เพื่อช่วยเด็กแปลกประหลาดคนหนึ่งให้พ้นจากการถูกจับแต่งงานกับนายห้างฝรั่งแก่ หลวงยศถึงกับยอมลงทุนสละตนเองลงไปแปดเปื้อนเพียงเพื่อช่วงชิงตำแหน่งเจ้าบ่าวมาเป็นของตนโดยไม่สนชื่อเสียงหรือคำนินทาใด

แปลกคนโปรด (mpreg) - บทนำ . โดย summer_T @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ย้อนยุค,ไทย,boylove ,yaoi,วายพีเรียด,mpreg,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แปลกคนโปรด (mpreg)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ย้อนยุค,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

boylove ,yaoi,วายพีเรียด,mpreg,นิยายวาย

รายละเอียด

เพื่อช่วยเด็กแปลกประหลาดคนหนึ่งให้พ้นจากการถูกจับแต่งงานกับนายห้างฝรั่งแก่ หลวงยศถึงกับยอมลงทุนสละตนเองลงไปแปดเปื้อนเพียงเพื่อช่วงชิงตำแหน่งเจ้าบ่าวมาเป็นของตนโดยไม่สนชื่อเสียงหรือคำนินทาใด

ผู้แต่ง

summer_T

เรื่องย่อ


แปลก

 

เด็กหนุ่มลูกครึ่งของพ่อผู้มียศถึงคุณหลวงกับเมียฝรั่งคนหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะมีบุตรด้วยกัน

แต่นั่นไม่แย่เท่ากับในวินาทีแรกที่เด็กทารกรูปลักษณ์แปลกแยกคลอดออกมา

ความวุ่นวายก็มาเยือนเรือน จนเป็นที่ชังของคนทั้งเรือนพร้อมกับคำเรียกว่า "ตัวกาลกิณี"

เขาเลือกจะอยู่เงียบ ๆ ไม่เรียกร้องอะไร แม้จะไม่เป็นที่รักใคร่แต่การอยู่เป็นคนที่ถูกมองข้ามก็ยังดีกว่าโดนขับไล่ไสส่ง

แต่ทว่าในวันหนึ่งตัวซวยอย่างเขาจะถูกจัดแต่งงานโดยที่ไม่มีใครคิดถามความยินยอม และเขาเองก็ไม่มีสิทธิต่อต้าน

 

 

 

.................

 

หลวงยศ 


 

คุณหลวงพ่อหม้ายที่ปล่อยตำแหน่งแม่เรือนให้ร้างว่างไว้มาหลายปี ไม่มีวี่แววจะถูกใจหรือไปสู่ขอแม่หญิงคนไหน

ครองตัวโดดเดี่ยวเมินสายตาหวานเชื่อมของหนุ่มสาวท้งพระนคร 

ด้วยรูปร่างหน้าตา ยศศักดิ์ ทรัพย์ และชาติตระกูล อีกทั้งท่าทีสุขุมน่าเกรงขาม

ใครจะคิดว่าวันหนึ่งหลวงยศที่วางตัวดีมาเสมอจะยอมสละตัวลงไปแปดเปื้อนให้เสี่ยงต่อการเสื่อมเกียรติ

เพียงเพื่อช่วยเด็กหนุ่มแปลกประหลาดที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวกาลกิณีแค่คนเดียว

 

 

.................

 

Talk : setting ในเรื่องเป็นช่วงประมาณสมัยรัชกาลที่ 5 นะคะ แต่ถึงจะวางไว้เป็นช่วงนั้นอยากบอกว่าวางเรื่องประวัติศาสตร์ลงก่อนได้เลยค่ะ

เพราะอาจจะมีหลายอย่างในเรื่องนี้ที่สายประวัติศาสตร์อาจไม่จอยได้ค่ะ เพราะฉะนั้นอยากให้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นแนว Mpreg หรือผู้ชายในเรื่องสามารถท้องได้ค่ะ จึงอาจจะมีผู้ที่ไม่ถูกใจแนวนี้อยู่บ้าง

หากไม่ชอบแนวนี้สามารถผ่านเรื่องนี้ได้เลยค่ะ ไว้เจอกันเรื่องใหม่ที่มีแววใจตรงกันนะคะ :)

ยินดีรับคำติชมเสมอสามารถเม้นพูดคุยกันได้เสมอเลยค่ะ

ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะเจ้าค่ะ


เรื่องนี้มี 32 บทและจะติดเหรีญตั้งแต่บทที่ 7 เป็นต้นไปค่ะ
มี E-book ใน meb นะคะ พร้อม 3 ตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊คเท่านั้น
 



สารบัญ

แปลกคนโปรด (mpreg)-บทนำ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๓ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๔ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๕ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๖ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๗ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๘ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๙ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๐ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๑ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๒ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๓ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๔ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๕ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๖ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๗ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๘ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๙ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๐ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๑ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๒ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๓ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๔ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๕ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๖ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๗ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๘ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๙ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๓๐ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๓๑ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๓๒ .

เนื้อหา

บทนำ .

แสงแดดยามสายส่องกระทบผิวน้ำสะท้อนระยิบระยับเล่นล้อกับระลอกคลื่นน้ำคลองหน้าเรือนแพซึ่งเกิดจากเรือสัญจรค้าขายลำเล็กของชาวบ้านในละแวก แม้จะบางตานักเพราะห่างจากเขตตลาด แต่ยังมีผ่านมาให้พอได้เรียกซื้อขาย ดวงตาคมมองเห็นเรือขายขนมไทยรสขึ้นชื่อของตลาดที่พายเข้ามาแต่ไกล หัวเรือพายผูกผ้าแดงคุ้นตาที่เห็นมาตั้งเล็กยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่จำได้ไม่ลืม แม่ค้าฝีมือดีคนนี้อาศัยอยู่ถัดเข้าไปจากเรือนเจ้าคุณยิ่งไม่ไกลนัก ดูท่าคงจะพายกลับมาจากตลาด
คุณหลวงทรงยศ หรือคุณหลวงยศ บุตรชายคนเล็กของพระยายิ่ง หรือที่มักเรียกกันว่าเจ้าคุณยิ่งเจ้าของเรือนไทยหลังใหญ่ วางเอกสารงานราชการลงบนโต๊ะไม้เตี้ยขัดเงา เอ่ยเรียกบ่าวคนสนิทแล้วสั่งให้นั่งรอดักเรียกเรือขนมไทย เพราะจำได้ว่าแขกประจำของเรือนชอบกินเป็นที่สุด เมื่อเจิดขานรับคำและไปนั่งรอที่ริมท่าน้ำเรือนแพ เจ้าของร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมเข้มจึงหยัดกายลุกขึ้นเดินออกจากเรือนแพริมน้ำตรงไปยังแคร่ไม้ไผ่ไม่ไกลนัก

จนขายาวเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าว่าแขกประจำเรือนจะรู้ตัว ดวงตาคมมองแขนเรียวเล็กขาวผ่องกว่าคนทั่วไปเคลื่อนไหวไปมาขณะที่มือเรียวเกลี่ยดอกปีบสีขาวสะอาดตาให้กระจายทั่วกระด้งไม้สาน กลิ่นหอมของดอกปีบลอยตามสายลมอ่อนที่พัดผ่านมาให้ได้ชื่นใจ ทั้งยังพัดเอาผมเส้นเล็กสีสว่างให้ปลิวไหวน่ามอง ปากหยักยกยิ้มเอ็นดูให้กับคนที่ตั้งใจกับการเกลี่ยดอกปีบเพื่อนำไปตากแห้งเตรียมไว้สำหรับมวนยาเส้น มือใหญ่คลายออกจากการไขว้ไว้ด้านหลังเอื้อมหยิบดอกปีบกลิ่นหอมดอกหนึ่งที่ติดบนกลุ่มผมนุ่มมือราวเส้นไหมออกให้คนตัวเล็ก

