หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์ - ตอนที่ 13 ร่างมนุษย์ โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย,ต่างโลก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ต่างโลก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์ โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

 'ทอม' มนุษย์เงินเดือนผู้จบชวิตลงด้วยอุบัติเหตุแสนน่าอนาถ วิญญาณจึงถูกดึงไปเกิดใหม่ชาติต่อไปในร่างหมาคอร์กี้แห่งโลกเวทมนตร์โดยมีความสามารถทางการสื่อสารเฉกเช่นมนุษย์ จนได้มาพบกับ 'อาเนีย' สาวน้อยนักเรียนแห่งโรงเรียนเวทมนตร์ในร้านขาวสัตว์เลี้ยงและได้ตั้งชื่อใหม่ให้เป็น 'นัปโปะ' จากนั้นด้วยความบังเอิญบางอย่างทำให้นัปโปะรู้ว่าตัวเองสามารถร่ายคาถาเสกเวทมนตร์ได้ เขาจึงตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่หาใครเทียบเพื่อมีชีวิตอันสงบสบายกับเจ้าของ

สารบัญ

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 1 หมาตูดใหญ่,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 2 สัตว์เลี้ยวแสนรักก่อเรื่อง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 3 คาถาแยกร่าง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 4 โรงเรียนเวทมนตร์ศาสตร์เอสคูเรีย,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 5 ผู้สร้างระบบ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 6 หอพักสูงเสียดฟ้า,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 7 ชมรมประลองเวทย์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 8 ผจญภัยยามวิกาล,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 9 มารศาสตร์มืด,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 10 วิชาคาถามหัศจรรย์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 11 สัตว์เลี้ยงผู้ช่วย,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 12 สนทนากับอาจารย์ใหญ่,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 13 ร่างมนุษย์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 14 ทัวร์นาเม้นต์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 15 ผู้ท้าทายในวันหยุด,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 16 คืนบุกรุก,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 17 จักรพรรดิมารเสด็จ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 18 อาจารย์ใหญ่ ปะทะ จักรพรรดิมาร,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 19 โหมดจอมเวทย์ผู้พิทักษ์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 20 ช่วงเวลาบะหมี่สุก,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 21 ไม้กายสิทธิ์แหลกเป็นเสี่ยง

เนื้อหา

ตอนที่ 13 ร่างมนุษย์

ประโยคเดียวจากผู้สร้างระบบสวมสูทแดงน่าขันสวนทางกับบรรยากาศในห้องทำงานอาจารย์ใหญ่ซึ่งตอนนี้กลายเป็นเพียงสีขาวดำ ประโยคนั้นดังก้องอยู่ในหัววนลูบไม่หยุด ผมไม่เหลือคำพูดได้ออกจากปากนอกจากจินตนาการถึงร่างเก่าจากชาติก่อน นั่นเปรียบดั่งฝันร้ายของมนุษย์คนหนึ่งซึ่งเกิดมาผอมแห้งแรกน้อย ผมหยิกไร้ความพริ้วไหว ไว้หนวดเคราดับออร่ากลายเป็นโนบอดี้ในสังคมทุนนิยมสีเทา


“ร่างมนุษย์?“ ผมทวนคำอีกฝ่าย

”ใช่แล้วล่ะ ร่างมนุษย์“ ผู้สร้างแสยะยิ้มพลางทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้บุหนังสีดำตัวใหญ่ซึ่งไม่รู้ว่าปรากฎอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ “ติดอยู่ในร่างหมาขาสั้นเตี้ยแบบนี้มันใช้ชีวิตลำบากในฐานะผู้ที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อนสินะ”

“จะว่าไปมันก็ใช่ จะเคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวกเท่า แต่ตอนนี้ชักเริ่มชินกับมันแล้ว“ ผมพูดอย่างระมัดระวัง ”เรียกมาที่นี่ระหว่างชั้นเรียนคงต้องมีเรื่องสำคัญกว่านี้ใช่ไหม?“


”ไม่อ่ะ มีเท่านี้ แค่เรื่องมารศาสตร์มืดและข้อเสนอร่างมนุษย์กับนาย“ ผู้สร้างเหยียดแขนบิดขี้เกียจอย่างคร้านแล้วเอนหลังพิงพนักอันนุ่มเย็นด้วยท่าทางไม่รู้ร้อนหนาว


เฮ้ย...ก่อนหน้านี้เราเพิ่งจะคุยหัวข้อสำคัญกันอยู่นะ!!


