หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์ - ตอนที่ 15 ผู้ท้าทายในวันหยุด โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย,ต่างโลก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ต่างโลก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์ โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

 'ทอม' มนุษย์เงินเดือนผู้จบชวิตลงด้วยอุบัติเหตุแสนน่าอนาถ วิญญาณจึงถูกดึงไปเกิดใหม่ชาติต่อไปในร่างหมาคอร์กี้แห่งโลกเวทมนตร์โดยมีความสามารถทางการสื่อสารเฉกเช่นมนุษย์ จนได้มาพบกับ 'อาเนีย' สาวน้อยนักเรียนแห่งโรงเรียนเวทมนตร์ในร้านขาวสัตว์เลี้ยงและได้ตั้งชื่อใหม่ให้เป็น 'นัปโปะ' จากนั้นด้วยความบังเอิญบางอย่างทำให้นัปโปะรู้ว่าตัวเองสามารถร่ายคาถาเสกเวทมนตร์ได้ เขาจึงตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่หาใครเทียบเพื่อมีชีวิตอันสงบสบายกับเจ้าของ

สารบัญ

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 1 หมาตูดใหญ่,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 2 สัตว์เลี้ยวแสนรักก่อเรื่อง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 3 คาถาแยกร่าง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 4 โรงเรียนเวทมนตร์ศาสตร์เอสคูเรีย,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 5 ผู้สร้างระบบ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 6 หอพักสูงเสียดฟ้า,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 7 ชมรมประลองเวทย์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 8 ผจญภัยยามวิกาล,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 9 มารศาสตร์มืด,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 10 วิชาคาถามหัศจรรย์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 11 สัตว์เลี้ยงผู้ช่วย,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 12 สนทนากับอาจารย์ใหญ่,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 13 ร่างมนุษย์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 14 ทัวร์นาเม้นต์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 15 ผู้ท้าทายในวันหยุด,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 16 คืนบุกรุก,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 17 จักรพรรดิมารเสด็จ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 18 อาจารย์ใหญ่ ปะทะ จักรพรรดิมาร,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 19 โหมดจอมเวทย์ผู้พิทักษ์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 20 ช่วงเวลาบะหมี่สุก,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 21 ไม้กายสิทธิ์แหลกเป็นเสี่ยง

เนื้อหา

ตอนที่ 15 ผู้ท้าทายในวันหยุด

อีกหนึ่งสัปดาห์จะถึงวันงานประลองเวทย์ เวทีใหญ่ถูกสร้างขึ้นเพียงข้ามคืนวางเด่นเป็นสง่ากลางลานกว้างพร้อมที่นั่งผู้ชมยกสูงจำนวนมาก มองปราดเดียวรู้เลยว่าที่นั่งบริเวณตรงกลางซึ่งถูกต่อยกสูงขึ้นไปอีก แถมยังมีที่นั่งไม่มากเท่าคงเป็นของพวกอาจารย์อย่างแน่นอน


"ตอนนี้เราจะทำยังไงต่อไปดี?" อาเนียนั่งบนพื้นสนามหญ้าพลางควงไม้กายสิทธิ์เล่น โดยมีผมนอนหมอบเล่นลูกบอลสีชมพูสำหรับสุนัขที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อสาขาใหญ่อย่างเพลิดเพลิน ฟันเขี้ยวกัดขย้ำมันจนเป็นรอยตะปุมตะป่ำรวมถึงคราบน้ำลาย ดวงตาอันเป็นประกายสะท้อนแสงยามเช้าของวันหยุดสุดสัปดาห์แสนอบอุ่น นักเรียนหลายคนเลือกนอนขี้เกียจอยู่บนห้องพักของตัวเอง ส่วนที่เหลือจะออกมาทำกิจกรรมตามความต้องการโดยไม่มีอาจารย์ยกเว้นภารโรงบารอนพร้อมแฮมสเตอร์คู่ใจซึ่งจ้องพวกเรามาตั้งแต่วินาทีแรกที่อยู่ในสายตา "เราว่าซ้อมกันอีกรอบเอาไหม?"

