เพื่อช่วยเด็กแปลกประหลาดคนหนึ่งให้พ้นจากการถูกจับแต่งงานกับนายห้างฝรั่งแก่ หลวงยศถึงกับยอมลงทุนสละตนเองลงไปแปดเปื้อนเพียงเพื่อช่วงชิงตำแหน่งเจ้าบ่าวมาเป็นของตนโดยไม่สนชื่อเสียงหรือคำนินทาใด

แปลกคนโปรด (mpreg) - ๓ . โดย summer_T @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ย้อนยุค,ไทย,boylove ,yaoi,วายพีเรียด,mpreg,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แปลกคนโปรด (mpreg)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ย้อนยุค,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

boylove ,yaoi,วายพีเรียด,mpreg,นิยายวาย

รายละเอียด

แปลกคนโปรด (mpreg) โดย summer_T @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เพื่อช่วยเด็กแปลกประหลาดคนหนึ่งให้พ้นจากการถูกจับแต่งงานกับนายห้างฝรั่งแก่ หลวงยศถึงกับยอมลงทุนสละตนเองลงไปแปดเปื้อนเพียงเพื่อช่วงชิงตำแหน่งเจ้าบ่าวมาเป็นของตนโดยไม่สนชื่อเสียงหรือคำนินทาใด

ผู้แต่ง

summer_T

เรื่องย่อ


แปลก

 

เด็กหนุ่มลูกครึ่งของพ่อผู้มียศถึงคุณหลวงกับเมียฝรั่งคนหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะมีบุตรด้วยกัน

แต่นั่นไม่แย่เท่ากับในวินาทีแรกที่เด็กทารกรูปลักษณ์แปลกแยกคลอดออกมา

ความวุ่นวายก็มาเยือนเรือน จนเป็นที่ชังของคนทั้งเรือนพร้อมกับคำเรียกว่า "ตัวกาลกิณี"

เขาเลือกจะอยู่เงียบ ๆ ไม่เรียกร้องอะไร แม้จะไม่เป็นที่รักใคร่แต่การอยู่เป็นคนที่ถูกมองข้ามก็ยังดีกว่าโดนขับไล่ไสส่ง

แต่ทว่าในวันหนึ่งตัวซวยอย่างเขาจะถูกจัดแต่งงานโดยที่ไม่มีใครคิดถามความยินยอม และเขาเองก็ไม่มีสิทธิต่อต้าน

 

 

 

.................

 

หลวงยศ 


 

คุณหลวงพ่อหม้ายที่ปล่อยตำแหน่งแม่เรือนให้ร้างว่างไว้มาหลายปี ไม่มีวี่แววจะถูกใจหรือไปสู่ขอแม่หญิงคนไหน

ครองตัวโดดเดี่ยวเมินสายตาหวานเชื่อมของหนุ่มสาวท้งพระนคร 

ด้วยรูปร่างหน้าตา ยศศักดิ์ ทรัพย์ และชาติตระกูล อีกทั้งท่าทีสุขุมน่าเกรงขาม

ใครจะคิดว่าวันหนึ่งหลวงยศที่วางตัวดีมาเสมอจะยอมสละตัวลงไปแปดเปื้อนให้เสี่ยงต่อการเสื่อมเกียรติ

เพียงเพื่อช่วยเด็กหนุ่มแปลกประหลาดที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวกาลกิณีแค่คนเดียว

 

 

.................

