หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย,ต่างโลก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์
'ทอม' มนุษย์เงินเดือนผู้จบชวิตลงด้วยอุบัติเหตุแสนน่าอนาถ วิญญาณจึงถูกดึงไปเกิดใหม่ชาติต่อไปในร่างหมาคอร์กี้แห่งโลกเวทมนตร์โดยมีความสามารถทางการสื่อสารเฉกเช่นมนุษย์ จนได้มาพบกับ 'อาเนีย' สาวน้อยนักเรียนแห่งโรงเรียนเวทมนตร์ในร้านขาวสัตว์เลี้ยงและได้ตั้งชื่อใหม่ให้เป็น 'นัปโปะ' จากนั้นด้วยความบังเอิญบางอย่างทำให้นัปโปะรู้ว่าตัวเองสามารถร่ายคาถาเสกเวทมนตร์ได้ เขาจึงตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่หาใครเทียบเพื่อมีชีวิตอันสงบสบายกับเจ้าของ
"ถ้านำมันมาให้ฉันได้ จะยอมรับรักเธอและจะแต่งงานกับเธอด้วย" เขาคว้าไหล่ฉันบีบแน่นจนกล้ามเนื้อเจ็บแปลบ ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความโลภในบางสิ่งบางอย่างเหมือนกับฉันผู้โลภอยากได้เขามาครอบครอง ในตอนนี้ฉันต้องยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่งปลิดชีพคนเพื่อให้เขายอมรับในตัวฉันเป็นคนรักยืนเคียงข้างเขาไปจนวันตาย
แต่นั่นเป็นถือว่าเป็นการละเมิดระเบียบปฏิบัติของครอบครัว เชื่อเถอะว่าทั้งแม่และยายจะไม่ยอมรับเรื่องนี้แน่
"หนังสือเล่มนั้นมันคืออะไร?" ฉันถาม "ทำไมถึงอยากได้มากขนาดนั้น? ในห้องสมุดไม่มีให้ยืมเหรอ?"
"ถ้าห้องสมุดมันมีฉันคงไม่ทุ่มเทคิดแผนให้เธอเข้าไปเสี่ยงขนาดนี้หรอก" เขาสวนกลับด้วยเสียงเข้มคิ้วดกดำขมวด "ฉันอ่านไปไม่กี่หน้าจึงรู้ได้ทันทีว่ามันกำลังสื่อสารกับฉันอยู่"
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคัมภีร์ผนึกมารเล่มนี้มันมีอะไรฉุดให้เวอร์โก้ต้องยอมเสี่ยง
แต่การเข้ามาในห้องอาจารย์ใหญ่นับว่ายากแล้ว
การออกไปกลับยากกว่า
โชคดีที่ฉันหยิบน้ำยาลดและขยายร่างกายมาพร้อมกับน้ำยาลบล้างตัวตน
ฉันดื่มมันนหมดพร้อมพรมลงบนหนังสือเพื่อให้มันลดขนาดตัวเองลงไปด้วย จากนั้นจึงใช้คาถาลอยตัวบินไปยังรูกำแพงก่อนวาร์ปออกมา จากนั้นจึงดื่มน้ำยาขยายร่างและพรมมันบนหนังสือจนกระทั่งมีขนาดกลับมาดังเดิม
หัวใจของฉันแทบกระเด้งออกมาจากอกพลางกอดหนังสือปกหนังสีดำแนบร่าง ดวงตาคู่สวยเบิกโตพลางกลอกสอดส่องว่าไม่มีนักเรียน อาจารย์หรือภารโรงคนไหนเข้ามาเจอจึงรีบวิ่งออกจากตรงนั้นด้วยสีหน้าร้อนรน ตอนนี้พลังเวทย์แทบไม่พอให้ร่ายคาถาหายตัวได้จึงสาวเท้าก้าวฉับ ๆ และซ่อนหนังสือไว้ในแหวนกระเป๋า พลางรู้สึกผิดที่ตัวเองกลายเป็นขโมยจากความต้องการของชายคนรัก
.
.
.
.
"ทำได้ดีมากเลยโซล่า!" ชายหนุ่มชูคัมภีร์ปกหนังสีดำขึ้นเหนือศีรษะพร้อมรอยยิ้มสุดแสนดีใจ ดวงตาสีนิลเป็นประกายเปรียบดั่งรางวัลล้ำค่า "ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณมาก ๆ เลย ฉันรักเธอที่สุด!!"
ชายหนุ่มโผเข้ามากอดด้วยความเต็มใจ อกแกร่งเบียดเสียดกับหน้าอกไข่ดาวจนเผลอคิดอะไรเกินเลยจนใบหน้าใบหูแดงก่ำและร่างกายร้อนผ่าว ความรู้สึกอันท่วมท้นแทบทำให้ฉันเกือบร้องให้ออกมา สุดท้ายจึงไม่มีอะไรต้านทานจึงไหลอาบแก้มในระหว่างที่แขนเรียวเล็กทั้งสองข้างรวบกอดร่างหนาของชายหนุ่มซึ่งตอนนี้สามารถเรียกได้เต็มปากว่า 'คนรัก' ได้เสียที หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนจะทะลักออกมาจากอก ฉันสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากกายอีกฝ่ายที่กำลังซึมซับสู่ผิวกาย ทั้งฉันและเขาได้เชื่อมโยงความรู้สึกต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง
เวอร์โก้รั้งตัวเธอไว้ด้วยแขนแกร่งก่อนประกบริมฝีปากอย่างดุดัน ความรู้สึกที่อัดแน่นในใจของฉันปะทุออกมา มือเรียวเล็กทั้งสองข้างวางบนอกแกร่งสัมผัสได้ถึงจังหวะหัวใจที่กำลังเต้นรัวเร็ว นี่เป็นครั้งแรกที่เราเชื่อมต่อกันโดยไม่หวังพึ่งเวทมนตร์ใด ๆ จูบของเขาแนบแน่น รุนแรง ราวกับต้องการปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดที่เก็บเอาไว้ ