“คนอย่างเธอไม่มีวันได้ใจฉัน เพราะสิ่งที่เธอจะได้มีเพียงร่างกายนี้เท่านั้น”
ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ดาร์ค,18+,อีโรติก,พระเอกเลว,นางร้าย,เกิดใหม่ ,ทะลุมิติ,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก“คนอย่างเธอไม่มีวันได้ใจฉัน เพราะสิ่งที่เธอจะได้มีเพียงร่างกายนี้เท่านั้น”
"ตัวเธอมันก็มีค่าแค่เรื่องบนเตียงนั่นแหละ"
"ทำเหมือนที่เคยทำสิ แค่อ้าขาให้ฉัน นี่คือสิ่งเดียวที่เธอทำได้ดีไม่ใช่เหรอ?"
"ฉันเกลียดคุณ!"
เป็นแค่ 'นางร้ายตัวประกอบ' อย่าหวังว่าจะได้ความรักจากเขา ในเมื่อไม่ได้รักกัน เธอก็ต้องการที่จะหย่า แต่ทว่ามันไม่ง่ายเช่นนั้น ในเมื่อหย่าไม่ได้เธอก็จะหนีไป! เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาและหลุดพ้นจากการถูกเหยียดหยาม
มารีน่าจะสามารถหลุดพ้นจากพระเอกแสนเลวและปากร้ายได้หรือไม่ โปรดติดตาม...
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาและฉากที่เหมาะสมสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น เนื้อหาบางส่วนอาจมีความรุนแรงและฉากที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กหรือเยาวชน
มีฉาก NC การบังคับ การพยายามข่มขืน และคำหยาบเล็กน้อย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ทุกตัวละคร สถานที่ และเหตุการณ์ในเรื่องนี้ล้วนเป็นเรื่องสมมติที่มาจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลจริง หรือสถานที่ใดๆ ในชีวิตจริง
#เป็นนิยายรักมีดราม่า
#ไม่มีการนอกใจ #รักเดียวใจเดียว #พระเอกนิสัยออกธง🚩🏴 #จบสุขนิยม
ฝากกดหัวใจ กดคอมเมนท์ และกดติดตามด้วยนะคะ
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลังจากการเจรจาธุรกิจ ภาวินกลับมาด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยไม่ใส่ใจและปล่อยให้มารีน่าดูแลตัวเองอย่างโดดเดี่ยว ตอนนี้เขากลับดูใส่ใจมากขึ้นจนน่าแปลกใจ แต่ความใส่ใจนั้นไม่ได้อบอุ่นหรืออ่อนโยนอย่างที่ใครคาดหวัง กลับกลายเป็นการควบคุมที่เข้มงวดจนมารีน่ารู้สึกเหมือนถูกกักขัง
ความอึดอัดสะสมทับถมในใจของมารีน่า ซ้ำร้ายเธอยังล้มป่วยเป็นไข้หวัดหลังกลับจากการเดินทาง ความเจ็บป่วยทางกายผสมกับความทุกข์ทางใจทำให้เธอรู้สึกอ่อนล้าเหลือเกิน
ภาวินจัดหาทุกอย่างให้เธอ ทั้งอาหาร น้ำ ยา และแม้กระทั่งเรียกพยาบาลส่วนตัวมาดูแลสุขภาพของเธออย่างใกล้ชิด แต่ทุกการกระทำของเขากลับเต็มไปด้วยความเย็นชา ดวงตาคมกล้าที่มองเธอไม่ได้แฝงความห่วงใยจริงใจ มีเพียงความต้องการควบคุมเท่านั้น
"กินซะ" เขาวางจานอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียงอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ร่างสูงยืนกอดอกมองเธอด้วยสายตาที่ปราศจากความอ่อนโยน "เธอดูเหมือนคนป่วยเหลือเกิน ฉันไม่อยากให้ใครมาว่าฉันว่าไม่ดูแลเมีย"