คนที่เพิ่งรู้ตัวสะดุ้งเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้ามองคนโตกว่าที่ยืนถือดอกปีบดอกเล็กอยู่เบื้องหน้า ดวงตากลมใสสบเข้ากับตาคมดำสนิทที่มองตนอยู่ก่อนแล้ว คุณหลวงยศคือบุตรชายเจ้าของเรือนที่เขามาเป็นประจำตั้งแต่ยังเดินไม่ได้เสียด้วยซ้ำ อาจเรียกได้ว่าเขาเติบโตมาจากความเมตตาของคุณหญิงบัวภรรยาของเจ้าคุณยิ่งที่เวทนาช่วยดูแลชุบเลี้ยงเด็กแปลกประหลาดอย่างเขาโดยไม่นึกรังเกียจเดียดฉันท์เหมือนอย่างคนอื่น ๆ ทั้งคุณปิ่น คุณหลวงณรงค์ พี่สาวและพี่ชายของคุณหลวงยศต่างก็เมตตาตนไม่ต่างจากน้องชายคนหนึ่ง

แต่หากนึกย้อนไปคนที่เขาได้ใกล้ชิดที่สุดเห็นจะเป็นคุณหลวงยศ ที่อายุใกล้กันมากที่สุดในบรรดาลูกทั้งสามของเจ้าคุณยิ่ง ถึงแบบนั้นเขาและคุณหลวงยศก็ห่างกันถึง 9 ปี

“หิวหรือไม่ พี่ให้เจิดรอเรือยายพวงอยู่เรือนแพ อาจจะพอมีขนมเหลือจากขายที่ตลาด ชอบไม่ใช่รึ”

หลวงยศมองนัยน์ตาใสดั่งลูกแก้วสีเขียวสวยแปลกตาราวกับมรกตน้ำงาม ไม่ว่าเมื่อไหร่นัยน์ตาคู่นี้ยังคงสวยน่ามองสำหรับตนเสมอ ยิ่งเห็นแพรขนตางอนยาวยิ่งสวยน่ามองนัก คิ้วเรียว จมูกโด่งเล็ก ปากและแก้มสีระเรื่อ ผมเส้นเล็กสีสว่างกับผิวขาวละเอียดยิ่งทำให้คนตรงหน้านี้ดูละมุนละไมน่าทะนุถนอมตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ ยิ่งมองจากมุมที่สูงกว่าอย่างตอนนี้ยิ่งรู้สึกว่าเด็กคนนี้บอบบางเหลือเกิน ราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบของยุโรปที่พร้อมจะแตกเอาง่าย ๆ หากเผลอกระทำอะไรรุนแรงเข้า ทุกวันนี้เขายังไม่เข้าใจเลยว่าคนที่ดูบอบบางและบริสุทธิ์เช่นนี้จะมีพิษมีภัยอะไรกับใครได้

หากเพียงแค่เกิดมาแปลกประหลาดกว่าคนอื่นเพราะเกิดจากพ่อชาวสยามอย่างหลวงเทพและเมียชาวฝรั่ง เขากลับเห็นว่าเป็นสิ่งแปลกประหลาดที่สวยงามที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอ แม้มองข้ามความแปลกแยกนี้ไปเขายังไม่เข้าใจว่าเหตุใดหลวงเทพถึงใจดำกับบุตรของตนได้ถึงเพียงนี้ หากไม่ได้หมอตำแยที่วิ่งพาทารกลูกครึ่งคนนี้มาถึงเรือนเขาในวันที่เด็กน้อยกำพร้าแม่ตั้งแต่วินาทีลืมตาดูโลก คงไม่รอดเติบโตมานั่งเกลี่ยดอกปีบแบบในวันนี้

“แปลกกลัวว่าคุณหญิงท่านจะรอขอรับ” ตากลมมองไปทางเรือนใหญ่

“ท่านไม่ว่าอะไรดอกเชื่อพี่ ถ้าขนมยายพวงเหลือพอพี่จะได้ให้เอาขึ้นไปให้ท่านด้วย” ในที่สุดคนขยันก็ยอมวางมือจากงาน คนอ่อนกว่าลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูงก่อนจะยื่นมือไปขอดอกปีบในมือหลวงยศ

