“คนอย่างเธอไม่มีวันได้ใจฉัน เพราะสิ่งที่เธอจะได้มีเพียงร่างกายนี้เท่านั้น”
ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ดาร์ค,18+,อีโรติก,พระเอกเลว,นางร้าย,เกิดใหม่ ,ทะลุมิติ,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นางร้ายตัวประกอบ ขอหนีจากพระเอก“คนอย่างเธอไม่มีวันได้ใจฉัน เพราะสิ่งที่เธอจะได้มีเพียงร่างกายนี้เท่านั้น”
"ตัวเธอมันก็มีค่าแค่เรื่องบนเตียงนั่นแหละ"
"ทำเหมือนที่เคยทำสิ แค่อ้าขาให้ฉัน นี่คือสิ่งเดียวที่เธอทำได้ดีไม่ใช่เหรอ?"
"ฉันเกลียดคุณ!"
เป็นแค่ 'นางร้ายตัวประกอบ' อย่าหวังว่าจะได้ความรักจากเขา ในเมื่อไม่ได้รักกัน เธอก็ต้องการที่จะหย่า แต่ทว่ามันไม่ง่ายเช่นนั้น ในเมื่อหย่าไม่ได้เธอก็จะหนีไป! เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาและหลุดพ้นจากการถูกเหยียดหยาม
มารีน่าจะสามารถหลุดพ้นจากพระเอกแสนเลวและปากร้ายได้หรือไม่ โปรดติดตาม...
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาและฉากที่เหมาะสมสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น เนื้อหาบางส่วนอาจมีความรุนแรงและฉากที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กหรือเยาวชน
มีฉาก NC การบังคับ การพยายามข่มขืน และคำหยาบเล็กน้อย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ทุกตัวละคร สถานที่ และเหตุการณ์ในเรื่องนี้ล้วนเป็นเรื่องสมมติที่มาจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลจริง หรือสถานที่ใดๆ ในชีวิตจริง
#เป็นนิยายรักมีดราม่า
#ไม่มีการนอกใจ #รักเดียวใจเดียว #พระเอกนิสัยออกธง🚩🏴 #จบสุขนิยม
ฝากกดหัวใจ กดคอมเมนท์ และกดติดตามด้วยนะคะ
มารีน่าเดินเข้าห้องทำงานของภาวินด้วยหัวใจที่เต้นรัว เธอพยายามควบคุมลมหายใจและสีหน้าให้ดูปกติที่สุด
ภาวินนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ควันบุหรี่ลอยเป็นวงอยู่รอบตัวเขา สายตาเย็นชาจับจ้องมาที่มารีน่า บรรยากาศภายในห้องหนักอึ้งจนแทบหายใจไม่ออก
"รู้ตัวใช่ไหมว่าตัวเองทำอะไร" เสียงทุ้มต่ำของภาวินทำให้มารีน่าสะดุ้งเล็กน้อย
เธอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก พยายามรวบรวมสติ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้มั่นคงที่สุด
"คุณหมายถึงอะไรคะ?"
ภาวินดับบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่อย่างช้า ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เขาเดินอ้อมโต๊ะมาหยุดยืนตรงหน้าร่างบาง
"เธอคิดว่าฉันโง่งั้นเหรอ?" เขาถามเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยความอันตราย "คิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอแอบไปพบใครที่ห้างวันนี้?"
มารีน่ารู้สึกเหมือนโลกหมุนควง เธอพยายามควบคุมอารมณ์ ไม่ให้ความตกใจปรากฏบนใบหน้า
"ฉัน... ฉันไม่เข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร" เธอตอบ พยายามทำเสียงให้สั่นน้อยที่สุด "ฉันแค่ไปซื้อของฝากให้น้องชาย..."
