เพื่อช่วยเด็กแปลกประหลาดคนหนึ่งให้พ้นจากการถูกจับแต่งงานกับนายห้างฝรั่งแก่ หลวงยศถึงกับยอมลงทุนสละตนเองลงไปแปดเปื้อนเพียงเพื่อช่วงชิงตำแหน่งเจ้าบ่าวมาเป็นของตนโดยไม่สนชื่อเสียงหรือคำนินทาใด

แปลกคนโปรด (mpreg) - ๖ . โดย summer_T @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ย้อนยุค,ไทย,boylove ,yaoi,วายพีเรียด,mpreg,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แปลกคนโปรด (mpreg)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ย้อนยุค,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

boylove ,yaoi,วายพีเรียด,mpreg,นิยายวาย

รายละเอียด

เพื่อช่วยเด็กแปลกประหลาดคนหนึ่งให้พ้นจากการถูกจับแต่งงานกับนายห้างฝรั่งแก่ หลวงยศถึงกับยอมลงทุนสละตนเองลงไปแปดเปื้อนเพียงเพื่อช่วงชิงตำแหน่งเจ้าบ่าวมาเป็นของตนโดยไม่สนชื่อเสียงหรือคำนินทาใด

ผู้แต่ง

summer_T

เรื่องย่อ


แปลก

 

เด็กหนุ่มลูกครึ่งของพ่อผู้มียศถึงคุณหลวงกับเมียฝรั่งคนหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะมีบุตรด้วยกัน

แต่นั่นไม่แย่เท่ากับในวินาทีแรกที่เด็กทารกรูปลักษณ์แปลกแยกคลอดออกมา

ความวุ่นวายก็มาเยือนเรือน จนเป็นที่ชังของคนทั้งเรือนพร้อมกับคำเรียกว่า "ตัวกาลกิณี"

เขาเลือกจะอยู่เงียบ ๆ ไม่เรียกร้องอะไร แม้จะไม่เป็นที่รักใคร่แต่การอยู่เป็นคนที่ถูกมองข้ามก็ยังดีกว่าโดนขับไล่ไสส่ง

แต่ทว่าในวันหนึ่งตัวซวยอย่างเขาจะถูกจัดแต่งงานโดยที่ไม่มีใครคิดถามความยินยอม และเขาเองก็ไม่มีสิทธิต่อต้าน

 

 

 

.................

 

หลวงยศ 


 

คุณหลวงพ่อหม้ายที่ปล่อยตำแหน่งแม่เรือนให้ร้างว่างไว้มาหลายปี ไม่มีวี่แววจะถูกใจหรือไปสู่ขอแม่หญิงคนไหน

ครองตัวโดดเดี่ยวเมินสายตาหวานเชื่อมของหนุ่มสาวท้งพระนคร 

ด้วยรูปร่างหน้าตา ยศศักดิ์ ทรัพย์ และชาติตระกูล อีกทั้งท่าทีสุขุมน่าเกรงขาม

ใครจะคิดว่าวันหนึ่งหลวงยศที่วางตัวดีมาเสมอจะยอมสละตัวลงไปแปดเปื้อนให้เสี่ยงต่อการเสื่อมเกียรติ

เพียงเพื่อช่วยเด็กหนุ่มแปลกประหลาดที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวกาลกิณีแค่คนเดียว

 

 

.................

 

Talk : setting ในเรื่องเป็นช่วงประมาณสมัยรัชกาลที่ 5 นะคะ แต่ถึงจะวางไว้เป็นช่วงนั้นอยากบอกว่าวางเรื่องประวัติศาสตร์ลงก่อนได้เลยค่ะ

เพราะอาจจะมีหลายอย่างในเรื่องนี้ที่สายประวัติศาสตร์อาจไม่จอยได้ค่ะ เพราะฉะนั้นอยากให้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นแนว Mpreg หรือผู้ชายในเรื่องสามารถท้องได้ค่ะ จึงอาจจะมีผู้ที่ไม่ถูกใจแนวนี้อยู่บ้าง

หากไม่ชอบแนวนี้สามารถผ่านเรื่องนี้ได้เลยค่ะ ไว้เจอกันเรื่องใหม่ที่มีแววใจตรงกันนะคะ :)

ยินดีรับคำติชมเสมอสามารถเม้นพูดคุยกันได้เสมอเลยค่ะ

ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะเจ้าค่ะ


เรื่องนี้มี 32 บทและจะติดเหรีญตั้งแต่บทที่ 7 เป็นต้นไปค่ะ
มี E-book ใน meb นะคะ พร้อม 3 ตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊คเท่านั้น
 



สารบัญ

แปลกคนโปรด (mpreg)-บทนำ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๓ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๔ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๕ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๖ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๗ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๘ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๙ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๐ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๑ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๒ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๓ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๔ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๕ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๖ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๗ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๘ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๑๙ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๐ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๑ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๒ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๓ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๔ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๕ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๖ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๗ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๘ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๒๙ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๓๐ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๓๑ .,แปลกคนโปรด (mpreg)-๓๒ .