“พี่ขอไม่ได้รึ ดอกนี้หอมนัก ขาดดอกเดียวคุณแม่ท่านคงไม่ว่าอะไร”

หากเพียงแค่เอ่ยขอคงไม่ทำให้คนฟังหน้าร้อนผ่าวเช่นนี้ แต่คนโตกว่ากลับยกดอกปีบดอกน้อยขึ้นดมทั้งที่ตาคมยังไม่ละออกจากลูกแก้วมรกตใส หัวใจดวงน้อยคล้ายจะเต้นแรงขึ้นเมื่อไม่แน่ใจว่า หอม ของหลวงยศหมายถึงดอกปีบอย่างเดียวหรือไม่ มือเล็กชักกลับโดยไม่ได้ทั้งตอบรับหรือปฏิเสธคำขอนั้น ตากลมไม่กล้าสบมองสายตาคนโตกว่าอีกแล้วจึงเลือกหันหลังเดินนำไปทางเรือนแพริมน้ำที่เจิดบ่าวคนสนิทของหลวงยศกำลังเอื้อมมือดึงกราบเรือขายขนมยายพวงเข้าเทียบท่าได้ยินเพียงเสียงหัวเราะของคนโตกว่าที่แว่วมาจากด้านหลัง

“เหลือเท่านี้เองรึ อย่างนั้นก็เอามาทั้งหมดนั่นล่ะ” เมื่อการซื้อขายเสร็จสิ้นเรือยายพวงจึงละออกจากท่าน้ำเรือนเจ้าคุณยิ่ง มือใหญ่ยื่นไปรับเอากระทงใบตองในมือเล็กมาถือเดินนำขึ้นจากท่าแล้วมาวางไว้ให้ที่โต๊ะในเรือนแพ แปลกเดินตามมานั่งลงริมฝีปากบางยกยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณหลวงยศในความใจดีนี้ คนโตรับไหว้เช่นทุกที

“กินที่นี้เสียให้หมด กระทงน้อยเท่านี้ไม่ต้องนำขึ้นเรือนดอก เอาขึ้นไปคุณแม่ท่านก็ให้เธอกินอยู่ดี” มือน้อยใช้ไม้กลัดจิ้มทองหยอดส่งให้หลวงยศที่เอาแต่นั่งมองเขากินด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง หากแต่คนในเรือนต่างรู้ดีว่ามุมปากหยักที่ยกขึ้นเพียงเล็กน้อยนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะพบเห็นได้ง่ายบนใบหน้าหลวงยศผู้นี้

คุณยศเป็นคนสุขุม เรียบนิ่งมาตั้งแต่ยังเด็ก แม้โตจนกินตำแหน่งเป็นหลวงยศแล้วก็ยังคงเป็นเช่นนั้นมาเสมอ นิ่งดั่งผิวน้ำในบึงกว้างยากที่จะรู้ว่าภายใต้ผิวน้ำนิ่งนั้นมีกระแสน้ำใดไหลอยู่หรือไม่ แต่อาจเพราะแบบนั้นยิ่งทำให้หลวงยศผู้นี้ดูน่าเกรงขามกว่าคนอายุเดียวกันไปมากโข การไว้ตัวไม่สุงสิงสุรานารีเหมือนลูกหลานพระยาคนอื่น ๆ ทำให้เป็นที่หมายปองของหนุ่มสาวหลายคน ถึงแบบนั้นในสายตาของเจิดผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นบ่าวคนสนิทมาตั้งแต่ยังวิ่งม้าก้านกล้วยด้วยกัน ก็เห็นจะมีเพียงบุตรชายนอกสายตาของหลวงเทพคนนี้ที่ทำให้เจ้านายของตนยกยิ้มได้ครั้งแล้วครั้งเล่า เขายังจำได้ดีว่าแม้แต่ในวันที่หลวงยศแต่งคุณจันเข้าเรือนเจ้าตัวยังใบหน้าเรียบนิ่งสุขุมตลอดทั้งวันงานมงคล และถึงย้ายไปอยู่เรือนแยกกับคุณจันแล้วเห็นจะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่เจิดได้เห็นหลวงยศยกยิ้มดีใจเสียกว้างด้วยตาเนื้ออีกครั้งหลังจากแต่งเมียคือตอนคุณจันเธอท้อง

แม้หลวงยศจะดูแลคุณจันอย่างดีมาเสมอไม่ขาดตกบกพร่องสักเล็กน้อยในหน้าที่สามี แต่เขาเองก็แอบคิดมาเสมอว่าหลวงยศดูจะไม่มีความสุขเท่าก่อนที่จะออกเรือน จนคุณจันเธอท้องเขาถึงได้โล่งใจและยินดีนักเมื่อเห็นนายตนมีความสุขมากกว่าครั้งไหน ๆ ราวกับว่าได้รอยยิ้มที่ทำหล่นหายไปเมื่อครั้งหนุ่มน้อยลูกครึ่งแปลกแยกหายไปไม่มาเรือนนี้เสียหลายปีกลับมา

ชีวิตคนมันสั้น จะทำอะไรก็รีบทำ เพราะฉะนั้นมึงไปเก็บมะนาวให้กูที

คำพูดติดปากป้าสดที่มักยกมาอ้างเวลาเจิดเดินเฉียดเข้าไปใกล้ครัว เขาไม่เคยเก็บเอามาคิดจริงจัง จนเมื่อวันหนึ่งรอยยิ้มหลวงยศเจ้านายของเขาก็หายไปอีกครั้งพร้อมคุณจันและลูก หลายปีต่อจากคืนนั้นหลวงยศแทบไม่ได้ยิ้มออกมาจากใจจริงให้เขาได้เห็นอีกเลย เช่นเดียวกับตำแหน่งเมียคุณหลวงที่ปล่อยร้างรามาถึง 5 ปีจนตอนนี้หลวงยศเข้าวัย 29 ปีก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีนางเล็ก ๆ หรือแต่งหญิงใดเข้าเรือนอีก ทั้งที่บุตรสาวบุตรชายรูปงามของพระน้ำพระยาหลายคนแวะเวียนมาเรือนนี้นับสิบก็ไม่เห็นท่าว่าหลวงยศจะเอ่ยปากขอคนใดกับเจ้าคุณยิ่งแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้

หากปีนี้บุตรชายหลวงเทพผู้ห่างหายจากเรือนนี้ไปเสียหลายปีไม่กลับมาอีกครั้ง ไอ้เจิดผู้นี้คงไม่ได้เห็นรอยยิ้มของหลวงยศเจ้านายรักอีกเป็นแน่

“จะป้อนพี่รึ” แม้ถามด้วยเสียงเรียบนิ่ง แต่สายตาที่มองมายังแปลกนั้นกับพราวระยับราวกับมีหมู่ดาวซ่อนไว้ภายใน

“แปลกเห็นคุณหลวงมอง แปลกเลยจะแบ่งให้เท่านั้นขอรับ”

แปลกหลบสายตาพร่างพราวลงมองต่ำ ไม่กล้าคิดหรือตีความหมายของสายตานั้นว่าคนมองสื่อความรู้สึกใดต่อตน แม้ว่าการได้กลับมาพบกันอีกครั้งนี้หลวงยศจะสร้างความสั่นไหวให้หัวใจดวงน้อยแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนถี่ขึ้นทุกทีก็ตาม เขาไม่อยากคิดปรุงแต่งให้ตัวเองต้องลำบากในภายภาคหน้า หลวงยศคือคนที่มีพระคุณต่อเขา ทั้งคอยดูแล คอยเล่น และคอยปกป้องเขามาตลอดเมื่อตอนเขายังเด็ก ในตอนนั้นให้นับเป็นพี่ชายเขายังไม่กล้าคิดยกตนไปนับญาติให้หลวงยศเสื่อมเสีย มาตอนนี้ให้คิดเป็นอย่างอื่นยิ่งไม่กล้าคิด ไม่ควรคิด แม้ว่าใจดวงน้อยจะสั่นไหวมากมายเพียงใดก็ตาม