 

Talk : setting ในเรื่องเป็นช่วงประมาณสมัยรัชกาลที่ 5 นะคะ แต่ถึงจะวางไว้เป็นช่วงนั้นอยากบอกว่าวางเรื่องประวัติศาสตร์ลงก่อนได้เลยค่ะ

เพราะอาจจะมีหลายอย่างในเรื่องนี้ที่สายประวัติศาสตร์อาจไม่จอยได้ค่ะ เพราะฉะนั้นอยากให้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นแนว Mpreg หรือผู้ชายในเรื่องสามารถท้องได้ค่ะ จึงอาจจะมีผู้ที่ไม่ถูกใจแนวนี้อยู่บ้าง

หากไม่ชอบแนวนี้สามารถผ่านเรื่องนี้ได้เลยค่ะ ไว้เจอกันเรื่องใหม่ที่มีแววใจตรงกันนะคะ :)

ยินดีรับคำติชมเสมอสามารถเม้นพูดคุยกันได้เสมอเลยค่ะ

ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะเจ้าค่ะ


เรื่องนี้มี 32 บทและจะติดเหรีญตั้งแต่บทที่ 7 เป็นต้นไปค่ะ
มี E-book ใน meb นะคะ พร้อม 3 ตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊คเท่านั้น
 



สารบัญ

แปลกคนโปรด (mpreg)-บทนำ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๓ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๔ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๕ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๖ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๗ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๘ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๙ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๐ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๑ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๒ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๓ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๔ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๕ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๖ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๗ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๘ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๙ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๐ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๑ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๒ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๓ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๔ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๕ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๖ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๗ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๘ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๙ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๓๐ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๓๑ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๓๒ .

เนื้อหา

๓ .

เรือนคุณพระเทิดบัดนี้ชานเรือนเต็มไปด้วยแขกผู้ใหญ่หลายคน หากแต่การรวมตัวของผู้มียศถาบรรดาศักดิ์บนเรือนในตอนนี้ไม่ได้เกิดจากการมาร่วมเป็นสักขีพยานการออกเรือนของบุตรชายเมียฝรั่งของหลวงเทพเหมือนเช่นจุดประสงค์แรก แต่กลับกลายเป็นสักขีพยานการไต่สวนสืบความของเหตุผิดจารีตกลางเรือนแทนเสียแล้ว

หลวงเทพรู้สึกตัดสินใจผิดถนัดเมื่อตนฝืนขัดคำสั่งคุณหญิงแก้วผู้เป็นมารดาเอ่ยเชิญเจ้าพระยาสารมาเป็นแขกในงานวันนี้ แม้ไม่ได้เชิญแขกมากมายเพราะตั้งใจจะจัดเพียงพิธีผูกข้อไม้ข้อมือเท่านั้น ทีแรกหลวงเทพคิดว่าหากมีผู้ใหญ่รับรู้การเกี่ยวดองของตระกูลตนกับนายห้างใหญ่ชาวฝรั่งของพระนครน่าจะถือเป็นการดีในหน้าที่การงานในอนาคต ไม่คิดว่าการเชิญเจ้าพระยาสารมาในวันนี้จะกลับกลายเป็นเชือกผูกมัดรัดตัวไม่ให้ได้ตัดสินใจสิ่งใดตามอำเภอใจได้

“กระผมไม่ยอม กระผมสู่ขอพ่อแปลกแล้ว ทั้งสินสอดก็ยกให้หลวงเทพไปมากมาย อย่างไรพ่อแปลกก็ต้องออกเรือนไปกับกระผม” นายฝรั่งโวยวายลั่นเรือน ทั้งมือยังเอื้อมคว้าจะดึงเอาแขนเรียวลากคนตัวผอมบางเข้าไปข้างตัว หากหลวงยศไม่เบี่ยงตัวบังเสียก่อนคนตัวเล็กคงปลิวไปตามแรงกระชาก

“กระผมขออภัยที่สั่งสอนบุตรชายได้ไม่ดี ก่อเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ในเรือนผู้อื่น” เจ้าคุณยิ่งยกมือไหว้ท่านเจ้าคุณสารผู้นั่งอยู่กลางชานบ้าน