เนื้อหา

๖ .

แสงแดดอ่อนยามเช้าลอดผ่านความโปร่งบางของผ้าม่านขาว ส่องกระทบต้องแหวนมรกตบนนิ้วมือใหญ่ขึ้นแสงระยับสวยงามที่พาดวางบนเอวเล็กของคนผิวขาวราวน้ำนม นัยน์ตาสีเดียวกับหัวแหวนล้อมกรอบด้วยแพขนตางอนยาวมองผนังไม้ห้องนอนอย่างเลื่อนลอย ร่างเล็กลอบถอนหายใจเมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ในเช้านี้ดี

แดดอ่อนส่องสว่างยังไม่ทั่วท้องฟ้าดีนัก แต่เวลานี้ก็นับว่าสายกว่าทุกทีที่เขาตื่นแล้ว อาจเพราะเมื่อวานต้องตื่นแต่เช้ามืดและทำอะไรในงานมากมายทั้งยังต้องเผชิญกับความรู้สึกหลากหลายทำให้เพลียกว่าปกติ เขาหลับลงเมื่อไหร่ก็สุดจะหาคำตอบได้ แต่สิ่งที่ทำให้แปลกต้องมานอนถอดถอนใจอยู่นี้คงเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ตนตื่นขึ้นมา

สัมผัสอุ่นแผ่วเบาที่หลังต้นคอเมื่อไม่นานนี้ยังคงแผ่ความอุ่นซ่านไปทั้งใบหน้า หากแต่เมื่อลืมตาตื่นผู้ต้องสงสัยกลับยังคงหลับใหลไม่รู้เรื่อง หรือเขาคิดไปเองอย่างนั้นหรือ ความเหนื่อยล้าอาจทำให้เขาสับสนได้ในเช้านี้ แต่แขนใหญ่ที่พาดทับเอวเขาไว้เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน แปลกไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรดี ควรนอนต่อไปไม่รบกวนการหลับของหลวงยศรอให้เจ้าของลำแขนตื่นและยกออกไปเองแล้วแสร้งว่าตนเองยังหลับไม่รู้สิ่งใด หรือควรนำตัวออกจากอ้อมกอดที่ไม่รู้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใดแล้วค่อย ๆ ย่องเท้าออกจากห้องไปเงียบ ๆ

เมื่อนอนนิ่งมาได้สักครู่แล้วร่างเล็กจึงรวบรวมความกล้าค่อย ๆ ยกลำแขนแกร่งออกจากเอวตนด้วยความเบามือ ใบหน้าลอบหันไปมองคนหลับเป็นพัก ๆ คอยสังเกตว่าคนหลับรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหรือไม่ เมื่อสำเร็จจึงค่อยขยับตัวออกลุกนั่งด้วยเสียงเบาที่สุด ก่อนที่เท้าเล็กจะค่อย ๆ ก้าวเดินออกไปยังบานประตูไม้ราวกับแมวเด็กลอบขโมยปลาย่างครั้งแรก มือเรียวขาวคว้าบานประตูปิดลงเช่นเดิมเมื่อออกมาจากห้องได้สำเร็จ ปากบางพรูลมหายใจอย่างโล่งอก โดยที่ไม่รู้เลยว่าปลาย่างตัวใหญ่ในห้องเฝ้ามองทุกการกระทำตั้งแต่ขาเล็กก้าวลงเตียงด้วยรอยยิ้มขัน จ้องมองแมวเด็กด้วยความเอ็นดูสุดหัวใจ

นายหญิงคนใหม่ของหลวงยศก้าวลงจากเรือน แปลกพบว่าพี่ชื่นมารอตนหน้าเรือนอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นนายตนลงมาจึงพากันเดินตรงไปยังเรือนใหญ่ เขาตั้งใจว่าจะเข้าไปช่วยคุณหญิงบัวเตรียมสำรับเช้านี้ ขาเรียวเร่งฝีเท้าเข้าไปในโรงครัวเมื่อเห็นว่าตนลงเรือนมาก็เป็นเวลารุ่งสางเสียแล้ว