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้ต้องการความเอาใจใส่จากคุณ” มารีน่าตอบเสียงเรียบ แต่เต็มไปด้วยความแข็งกร้าวในแววตา
"ถ้าเธอไม่กิน ฉันจะเอาพยาบาลมาฉีดยาบำรุงให้เอง" ภาวินพูดเสียงเรียบ แต่แฝงด้วยการข่มขู่ เขากระตุกยิ้มเย็น ๆ "ทำไม? คิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปง่าย ๆ หรือไง"
"ฉันไม่ต้องการอะไรจากคุณ" มารีน่าตอบเสียงเบา แต่ดวงตาของเธอแฝงความขุ่นเคือง "คุณไม่จำเป็นต้องแสดงออกว่าคุณห่วงฉัน ถ้าความห่วงนั้นมันมีแต่คำพูดร้าย ๆ"
ภาวินหัวเราะเบา ๆ หันหลังกลับก่อนจะพูดอย่างเฉยชา
"ฉันจะดูแลเธอในแบบของฉัน... จงชินกับมันซะ"
“ก็บอกว่าไม่ไงคะ อย่ามาบังคับฉันนะ!” มารีน่ากำมือแน่น ความโกรธและความอึดอัดที่สะสมเริ่มท่วมท้น เธอพยายามลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว แต่แรงบีบจากความเหนื่อยล้าทำให้เธอล้มลงนั่งอีกครั้ง
เขาเอื้อมมือไปจับคางของเธอ บังคับให้เธอหันกลับมาสบตา
"กินซะ อย่าดื้อกับฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้เธอเสียใจที่ไม่เชื่อฟัง"
มารีน่าขัดขืนสุดกำลัง เธอปัดมือของภาวินออกด้วยแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่ในร่างกาย แม้เธอจะอ่อนแอเพียงใด
"คุณนี่มันเลวจริง ๆ!" เสียงของเธอสั่นด้วยความโกรธ "ขนาดฉันป่วย คุณยังจะบังคับกันแบบนี้อีกเหรอ! ฉันไม่กิน! อะไรที่คุณเอามาให้ฉัน ฉันไม่ต้องการทั้งนั้น! เอาออกไปเถอะค่ะ ฉันจะนอน!"
"เธอคิดว่าจะดื้อกับฉันได้ตลอดไปเหรอ มารีน่า? ฉันให้โอกาสเธอแล้ว แต่อย่าทำให้ฉันต้องใช้วิธีที่เธอไม่อยากเจอ" เสียงของภาวินเย็นเยียบจนมารีน่ารู้สึกหนาวในอก แต่เธอยังคงเงียบ ไม่ตอบอะไร
“…”
“เฮ้อ เอาเถอะ ฉันก็เบื่อหน่ายเต็มทนที่ต้องมาคอยทำเป็นห่วงใยที่ไร้ประโยชน์แบบนี้” น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความดูแคลน ราวกับว่าเขาไม่เคยจริงใจเลยตั้งแต่ต้น
ภาวินหันหลังเดินไปทางประตู เสียงฝีเท้าของเขาหนักแน่นและเยือกเย็นราวกับจะตอกย้ำอำนาจของเขาในทุกย่างก้าว มารีน่ารู้สึกถึงความตึงเครียดที่คลายลงเพียงเล็กน้อย แต่ความขมขื่นยังคงอยู่ในอกของเธอ
เมื่อภาวินเปิดประตูออกไป เขาหยุดชั่วครู่หันกลับมามองเธออีกครั้ง รอยยิ้มแสยะปรากฏบนใบหน้าของเขา “ฉันไม่ได้ยอมเธอหรอกนะรีน่า อย่าคิดได้ใจเชียว” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้อง ปิดประตูเสียงดังจนห้องทั้งห้องสั่นสะเทือน
เธอนั่งนิ่งอยู่ชั่วครู่ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา ความทรมานที่เกิดจากการถูกบังคับและกดขี่เพิ่มขึ้นในทุกวินาทีที่ผ่านไป แต่ในใจเธอก็เริ่มคิดถึงการหลุดพ้น เธอไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกต่อไป