"อย่าเลยดีกว่า คาถาใหญ่แบบนั้นเราไม่ควรซ้อมถี่เกินไม่ ไม่อย่างนั้นจะทำให้พลังเวทหายไปเยอะจนขึ้นหอพักไม่ได้น่ะสิ" ผมแย้งด้วยเหตุผล


ใช่...พวกเราคิดค้นกระบวนท่าไม้ตายก้นหีบสำหรับช่วงเข้าตาจน อาเนียในชุดกระโปรงสีขาวคลุมเข่าสวมกางเกงวอร์มสีดำแถบลายข้างสีขาวไว้ด้านใน มัดผมดำไฮไลค์สีชมพูรวมเป็นหางม้าเผยคอเรียงระหงส์ของสาวน้อยเด็กแย้ม ในมือควงไม้กายสิทธิ์เล่นหมุนไปมาอย่างเชี่ยวชาญ 


ลมเย็นพัดผ่านโชยกลิ่นหอมจากทุ่งดอกไม้ที่เริ่มแตกดอกไม่ห่างจากตัวปราสาท เป็นที่เอาไว้สำหรับคู่รักวัยเรียนออกมาจู๋จี๋ แน่นอนว่าผู้เป็นนายมีหนุ่มมาสารภาพรักมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจดหมายรักแสนน่าสงสารเรียงเป็นกระตั้กที่ถูกคาถาไฟเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน แน่นอนว่าการเผาจดหมายจากเหล่านักเรียนชายถือเป็นกิจกรรมยามว่างหลังฝึกซ้อมเช่นกัน


"ซินเดอร์" เด็กสาวจุดไฟปลายไม้กายสิทธิ์เหมือนกับไฟแช็กด้วยคำร่ายง่าย ๆ เผาจดหมายทิ้งทีละฉบับอย่างเยือกเย็น นี่คืออีกด้านของเธอที่ไม่ค่อยเปิดเผยให้ใครเห็นมาก เป็นผลพวงมาจากปมที่คุณพ่อของเธอสร้างเอาไว้จนฝังใจมาถึงทุกวันนี้ "แล้วก็ต่อด้วย เฟอร์มาเล่..."


อาเนียเล่าว่าพ่อของเธอนั้นเคยเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยความหล่อเหลาจึงมีผู้หญิงมาติดพันเรื่อยมาโดยไม่สนใจผู้เป็นภรรยา ในเวลานั้นอาเนียอายุเพียงห้าขวบ ไม่ได้เข้าใจเรื่องราวอันซับซ้อนของผู้ใหญ่ แต่เธอเข้าใจจากคาวมทรมานของแม่ซึ่งเสียพ่อไปจากหัวใจในคืนหนึ่ง และเธอสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่ให้ใครเข้ามาในหัวใจอย่างเด็ดชาด โซล่าไม่เคยเล่าให้อาเนียฟังว่าพ่อหายตัวไปไหน ทั้งโคราเนียไม่มีใครได้เจอเขาอีกเลยนับจากนั้น


"วันนี้เผาไปกี่ฉบับแล้วล่ะ?" ผมถามพลางเขี้ยวลูกบอลยางอย่างมั่นเขี้ยว เข้าใจเวลาสุนัขชอบกัดนั่นนี่ทะลุปรุโปร่ง

"น่าจะยี่สิบกว่าฉบับแล้วล่ะ ซินเดอร์" เธอตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น ดวงตาเยือกแข็งสนิท ดูเหมือนว่าปิดกั้นหัวใจตัวเองอย่างเต็มรูปแบบสินะ เมื่อเผาจดหมายจนหมดเธอจึงล้มตัวลงนอนศีรษะหนุนกายผมเหมือนหมอน เชื่อเถอะว่าผมเลือกไม่เอ่ยปากเรื่องร่างมนุษย์ให้อาเนียรู้เพราะเรื่องที่ไม่เคยเปิดใจให้ผู้ชายคนไหนเลยนี่แหละ


แต่ดูเหมือนว่าเธอสามารถอ่านใจผมได้


"นี่นัปโปะ รู้ไหมว่าฉันเปิดใจให้ใครสักคนแล้วนะ" เธอพูดขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ย

"ใครเหรอ?"