คุณหญิงบัวหันมายกยิ้มรับไหว้เขาอยู่หน้าหม้อต้มที่บ่าวกำลังตักของในหม้อให้คุณหญิงชิม แปลกเห็นว่าสำรับบางส่วนถูกนำมาใส่ลงถ้วยลายครามเตรียมรอนำขึ้นตั้งบนเรือนใหญ่แล้ว สะใภ้คนเล็กมองบ่าวไพร่มากมายขะมักเขม้นทำงานที่ตนทำอยู่ไปมาด้วยไม่รู้ว่าจะวางตัวเองไว้ตรงไหนของครัวดี แม้เขาจะมีโอกาสเข้ามาเป็นลูกมือช่วยคุณหญิงบัวในครัวบ้าง แต่ในตอนนั้นตนไม่ได้อยู่ในสถานะเช่นนี้ ทั้งยังเคยเข้ามาช่วยเพียงแค่ทำขนมว่างหรือเข้ามาเป็นลูกมือยามคุณหญิงบัวอยากทดลองอาหารใหม่ ๆ เท่านั้น ไม่เคยเข้าครัวยามเตรียมสำรับมื้อหลักเลยสักครั้ง

“พ่อโปรด ๆ มานั่งกับพี่ตรงนี้” แปลกหันตามเสียงเรียกก็เห็นคุณปิ่นนั่งอยู่ถัดจากจุดที่เขายืนไปไม่ไกล เขาจึงไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปหา

“ช่วยพี่เตรียมยำถั่วพูได้หรือไม่ เดี๋ยวพี่จะไปช่วยคุณแม่ท่านเตรียมแกงตรงนู้น” คุณปิ่นเอ่ย แปลกรับคำด้วยความเต็มใจ เมื่อฟังเธอแจงขั้นตอนที่ทำค้างไว้เสร็จจึงลงมือปรุงยำต่อ ปล่อยหญิงสาวลุกขึ้นไปช่วยแม่ตามคำบอก

ชื่นมองนายของตนหยิบจับเครื่องยำลงปรุงอย่างคล่องแคล่ว นึกชื่นชมคุณหญิงบัวที่สอนคุณโปรดมาดีเหลือเกิน ตอนอยู่เรือนเดิมคุณโปรดไม่แม้แต่จะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในครัวด้วยคุณหญิงแก้วเคยสั่งว่าไม่ต้องการกินรสมือของหลานชายแสนชังคนนี้ให้เป็นอัปมงคลชีวิต เธอจึงไม่เคยเห็นคุณโปรดทำอาหารมาก่อน มาตามใกล้ชิดได้เพียงไม่นานมีเรื่องมากมายเหลือเกินที่ทำให้หล่อนทั้งประหลาดใจและประทับใจในตัวนายของตน ทั้งวาจาไพเราะไม่ถือตัว ในตอนนี้ชื่นนับถือเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างเต็มดวงใจ และนึกอยู่เสมอว่าในอดีตคุณโปรดจะถูกละเลยเพียงใดจากบ่าวไพร่และคนในเรือนคุณพระเทิด ต่อแต่นี้เธอจะรับใช้ดูแลให้ดีชดเชยให้เหมาะสมและจะดูแลให้ดีเสียยิ่งกว่าที่นางช้อยดูแลคุณอุ่นเสียอีก

ยำถั่วพูถูกจัดลงสำรับพร้อมผักสดเคียงเรียงไว้อย่างสวยงาม ไม่นานแกงป่าห้าสมุนไพรของคุณหญิงบัวก็ตักลงถ้วยวางลงสมทบบนสำรับ บ่าวคนหนึ่งนำไก่ทอดมะแขว่นมาวางเป็นอย่างสุดท้าย เมื่อครบคุณหญิงบัวจึงสั่งให้ยกขึ้นไปเตรียมบนเรือน

“ช่วยได้มากทีเดียว ปิ่นคงวางใจได้ว่าคุณแม่จะไม่เหนื่อยอีกแล้วได้สะใภ้คนนี้มาร่วมเรือน” คุณปิ่นนั่งลงข้างกับคนตัวบางที่ลุกขึ้นประคองคุณหญิงบัวนั่งลงไม่ห่างกัน

“แปลกขอโทษขอรับ ที่วันนี้ลงมาเสียสายแล้ว” คุณหญิงบัวลูบหัวกลมอย่างไม่ถือสา ยกยิ้มอบอุ่นส่งให้สะใภ้คนเล็กของเรือน ต่างจากคุณปิ่นที่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะโน้มตัวลงเข้ามาใกล้ผู้เป็นแม่และน้องสะใภ้พูดด้วยเสียงเบาที่ทำคนฟังถึงกับหน้าร้อนผ่าวราวกับไปอังเตาไฟทั้ง ๆ ที่ตนเพียงแค่นั่งปรุงยำเท่านั้น