แปลกรู้สึกตัวเองช่างตัวเล็กจ้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้คนมากมายซึ่งล้วนมีอำนาจใหญ่โตกว่าตัวเขาทั้งสิ้น ดวงตาสีสวยหลุบต่ำไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองผู้ใด รู้ซึ้งถึงคำว่าตัวกาลกิณีที่ใครต่อใครพร่ำบอกมาแต่เล็กแต่น้อย เหยียบไปเรือนไหนก็พลอยแต่สร้างปัญหาให้เจ้าของเรือน ใครลดตัวเข้ามาเกี่ยวข้องก็พลอยเสื่อมเกียรติเสียชื่อ

หลวงยศผู้ซึ่งหวังดีกับเขามาเสมอต้องยอมเสื่อมเกียรติให้คนครหาว่าลักลอบผิดจารีตร่วมเรือนกับเขาทั้งที่ยังไม่ตบแต่งออกเรือนเพื่อช่วยตัวซวยอย่างเขา

เจ้าคุณยิ่งและคุณหญิงบัวผู้มีพระคุณกับเขา เมตตาเอ็นดูเขามาเสมอต้องมาเดือดร้อน ถูกเรียกให้มาเรือนคุณพระเทิดเพื่อฟังคำดูหมิ่นของนายห้างฝรั่งที่โมโหจนเอ่ยถ้อยคำหยาบคาย

ซ้ำเขายังทำให้คนบนเรือนต้องขายหน้าด้วยเหตุลักลอบหลับนอนกับคุณหลวงทั้งที่เป็นวันแต่งงานและมีเจ้าบ่าวเป็นตัวเป็นตน แปลกบีบมือตัวเองแน่นจนข้อขึ้นขาวพยายามไม่ร้องไห้ออกมากับความหายนะที่เกิดขึ้นจากตัวเอง เขาไม่มีสิทธิ์ร้องไห้เสียใจในเมื่อตนเองเป็นต้นเหตุ คนที่ควรเสียใจคือคนบนเรือนนี้ทั้งหมดที่ต้องมาเดือดร้อนเพราะเขา

“อย่าพูดเช่นนั้นเลยเจ้าคุณ ใครทำผิดความผิดก็ตกอยู่กับผู้นั้น โจรทำผิดฉันก็เป็นหลวงท่านจับแค่โจรมิได้จับพ่อแม่โจรมิใช่รึ” ท่านเจ้าคุณสารเอ่ย สายตาน่าเกรงขามทอดมองมายังคุณหลวงหนุ่มผู้ก่อเรื่องงามหน้าในเรือนผู้อื่น หลวงยศผู้นี้คือชายหนุ่มมีความสามารถ ทำงานเรียบร้อยรวดเร็วจนกินตำแหน่งคุณหลวงตั้งแต่อายุยังไม่มาก ท่านเจ้าคุณสารถอนหายใจกับลูกศิษย์ที่สั่งสอนมาเองกับมือ ไม่คิดว่าเด็กหนุ่มสุขุม จะกล้าทำเรื่องน่าอายแบบนี้เสียดาย

“กระผมผิดเองขอรับ กระผมรู้ดีว่าสิ่งที่กระผมทำช่างน่าอายและมิควรอย่างยิ่ง แต่ถึงอย่างไรกระผมก็ได้กระทำไปเสียแล้ว หากท่านเจ้าคุณจะลงโทษหรือตัดสินประการใด กระผมขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว แต่กระผมต้องรับผิดชอบพ่อโปรดที่ได้ล่วงเกินเขาไปเสียแล้วด้วย”

“ได้อย่างไรหลวงยศ พ่อแปลกเป็นเมียฉัน หลวงเทพเขายกพ่อแปลกให้ฉันแล้ว อย่างไรพ่อแปลกก็ต้องกลับเรือนไปกับฉัน” หลวงยศรีบดึงร่างเล็กเข้าหาตัวเมื่อนายห้างฝรั่งคว้าเอาต้นแขนเล็กที่นั่งไม่ทันระวังตัวได้ พร้อมออกแรงกระชากจนผิวขึ้นริ้วแดง แววตาดุดันอย่างที่ไม่เคยมองใครเช่นนี้มาก่อนสบมองนายฝรั่งจนนายจอร์จรู้สึกหวั่นจนถอยตัวกลับไปนั่งที่เดิม

แขนแกร่งกระชับเอวบางไม่ปล่อยห่างตัวอีก ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของคนทั้งเรือน แปลกรีบหลบตาหนีหลวงเทพผู้เป็นพ่อเมื่อบังเอิญสบเข้ากับแววตาวาวโรจน์ รอยริ้วจากฝ่ามือใหญ่ที่แก้มเขายังร้อนผ่าวไม่หาย เขาชาไปทั้งหน้าเมื่อโดยหลวงเทพฟาดฝ่ามือลงมาเมื่อเช้าเสียเต็มแรง

“ฉันไม่มีสิทธิ์ตัดสินลงโทษพ่อยศดอก พ่อยศไม่ได้ทำผิดราชการ แต่ถึงอย่างนั้นก็ผิดต่อจารีตอยู่ดี พ่อเทพไหน ๆ เรื่องก็มาเกิดขึ้นแล้ว จะให้พ่อแปลกออกเรือนไปกับนายจอร์จคงจะไม่ได้...”

“ท่านเจ้าคุณ!” นายฝรั่งร้องลั่น

“ใจเย็นก่อนพ่อ ฉันไม่ได้ให้พ่อกลับไปตัวเปล่าดอก ในเมื่อพ่อแปลกเขาเสียหายไปแล้ว พ่อเทพก็คืนสินสอดพ่อจอร์จเขาไปเสีย”

“แต่ท่านเจ้าคุณเจ้าคะ สินสอดพ่อยอดบางส่วนก็ถูกนำมาจัดงานเสียแล้ว จะให้คืนได้อย่างไร” คุณหญิงแก้วเอ่ยน้ำเสียงร้อนรน

“ส่วนที่ขาดไปฉันยินดีจ่ายให้ และฉันจะให้พ่อยศยกพานธูปเทียนแพมาขอขมาพร้อมยกสินสอดมาสู่ขอพ่อโปรดให้ถูกต้อง” เจ้าคุณยิ่งออกตัวแก้ปัญหาวุ่นวายให้ถูกตามที่ควรจะเป็น

“อย่างไรเล่าพ่อเทพ เจ้าคุณออกปากเช่นนี้ตกลงหรือไม่” ท่านเจ้าคุณสารทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่คนกลางให้กับทุกฝ่ายเอ่ยถามหลวงเทพที่ยังคงมีสีหน้าไม่พอใจนัก แต่ก็เอ่ยตอบรับข้อเสนอด้วยมองว่าเป็นทางที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้แล้ว

แปลกได้ยินเสียงด่าลอยแว่วมาให้ได้ยิน แม้จะเบานักแต่ก็สั่นสะท้านไปทั้งอก คุณอุ่นคงโกรธเขามากที่สร้างความเสื่อมเสียให้ตระกูลของหล่อน ทั้งยังแย่งชิงหลวงยศที่เธอหมายปองมานานหลายปีไปเพียงชั่วข้ามคืน

“กระผมไม่ยอมดอกขอรับ” นายห้างฝรั่งยังคงโวยวายเสียงดัง

“ไม่ได้พ่อแปลก พ่อจอร์จคงไม่สินแม่เรือนดอก หลวงเทพเขาก็จะคืนสินสอดพ่อให้แล้วทั้งเจ้าคุณยิ่งก็ยังสมทบให้อีก พ่อจอร์จมีอะไรที่เห็นไม่สมควรอีกหรือ” เสียงก้องกังวานทรงอำนาจเอ่ยเรียบนิ่งหากแต่น่าเกรงขามจนคนทั้งเรือนไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปากขึ้นคัดค้านอีก เมื่อไม่เป็นไปดั่งใจนายห้างฝรั่งก็เอ่ยขอลากลับด้วยท่าทางไม่สุภาพนัก เสียงเดินลงสนเท้าดังจนถึงบันไดเรือนขั้นสุดท้าย คุณหญิงแก้วถึงกับยกมือทาบอกหยิบพัดขึ้นมาโบกรัว

