“คนอย่างเธอไม่มีวันได้ใจฉัน เพราะสิ่งที่เธอจะได้มีเพียงร่างกายนี้เท่านั้น”
ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ดาร์ค,18+,อีโรติก,พระเอกเลว,นางร้าย,เกิดใหม่ ,ทะลุมิติ,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก“คนอย่างเธอไม่มีวันได้ใจฉัน เพราะสิ่งที่เธอจะได้มีเพียงร่างกายนี้เท่านั้น”
"ตัวเธอมันก็มีค่าแค่เรื่องบนเตียงนั่นแหละ"
"ทำเหมือนที่เคยทำสิ แค่อ้าขาให้ฉัน นี่คือสิ่งเดียวที่เธอทำได้ดีไม่ใช่เหรอ?"
"ฉันเกลียดคุณ!"
เป็นแค่ 'นางร้ายตัวประกอบ' อย่าหวังว่าจะได้ความรักจากเขา ในเมื่อไม่ได้รักกัน เธอก็ต้องการที่จะหย่า แต่ทว่ามันไม่ง่ายเช่นนั้น ในเมื่อหย่าไม่ได้เธอก็จะหนีไป! เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาและหลุดพ้นจากการถูกเหยียดหยาม
มารีน่าจะสามารถหลุดพ้นจากพระเอกแสนเลวและปากร้ายได้หรือไม่ โปรดติดตาม...
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาและฉากที่เหมาะสมสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น เนื้อหาบางส่วนอาจมีความรุนแรงและฉากที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กหรือเยาวชน
มีฉาก NC การบังคับ การพยายามข่มขืน และคำหยาบเล็กน้อย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ทุกตัวละคร สถานที่ และเหตุการณ์ในเรื่องนี้ล้วนเป็นเรื่องสมมติที่มาจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลจริง หรือสถานที่ใดๆ ในชีวิตจริง
#เป็นนิยายรักมีดราม่า
#ไม่มีการนอกใจ #รักเดียวใจเดียว #พระเอกนิสัยออกธง🚩🏴 #จบสุขนิยม
ฝากกดหัวใจ กดคอมเมนท์ และกดติดตามด้วยนะคะ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น...
เมฆดำทะมึนปกคลุมท้องฟ้า สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาอย่างหนัก ภาวินกำลังช่วยพยุงไอริสที่ข้อเท้าพลิกเดินลำบาก
"เร็วครับคุณไอริส เราต้องรีบหาที่หลบฝน" ภาวินกล่าวพลางมองหาที่กำบังใกล้ ๆ
"ขอบคุณค่ะคุณภาวิน แต่...คุณมารีน่าล่ะคะ?" ไอริสถามด้วยความกังวล
ภาวินชะงักเล็กน้อย นึกขึ้นได้ว่ามารีน่าขอแยกออกไปเดินเล่นคนเดียวเมื่อครู่
"เธอคงหาที่หลบฝนได้แล้วละครับ อย่าห่วงเลย" เขาตอบพลางพาไอริสเข้าไปหลบใต้ชายคาบ้านพักเล็ก ๆ ข้างทาง
ขณะที่ทั้งสองยืนมองสายฝนที่เทกระหน่ำลงมา ไอริสก็เอ่ยขึ้นอย่างครุ่นคิด
"วินคะ แต่เธอออกไปกับคุณสเตฟานนะคะ จะไม่เป็นไรจริง ๆ เหรอ แถมทั้งคู่ก็รู้จักกันออกจะไปทางสนิทกันด้วยซ้ำ"
ภาวินหันมามองหน้าไอริสด้วยความสงสัย
"หมายความว่ายังไง?"
"ก็...ฉันเห็นทั้งสองคุยกันอย่างสนิทสนม เมื่อวานฉันเห็นน่ะค่ะ ถึงได้รู้" ไอริสกล่าวต่อ "ฝนตกหนักแบบนี้ ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะอยู่ด้วยกันที่ไหนสักแห่ง..."