“ตายศทำน้องเหนื่อยมากรึ พี่จะได้ปรามให้”

“มะ ไม่ ไม่ใช่นะขอรับ” แปลกละล่ำละลักตอบกลับ ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อจนคนเห็นพากับยกยิ้มเอ็นดู

“แม่ปิ่น ดูพูดจาเข้าเป็นหญิงพูดเช่นนี้ได้รึ” คุณหญิงบัวตีมือลงตักบุตรสาวไม่แรงหนัก หากแต่ตัวเองก็ยังหัวเราะชอบใจ

“ดูสิน้องเขินหน้าแดงขนาดนี้แล้ว หยุดเถิดแม่ปิ่น” คุณหญิงบัวเอ่ยปรามบุตรสาวอีกคราเมื่อคุณปิ่นยังคงเอาแต่จ้องรอคอยคำตอบจากน้องสะใภ้ด้วยดวงตาวาวระยับ

“เจ้าค่ะ ๆ พ่อโปรดไปอาบน้ำอาบท่าล้างกลิ่นฝืนกลิ่นไฟเสียเถิด เสร็จแล้วจะได้ไปดูแลพี่เขาต่อ ป่านนี้แล้วพ่อยศคงตื่นแล้วกระมัง เสร็จแล้วมารับสำรับพร้อมแม่ที่เรือนนะลูก” คุณหญิงบัวและคุณปิ่นลุกกลับขึ้นเรือนเพื่อแยกย้ายไปชำระกายก่อนรับสำรับเช้าเช่นกัน

คนเพิ่งเคยเป็นแม่เรือนนั่งตาเบิกโพลงเอ่ยเร่งบ่าวคนสนิทให้รีบกลับเรือนเล็กเมื่อคิดได้ว่าสามีตนคงตื่นแล้วในเวลานี้ แปลกสาวเท้าถี่จนแทบคล้ายวิ่ง รีบก้าวขึ้นเรือนค่อย ๆ เปิดประตูห้องนอนที่ตนเพิ่งย่องออกไปเมื่อเช้ามืด ภาวนาในใจว่าขอให้หลวงยศยังไม่ตื่นจนกว่าตนจะทำธุระเสร็จเรียบร้อย แต่ดูเหมือนเช้าวันแรกของการออกเรือนนี้เทวดาจะไม่เป็นใจนัก เมื่อเปิดประตูเข้าไปเจอเข้ากับหลวงยศที่ยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมเจิดบ่าวคนสนิทที่ถือเสื้อราชปะแตนเตรียมไว้ในมือ

“เอ็งวางเสื้อข้าลงแล้วออกไปก่อน” เจิดขานรับคำแล้วค้อมตัวเดินออกจากห้องพร้อมชื่นที่ถอยออกไปเช่นกัน

ภายในห้องเหลือเพียงเจ้าของเรือนทั้งสอง แปลกรู้สึกกลัวจนเอาแต่ห่อไหล่ก้มหน้าจนเจ้าของอกกำยำเดินเข้ามาหยุดยืนต่อหน้าร่างเล็กยกมือขึ้นเชยคางมนให้ขึ้นมาสบตาเขา

“ทำไมทำหน้าเช่นนั้นเล่า” เสียงทุ้มเอ่ยใบหน้าคมเข้มไม่มีความโกรธเคืองปรากฏแม้แต่น้อย

“แปลกขอโทษขอรับ ที่ทำอะไรชักช้ามาไม่ทันปรนนิบัติคุณหลวง” ดวงตาคมมองแก้วตาสีเขียวสั่นไหวอย่างรู้สึกผิด เพียงเรื่องแค่นี้ก็จะร้องไห้แล้วหรือ นี่เขาน่ากลัวขนาดนั้นในสายตาคนตัวเล็กนี้ขนาดไหนเทียว

“พี่ว่าสักคำแล้วรึ” ปากบางเม้มเข้าหากัน ดวงหน้ายังไม่คล้ายความกังวลนักจนหลวงยศถอนใจเบา ๆ ยกมือขึ้นลูบหัวปลอบขวัญเด็กน้อยในปกครอง

“ไปช่วยคุณแม่เตรียมสำรับแต่เช้าไม่ใช่รึ ชักช้าเสียที่ไหน”

“แต่แปลกมาไม่ทันเตรียมข้าวของให้คุณหลวง แถมตัวเองก็ยังไม่ได้อาบน้ำอาบท่าเสียด้วยซ้ำนี่ขอรับ”