“ลูกชายกระผมทำเรื่องงามหน้าเช่นนี้ กระผมไม่กล้าจัดงานให้เป็นขี้ปากใครดอก เจ้าคุณจะยกสินสอดมาให้วันใดก็แจ้งมาเถิดกระผมจะให้แม่อุ่นไปรับถึงเรือน ส่วนลูกชายกระผมขอยกให้เรือนเจ้าคุณเสียตั้งแต่วันนี้ ขืนรั้งให้อยู่เรือนต่อรอขันหมากอีกรอบคงได้อายไปทั้งคุ้งน้ำ”



“คุณแปลกเจ้าคะ คุณแปลก ให้บ่าวตามไปด้วยเถิด บ่าวอยู่เรือนนี้ต่อไปคงตายแน่ คุณหลวงเจ้าคะ เมตตารับอิฉันไว้รับใช้ในเรือนสักคนเถิด” ชื่นวิ่งมาเกาะกราบเรือเรือนเจ้าคุณยิ่งก่อนที่จะออกจากท่า

“เดิมทีอิฉันเป็นลูกของบ่าวคุณกุหลาบอยู่แล้วมิได้มีสิ่งใดติดพันกับเรือนนี้ อีกอย่างคุณหญิงแก้วก็เพิ่งเอ่ยไล่อิฉันออกจากเรือนมาเดี๋ยวนี้เอง อิฉันไม่มีที่ไปไหนอีกแล้วเจ้าค่ะ รับอิฉันไปด้วยเถิด” หลวงยศมองหญิงสาวที่ออกตัวช่วยเขามาหลายวันเพียงครู่เดียวก็เอ่ยรับคำ ยอมให้หล่อนขึ้นเรือกลับเรือนไปพร้อมกัน

ตาคมคอยมองคนด้านหน้าที่นั่งตัวเล็กลีบก้มหน้าเงียบตั้งแต่ออกจากเรือนคุณพระเทิด มือเรียวกำหีบเล็กไว้แน่น ไหล่บางสั่น แววตาหลวงยศหม่นลงเมื่อเห็นคนตรงหน้าเศร้าหมอง เขาไม่รู้ว่าจะปัดเป่าความทุกข์ใจที่ตนเป็นคนสร้างให้คนตัวเล็กเองกับมือออกไปเช่นไรดีในเวลาเช่นนี้ ยังไม่ทันหมดวันคนคนนี้ก็พบเจอเรื่องมากมายเหลือเกิน ทั้งโดนเสื่อมเกียรติถูกทำให้เข้าใจว่าแอบลักลอบสมยอมหลับนอนกับเขา ทั้งยังโดนตบตีจนขึ้นช้ำทั้งหน้าทั้งแขน แล้วยังถูกครอบครัวแท้ ๆ เพิ่งไล่ออกจากเรือนอย่างไม่ไยดีเช่นนี้ คิดแล้วหัวใจดวงเล็กคงแตกร้าวจนเขาไม่แน่ใจว่าจะเยียวยาได้อย่างไรให้ไม่แตกสลายร่วงลงกองกับพื้น

เมื่อมาถึงเรือนเจ้าคุณยิ่ง คุณหญิงบัวเดินเข้ามารับสะใภ้ ฝ่ามืออบอุ่นแตะรอยแดงที่ขึ้นริ้วอย่างเบามือ