ภาวินรู้สึกเหมือนโดนสายฟ้าฟาด ความโกรธเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ
"คุณหมายความว่า..." เขาถามเสียงเครียด
"ฉันแค่สงสัยน่ะค่ะ ว่าทั้งสองอาจจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่คุณไม่รู้..." ไอริสยักไหล่
คำพูดของไอริสเหมือนน้ำมันที่ราดลงบนไฟ ภาวินกำหมัดแน่น ‘นี่เธอกำลังหักหลังฉัน โดยที่ฉันไม่รู้งั้นเหรอ’
"ผมต้องไปตามหาพวกเขา" เขาพูดอย่างเด็ดขาด
"แต่ฝนยังตกหนักอยู่นะคะ" ไอริสทักท้วง
"ไม่เป็นไร คุณอยู่ที่นี่ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะกลับมารับ"
ว่าแล้วภาวินก็วิ่งฝ่าสายฝนออกไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่สนใจความหนาวเย็นของสายฝนที่เทลงมา และมุ่งหน้าไปยังบ้านพักที่อยู่ไม่ไกลมากนัก ด้วยความคิดที่ว่ามารีน่าและสเตฟานอาจจะอยู่ที่นั่น
เวลาปัจจุบัน
"ภาวิน ปล่อยฉันนะ เจ็บ!" มารีน่าร้องขอ แต่ภาวินไม่ฟัง
ภาวินดึงแขนหญิงสาวอย่างแรง แล้วพาเดินกลับไปที่ห้องพักของตนเอง โดยไม่ฟังเสียงร้องเจ็บปวดของมารีน่าเลยสักนิด เมื่อถึงห้องพัก เขาเปิดประตูและผลักเธอเข้าไปด้านใน ก่อนจะปิดประตูลงอย่างแรงเสียงดังสนั่น
"อธิบายมาเดี๋ยวนี้!" ภาวินตวาด "ทำไมถึงอยู่กับคุณสเตฟานสองต่อสอง?"
มารีน่าถอยหลังไปชนโต๊ะ เธอรู้สึกกลัวกับท่าทางที่ดูรุนแรงของภาวิน เพราะไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้มาก่อน
"ฉะ...ฉันบอกแล้วไงคะว่าแค่หลบฝน ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละค่ะ" มารีน่าพยายามอธิบายเสียงสั่น
"เฮอะ! คิดว่าฉันจะเชื่ออย่างนั้นเหรอ คนร้อยเล่ห์มารยาอย่างเธอ คิดว่าจะหลอกฉันแล้วไปคบชู้กับคนอื่นแบบหน้าไม่อายสินะ" ภาวินถามเสียงดัง มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
"ดูถูกกันเกินไปแล้วนะคะ ถ้าไม่เชื่อก็แล้วแต่ค่ะ เหนื่อยจะอธิบาย” หญิงสาวทำสีหน้าเบื่อหน่าย ถอนหายใจดังเฮือก เดินออกมาจากจุดนั้นอย่างรวดเร็ว ทว่ามือแกร่งของเขากลับฉุดรั้งเอาไว้ทันที แรงบีบที่ข้อมือทำให้เธอถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย!! เจ็บนะคะ ทำไมถึงต้องจับฉันแรงขนาดนี้ด้วย” หันไปถามด้วยสีหน้าเหวี่ยง
“อย่ามาสำออย แล้วเธอก็ไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนทั้งนั้น และเธอคิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของเธอเหรอ!” เขาจับข้อมือของหญิงสาวดึงกระชากเข้ามาแนบชิดกาย
"แล้วทำไมจะต้องโกรธขนาดนี้ด้วย หึงฉันอย่างนั้นเหรอ หรือเพราะอะไร ช่วยตั้งสติหน่อยค่ะ อย่าลืมว่าที่เราแต่งงานกันเพราะอะไร ไม่ดีใจเหรอคะ ที่ฉันเลิกยึดติดกับคุณแล้วน่ะ แต่ที่แน่ ๆ ฉันไม่เคยนอกใจคุณเลยสักครั้ง ถ้าเทียบกับคุณแล้ว…” เหลือบมองชายหนุ่มอย่างมีเลศนัย ยกยิ้มมุมปากอย่างดูถูก
“ว่าไงนะ?”
ภาวินหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน ก่อนที่ดวงตาจะฉายแววเย็นชา แต่แฝงไว้ด้วยความโกรธ เขาค่อย ๆ ยื่นมือออกไปวางบนโต๊ะทั้งสองข้าง ทำให้เธอรู้สึกถูกขังอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ ดันเบียดอยู่ขอบโต๊ะ
มารีน่าเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย หัวใจเต้นแรงด้วยความกลัวปนตื่นเต้น เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของภาวินบนใบหน้า
"ฉันไม่มีทางหึงคนอย่างเธอหรอก แต่ฉันเคยบอกไปแล้วนะว่าอย่าคิดทำอะไรลับหลังฉัน เห็นฉันเป็นตัวตลกเหรอ ต่อให้เธอจะไปมีอะไรกับใคร เอากับใคร คบกับใคร ฉันก็ไม่คิดจะแคร์ แต่ต้องเป็นตอนที่ไม่ได้อยู่ในฐานะเมียของฉันแล้ว”
"นี่คุณ!!..." มารีน่าชะงัก ความโกรธปะทุขึ้นในใจ "แน่ใจเหรอคะว่าคิดกับฉันแค่นั้น?"
"ฉันไม่ได้เป็นตัวตลกของเธอนะ มารีน่า" ภาวินกระซิบเสียงต่ำ ใกล้ชิดจนแทบจะสัมผัสริมฝีปากของหญิงสาว "และฉันก็ไม่ใช่คนที่เธอจะหลอกเล่นได้"
มารีน่ากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เธอพยายามมองหาทางหนี แต่ร่างกายของภาวินปิดกั้นเธอเอาไว้อย่างมิดชิด คนตัวเล็กรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างของเขา พร้อมกับกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย
"ถะ ถอยออกไปนะ ฉัน..." เธอพยายามพูด แต่คำพูดติดอยู่ในลำคอ
ภาวินยกมือขึ้นแตะใบหน้าของเธอเบา ๆ นิ้วมือของเขาไล้ไปตามโครงหน้าเรียวอย่างเชื่องช้า "เธอเป็นของฉัน มารีน่า อย่าลืมสิ่งนี้"
ภาวินเข้าประกบจูบมารีน่าอย่างรวดเร็วและเร่าร้อน ริมฝีปากของเขากดทับลงบนริมฝีปากของเธออย่างหนักหน่วง มารีน่าตกใจกับการกระทำที่ไม่คาดคิด เธอพยายามผลักอกของภาวินออก แต่ไม่เป็นผล
“อื้อ!!”