"อย่ามาโกหกฉัน มารีน่า" เขาพูดเสียงเย็น "ฉันรู้ทุกอย่างที่เธอทำ ทุกย่างก้าว ทุกการเคลื่อนไหว" ภาวินยิ้มเยาะ
มารีน่ารู้สึกเหมือนหัวใจหล่นวูบ แต่เธอยังคงยืนหยัดอยู่ตรงนั้น พยายามคิดหาทางออก
‘ดะ ได้ยังไง?’ มารีน่าเริ่มอ่อนไหวต่อคำพูดของเขา
“ฉะ ฉันจะไปเจอใครได้ยังไงคะ คุณไอแซคก็อยู่ ถามเขาดูสิ ฉันไปเพื่อซื้อของฝากให้น้องชายเท่านั้น จะไปเจอใครได้ยังไง”
"พอ!" ภาวินตวาดเสียงดัง ทำให้มารีน่าสะดุ้ง "ฉันให้โอกาสเธอพูดความจริง แต่เธอเลือกที่จะโกหก นั่นหมายความว่าเธอต้องรับผลของการกระทำของเธอเอง"
มารีน่ารู้สึกถึงความหวาดกลัวที่กำลังคืบคลานเข้ามา เธอไม่รู้ว่าภาวินรู้มากแค่ไหน และเขาจะทำอะไรต่อไป เธอเพียงแต่ยืนนิ่ง รอฟังว่าชะตากรรมของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป
“เธอนี่มัน…ดื้อด้านจนถึงที่สุดเลยสินะ คิดว่าฉันไว้ใจเธอขนาดนั้นเหรอ แค่ให้ไปกับไอแซคเลขาของฉัน แล้วคิดว่าจะไม่มีสายสอดแนมคนอื่นเลยหรือไง คิดจะโกหก ก็ช่วยคิดรอบคอบและฉลาดกว่านี้หน่อยนะ” แสยะยิ้ม จับปลายคางเรียวเล็กขึ้นมาเชยชมใบหน้าสวย มองด้วยสายตาดูถูก
หลังจากประโยคสุดท้ายของภาวิน มารีน่ารู้สึกราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน คำพูดของเขาทำให้เธอตระหนักว่าการหลบหนีความจริงนั้นไร้ประโยชน์ เธอยืนนิ่งงัน ริมฝีปากสั่นระริก พยายามหาถ้อยคำมาเอ่ย แต่ก็ไม่มีคำใดหลุดออกมา
สายตาของมารีน่าทอดมองไปยังพื้น ไม่กล้าสบตากับชายตรงหน้า ความรู้สึกผิดและความกลัวเริ่มท่วมท้นหัวใจ เธอรู้ดีว่าไม่มีทางเถียงหรือหาข้ออ้างใด ๆ ได้อีกต่อไป
‘ฉันพลาดและประมาทเกินไปแล้ว ทำยังไงดี’
"บทลงโทษในวันนั้น เธอคงไม่จำเลยสินะ หรือฉันควรจะทำมันอีก" ภาวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา มือแกร่งค่อย ๆ ลูบไล้ใบหน้าเนียน ดวงตาคมลุ่มลึกของเขาจ้องมองเธอราวกับจะจับกินไม่ให้เหลือซาก เฉกเช่นกับเสือที่หิวกระหายอย่างบ้าคลั่ง
มารีน่าสะดุ้งเฮือก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อความทรงจำอันเจ็บปวดหวนกลับมา ร่างกายของเธอสั่นเทาด้วยความโกรธและหวาดกลัว
"นี่คุณ!!" เธอเอ่ยเสียงสั่น ความรู้สึกขมขื่นและอัดอั้นตีตื้นขึ้นมาในลำคอ
“ฉันไม่ชอบให้เมียฉันไปทำตัวร่านกับผู้ชายคนอื่น อย่างเช่นแอบไปนัดเจอกัน ช่วยทำตัวให้มันดี ๆ ไม่ให้เหมือนกะหรี่หน่อยได้ไหม” ภาวินพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูหมิ่นและไม่ไยดี
มารีน่าได้ฟังก็ถึงกับหมดความอดทน นอกจากเขาจะไม่ฟังเหตุผลอะไรเลย แต่กลับดูถูกกันได้ถึงเพียงนี้ คนตัวเล็กฟาดตบเข้าไปที่แก้มของเขาเต็มแรง เสียงตบดังเผียะในห้องเงียบสงัด
ภาวินนิ่งไปชั่วขณะ แสยะยิ้มมุมปากที่มุมปาก รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์และความรู้สึกไม่พอใจ เขามองมารีน่าด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ได้ ก่อนที่เธอจะตั้งใจจะตบเขาอีกครั้ง
แต่ทว่าภาวินรวบมือของเธอไว้ได้ทัน พร้อมกับกระชากร่างคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ เขาก้มลงจูบบดขยี้ริมฝีปากเธออย่างรุนแรง ปากของเขาเต็มไปด้วยความดุดันและแรงกระแทกที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“อื้อ!!”
มารีน่าพยายามดิ้นรน แต่ภาวินไม่ยอมปล่อย เธอรู้สึกถึงความร้อนที่ทะลุทะลวงทุกขอบเขตของร่างกาย ขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความขมขื่นที่ยังคงฝังอยู่ในใจ
“เห็นช่วงนี้ฉันใจดีกับเธอขึ้นมาหน่อยก็เลยคิดว่าจะทำอะไรก็ได้สินะ เธอคงรู้จักฉันน้อยไปแล้ว” เขาพูดจบก็รวบตัวมารีน่าขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินไปที่ห้องนอนของเธอ
“กรี๊ด! ปล่อยฉันลงนะ!”