“เจ็บมากไหมลูก ขึ้นเรือนกลับแม่ ไม่ต้องกลัวอีกแล้ว อยู่กับแม่ขอจงแคล้วคลาดทุกอันตรายนะลูก” คุณหญิงบัวเป่ารับขวัญก่อนจะจูงมือพาคนอ่อนแรงขึ้นเรือนใหญ่ หลวงยศมองตามหลังเล็กจนลับหายไปในเรือนกับผู้เป็นแม่ ก่อนจะนั่งลงที่พื้นท่าน้ำตรงหน้าเจ้าคุณยิ่ง

บ่าวไพร่ที่ตามไปเรือนคุณพระเทิดและตามกลับมาเรือนนี้ต่างขนของพากับแยกย้ายไปตามหน้าที่ตน เจ้าคุณยิ่งมองลูกชายพนมมือกราบลงตัก มือใหญ่ย่นตามวัยยกขึ้นลูบหัวบุตรชาย

“ลูกกราบขอขมาเจ้าคุณพ่อที่ลูกทำให้เสื่อมเกียรติ เสื่อมวงศ์ และลูกกราบขอบพระคุณที่เจ้าคุณพ่อยอมให้ลูกกระทำการอันเสื่อมเสียนี้ ลูกขอสัญญาว่าต่อจากนี้จะครองตนให้ดีไม่ให้มีเรื่องเช่นนี้ให้เจ้าคุณพ่อได้ทุกข์ใจกับลูกอีก”

“เมื่อช่วยมาแล้ว ก็จงดูแลให้ดี อย่าได้ทิ้งขว้างเหมือนเด็กได้ของ เมื่อเล่นจนเบื่อแล้วก็จะโยงทิ้งอย่างนั้นใช้ไม่ได้ ครั้งนี้หากไม่ใช่พ่อโปรด และไม่ใช่เพราะลูกเอ่ยปากขอ พ่อคงไม่ยอมเช่นนี้ ถึงอย่างไรก็ใช่ว่าจะบังคับฝืนใจน้อง ทำตนให้ดี อย่าได้ทำเช่นเดียวกับคนที่น้องเพิ่งหนีมา” หลวงเทพเอ่ยรับคำผู้เป็นพ่อด้วยเสียงหนักแน่น



“แม่จะให้น้องนอนเรือนนี้จนหายดีเสียก่อน อย่างไรก็จะต้องผูกข้อไม้ข้อมือทำตามพิธีให้ถูกต้อง ในเมื่อยังไม่ตบแต่งออกเรือนเป็นจริงเป็นจังก็ต้องแยกเรือนอยู่เสียก่อน ทนรอได้หรือไม่พ่อยศ” คุณหญิงบัวเอ่ยถามบุตรชายหลังปรึกษาหารือกับเจ้าคุณยิ่งเรื่องสะใภ้คนนี้

“ได้ขอรับ”

“ส่วนแม่ชื่นแม่จะให้เป็นบ่าวติดตัวพ่อโปรดเหมือนเดิม อย่างไรก็เคยดูแลกันมา”

“แล้วน้องเป็นอย่างไรบ้างขอรับคุณแม่” หลวงยศมองตามสายตาคุณหญิงบัวไปยังบานประตูไม้ด้านในเรือน

“คงช้ำทั้งตัวทั้งใจนั่นล่ะ ตั้งแต่ขึ้นเรือนมาก็ยังไม่พูดจากับใคร แม่ให้ชื่นพาไปพักในห้องเดิมแม่ปิ่นเขา นี่ก็เพิ่งจะยกลูกประคบเข้าไป” คุณหญิงบัวถอดถอนใจด้วยเป็นห่วงเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ต่างจะลูกในไส้ เช่นเดียวกับบุตรชายของเธอที่มองประตูไม้เสียไม่วางตา

“รอน้องหายดีเสียก่อน อย่างน้อยก็รอยช้ำที่ตัว เมื่อหายแล้วเจ้าคุณพ่อจะไปขอฤกษ์มาให้”