"มีเป้าหมายอะไรกันล่ะ?" ผมถามอย่างไม่ไว้วางใจอีกฝ่าย "ทำไมไม่ให้ร่างมนุษย์กับฉันตั้งแต่แรก"

"ก็ไม่รู้เหมือนกันสินะ ตอนนั้นฉันอาจจะนั่งไถติ้กต้อกไปเรื่อยจนไปเจอคลิปหมาคอร์กี้เลยเสกให้นายเป็นแบบนั้นแล้วพานายมายังโลกนี้...ให้ตายสิตอนนี้นายเหมือนเป็นเซเลบของโรงเรียนเลยไม่ใช่เหรอ หมาที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้มันไม่มีให้เห็นกันทั่วไปหรอกนะ"

"ถึงจะว่าอย่างนั้นก็เถอะ..." สึก ๆ แล้วผมปรารถนาอยากกลับคืนร่างเป็นมนุษย์ ไม่อยากอยู่ในร่างหมาที่ขนาดฉี่ยังลำบาก แม้ว่าผมเริ่มชินกับมันแล้วก็ตาม แต่ไม่ใช่ว่าจะยอมรับมันได้ง่าย ๆ ทุกวันนี้พยายามทำตัวให้น่ารักเพราะต้องการให้อาเนียสนใจเอ็นดูรวมถึงทุกคน...แน่นอนว่าหากอยู่ในร่างมนุษย์ ทุกคนคงปฏิบัติกับผมอีกแบบแน่ ๆ


ในแบบที่เลวลง เพราะสุดท้ายผมก็เป็นแค่ไอ้ขี้แพ้


"คิดอะไรติดลบจังวะทอม คิดว่าแกจะได้ร่างเดิมงั้นเหรอ? ลุคหนุ่มพนักงานออฟฟิศแก้งก้างดูขี้แพ้อย่างนั้นอ่ะนะ?" ผู้สร้างระบบหัวเราะร่า "ฝันไปเถอะ ถ้าเงาะจะถอดรูปทั้งทีก็ต้องเป็นร่างทองหน่อยสิวะ!!"


เป๊าะ!!


เสียงดีดนิ้วดังขึ้นทั่วห้อง เวทมนตร์ได้ทำงาน ร่างกายของผมเริ่มแสดงความเปลี่ยนแปลง ภายในท้องปั่นป่วนเหมือนมีฝีเสื้อบินว่อนอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ใบหน้าเหยเกอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ออร่าสีเขียวห่อหุ้มร่าง ไอเย็นกระทบใบหน้า แขนและขาเริ่มยาวขึ้นสวนทางกับขนสีขาวส้มเริ่มหายกลายเป็นผิวหนังโล้นเตียนขาวเนียนพร้อมมัดกล้ามอัดแน่นอยู่ภายใน ลำตัวยุบลงลีนแบบไร้ไขมัน ปากที่ยื่นออกมาหุบกลับกลายเป็นใบหน้ามนุษย์ปกติ ภาพจากมุมต่ำค่อย ๆ ยืดขึ้นกลายเป็นมุมสูง เส้นผมสีดำขลับยาวสะกิดผิวหนังท้ายทอยคันยิบยับ สายรัดซองหนังเก็บไม้กายสิทธิ์ตกลงกับพื้น มันค่อย ๆ ห่างจากมุมมองของผมไปเรื่อย ๆ จากนั้นความสูงจึงหยุด รู้สึกว่าโลกทั้งใบนั้นแตกต่าง เมื่อมองไปยังอาเนียที่ยังโดยหยุดเวลาจึงเห็นว่าเธอตัวเล็กและบอบเบา ในตอนนี้เธอสูงเพียงหน้าท้องเป็นลอนไปด้วยกล้ามเนื้อเท่านั้น ผมย่อตัวลงมองใบหน้าอันเรียวสวยของเด็กน้อยวัยมัธยมต้นโดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังล้อนจ้อน


"กฎหมายของโลกนี้ยังคุ้มครองพรหมจรรย์เด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะนะ" เสียงของผู้สร้างระบบดังเข้ามาในหู ผมจึงเรียกสติกลับมาพร้อมหันไปประจันหน้าอีกฝ่ายโดยที่ส่วนงอกห้อยชี้หน้าอีกฝ่ายราวกับดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์

"แต่กฎหมายที่ว่ามันไม่ได้คุ้มครองนายไง" ผมพูดแสยะยิ้ม

"จะว่ายังไงก็ช่าง ดูสารรูปตัวเองตอนนี้ก่อนสิ" เขาเสกกระจกขนาดใหญ่ขึ้นกลางอากาศสะท้อนภาพชายหนุ่มรูปงามจนแม้แต่ตัวเองยังตกตะลึง