"ก็นายไงนัปโปะ!!" เธอพลิกร่างเข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงผมเหมือนกับตุ๊กตา


อาเนียผู้แสนสดใสคนเดิมกลับมาแล้ว


"กำลังมีความสุขเชียวนะ อีกไม่กี่วันก็จะถึงการแข่งแล้วแท้ ๆ ยังมานั่งลอยหน้าลอยตาอย่างนี้อีก แบบนี้ชมรมป้องกันตัวได้เสียชื่อกันพอดี" เสียงทุ้มต่ำดังมาจากด้านหลัง ปรากฎเจ้าของเสียงเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงหนา


เรย์ม่อนต์และโคลคิงส์ลูกแพนด้านั่นเอง 


"วันนี้เป็นวันหยุดนี่คะ ขอวันชิว ๆ ให้ตัวเองสักหน่อยจะเป็นอะไรไป" อาเนียแต่พอเห็นเขายืนกอดอกพร้อมคาบดอกหญ้าที่ปาก ใบหน้ามีบาดแผลขีดข่วน เสื้อผ้าฉีกขาดราวกับผ่านการต่อสู้มานักต่อนักจึงอดเป็นห่วงเพื่อนร่วมชั้นปีไม่ได้ "เธอไปโดนอะไรมาน่ะ? แผลเต็มตัวเชียว"

"แผลพวกนี้มันคือร่อยรอยแห่งการต่อสู้อย่างโชกโชนต่างหากล่ะ" เขาประกาศกร้าวออกมาอย่างภาภูมิใจ "ฉันฝึกฝนตัวเองด้วยการท้าประลองกับสมาชิกในชมรมทุกคนและสามารถเอาชนะมาสิบคนแล้ว!!"

"ไม่ใช่ว่าการประลองในโรงเรียนที่เกิดขึ้นโดยพลการจำเป็นต้องมีอาจารย์สักคนมาสังเกตการณ์ไม่ใช่เหรอ?" ผมตั้งข้อสังเกต "ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนทำโทษด้วยการเขียนเรียงความเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยาวสิบหน้าก็ได้นะ"

"อย่าเบ่งวาจา เรามาสู้กัน! เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวจากไม่กี่คนในชมรมที่อยากเอาชนะที่สุด!" เรย์ม่อนต์ชักไม้กายสิทธิ์ออกมาจ่อไปทางเด็กสาวซึ่งตอนนี้ยืนขึ้นเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย พร้อมเจ้าลูกแพนด้าตั้งท่าเตรียมสู้


ตลอดเวลาที่ผ่านมาอาเนียเรียนรู้ในการเปลี่ยนตัวเองจากสาวน้อยผู้ไร้เดียงสาสู่ผู้วิเศษคนหนึ่ง แววตาของเธอเปลี่ยนไปแสดงออกถึงการเติบโตท่ามกลางสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน รวมถึงชมรมการป้องกันตัวที่คอยบ่มเพาะให้มีจิตใจแข็งแกร่งขึ้น ในทีแรกเธอไม่กล้าแม้แต่จะเสกคำสาปใส่ใคร แต่ตอนนี้เธอแทบไม่ลังเลแม้แต่น้อย


"เดี๋ยวฉันเป็นกรรมการให้เอง" เสียงชายหนุ่มดังขึ้นมาจากด้านบน ปรากฎว่าเป็นรุ่นพี่คาลอส ซึ่งใช้คาถาลอยตัวอย่างคล่องแคล่วบินเล่นไปมาดั่งนกอย่างอิสระ เชื่อเถอะว่าเขาถูกตัดสิทธิ์ลงแข่งทัวร์นาเม้นต์เนื่องจากเป็นแชมป์ห้าสมัย ทางโรงเรียนจึงมองหาแชมป์คนอื่นนอกจากนักเรียนผู้แข็งแกร่งดั่งยักษา "ฉันไม่ได้ลงแข่งอยู่แล้ว แถมยังเป็นรุ่นพี่ปีหกที่กำลังจะเรียนจบ อาจจะมีคุณสมบัติเพียงพอ แต่ก็นะ...ถ้าน้องเรย์ม่อนต์ดื้อดึงไม่ยอม เรื่องนี้คงต้องถึงหูอาจารย์เอกแล้วล่ะ"