มือของมารีน่าดันไหล่กว้างของคนตัวโต พยายามสร้างระยะห่าง แต่เขากลับรั้งเธอเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น จูบของเขาทั้งดุดันและเร่าร้อน เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเปกันระหว่างความโกรธและความปรารถนา
“ดะ เดี๋ยว”
มารีน่ารู้สึกหายใจไม่ออก ทั้งจากจูบที่รุนแรงและความตกใจ เธอพยายามหันหน้าหนี แต่มือของภาวินก็จับใบหน้าของเธอไว้ ไม่ให้หลีกเลี่ยงจากการรุกล้ำของเขาได้
ในที่สุด ภาวินก็ผละออก ทิ้งให้มารีน่าหอบหายใจเหนื่อย ใบหน้าของหญิงสาวแดงก่ำ ดวงตาเธอฉายแววสับสนและตกใจ ขณะที่ภาวินจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์รุนแรง
“ฉันจะไม่ใจดีกับเธออีกแล้วรีน่า” เหยียดยิ้มมุมปาก
คนตัวโตจับยกสะโพกนิ่มขึ้นลอยเหนือพื้นให้นั่งอยู่บนโต๊ะไม้สีดำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แยกขาเรียวยาวออกกว้าง แทรกกายเข้าไปอยู่ระหว่างกึ่งกลาง
“นี่นาย…อย่าบอกนะ” น้ำเสียงเล็กพยายามเอ่ยถามอย่างตะกุกตะกัก เธอเข้าใจความหมายของคำว่า ‘ไม่ใจดี’ ของชายหนุ่มได้ในทันที
‘ไม่นะ! ฉันจะต้องออกไปจากตรงนี้ให้ได้’
มารีน่าสัมผัสได้ถึงความอันตรายจากแววตาของภาวิน ถ้าขืนเธอไม่รีบทำอะไรสักอย่าง คงไม่รอดแน่ ๆ
เพียงแค่คิดจะขัดขืน ดูเหมือนชายหนุ่มจะจับความคิดของเธอได้ในทันที
“ครั้งนี้มันจะไม่เหมือนครั้งก่อน” น้ำเสียงดุดันพูดขึ้น ก่อนจะจับฉีกกระชากเสื้อเชิ้ตสีกากีออกอย่างรุนแรง จนกระดุมเม็ดสีขาวขาดกระจุยไปคนละทิศละทาง
‘แควก!!’
“กรี๊ดด!”
หน้าอกอวบขาวนวลเนียนอัดเบียดอยู่ในบราเซียร์สีดำ มันช่างงดงามเมื่ออยู่ต่อหน้าชายหนุ่ม เขาไม่รีรอรีบผลักกดร่างบางให้นอนราบลงบนโต๊ะทันที จับรวบแขนเรียวเล็กทั้งสองข้างของหญิงสาวเอาไว้เหนือศีรษะของเธอ ตราตรึงเอาไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหน
“อย่านะ!!” แววตากรุ่นโกรธ น้ำเสียงขึงขัง แฝงความสั่นเทา เธอจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มเพื่อให้เขาหยุดการกระทำต่อจากนี้
“ฮึ!” แสยะยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม กวาดสายตาคมกริบราวกับเหยี่ยวที่กำลังกระหาย จ้องมองตั้งแต่ใบหน้าไปจนถึงหน้าอก ก่อนจะจับบราเซียร์เคลื่อนถกขึ้นจนเกือบถึงไหปลาร้า เผยให้เห็นยอดดอกบัวสีสด
มือหนาบดคลึงเต้าอวบอย่างรุนแรง เขี่ยติ่งยอดสีสวยรัว ๆ ปลุกเร้าอารมณ์เสียวกระสันให้คนตัวเล็กพลางบีบขยี้เบา ๆ
“อะ อย่าทำแบบนี้” ไฟสวาทถูกปลุกปั่นได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่เธอรังเกียจสัมผัสของเขามากขนาดไหน ก็ไม่อาจต้านทานมันได้ ร่างกายเริ่มบิดเกร็งเล็กน้อย เอวบางก้งโค้ง สองขาเริ่มบีบเสียดเข้ามาแนบกายชายหนุ่มเอาไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว
“หายเก่งแล้วเหรอ คิดว่าจะแน่” พลางยิ้มอย่างพอใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มจำนน