"นี่มันตัวฉันงั้นเหรอ?" ผมถามตัวเอง แต่ผู้สร้างดันตอบแทน

"ถูกต้อง นี่คือร่างทองของนายที่อุตส่าห์ปั้นขึ้นมาเป็นพิเศษ" เขาเอามือบังดวงตาของภรรยาสาวที่ตอนนี้น้ำลายไหลเป็นทาง "ไม่คิดว่าจะเพอร์เฟ็กต์ได้ขนาดนี้ ข้อเสนอที่ว่านั่นคือ นายต้องใช้ร่างนี้ปกป้องโลกคาโรเนียแห่งนี้ซะ ใช้โรงเรียนเป็นฐานที่มั่นเพื่อไม่ให้โลกเวทมนตร์ทั้งใบต้องได้รับความเสียหาย"

"แล้วพวกเด็ก ๆ ในโรงเรียนล่ะ?" ผมถามพร้อมขมวดคิ้วเข้ม ส่วนงอกย้อยเหี่ยวลงอย่างรวดเร็ว "พวกเขาจะต้องเข้าร่วมสงครามงั้นเหรอ?"

"นายก็คิดเยอะไป ฉันเป็นถึงอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนนี้นะ ไม่มีทางให้เด็ก ๆ แสนน่ารักอย่างน้องอาเนียต้องไปสู้อยู่แล้ว แต่จะเป็นเด็กปีหกทั้งหมด กล่าวทหารและพลเมืองที่สามารถสู้ได้คอยตั้งรับต่างหาก"

"แทนที่จะตั้งรับ สู้เราเข้าไปบุกมันไม่ดีกว่าหรือไง?"

"ก็ตอนนี้เราไม่รู้นี่ว่าพวกมารมันซ่องสุมกำลังที่ไหน..."

"เดี๋ยวก่อนนะ เป็นผู้สร้างกลับไม่รู้เนี่ยนะ? แถมนายมีพลังเปลี่ยนร่างหมากลายเป็นคนได้ เปิดสูตรโกงโหมดพระเจ้าบ้าบอได้ ทำไมไม่ลบมารออกไปล่ะ สำหรับนายคงไม่น่ายากเท่าไหร่ เหมือนกดปุ่ม Delete เท่านั้นนี่จริงมั้ย?" ผมตั้งข้อสังเกต 

"ไม่ฉันทำไม่ได้ ผู้สร้างกับผู้ทำลายมันคนละคนกัน ไม่สามารถทำหน้าที่เกินกว่าใน WI* ระบุไว้" ผู้สร้างกล่าวพร้อมเสกแก้วพร้อมไวน์สีม่วงเข้มให้ตัวเองและฟีล่า "ตามหน้าที่แล้ว ฉันเป็นผู้สร้างพ่วงดูแลความเป็นไปของโลกนี้ ย้ำว่าทำได้แค่ดู หากสงครามเกิดขึ้นไปเกินสามครั้ง หน้าที่การทำลายจะเป็นของผู้ทำลายล้างเอง จากนั้นฉันก็ไปสร้างโลกใหม่แล้วทุกอย่างมันจะวนลูปอยู่อย่างนี้ไปไม่มีวันจบ แต่ตอนนี้มันหมดเวลาสำหรับร่างมนุษย์ของนายแล้ว และอย่าลืมว่าห้ามเล่าเรื่องนี้ให้เด็กคนนี้ฟังเด็ดขาด"


เป๊าะ!!


ไม่กี่อึดใจร่างมนุษย์รูปงามสลายเป็นผงสีทองอร่ามเหลือไว้เพียงร่างหมาคอร์กี้ขาสั้นพร้อมสายรัดซองเก็บไม้กายสิทธิ์ยังสวมที่เอวอย่างเดิม ส่วนผู้สร้างระบบกลายร่างกลับคืนเป็นอาจารย์ใหญ่ 'คอนเนอร์' และฟีล่าได้หายไปแล้ว


"ดีใจที่ได้คุยนะเจ้าหมาน้อย" ผู้สร้างระบบในคราบชายชรากล่าวพร้อมโบกมืออำลา

"ทำให้เวลากลับมาเดินปกติด้วยสิ!"

"เวลาเดินปกติเหรอนัปโปะ?" เสียงเด็กสาวดังมาจากด้านหลังเอ่ยถาม "รู้สึกมึน ๆ ตั้งแต่เมื่อกี้ ว่าแต่อาจารย์ใหญ่คอนเนอร์ต้องการจะคุยอะไรกับพวกเราเหรอคะ?"

"ไม่มีอะไรแล้วล่ะ รีบไปเรียนวิชาต่อไปเถอะ หากไปถ้าก็อ้างฉันได้เฉพาะคาบนี้เป็นกรณีพิเศษเท่านั้นนะ" เขาทำเสียงฟังดูชราภาพกว่าเดิมก่อนที่เราจะเดินออกจากห้องอาจารย์ใหญ่โดยที่อาเนียยังคงตามสถานการณ์ไม่ทัน


........