"ผมไม่ได้ต้องการทำผิดกฎระเบียบอยู่แล้ว ถ้ารุ่นพี่คาลอสมาเป็นกรรมการให้ถือว่าเป็นบุญของผม" ชายร่างหนากล่าวด้วยน้ำเสียงใจเย็น ดวงตาสีเพลิงประกายลุกโชนย้อนแย้งกันเกินบรรยาย "แต่หลังจากผมเอาชนะอาเนียได้ รุ่นพี่คาลอสคือคนถัดไป!"


"ได้สิ" รุ่นพี่คาลอสแสยะยิ้มก่อนบินลงมา ความสูงของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดราวกับมวยคนละน้ำหนัก "ถึงเวลาที่รุ่นพี่ได้เวลาสั่งสอนรุ่นน้องผู้น่ารักสักหน่อยว่าการต่อสู้ที่แท้จริงเป็นยังไง"

"ผู้ใช้คาถาสะท้อนกลับอย่างคุณทำได้แค่สะท้อนกลับอย่างเดียวน่ะเหรอ?" เรย์ม่อนต์ยังไม่หยุดแขวะ อีกทั้งยังก้าวประชิดรุ่นพี่คาลอสซึ่งสูงเพียงหน้าอกชายร่างหนาอย่างไม่เหยียดหยาม "คงเป็นผมต่างหากที่จะสั่งสอนรุ่นพี่ต่างหากว่าความแข็งแกร่งของเวทมนตร์ระยะประชิดเป็นอย่างไร"


"เออ...ทั้งสองสู้กันเลยไหมคะ เดี๋ยวหนูเป็นกรรมการให้แทนก็ได้" เด็กสาวพูดแทรกซึ่งผมนอนคว่ำตัวอยู่บนศีรษะเหมือนหมวก "วันนี้หนูซ้อมกับนัปโปะจนพลังเวทย์แทบไม่เหลือแล้วค่ะ ถ้าจะให้สู้กับเรย์ม่อนต์ตอนนี้คงไม่พร้อมเท่าไหร่ค่ะ"


"เหอะ! เอาอย่างนั้นก็ได้ งั้นผมท้าผู้ใช้เวทย์สะท้อนกลับรุ่นพี่คาลอสให้มาประลองกับผม!!" เรย์ม่อนต์ประกาศกร้าวก่อนเดินไปประจำที่ ระหว่างนั้นรุ่นพี่คาลอสเขยิบตาให้เธอก่อนเดินไปประจำที่ ตั้งแต่อยู่ในชมรมการประลองได้เห็นอาจารย์เอกเป็นกรรมการอยู่หลายครั้งจึงซึมซับคำพูดมาเกือบทั้งหมด


"เริ่ม!!" เด็กสาวกล่าวเริ่มการประลอง ทันใดนั้นเรย์ม่อนต์เสกคาถาระเบิดควันส่งผลให้วิสัยทัศน์การมองเห็นศัตรูถูกบดบัง 

"เพื่อให้โจมตีไม่ได้งั้นเหรอ!?" คาลอสอ่านการโจมตีครั้งต่อไปของอีกฝ่ายได้ทันจึงคิดวิธีโต้กลับอย่างรวดเร็ว "เวอซาโตคอบโปะ!"


ร่างของรุ่นพี่คาลอสปรากฎขึ้นมาเป็นสิบร่าง สร้างความตื่นเต้นแก่ผมอย่างมาก


"เขาใช้คาถาแยกร่างได้ด้วย!" ผมเบิกตาโต

"ไม่แปลกเท่าไหร่นี่ รุ่นพี่เขาอยู่ตั้งปีหกแล้วนะ" เธอยกร่างผมที่นอนคว่ำบนศีรษะมาอุ้มระนาบเดียวกับหน้าอกที่กำลังขยายตามวัย "ต่างจากเรย์ม่อนต์ที่ไม่ค่อยกระตือรือร้นฝึกฝนเท่าไหร่ คงเพราะชื่อเสียงความเป็นที่หนึ่งของโรงเรียนหรือเปล่านะ"