“ไอ้บ้าเอ๊ย! คนที่ทำให้ฉันต้องอยู่สภาพนี้มันก็คือคุณไม่ใช่หรือไง นอกจากจะไม่สำนึกแล้วยังหน้าด้านหน้าทนมาทำแบบนี้กับฉันอีก”
มารีน่านอนซมอยู่บนเตียงมาเป็นเวลาห้าวันแล้ว ร่างกายของเธออ่อนแรงจากอาการไข้หวัดที่ไม่หายสักที แม้จะรู้สึกดีขึ้นบ้างเป็นบางช่วง แต่ความเหนื่อยล้าและไข้ก็ยังคงทำให้เธอนอนซมอยู่เช่นเดิม ในทุกๆ วัน ภาวินยังคงเข้ามาในห้องของเธอ บางครั้งเขานำยามาให้ บางครั้งก็พยายามจะพูดคุยด้วย แต่สายตาของเขากลับดูไร้ความจริงใจ ทุกสิ่งที่เขาทำดูเหมือนเพียงแค่การแสดงออกให้คนอื่นเห็นว่าเขากำลัง "ดูแล" ภรรยาของเขา
วันที่เจ็ดของสัปดาห์ อาการของมารีน่าเริ่มดีขึ้น ความรู้สึกอึดอัดจากการนอนป่วยเป็นผักอยู่บนเตียงมาหลายวัน ทำให้เธออยากออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ในสวนเพื่อผ่อนคลาย
“ออกไปเดินเล่นสักหน่อยก็ดีกว่า อยู่แต่ในนี้เบื่อจะแย่อยู่แล้ว”
ขณะที่เดินลงบันไดจากชั้นสอง เสียงสนทนาจากห้องรับแขกดึงดูดความสนใจของเธอ มารีน่าแอบมองผ่านประตูที่เปิดแง้มไว้ เห็นภาพของภาวินกำลังนั่งคุยกับไอริสอย่างสนิทสนม
‘ในขณะที่ฉันนอนป่วย พวกเธอสองคนก็มีพูดคุยกันอย่างสนุกสนานแบบนี้สินะ’
แม้จะอยากทำเป็นไม่สนใจและเดินปล่อยผ่านจากไป ทว่าความอยากรู้อยากเห็นว่าสอนคนนั้นพูดคุยอะไรกัน มารีน่าจึงพยายามแอบฟังอยู่นอกประตู
"ฉันเอาชาชั้นดีมาฝากมารีน่า หวังว่าจะช่วยบรรเทาอาการป่วยของเธอได้บ้างนะคะ" เสียงของไอริสดังขึ้น "แต่อย่าบอกเธอนะว่าฉันเป็นคนเอามาให้ ไม่งั้นเธอคงไม่ยอมดื่มแน่ ๆ นายก็รู้ว่าเธอเกลียดฉันขนาดไหน แต่เพราะฉันเป็นห่วงและหวังดี เลยอยากจะนำมันมาให้เธอ"
"ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการเอง"
"ถ้าคุณมารีน่าดื่มจนหมดแล้ว บอกฉันด้วยนะคะ ฉันจะเอามาให้เรื่อย ๆ เลย" ไอริสพูดต่อ น้ำเสียงเจือความหวัง "ถ้าเป็นแบบนั้นได้ ฉันคงดีใจมากเลย"
คำพูดของไอริสทำให้มารีน่าชะงัก ความทรงจำเกี่ยวกับนิยายที่เธอเคยอ่านผุดขึ้นมาในหัว ในเนื้อเรื่องนั้น ภาวินจะนำชาหอม ๆ มาให้เธอดื่มเสมอ หรือไม่ก็ฝากคนรับใช้นำมาให้ และเมื่อมารีน่าในนิยายรู้ว่าภาวินเป็นคนเอามาให้ เธอจะดีใจมาก รับไปดื่มอย่างเต็มใจทุกวัน
‘ชักรู้สึกแปลก ๆ แล้วสิ’
มารีน่ารู้สึกใจเต้นแรงขึ้นเมื่อเห็นภาวินและไอริสลุกขึ้นยืน เธอรีบถอยกลับอย่างเงียบเชียบ 'รีบออกจากตรงนี้ก่อนดีกว่า' คิดในใจพลางเร่งฝีเท้ากลับห้องนอน
ไม่นานหลังจากนั้น เหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่คาดเดาเอาไว้ หญิงรับใช้เดินเข้ามาในห้องพร้อมถาดใส่ชา กลิ่นหอมกรุ่นของน้ำชาสีแดงลอยมาเตะจมูก
“ฉันนำชาแดงมาให้ค่ะ คุณรีน่าดื่มสักหน่อยนะคะ จะได้ดีขึ้น” สาวใช้ยิ้มอ่อนโยน ขณะที่ตั้งถาดลงบนโต๊ะข้างเตียงและพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ
‘เขาฉลาดดีนี่ ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นคนสั่งมาให้ กลัวว่าฉันจะไม่รับสินะ’
กลิ่นหอมของชาทำให้เธอต้องสูดดมอย่างอดไม่ได้ แต่ความระแวงในใจกลับเพิ่มขึ้นทุกวินาที
“ขอบคุณค่ะ ฉันจะดื่ม” มารีน่าพยายามเล่นตามน้ำ
“ขอให้หายไว ๆ นะคะคุณรีน่า ดิฉันขอตัวก่อนค่ะ ต้องการอะไรเพิ่มเติมก็บอกได้เลยนะคะ”
มารีน่าพยักหน้ารับรู้ แต่ไม่ได้ตอบอะไร เมื่อชาดาออกจากห้องไป เธอจึงค่อย ๆ ยื่นมือไปหยิบถ้วยชาขึ้นมา
“ไม่น่าไว้วางใจจริง ๆ ฉันจะไม่มีทางดื่มมันแน่นอน”
เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้แล้ว มารีน่าลุกจากเตียงอย่างระมัดระวัง แอบนำถ้วยชาไปเททิ้งในห้องน้ำ เธอมองดูน้ำชาสีแดงไหลลงท่อระบายน้ำ พลางคิดในใจ
'ฉันต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้แน่ชัดแล้วล่ะ’
สัญชาตญาณบางอย่างบอกเธอว่า มีบางสิ่งไม่ชอบมาพากลกับชาชุดนี้
“ถ้าพวกเขาคิดจะหลอกฉัน ก็ต้องรู้ไว้ว่าฉันไม่ใช่คนโง่”
มารีน่าหยิบมือถือขึ้นมาจากในลิ้นชักบนหัวเตียงนอน เธอเปิดดูหน้าจอและพบว่ามีข้อความมากมาย จากสเตฟานหลายข้อความ ตั้งแต่เธอกลับมาก็ไม่ได้จับโทรศัพท์อีกเลยเนื่องจากไม่สบาย
แต่ละข้อความเต็มไปด้วยความห่วงใย
“โห…ไม่คิดว่าเขาจะส่งข้อความมาเยอะขนาดนี้ รู้สึกผิดจัง”
ห้องแชทส่วนตัว
MN::ไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนนี้ฉันสบายดีแล้ว ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณเป็นห่วง และก็ขอโทษสำหรับเรื่องในวันนั้นด้วยนะคะ ที่พาคุณมาเจอเรื่องแบบนั้น
เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะพิมพ์ต่อ
MN::คุณช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหมคะ?"
ไม่นานนัก คำตอบจากสเตฟานก็มาถึง เขาตอบตกลงอย่างไม่ลังเล ทำให้มารีน่ารู้สึกโล่งใจ
“คงต้องไปเจอคุณสเตฟสักหน่อยแล้วล่ะ แต่ต้องไม่ให้ภาวินรู้ ตอนนี้เขาน่าจะยังไม่นอนนะ”
คืนนั้น แม้จะดึกมากแล้ว แต่มารีน่ารู้ว่าภาวินยังคงทำงานอยู่ในห้องทำงานของเขา เธอจึงตัดสินใจเดินไปเคาะประตู
‘ไม่อยากเจอเขาเลยจริง ๆ ถ้าไม่จำเป็นฉันคงไม่แบกหน้ามาหาเขาแน่ ๆ แต่เพื่อความชัดเจน ฉันต้องรู้ให้ได้’
‘ก๊อก ๆ’
เธอเคาะประตูเบา ๆ สองครั้ง ก่อนจะได้ยินเสียงภาวินดังมาจากภายใน
"เข้ามาได้"
มารีน่าสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป เธอแสร้งทำเป็นยิ้มอย่างเป็นมิตร
“ขอถามได้ไหมคะว่าชาที่สาวใช้นำมาให้ฉันมันมาจากคุณใช่ไหม”
ภาวินเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะยกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
“ทำไมถึงคิดว่าฉันสั่งให้เอาไปให้ล่ะ”
“ก็เพราะฉันรู้ว่าชาที่มีราคาแพงและดูคุณภาพดี สีสดขนาดนั้น จะต้องมาจากคุณแน่ค่ะ” เธอตอบอย่างมั่นใจ
ภาวินยังคงนิ่ง เขาถามต่อ
“แล้วที่แบกหน้ามาหาฉันมีอะไร หรือมาเพราะแค่ถามเรื่องชา?”