ในคืนนั้นผมนอนไม่หลับ เอาแต่นอนคิดถึงภาระต่าง ๆ กำลังแบกอยู่เต็มบ่า นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ผมไม่อาจจำได้ ดวงตายังคงไสวสะท้อนแสงไฟจากภายนอก โดยปกติกำแพงหอพักจะเรืองแสงสีฟ้าไม่สว่างมาก เห็นใครต่อใครพูดกันว่ากำแพงภายนอกดูดซับแสงจันทร์เพื่อทำให้กำแพงภายในเรืองแสงสวยงาม


ผมอยู่ที่นี่มาได้หนึ่งเดือนเต็ม สามารถปรับตัวเข้ากับร่างสุนัขขาสั้นตูดใหญ่ได้เป็นอย่างดี รวมถึงเวทมนตร์ผมใช้ได้คล่องหลายคาถา แถมยังซึมซับวัฒนธรรมประเพณีของโลกคาโรเนียอย่างรวดเร็ว ผมกระโดดลงจากเตียงเดินไปยังหน้าต่าง มองเห็นเพียงห้องพักนักเรียนคนอื่นลอยอยู่ด้านข้างและเหนือศีรษะเรียงห่างกันอย่างเป็นระเบียบไร้ทางติ...จิตใจผมคงฟุ้งซ่านเกินไปแล้วเสียมั้ง


"เฮ้อ..."

"มีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่านัปโปะ" เสียงของเด็กสาวดังมาจากด้านหลังอย่างไม่บอกกล่าวทำให้สะดุ้งโหยง

"แค่คิดอะไรไปเรื่อย" หางกุดของผมสั่นไหวไปมาอย่างควบคุมไม่ได้เหมือนดีใจที่ผู้เป็นนายไม่ทิ้งให้ผมเผชิญรัตติกาลด้วยตัวคนเดียว "พูดไม่สมกับเป็นหมาเลยนะ หยั่งกับเป็นมนุษย์คนหนึ่งเลยแน่ะ" คำพูดจากอาเนียชวนให้ท้องไส้บิดเกร็ง "หรือว่าเธอจะเคยเป็นมนุษย์มาก่อน จากนั้นถูกสาปให้กลายเป็นหมา ในนิยายมันมีบอกนะว่ามีคำสาปให้กลายร่างเป็นสัตว์เพื่อรอคอยให้คนรักจุมพิศเพื่อล้างสิ่งเหล่านั้นสลายหายไป" อาเนียนั่งลงกับพื้นพลางท้าวคางที่ขอบหน้าต่างบานใหญ่ ดวงตาอันเป็นประกายซ่อนอยู่ภายใต้แว่นตาทรงกลมกรอบสีดำซึ่งเธอมักใส่หากไม่ได้ร่ายเวทย์คอนแทกเลนส์


ผมนิ่งไปพักหนึ่งก่อนเอ่ยปากถาม


"อาเนียเคยคิดไหมว่าถ้าฉันกลายเป็นมนุษย์...ความสัมพันธ์ระหว่างเราจะเป็นยังไง?" ไม่ทันได้ฟังคำตอบ กำปั้นของเด็กสาวหล่นตุ้บบนศีรษะ

"แอฟ!"

"นายคงเป็นมนุษย์จริง ๆ ด้วยแหละ หมาที่ไหนเขาคิดกันแบบนี้" เธอถอนหายใจ "แม่เสียเกินไปสองเหรียญทองกลับได้คนในร่างหมาเนี่ยนะ..."

"มะ...ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย! แค่ถามดูเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากกว่านั้น!" ผมพยายามกลบเกลื่อนก่อนยิงคำถามใหม่ "ฉันเป็นหมาที่ใช้เวทมนตร์ได้ เป็นสัตว์เลี้ยงของเธอ แล้วถ้าวันหนึ่งฉันกลายเป็นมนุษย์ขึ้นมา...ฉันจะยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงของเธออยู่หรือเปล่า?"


อาเนียถอนหายใจก่อนอุ้มร่างผมเข้ามาสวมกอดอย่างอบอุ่น


"งั้นจะขอกอดไว้อย่างนี้นาน ๆ แล้วกัน" ร่างกายของผมร้อนผ่าวเมื่ออีกฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงหวานละมุนอันอบอุ่น


เพียงเท่านี้ก็พอไว้วางใจเจ้านายของผมที่จะไม่ทอดทิ้งแล้วล่ะ


"แต่ก็ดูก่อนนะว่านายจะหล่อหรือเปล่า ถ้าไม่ก็บาย แต่หล่อก็ขอพิจารณาให้ว่าจะเอายังไงดี" 


ผมหรี่ตาก่อนแสยะยิ้ม

____________________________________________


To Be Continue Ep.14