เมื่อเขาเปิดประตูห้องนอนของมารีน่า เขาพาเธอเข้าไปและทิ้งเธอไว้ในห้อง
“นับจากวันนี้เป็นต้นไป เธอจะถูกจับตามองทุกย่างก้าว และห้ามออกไปไหนจนกว่าฉันจะอนุญาต และที่สำคัญ ขอยึดมือถือเอาไว้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ด้วย โดยไม่มีข้อแม้ และเธอจะสามารถใช้มือถือได้ก็ตอนที่ออกไปทำธุระข้างนอกกับฉันเท่านั้น”
มารีน่ากำมือแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ แต่น้ำเสียงของเธอยังคงสั่นเครือเมื่อเอ่ยออกมา
"คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับฉัน! ฉันไม่ใช่ทาสของคุณนะ!"
ภาวินแค่นหัวเราะเย็นชา
เขาก้าวเข้ามาใกล้ พร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาประชิดกับใบหน้าเธอจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นของเขา
“ดูเหมือนเธอจะยังไม่เข้าใจสถานะของตัวเอง ฉันบอกแล้วว่าอย่าทำให้ฉันต้องใช้วิธีที่เธอไม่อยากเจอ”
ภาวินล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของมารีน่าเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา เขามองโทรศัพท์ในมือด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความพอใจ
"ฉันจะเก็บนี่ไว้ และจำไว้ว่า ทุกการกระทำมีผลลัพธ์ของมัน"
มารีน่ารู้สึกสิ้นหวัง น้ำตาเริ่มคลอเบ้า แต่เธอกัดฟันไว้ไม่ยอมร้องไห้ต่อหน้าเขา
ชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าพึงพอใจ แต่นยังคงแฝงความกรุ่นโกรธภายใต้น้ำเสียงเย็นชา
เมื่อภาวินปิดประตูและล็อกกลอนจนแน่นหนา เสียงคลิกของการล็อกทำให้ใจของมารีน่าหยุดเต้นไปชั่วขณะ เธอรีบดีดตัวลุกขึ้นและไปดันประตูอย่างไม่หยุดยั้ง มือของเธอทุบลงไปที่ประตูขณะที่เสียงร้องตะโกนดังลั่น
‘ปัง ๆ ๆ!!’
“มะ ไม่นะ…ภาวิน!! อย่ามาทำแบบนี้กับฉันนะ เปิดประตูให้ฉันออกไป! ภาวิน!!”
เสียงทุบประตูและคำร้องขอของมารีน่าดังอย่างต่อเนื่อง แต่ภาวินยังคงยืนอยู่หน้าประตู หยุดฟังแต่ไม่ทำอะไรเลย เขาหันกลับไปยิ้มอย่างเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
“ใจเย็นหน่อยเถอะรีน่า แค่นี้ยังถือว่าเป็นการทำโทษที่น้อยไปสำหรับเธอ เตรียมตัวสำหรับคืนนี้ได้เลย”
คำพูดของเขาทำให้มารีน่าถึงกับเข่าทรุด ร่างกายของเธอสั่นเทาด้วยความเครียดและความหวาดกลัว มือที่เคยทุบประตูตอนนี้กำแน่นจนเล็บจิกลงไปในฝ่ามือ
เธอพยายามกัดฟันอดกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา ความรู้สึกของเธอเหมือนถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในห้องที่ปิดตายกับความกลัวที่เธอไม่สามารถควบคุมได้
เสียงทุบประตูของเธอเริ่มเบาลงเมื่อแรงของเธอเริ่มหมดไป แต่ความรู้สึกของการถูกขังยังคงอยู่ในใจของเธออย่างหนักหน่วง
“ฮึก! ถ้าจะทำแบบนี้ ฆ่าฉันให้ตายไปเลยยังดีกว่า”
สามวันผ่านไป
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ทุกย่างก้าวของมารีน่าถูกจับตามอง หากต้องการออกนอกบ้าน เธอต้องรายงานทุกรายละเอียด
มารีน่ารู้สึกราวกับถูกกักขังในกรงทอง เธอตระหนักดีว่าการหย่าร้างคงเป็นเรื่องยาก จึงเริ่มคิดหาหนทางหลบหนีจากพันธนาการนี้
“ในเมื่อฉันหย่าไม่ได้ ฉันก็จะหนี ก่อนที่ฉันจะเหมือนตายทั้งเป็นไปมากกว่านี้”