“รสดีนัก ยังหวานหอมเหมือนเดิม เหมือนตอนเรายังเล็กไม่เปลี่ยนเลย”

แปลกไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวไปไหนเมื่อมือใหญ่คว้าจับมือเขาดึงเข้าไปงับเม็ดทองหยอดที่ปลายไม้กลัดเข้าปาก ทั้งยังเอ่ยชมชิดผิวเสียจนมือเขารับรู้ได้ถึงแรงลมปากที่กระทบลงมา เหมือนลมเมื่อครู่พัดพาไอร้อนแล่นริ้วมาตามแขนแล้วแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัวเขา ชวนให้หน้าร้อนวูบเหมือนกับจะเป็นไข้

“ชวนน้องกินขนมหรือพ่อยศ” เสียงคุณหญิงบัวดังขึ้นช่วยหัวใจดวงน้อยนี้ไม่ให้สั่นไหวจนเจ้าของเป็นล้มเป็นแล้งไปเสียก่อน แปลกเหลือบมองคนที่ตอบรับผู้เป็นแม่ด้วยท่าทีสุขุมเหมือนเช่นทุกที แล้วได้แต่พยายามข่มใจไม่ให้คิดปรุงแต่งตัวเองไปไกลกว่านี้

“หลวงเทพให้รถลากวิ่งมารับพ่อโปรดกลับเรือน เห็นเจ๊กลากรถบอกว่าหลวงเทพมีแขกฝรั่งมาหา” คุณหญิงบัวนั่งลงข้างเด็กหนุ่มผิวขาวที่หน้าหงอยลงถนัดตา

“คุณหญิงอย่าเรียกแปลกแบบนั้นเลยขอรับ ถ้าคุณพ่อท่านทราบ...”

“แม่ก็เรียกตามพ่อยศมาตั้งแต่พ่อโปรดยังเล็ก ทำไมตอนนี้ถึงจะเรียกไม่ได้เล่า” มืออุ่นนิ่มแตะใบหน้าขาวนวลของเด็กหนุ่มที่เธอเคยดูแลเมื่อครั้งยังเล็ก ใบหน้าสวยสมวัยของคุณหญิงบัวยังคงมองมาที่เขาด้วยความรักใคร่เอ็นดูไม่เปลี่ยนแปลง

“พ่อเธออยากให้เรียกว่าอะไรก็เก็บไว้เรียกที่เรือนนู่นเถิด อยู่เรือนนี้พี่อยากให้เรียกแบบที่เคยเรียก” หลวงยศเอ่ยขึ้น

“แต่ว่าคุณหลวง...”

“เอาล่ะ ๆ พ่อโปรดอยากเรียกว่าอะไรก็เรียกเถิด แต่แม่ของเรียกพ่อโปรดว่าพ่อโปรดเหมือนเดิม แล้วนี่หลวงเทพมีแขกฝรั่งทำไมต้องมาตามพ่อโปรดทุกที พ่อโปรดไม่ได้รับราชการไม่ใช่รึ หรือต้องไปช่วยหลวงเทพเจรจาภาษาฝรั่ง แม่เห็นหลวงเทพท่านก็ออกจะพูดคล่องด้วยทำงานกับฝรั่งเป็นประจำอยู่แล้ว นี่เพิ่งจะมาแท้ ๆ ตามให้กลับเรือนอีกเสียแล้ว” คุณหญิงบัวยกมือขึ้นเกลี่ยปอยผมสีอ่อนที่ลงมาปรกหน้านวลออกให้อย่างเอ็นดู ไม่ได้อยากได้คำตอบเสียทีเดียวหากแต่อดถามเสียไม่ได้ด้วยว่าหลายวันมานี้ หลวงเทพที่ไม่ได้ดูดำดูดีบุตรชายกลับปล่อยเด็กน้อยที่เธอรักและคิดถึงเหลือเกินออกจากเรือนยากลำบากนัก ยอมปล่อยออกมาแค่เพียงไม่นานก็รีบตามกลับ ผิดวิสัยปกติเหลือเกิน

