเราะแสนสดใสของไอริสก็ดังขึ้นข้าง ๆ


"คุณสเตฟานคะ" ไอริสเอ่ยทัก เดินเข้ามาหา ใบหน้าเปล่งประกายใต้แสงไฟสลัว "ฉันกำลังมองหาคุณอยู่พอดีเลยค่ะ คุณภาวินอยากจะคุยกับคุณเกี่ยวกับรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมน่ะค่ะ และฉันเองก็อยากพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเหมือนกันค่ะ"


สเตฟานหันไปมองไอริส รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า


"อ้อ ครับ ขอบคุณที่มาบอกนะครับ"


มารีน่ายืนนิ่ง รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่การสนทนาของเธอถูกขัดจังหวะ แต่ก็พยายามรักษาท่าทีที่สงบเอาไว้ ก่อนจะหันไปมองไอริสด้วยสายตาเย็นชา


"ขอโทษนะคะ ไม่ได้อยากจะว่า แต่คุณไอริสไม่เห็นเหรอคะว่าฉันกำลังคุยอยู่กับสเตฟน่ะ?"


ไอริสรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าต่อหน้าชายหนุ่ม เธอทำตัวไม่ถูก สีหน้าเศร้าหมอง


"ขอโทษค่ะ ฉัน...ฉันไม่รู้"


"เอ่อ... เอาไว้คุยกับคุณภาวินเสร็จผมจะรีบมานะครับ" หันไปบอกมารีน่า


"ก็ได้ค่ะ ฉันจะรอนะคะ สเตฟ" มารีน่าตอบกลับ เน้นเสียงที่ชื่อเล่นของเขา


ไอริสขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยิน


"คุณมารีน่าคะ ทำไมถึงเรียกเขาแบบนั้นล่ะคะ? มันดูเสียมารยาทกับแขกนะคะ"


"ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะผมกับรีน่าเรารู้จักกันและสนิทกันอยู่แล้ว" สเตฟานรีบแทรก


ไอริสรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าอีกครั้ง หน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย เธอไม่คาดคิดว่าคำอธิบายจะมาจากสเตฟานเอง


“อะ อ๋อ…แบบนี้นี่เอง ฮ่า ๆ”


บรรยากาศตึงเครียดยังคงอยู่ในอากาศ สเตฟานกระแอมเบา ๆ พยายามคลี่คลายสถานการณ์


"เอ่อ ไปกันเลยไหมครับ คุณ…”


“ไอริสค่ะ เดี๋ยวฉันตามไปนะคะ คุณไปก่อนได้เลย” บอกชื่อของตนเองไป เพราะดูเหมือนว่าเขาจะลืม ทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคืองใจเล็กน้อย


“โอเคครับคุณไอริส”


เขาเดินจากไป ทิ้งให้มารีน่าและไอริสยืนเผชิญหน้ากัน


"คุณมารีน่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงดูมีอคติกับฉัน หรือเป็นเพราะเรื่องในวันนั้นคะ ทำไมคุณถึงได้..."


"คุณไอริส ฉันคิดว่าเราควรจำกัดการพูดคุยของเราไว้แค่เรื่องงานดีกว่านะคะ" มารีน่าตัดบทด้วยน้ำเสียงเย็นชา


"แต่ว่า..." ไอริสกำมือแน่น


"พอเถอะค่ะ" มารีน่าพูดเสียงเข้ม "คุณจะคิดว่าเป็นเพราะเรื่องในวันนั้นก็ได้ ฉันไม่มีอะไรจะคุย ขอตัวนะคะ"


ไอริสรู้สึกโกรธและอับอาย น้ำตาเริ่มคลอ


"ทำไมคะ! ถ้ามันเพราะเรื่องในวันนั้น ฉันก็ขอโทษจริง ๆ ค่ะ ที่เกือบทำให้คนในงานเข้าใจผิด เป็นเพราะฉันอยากสนิทกับคุณมารีน่าเอง มันถึงได้…"


“แต่ฉันไม่อยากสนิทกับคุณไอริสค่ะ” รีบพูดสวนทันที ‘เพราะฉันได้รู้ธาตุแท้ของเธอแล้วยังไงล่ะไอริส เป็นนางเอกของโลกใบนี้จริง ๆ เหรอเนี่ย ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนแบบนี้ แต่ก็เหมาะสมกับไอ้พระเอกนั่นดีนะ’


ขณะนั้น ภาวินเดินเข้ามาพอดี สังเกตเห็นความตึงเครียดระหว่างทั้งสอง


"มีอะไรกันหรือเปล่าครับ?"


มารีน่าหันไปยิ้มให้ภาวินอย่างมีเลศนัย


"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่กำลังทำความรู้จักกันให้มากขึ้น ใช่ไหมคะ คุณไอริส?"


ไอริสกัดฟันกรอด พยายามกลั้นน้ำตา


"ใช่ค่ะ... กำลังทำความรู้จักกัน"


ภาวินมองสลับไปมาระหว่างทั้งสอง รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในอากาศ


“แน่ใจนะ” ถามเน้นย้ำให้ชัดเจน ก่อนจะหันไปมองไอริส “ไอริสคุณโอเคหรือเปล่า”


“วินคะ…”


“รีน่า คุณคงไม่ก่อเรื่องอีกใช่ไหม หรือกำลังหาเรื่องไอริส?” น้ำเสียงแข็ง จ้องเขม็งมองหญิงสาว


“เฮ้อ! คือถ้าจะคิดแบบนั้นก็แล้วแต่ค่ะ เพราะคุณก็เป็นแบบนี้เสมออยู่แล้ว ฉันเป็นภรรยาของคุณ หรือคุณไอริสกันแน่คะ ชักสับสนแล้วค่ะ” พูดเหน็บแนมอย่างคนหมั่นไส้


“รีน่า!” ตะคอกเสียง


“มีครั้งไหนบ้างที่คุณเข้าข้างฉันล่ะคะ ขอตัวก่อนนะคะ ไปคุยกันเอาเองแล้วกันค่ะ” มารีน่าเดินออกมาจากทั้งสองคนด้วยความสบายใจ เพราะเริ่มเคยชินกับสถานการณ์แบบนี้ ปล่อยให้ภาวินโกรธเลือดขึ้นหน้าอยู่ตรงนั้น


‘เหมาะสมกันจริง ๆ แต่ก็แอบสะใจเบา ๆ นะ ที่เห็นยัยไอริสนั่นหน้าแหก เธอคงรับรู้แล้วสินะว่าฉันกำลังนำแต้มเธออยู่’