เป็นเวลาหลายวันที่เจิดถูกสั่งให้ขนเอกสารขนหนังสือทั้งชุดหมึกและเครื่องเขียนขึ้นลงไปมา เมื่ออยู่ ๆ หลวงยศก็นึกอยากลงมาทำงานที่ศาลาข้างล่างเสียเฉย ๆ

ทีแรกเขาไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมหลวงยศถึงอยากลงมาทำงานข้างล่างที่ศาลาเปิดโล่งเช่นนี้ ลมก็พัดเย็นสบายดีอยู่ดอก แต่ก็พัดเอาเอกสารปลิวไปด้วยลำบากเขาต้องตามวิ่งเก็บเสียหลายครั้ง เจิดคิดเองเออเองว่าหลวงยศดูท่าจะเบื่อนั่งทำงานที่โต๊ะตัวเดิมบนเรือนเสียแล้ว

แต่เมื่อนั่งเฝ้านายทำงานมาหลายวันเขาจึงตกตะกอนได้ว่า ที่หลวงยศลำบากลำบนสั่งเขาขนข้าวขนของลงมาเช้าเก็บขึ้นเย็นอยู่หลายวันเช่นนี้คงเป็นเพราะจะได้เฝ้ามองหน้าต่างเรือนใหญ่ของเจ้าคุณยิ่งได้ถนัดเสียมากกว่า จะไม่ให้คิดเช่นนี้ได้อย่างไร ในเมื่อที่ไอ้เจิดผู้นี้วิ่งเก็บเอกสารเสียหลายทีก็เพราะผู้เป็นนายเอาแต่จ้องมองหน้าต่างจนปล่อยเอกสารหลุดมืออย่างไรเล่า

“เก็บดอกปีบอีกแล้วหรือขอรับ” เจิดถามขึ้นขณะเก็บของมากมายของผู้เป็นนายที่ทิ้งไว้บนศาลาหลังเสร็จงานเหมือนทุกวัน

“เงียบปากเป็นหรือไม่เอ็ง”

“เอาใบตองทำกรวยห่อดีไหมขอรับ เจิดจะไปตัดมาให้เสียเดี๋ยวนี้” เจิดเอ่ยแซวหลวงยศเช่นทุกวัน ใช่ว่าเขาไม่เกรงกลัวผู้เป็นนาย หากแต่ช่วงนี้หลวงยศดูจะโกรธใครยากนักตั้งแต่ได้กลีบบัวมวนยาเส้นที่นางชื่นนำลงมาให้เมื่อวานก่อน

“ข้าให้ทำอะไรก็รีบทำเสีย หากยังปากมากข้าจะเอาหวายทวนหลัง” เจิดรับคำเสียงดังรีบเก็บข้าวของในศาลาขึ้นเรือน แม้จะเอ่ยปากคาดโทษเขาแต่ไยหลวงยศยืนยิ้มกับดอกปีบกำเล็กในมืออย่างนั้นเล่า



“คุณแปลก อุ้ย ขอโทษเจ้าค่ะ คุณโปรด” ชื่นยังคงไม่ชินกับชื่อใหม่ของนายลูกครึ่งของเธอที่คุณหญิงบัวให้เอ่ยเรียก

“เรียกตามเดิมเถิด แปลกไม่ถือดอกพี่ชื่น”

“ไม่ได้ดอกเจ้าค่ะ คุณหญิงบัวได้ยินเข้าบ่าวจะโดนหวายเอาได้” แปลกเองก็ยังไม่คุ้นชินกับชื่อใหม่ของตนนัก แม้จะเป็นชื่อที่ถูกคนเรือนนี้เรียกตั้งแต่ยังเล็ก แต่ก็ห่างหายไม่ได้ยินไปเสียหลายปีจนไม่ชินหูเท่าแต่ก่อน