“แปลกก็ไม่ทราบขอรับ คุณพ่อไม่ได้ให้แปลกไปทำอะไร ชอบเรียกให้ไปนั่งเฉย ๆ ระหว่างท่านต้อนรับแขกเท่านั้น จะมีขอให้ช่วยบ้างก็คงเป็นช่วยยกของฝากเข้าไปเก็บไว้ในห้องท่าน แล้วก็ให้แปลกนั่งดูแลแขกของท่านอยู่ข้าง ๆ”

หลวงยศและคุณหญิงบัวยังไม่คลายสงสัย แต่ไม่ได้เอ่ยถามความต่อกับเด็กหนุ่มลูกครึ่ง ด้วยเกรงว่าหลวงเทพจะรอบุตรชายนานแล้วจะพานใส่คนตัวเล็กที่เธอเฝ้าทะนุถนอมมาแต่เด็กอีก เด็กหนุ่มไหว้ลาคุณหญิงบัวแหละคุณหลวงยศก่อนที่จะเดินตามบ่าวในเรือนห่างออกไป



“หลวงเทพนี่ก็แปลกคน เดิมไม่เห็นจะไยดีพ่อโปรดแล้วตอนนี้ทำไมดูหวงนักหนา” คุณหญิงบัวเอ่ยขึ้นเมื่อเธอตักแกงส้มของโปรดของเด็กหนุ่มที่กลับเรือนไปก่อนหน้านี้ไม่นานใส่จานให้ผู้เป็นสามี ในใจนึกเสียดายที่เด็กหนุ่มไม่ทันได้อยู่กินทั้งที่เธอตั้งใจลงครัวทำให้

“พ่อโปรดก็จะเข้า 21 ปีนี้แล้วไม่ใช่รึ” เจ้าคุณยิ่งหันไปตอบคุณหญิงบัว

“เข้า 21 แล้วทำไมรึเจ้าคะคุณพี่”

“ก็ถึงวัยที่พ่อแม่เขาต้องหาเรือนให้ลูกอยู่แล้วไม่ใช่รึแม่บัว พ่อโปรดเขาไม่มีแม่เสียแล้ว พ่อเขาเป็นธุระจัดการให้ก็ถูกต้องแล้ว ฉันเองยังไม่คิดว่าหลวงเทพเขาจะเป็นธุระเรื่องนี้ให้พ่อโปรดเสียด้วยซ้ำ เห็นไม่เคยมาใส่ใจตั้งแต่เล็กแต่น้อย เขาเป็นธุระหาคู่ให้พ่อโปรดอย่างนี้ ก็คงยังหลงเหลือความเมตตาพ่อโปรดอยู่บ้าง”

“หาคู่ฝรั่งให้น่ะหรือเจ้าคุณพ่อ โปรดเพิ่ง 20 เท่านั้น จะให้ออกเรือนแล้วรึ” หลวงยศละมือจากอาหารตรงหน้า เอ่ยถามผู้เป็นพ่อด้วยท่าทีสงบเช่นปกติแต่กระนั้นก็ยังแผงความร้อนใจอยู่ในเนื้อเสียง

“ตอนลูกแต่งแม่จัน แม่จันก็เพิ่งพ้น 21 ลูกเองก็ 23 เท่านั้นไม่ใช่รึ ความจริงแล้วตอนลูกแต่งแม่จัน ออกจะช้าไปเสียด้วยซ้ำ พ่อโปรดออกเรือนตอนนี้นับเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว” ถึงแม้ว่าสิ่งที่เจ้าคุณยิ่งพูดออกมาจะเป็นความจริง แต่เมื่อมองผู้เป็นพ่อมีหรือที่เขาจะดูไม่ออกว่าเจ้าคุณยิ่งก็คิดไม่ต่างจากเขาและผู้เป็นแม่

จริงอยู่ที่หนุ่มสาวส่วนใหญ่มักนิยมแต่งงานออกเรือนตั้งแต่เข้า 17-18 และดูว่าเขาไม่มีข้ออ้างไหนเลยที่จะสามารถยกมาเอ่ยแย้งความเป็นจริงนี้ได้