“พี่ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อันใด กลิ่นฝืนนี่ก็หอมแปลกดีเสียด้วยซ้ำ” ไม่ว่าเปล่าหลวงยศยังก้มใบหน้าลงมาดมกลิ่นฝืนหอมตามคำตนจนปลายจมูกโด่งสวยเฉียดแก้มขาวเพียงนิดสูดลมหายใจเข้าจนได้ยินเสียง

กลิ่นเขม่าฝืนนะหรือหอม

แปลกถดคอเอียงใบหน้าหลบการจู่โจมของบุรุษแพรวพราว สัมผัสปลายจมูกแผ่วผิวที่แก้มชวนให้ความร้อนแล่นริ้วไปทั่วใบหน้า

“งั้นน้องช่วยพี่แต่งตัวก่อนได้หรือไม่ เสร็จแล้วค่อยไปอาบน้ำ พี่จะอ่านหนังสือรอ แล้วไปรับสำรับเช้าที่เรือนใหญ่พร้อมกันกับพี่” ใบหน้าเล็กพยักหน้ารับคำ มือเรียวหยิบเอาเสื้อราชปะแตนสีขาวสะอาดขึ้นมาช่วยสวมให้ร่างใหญ่ นิ้วเรียวค่อยกลัดกระดุมทีละเม็ดด้วยความเชื่องช้าด้วยว่ากลัดเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง แปลกนึกโทษมือใหญ่ทั้งสองข้างที่วางพาดคล้องไว้ที่เอวเขาชวนให้สมาธิแตกกระเจิดกระเจิงทำอะไรเงอะงะจนพานให้ทำสิ่งใดชักช้าไปเสียหมด แต่งตัวให้เจ้าของมือใหญ่นั่นไม่เสร็จเสียที

“เสร็จแล้วรึ” เสียงหัวเราะเบาในลำคอดังขึ้นเมื่อคนตัวใหญ่เอ่ยถามจบ หากแต่ยังไม่ยอมคลายวงแขนออกจากแปลกเสียที

“ขะ ขอรับ คุณหลวงปล่อยเถิดขอรับ”

“แหม กำลังสบายทีเดียว”

สบายงั้นรึ เขาเกร็งไปทั้งตัวจนขาแทบชาแล้ว แปลกรีบจัดการข้าวของส่วนตัวลงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อให้เสร็จเรียบร้อยเมื่อหลวงยศยอมปล่อยเขาออกจากพันธนาการ เขาใช้เวลาเพียงไม่นานเพราะไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องรอ

“ขอโทษขอรับคุณหลวง” แปลกเดินเข้ามานั่งข้างลวงยศที่อ่านหนังสือรออยู่ที่ชานเรือนเล็ก กลิ่นหอมอ่อนจากกายบางหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ลอยมาให้ได้ชื่นใจเจ้าของเรือนจนต้องปิดหนังสือหันไปมองคู่สนทนา แต่หลวงยศก็ยังนึกขัดใจอยู่บ้างที่คนตรงหน้าเอาแต่เอ่ยขอโทษกับแสดงใบหน้ารู้สึกผิดเช่นนั้นตั้งแต่เช้าวันแรกของการเป็นคู่ชีวิต

“ขอโทษเป็นอย่างเดียวรึ” เขาไม่ได้ตั้งใจจะต่อว่าร่างเล็กนี่สักนิด หากแต่พูดด้วยขัดใจในกิริยาของคนตรงหน้าไม่อยากให้ทำเหมือนตนสูงส่งเหลือเกินเช่นนี้ แต่คงเพราะตนเลือกใช้น้ำเสียงนิ่งไปเสียหน่อย คนโดนถามจึงหน้าเจื่อนลงถนัดตา

“พี่ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองน้องแม้สักนิด เพิ่งเป็นแม่เรือนวันแรกเองไม่ใช่รึ ทำได้เพียงนี้ก็เก่งแล้ว อย่าโทษตัวเองให้มากนักเลย” หลวงยศวางมือลงบนกลุ่มผมนิ่ม นิ้วมือใหญ่หยิบจับเส้นผมบางเส้นจัดให้เข้าที่ เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มอ่อนลงจากทีแรก

“เจิดมันก็ทำหน้าที่ดูแลพี่เคยชินเสียแล้ว อาจเผลอลืมไปว่าตอนนี้พี่ออกเรือนมีเมียเป็นตนแล้ว หากน้องรู้สึกไม่ดีเย็นนี้พี่จะรอให้น้องปรนนิบัติดีหรือไม่” แม้จะฟังคำปลอบให้เบาใจว่าหลวงยศไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองที่ตนทำหน้าที่เมียได้ไม่ดีนักในวันแรก แต่กลับรู้สึกร้อนซ่านไปทั้งกายเมื่อได้ยินว่าหลวงยศจะให้ตนปรนนิบัติในเย็นวันนี้ คำหลวงยศหมายถึงการจัดเตรียมข้าวของให้เพียงเท่านั้น แต่ทำไมฟังแล้วชวนใบหน้าร้อนเช่นนี้