“ดอกปีบเจ้าค่ะ หลวงยศท่านฝากบ่าวมาให้เช่นทุกวัน วันนี้กำเล็กหน่อย” ชื่นส่งช่อดอกบีบช่อเล็กให้ผู้เป็นนาย ชายหนุ่มลูกครึ่งยกขึ้นมาดมและยกยิ้มกับช่อดอกไม้ ชื่นเพิ่งพบว่ารอยยิ้มของนายหนุ่มผู้นี้ช่างน่ามองนัก เธอไม่เคยเห็นมาก่อนตอนอยู่เรือนเจ้าคุณเทิด ผิวขาวผ่องนวลขึ้นเมื่อแสงจันทร์รอดผ่านบานหน้าต่างลงมากระทบ ผมสีอ่อนปลิวตามลมที่พัดผ่านเข้ามา ทุกอากัปกิริยาช่างหน้ามองไปเสียหมด ชื่นนึกสงสัยว่าที่ผ่านมาทำไมเธอถึงไม่เคยสังเกตเห็นความงดงามนี้ หรืออาจจะเพราะยุ่งวุ่นวายกับงานในเรือนจนมองไม่เห็น

ตอนอยู่เรือนนู้นเธอคือคนที่คอยจัดสำรับขึ้นไปบนเรือนเล็กให้บุตรชายหลวงเทพผู้นี้เป็นประจำและเป็นคนที่คอยดูแลจัดเตรียมเสื้อผ้าให้ แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ตามรับใช้เหมือนบุตรคุณหลวงคนอื่น ๆ บุตรชายที่เกิดจากคุณกุหลาบหรือคุณโรสเมียชาวฝรั่งของหลวงเทพไม่เคยมีบ่าวตามรับใช้มาแต่ไหนแต่ไร ถึงเช่นนั้นก็ดูคุณโปรดจะใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ไม่ลำบากมากนัก ออกจะทำอะไรคล่องแคล่วเสียด้วยซ้ำ ทั้งยังหัวไวกว่าบุตรคุณหลวงทั้งหมดแม้ได้นั่งเรียนเพียงขอบศาลาเท่านั้น

ทีแรกที่ชื่นพบกับหลวงยศในคืนวันหนึ่งเธอตกใจมากทีเดียวที่หลวงยศมาขอให้เธอช่วยเรื่องคืนก่อนงานแต่ง เธอไม่ได้เต็มใจช่วยแต่ตอบรับคำด้วยเกรงในยศคุณหลวง แต่ตอนนี้ชื่นยังนึกขอบคุณความกลัวของตัวเองในวันนั้นที่นำพาเธอมาอยู่เรือนหลังนี้ เรือนเจ้าคุณยิ่งช่างสงบกว่าเรือนคุณพระเป็นไหน ๆ

“มีอะไรหรือเจ้าคะ” ชื่นเอ่ยถามนายหนุ่มเมื่ออยู่ ๆ คุณโปรดก็หันหลังให้ช่องหน้าต่างใบหน้าแดงซ่าน แต่เมื่อเสียงเพลงขลุ่ยไพเราะหวานหูดังขึ้น ชื่นก็ทราบคำตอบโดยทันที เธอจำได้ว่าเธอเห็นหลวงยศถือขลุ่ยติดมือไว้ตอนที่ส่งช่อดอกปีบให้เธอก่อนขึ้นเรือน

แต่สิ่งที่ชื่นยังไม่มั่นใจนักว่าสาเหตุใบหน้าแดงซ่านของผู้เป็นนายมาจากสิ่งใดแน่ระหว่างเสียงเพลงขลุ่ยหวานหูเพลงนี้ หรือ คนเป่าที่สร้างสรรค์เสียงบรรเลงผู้เป็นเจ้าของดอกปีบในมือ หรืออาจจะเป็นประโยคที่คุณหญิงบัวเอ่ยบอกเมื่อตอนสำรับเย็นวันนี้



“พ่อโปรด เจ้าคุณพ่อท่านได้ฤกษ์แต่งออกเรือนกับพ่อยศแล้วนะลูก”