ทันใดนั้นก้อนหินน้อยใหญ่จำนวนมากพุ่งฝ่าม่านควันตรงไปหารุ่นพี่คาลอสด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ


"โพรเทคชั่น!" ร่างทั้งสิบของชายหนุ่มท่องคาถาพร้อมยกไม้กายสิทธิ์สร้างโล่แสงขนาดใหญ่และหนาพอที่จะปกป้องจากการโจมตีระยะเวลาหนึ่ง "สำหรับรุ่นน้องแสนน่ารัก ฉันจะไม่ใช้คาถาสะท้อนกลับ"


พอโล่ถูกคลายลง การโจมตีจากชายร่างหนาต่อเนื่องด้วยคาถาขยายกำปั้นพุ่งตรงหมายเผด็จศึกในทีเดียว ร่างแยกของชายหนุ่มกระโดดต่อตัวขึ้นไปจนอากาศจากนั้นคาลอสตัวจริงยิงคาถาสงบนิ่งใส่อีกฝ่าย เรย์ม่อนส์สร้างคาถาโล่ป้องกันทันท่วงทีจากนั้นใช้คาถาขยายร่างเส้นผมที่ถูกดึงออกมาเป็นกระจุกกลายเป็นหอกแหลมก่อนใช้คาถายกของเหวี่ยงพวกมันราวกับห่าฝน


"ไซคินลาแม็กซิมั่ม!!" เปลวไฟขนาดมหึมาแผ่รังสีความร้อนระดับทองคำละลายเหลวแผดเผาเส้นผมเหล่านั้นมอดไหม้เหลือเพียงธุลี


เกิดใหม่มาไม่กี่เดือนเพิ่งได้เห็นการประลองเวทย์อันดุเดือดขนาดนี้เป็นครั้งแรก หากเทียบกับผมและอาเนียแล้ว...หลุดโผ


"เอาจริงซะทีสิรุ่นพี่! ผมรู้สึกว่าตัวเองสนุกอยู่คนเดียวเลยนะ!!" เรย์ม่อนต์แผดเสียงดังลั่นด้วยความสะใจ บาดแผลตามร่างกายของเขาเริ่มปรี่เลือดอาบ แต่ด้วยอะดรีนาลีนยังคงพลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่งมลายความเจ็บปวดสิ้น "โจมตีผมสิ!!"

"อยากให้เอาจริงสินะ ย่อมได้" รุ่นพี่คาลอสยกไม้กายสิทธิ์จรดใบหน้าพลางหลับตาท่องมนตร์บางอย่างยืดยาว "แด่พระบิดา พระบุตรและพระจิต จงส่งมอบพลังแสนบริสุทธิ์เพื่อขลัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายด้วยเถิด"


ดวงตาของชายหนุ่มเกิดประกายแสงสีทองเรืองสว่างจ้า ออร่าสีทองหมุนรอบตัวพร้อมเกิดลมกรรโชกอย่างบ้าคลั่ง อาเนียกอดผมไว้แน่น


"โซลัส นาโอต้า!" ปลายไม้กายสิทธิ์ส่องแสงสีทองสว่างเจิดจ้าราวกับแสงอาทิตย์ พื้นดินสะเทือนจนร่างกายสั่นโซเซ ชายหนุ่มตวัดไม้กายสิทธิ์ใส่เป้าหมายทันที ส่วนเรย์ม่อนต์ในตอนนี้ยิ้มร่าเริงดีใจที่อีกฝ่ายโจมตีสุดแรงจึงใช้คาถาขยายมือขวาพร้อมเคลือบด้วยออร่าเวทย์สีแดง


"ลองมาดูกันว่าวิชาของใครไร้พ่าย!!" เรย์ม่อนต์แสยะยิ้มมุมปากเหยียดเกือบถึงหู

.

.

.

.

ฉิบหาย...โรงเรียนจะพังไม่เนี่ย!!?


___________________________


To Be Continue Ep.16