“กับฝรั่งน่ะรึ เหมาะสมแน่หรือขอรับ”

“พ่อยศถามเหมือนไม่เคยรู้ว่าพ่อโปรดโตมาอย่างไร เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมไม่ใช้หน้าที่เราต้องมาออกความเห็น ปล่อยให้เป็นเรื่องของเรือนนู่นเขาเถิด อย่างไรเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นพ่อลูกกัน คนที่หลวงเทพเขาหามา พ่อโปรดออกเรือนไปกับเขาไปก็คงไม่ลำบากดอก” เจ้าคุณยิ่งถอนหายใจสีหน้าของเจ้าของเรือนทั้งสามไม่ต่างกันมากนัก แม้จะห่วงแค่ไหนก็สุดกำลังจะเข้าไปยุ่ง อย่างไรเสียพวกเขาก็คือคนนอกเรือน

“คุณพี่พูดเหมือนคุณพี่ทราบแล้วว่าพ่อโปรดต้องออกเรือนกับผู้ใด” คุณหญิงบัวมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด เมื่อรู้ว่าเด็กน้อยบริสุทธิ์ของเธอต้องออกเรือนเสียแล้วซ้ำยังต้องออกเรือนไปกับชายที่ผู้เป็นพ่อที่ไม่เคยคิดไยดีสักนิด คนอย่างหลวงเทพเลือกให้ ขนาดเมียฝรั่งตายในรั้วเรือนยังไม่เดือดเนื้อร้อนใจห่วงใยเมียและลูกไปมากกว่าสมบัติที่หลวงจะลงมาตรวจสอบซ้ำยังพานโทษความไม่ดีทั้งหมดในชีวิตมาลงที่เด็กน้อยเพิ่งเกิดไม่ถึงวัน หากหมอตำแยไม่เวทนาชิงเด็กวิ่งมาเรือนหล่อนด้วยรับคำแม่เด็กก่อนเสีย คนเป็นพ่อคงโยนทิ้งลงน้ำให้ตายตกตามแม่ไป

เจ้าคุณยิ่งมีสีหน้าลำบากใจ หากมองหน้าคุณหญิงของตนและบุตรชายคนเล็กที่ดูกังวลไม่แพ้ตัวเองที่รู้อยู่เต็มอกไม่นานก่อนหน้านี้ว่าหลวงเทพหมายมั่นจะยกพ่อโปรดให้ผู้ใด เจ้าคุณยิ่งถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้มไม่ต่างจากคนบนเรือน แต่สุดอำนาจจะคว้ามือช่วย

“นายห้างจอร์จ”

สิ้นคำเจ้าคุณยิ่ง หลวงเทพก็แทบนั่งไม่ติดพื้นร้อนรนไปทั้งหัวใจ มรกตบริสุทธิ์เม็ดงามที่เขาเฝ้ามองไม่กล้าแม้แต่จะแตะให้หมองแสงหรือเกิดรอยให้เป็นตำหนิจะต้องตกไปอยู่ในมือนายห้างฝรั่งคราวพ่อ แถมมีเมียเล็กเมียน้อยทั้งหญิงฝรั่งหญิงสยามเต็มบ้านเต็มเรือนอย่างนายจอร์จนั่นรึ เขายังจำได้ว่าตอนไปคุยราชการเรื่องราคาวัสดุสำหรับใช้ในงานก่อสร้างอาคารในกรม นายห้างฝรั่งคนนี้ก็แทบจะกอดรัดหนุ่มน้อยหน้าหวานเสียบนโซฟารับแขกกลางเรือน ไม่เกรงใจข้าราชการผู้ใหญ่ที่นั่งคุยเรื่องสำคัญอยู่แม้แต่น้อย คงจะถือว่าตนเป็นนายห้างใหญ่ที่มีสินค้าและวัสดุราคาดีมีคุณภาพที่ทางราชการยังต้องพึ่งพิงด้วยหาที่อื่นลำบากนัก หากเขามองไม่ผิดเด็กหนุ่มคนนั้นออกจะอ่อนวัยกว่ามรกตเม็ดงามของเขาเสียอีก