สำรับข้าวในเช้าวันนี้บนเรือนใหญ่ช่างครึกครื้นยิ่งนัก เจ้าคุณยิ่งไล่สายตามองคนร่วมสำรับอย่างอิ่มใจ สิ่งใดจะสุขใจคนเป็นพ่อได้เท่าเห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝา คุณหญิงบัวคอยตักกับข้าวส่งให้ทั้งบุตรสาวบุตรชายและสะใภ้รวมถึงเจ้าคุณยิ่งผู้เป็นสามีจนตนเองกินข้าวได้น้อยคำนัก แต่ใบหน้ากลับแช่มชื่นเต็มไปด้วยความสุข ริมฝีปากคุณหญิงบัวยกยิ้มสวยเต็มใบหน้าอย่างที่เจ้าคุณยิ่งไม่ได้เห็นมาเนิ่นนาน แม่ปิ่นเอ่ยเจื้อยแจ้วตามประสาคนช่างเจรจาเช่นเดิมแม้จะแต่งออกเรือนไปแล้ว

“คุณพี่ปิ่นบอกว่าน้องทำยำถั่วพูหรือ” หลวงยศเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เดินลงมาส่งตนที่หน้ารั้วเรือนระหว่างรอเจ้าคุณยิ่งลงมาสมทบเพื่อขึ้นรถลากไปยังกรม

“ขอรับ” เจ้านกน้อยห่อตัวอีกเสียแล้ว เขายังไม่ได้เอ่ยสักคำว่ายำถั่วพูที่เอ่ยถึงดีหรือไม่ ช่างขี้กลัวเหลือเกิน

“ถูกปากพี่นัก ทำอีกได้หรือไม่”

“ขอรับ” ดวงหน้าขาวดูผ่องใสขึ้นถนัดตาเมื่อถูกเอ่ยชม ปากบางยกยิ้มให้คนที่ถูกใจรสมือของเขา แปลกรู้สึกเต็มตื้นขึ้นเมื่อวันแรกหลังการออกเรือนตนก็ไม่ได้ทำพลาดไปเสียหมด

“เก่งเพียงนี้ ทำไมชอบทำหน้าเศร้าสร้อยนัก หือ” มือใหญ่ยกขึ้นแตะพวงแก้มใส หลวงยศยังคงมอบรอยยิ้มอบอุ่นให้เช่นเดิมไม่เคยแปรเปลี่ยน

“ดูแลเรือนให้ดี รอพี่กลับมานะโปรด” ความอุ่นจากฝ่ามือใหญ่แผ่ซ่านลงมายังหัวใจดวงน้อย เนิ่นนานที่นัยน์ตาสีมรกตสบมองดวงตาคมก่อเกิดความรู้สึกใหม่ขึ้นทีละน้อยโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว ผิดกลับเจ้าของดวงตาคมที่มองด้วยหัวใจมั่นคงต่อคนตรงหน้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง เมื่อเจ้าคุณยิ่งและคุณหญิงบัวลงจากเรือนมาสมทบสองแม่เรือนจึงยืนส่งคู่ครองของตนนั่งรถลากออกจากเรือนไปไกลทีละนิดจนลับตา

ระหว่างวันแปลกคลุกอยู่กับคุณหญิงบัวและคุณปิ่นอยู่ที่ศาลาหน้าเรือน เขาได้เรียนรู้งานดอกไม้หลากหลายข้อจากคุณปิ่นที่เป็นนักเรียนในวังมาตั้งแต่ยังเล็ก เธอคอยสอนเขาด้วยความใจเย็นและคอยปรับแก้ชี้จุดที่ต้องแก้ไขด้วยความใส่ใจ แปลกรู้สึกเหมือนตนได้มีพี่สาวจริง ๆ ทั้งคุณหญิงบัวก็คอยดูบุตรสาวและลูกสะใภ้อยู่ไม่ห่างขณะที่เธอปักผ้าไปพลาง

“แม่ปิ่นมาค้างคืนที่เรือนแม่คุณพระท่านว่าหรือไม่” คุณหญิงบัวเอ่ยถามถึงเขยที่ติดงานราชการไม่ได้มาร่วมงานแต่งหลวงยศน้องชายภรรยาเช่นเดียวกับหลวงณรงค์และแม่แย้มบุตรชายคนโตและลูกสะใภ้