“อึก! ฉันเกลียดคุณ!!” น้ำเสียงเคียดแค้นพูดขึ้นเสียงดัง นัยน์ตาเริ่มแดงก่ำ น้ำสีใสห่อหุ้มรอบ ๆ ดวงตา ก่อนจะไหลออกมาอย่างเชื่องช้า
เมื่อภาวินเห็นน้ำตาของหญิงสาวที่ค่อย ๆ ไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด ดวงตาคมต้องเบิกกว้างหยุดชะงักไปชั่วขณะ หัวใจเริ่มเต้นรัวอย่างแรงจนเริ่มเกิดความปวดร้าวอยู่ลึก ๆ ภายในจิตใจ แต่อีกด้านหนึ่งกลับสร้างความตื่นเต้นให้เขาในเวลาเดียวกัน
“แบบนี้แหละ เกลียดเลย เพราะฉันสามารถทำให้เธอเกลียดฉันได้กว่านี้อีก”
รอยยิ้มร้ายเผยขึ้น ใบหน้าคมก้มลงซุกไซร้โลมเลียตรงร่องภูเขา ขบเม้มบนผิวเนียนอย่างแรงจนเกิดรอยแดงไปทีละจุด ก่อนจะเคลื่อนไปดูดยอดดอกบัวงามที่กำลังชูชันขึงขันสู้ลิ้น
“ฮึก…” เสียงสะอึกคลอเบา ๆ อยู่ในลำคอเล็ก ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วร่างตั้งแต่หัวจรดเท้า
มือใหญ่อีกข้างที่ยังว่างเริ่มลูบไล้เรือนร่างลงต่ำไปอย่างเชื่องช้า เขาค่อย ๆ ปลดหัวตะขอกางเกงยีนของหญิงสาวออก ก่อนจะดึงรั้งกางเกงตัวยาวลงไปอยู่ใต้หัวเข่าทั้งสองข้างของหญิงสาว
“คนแบบเธอไม่สมควรได้รับความอ่อนโยนจากฉันหรอก มันต้องเจอแบบนี้แหละ”
เรียวนิ้วยาวกรีดลงตรงร่องแยกอันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานหยาดเยิ้ม ถูวนทวนเข็มนาฬิกาตรงติ่งเม็ดสีสวย เขี่ยนิ้วไปมาถี่รัวจนเกิดความรู้สึกเสียวซ่าน ทำให้หญิงสาวไม่อาจหักห้ามความรู้สึกเอาไว้ได้
“อึก! อ๊ะ”
ภาวินตั้งใจจะทรมานมารีน่าให้ถึงที่สุด สองนิ้วสอดแทรกเข้าไปในกายสาวอย่างรวดเร็ว ดันเข้าออกเป็นจังหวะ ในขณะที่ปากกำลังกลืนกินยอดปทุมถันอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดลงไปยังปลายนิ้วด้านล่าง
ร่างบางบิดเกร็งสั่นอยู่เร่า ๆ กระสับกระส่ายไปมาอยู่บนโต๊ะอาหาร น้ำตาไหล่พร่กออกมาเป็นสายน้ำหลาก
“อ๊า”
เสียงครางกระเซ่าออกมาจากลำคอเล็กอยู่เป็นระยะ แม้จะขบเม้มปากเอาไว้แน่น แต่ก็ไม่สามารถห้ามเปล่งเสียงอันน่ารังเกียจนี้ออกมาได้
“ร้องออกมาดัง ๆ สิ ชอบไม่ใช่เหรอแบบนี้น่ะ และก็จำเอาไว้นะ มันคือสิ่งเดียวที่เธอทำได้ดีที่สุดแล้ว” เหยียดยิ้มร้าย พูดเน้นเสียงอย่างเหยียดหยามคนอยู่เบื่องล่าง
“ไอ้คนเลว!” น้ำเสียงแหบพร่าพูดออกไปอย่างเคียดแค้น
“ถ้าฉันเลว งั้นเธอก็คงเป็นนางแพศยา” พูดจบประโยค มือหนาบีบอัดแก้มเนียนนุ่มเข้าหากัน ก่อนจะประกบริมฝีปาก สอดเรียวลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากเล็กอย่างดุเดือด
“อื้อ!”
ความดุดันรสจูบของชายหนุ่ม ทำให้หญิงสาวไม่มีช่องว่างได้พักหายใจ มันทั้งบ้าคลั่งและเร่าร้อนราวกับกำลังโดนสูบวิญญาณออกจากร่าง เธอใช้แรงทั้งหมดที่มีพยายามผลักเขาออก
“เฮือก”
“แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ แต่บทลงโทษสำหรับเธอมันยังไม่หมดแค่นี้หรอกนะ”