มารีน่ารู้สึกถึงความโกรธที่แฝงอยู่ในคำถามของเขา แต่พยายามข่มความรู้สึกและพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ
‘ถ้าเลือกได้ ฉันก็ไม่อยากมาหาคุณหรอกค่ะ’
“ฉันอยากจะมาขอซองชาสักซองไปชงดื่มน่ะค่ะ พอดีฉันค่อนข้างรู้สึกติดใจกับรสชาติของชาขึ้นมา และมันทำให้รู้สึกปลอดโปร่งขึ้นด้วย”
ภาวินเลิกคิ้วอย่างสงสัยที่เห็นเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากม้าพยศที่คอยต่อต้านเขา บัดนี้กลับดูสงบ
“กลับไปเถอะ เดี๋ยวฉันบอกสาวใช้นำไปให้ที่ห้อง”
“ไม่ค่ะ มันดึกแล้ว ฉันไม่อยากรบกวนคนอื่น” คำพูดของเธอทำให้ภาวินชะงักไป ชายหนุ่มไม่คิดว่าคนที่เคยข่มเหงและใช้คนอื่นอย่างกะทาสจะมีความเห็นใจและรู้จักเกรงใจคนอื่นถึงขนาดนี้
“เอาเถอะ ฉันจะให้เธอไปด้วยตัวเอง” ภาวินมองมารีน่าด้วยความมึนงง ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปที่ตู้เก็บชา
มารีน่ารับซองชามาด้วยความรู้สึกปะปนกันระหว่างความโล่งใจและความหวาดระแวง เธอขอบคุณภาวินอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้อง
เมื่อกลับมาถึงห้องของตัวเอง เธอมองดูซองชาในมือ ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว 'พรุ่งนี้ฉันจะต้องนำมันไปตรวจสอบให้แน่ชัด' เธอคิด หวังว่าการกระทำนี้จะช่วยคลายความหวาดระแวงและความคาใจที่เธอมี
มารีน่ากำลังจะเข้านอน จิตใจจดจ่ออยู่กับแผนการวันพรุ่งนี้ ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทำให้เธอสะดุ้ง ด้วยความตกใจ คนตัวเล็กลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู
“ใครมาเคาะเวลานี้กันนะ หรือว่า…”
เมื่อประตูเปิดออก ภาพของภาวินที่ยืนอยู่ตรงหน้าทำให้เธอแทบช็อค
"คุณภาวิน? มีอะไรคะ?"
"คืนนี้ฉันจะมานอนที่นี่" เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องโดยไม่รอคำอนุญาต แล้วทิ้งตัวลงบนเตียงของเธอ
มารีน่ายืนอึ้ง สมองประมวลผลไม่ทัน ก่อนจะได้สติกลับมา
"ไม่ได้นะคะ! ทำไมคุณถึงต้องมานอนที่นี่ด้วย? กรุณากลับไปที่ห้องของคุณเถอะค่ะ" เธอพยายามพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง
"ฉันจะนอนที่นี่ มีปัญหาอะไร?" ไม่สนใจคำคัดค้านของหญิงสาว
"งั้น... ฉันจะออกไปนอนที่อื่นค่ะ" มารีน่าพูดพลางหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง
ทันใดนั้น ภาวินก็ลุกขึ้นมารั้งตัวเธอไว้ แล้วอุ้มเธอไปวางบนเตียงทันที
"คนป่วยยังจะทำตัวดื้อด้านอีกเหรอ? นอนได้แล้ว ฉันไม่ทำอะไรคนป่วยหรอกนะ หรือคิดว่า…ฉันจะจับเธอกิน?” คร่อมร่างบางเอาไว้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบอย่างมีเลสนัย
“อะ ออกไปนะ ฉันเปล่าสักหน่อย”
“ฮึ! ถึงเธอจะมองว่าฉันเลวยังไง แต่ฉันก็ไม่ทำอะไรกับคนที่เพิ่งหายป่วยหรอก เลิกคิดไร้สาระแล้วนอนได้แล้ว และก็เลิกมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นด้วย"
เขาห่มผ้าให้เธออย่างอ่อนโยน แล้วนอนลงข้าง ๆ มารีน่ารู้สึกเกร็งไปทั้งตัว หัวใจเต้นรัวด้วยความกลัวและสับสน เธอพยายามขยับตัวให้ห่างจากเขามากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในความมืด เธอได้ยินเสียงลมหายใจของภาวินอยู่ข้างหู และรู้สึกถึงไออุ่นจากร่างกายของเขา ความคิดมากมายวิ่งวุ่นอยู่ในหัว
'ทำไมเขาถึงทำแบบนี้?เขามีเจตนาอะไรกันแน่?และที่สำคัญ…จากคนหยาบกระด้างและหยาบคาย ไม่คิดว่าจะมีมุมอ่อนโยนแบบนี้ด้วย แต่มันก็ไม่สามารถลบล้างการกระทำที่ผ่านมาของเขาได้หรอกนะ'
มารีน่าพยายามสงบสติอารมณ์ เธอรู้ว่าต้องระวังตัว แต่ก็ต้องแสดงออกว่าไม่ได้สงสัยอะไร เธอหลับตาลง แกล้งทำเป็นหลับ แต่ประสาทสัมผัสทุกส่วนยังคงตื่นตัว พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น คืนนี้คงเป็นคืนที่ยาวนานสำหรับเธอ