“ไม่ว่าดอกเจ้าค่ะ ลูกอยู่ไม่นาน เย็นนี้ก็จะขอลาคุณแม่กลับแล้ว”

“คุณปิ่นจะกลับแล้วหรือขอรับ” แปลกอดใจหายไม่ได้ แม้รู้ว่าคุณปิ่นออกเรือนไปกับคุณพระพินิจแล้วอย่างไรก็ต้องรีบกลับเรือนไปปรนนิบัติสามี แต่การได้อยู่ใกล้ชิดพูดคุยกับคุณปิ่นก็ทำให้เขาอุ่นใจและสนุกมากทีเดียว

“พี่กลับเพราะเธอไม่ยอมเรียกพี่ว่าคุณพี่เสียทีต่างหากเล่า” คุณปิ่นเย้าแหย่ก่อนจะส่งยิ้มให้น้องสะใภ้แล้วเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวลลง

“โปรดก็เหมือนกัน ออกเรือนแล้วหากไม่มีเหตุสำคัญก็จงอยู่ดูแลเรือนดีรู้ไหม พี่มาได้ไม่นานเพราะอีกไม่กี่วันต้องตามคุณพระไปออกราชการมีหลายอย่างที่พี่ต้องไปเตรียม โปรดอยู่ทางนี้พี่ฝากดูแลเจ้าคุณพ่อกับคุณแม่ด้วย”

“ขอรับคุณพี่” คุณปิ่นยิ้มรับคำเรียกใหม่สมใจตนจากปากเล็ก

“ลูกคงไม่ได้อยู่รอเจ้าคุณพ่อนะเจ้าคะ อีกเดี๋ยวคุณพระท่านคงส่งคนมารับแล้ว”

คุณหญิงบัวส่งเสียงรับรู้ในลำคอ พอบ่ายแก่เธอจึงแยกตัวกลับขึ้นไปบนเรือน คงจะไปนอนพักเหมือนเช่นทุกวัน คุณปิ่นอยู่คุยเล่นและหาอะไรทำเรื่อยเปื่อยกับน้องสะใภ้จนเข้าช่วงเย็น บ่าวในเรือนก็วิ่งมาบอกว่าคุณพระส่งเจ๊กรถลากมารอรับหน้าเรือนแล้ว เมื่อนั้นคุณปิ่นจึงเอ่ยลาเด็กหนุ่มขึ้นไปแจ้งความกับคุณหญิงบัวบนเรือนแล้วนั่งรถออกจากเรือนเจ้าคุณยิ่งไป

“คุณปิ่นเธอใจดีเหลือเกินนะเจ้าคะ” ชื่นเอ่ยขึ้นเมื่อภายในเรือนแพเหลือเพียงบ่าวสองสามคนและคุณโปรด มือก็พลางช่วยเก็บดอกไม้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ลงตะกร้าเตรียมขนกลับขึ้นเรือน เพราะใกล้ถึงเวลาเตรียมสำรับเย็นแล้ว

“พี่ชื่นพานำไปเก็บเถอะ ไม่ต้องอยู่รอแปลกดอก แปลกขอนั่งเล่นอีกสักหน่อยจะเข้าครัวแล้ว พี่ชื่นเก็บของเสร็จค่อยตามไปในครัว” ชื่นเอ่ยรับคำเช่นเดียวกับบ่าวคนอื่น ๆ แล้วจึงพากันเดินนำของขึ้นไปเก็บยังเรือนเล็ก ไม่คิดว่าการทิ้งให้นายตนอยู่ลำพังเพียงชั่วครู่จะเกิดเรื่องตามมาได้

ร่างเล็กผิวขาวผ่องเดินลงไปนั่งริมชายแพ มือเรียวยกถกกางเกงจีนขึ้นเหนือเข่าทั้งสองข้างแล้วจึงหย่อนเท้าลงสัมผัสน้ำเย็นใส นัยน์ตาสีมรกตเหม่อมองออกไปยังผืนน้ำ ปลาเล็กว่ายเป็นฝูงเกิดระลอกน้ำขึ้นเป็นดวงเล็ก ๆ นกน้อยพากันบินกับรัง แปลกไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตตนจะสามารถสงบได้เช่นนี้มาก่อน แขนเรียวทั้งสองเท้ายันพื้นด้านหลังปล่อยตัวดื่มด่ำไปกับบรรยากาศตรงหน้า แพขนตาปิดลงเมื่อเจ้าของอยากพักจิตใจไปกับธรรมชาติ ณ เรือนแพริมน้ำของเรือนเจ้าคุณยิ่ง

นกน้อยอ่อนเยาว์ไม่ทันได้ระแวดระวังตัวว่าบัดนี้มีแขกมาเยี่ยมเยือนถึงที่ ทั้งยังสาวเท้าพาร่างท้วมมาหย่อนตัวนั่งประชิดร่างขาวเบาเสียงราวกับเสือซุ่มเหยื่อ ดวงตาสีอำพันมองสำรวจดวงหน้าผ่องเนียนสวยอย่างหลงใหล แพขนตางอนยาวเรียงสวยปิดบังดวงตาสีเขียวมรกต จมูกโด่งรั้นรับกันได้ดีกับริมฝีปากบางสีระเรื่อ คางมนเชิดขึ้นดื่มด่ำความผ่อนคลายอย่างไม่ทันระวังตัวว่าจะมีภัยอยู่ใกล้เพียงนี้ นายห้างฝรั่งไล่มองลำคอขาวระหง เขากลืนน้ำลายลงคออย่างอดไม่ได้ นึกเสียดายเหลือเกินที่พลาดท่าอดครอบครองทั้งที่จะเอื้อมถึงอยู่แล้ว

“สุขใจมากเลยรึ” สำเนียงแปร่งหูดังขึ้นระยะประชิดทำเอาคนที่อยู่ในภวังค์สะดุ้งตกใจถอยหนีเมื่อลืมตาขึ้นมาพบว่านายห้างฝรั่งคุ้นตาอยู่ใกล้ตนถึงเพียงนี้ หากแต่ถอยไปได้เพียงนิดแขนเล็กก็ถูกรั้งไว้เสียก่อน

“ตกใจอะไรเล่า เราก็คนกันเองมิใช่หรือ พ่อแปลก” มือย่นหยาบบีบแขนเล็กแน่นจนขึ้นรอย นิ้วโป้งใหญ่ลูบผิวเนียนอย่างไม่นึกละอายว่าไม่เหมาะสม

“คุณจอร์จปล่อยกระผมเถิดขอรับ ใครมาเห็นจะไม่เหมาะ” มือเรียวพยายามแกพันธนาการออกจากแขนตน ในขณะที่ยกขาขึ้นพ้นน้ำกลับมาวางบนพื้นเรือนแพเพื่อให้มีพื้นมั่นคงถีบตัวลุกขึ้นยืนจนหลุดออกจากมือหยาบกร้านนั้นได้ แต่เพราะขืนตัวสู้สุดแรงเมื่อพ้นจากการเกาะกุมจึงเซถลาล้มลงกับพื้นอีกครา หน้าสวยเหยเกเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นที่หน้าขา ทั้งอย่างนั้นก็ยังกระถดถอยหนีร่างใหญ่ที่ค่อย ๆ สาวเท้าเข้ามาใกล้



“ชื่น คุณโปรดล่ะ ไม่เห็นอยู่บนเรือนใหญ่กับคุณหญิง” หลวงยศที่เพิ่งกลับมาจากกรมพร้อมเจ้าคุณยิ่งเอ่ยถามบ่าวคนสนิทคนตัวเล็กที่เขาไม่เห็นแม้เงาหลังจากมาถึงเรือน

“บ่าวก็นึกกว่าคุณโปรดอยู่บนเรือนเช่นกันเจ้าค่ะ เอ สงสัยยังไม่ขึ้นมาจากเรือนแพเจ้าค่ะ” หลวงยศก้าวลงจากเรือนใหญ่โดยมีเจิดและชื่นเดินตามหลังมา สงสัยว่าแม่เรือนของเขาคนนี้จะเที่ยวเล่นจนเพลินเสียแล้วกระมัง

“ว้าย” ชื่นอุทานเสียงดังเมื่อเดินตามหลวงยศมาจนถึงหน้าเรือนแพ เธอรีบตรงเข้าไปหานายของตนแต่ก็ช้ากว่าหลวงยศที่สาวเท้าก้าวยาวเดินไปคว้าเมียตนออกจากมือนายฝรั่งมาไว้ในแนบอก

ชื่นรู้สึกว่าเงาหัวของเธอเลือนรางลงจากความเงียบของหลวงยศ ใบหน้าคมคายเรียบนิ่งกว่าทุกที อากาศในเรือนแพเหมือนจะหนาวเย็นลงจนชวนให้คิดว่าฤดูกาลปรวนแปรหรือไม่ หากแต่ชื่นและเจิดสัมผัสได้ว่าไม่ใช่เช่นนั้น ฤดูกาลยังคงปกติ หากแต่เป็นหลวงยศต่างหากที่ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูครึ้มลงราวกับพายุฝนกำลังจะเข้า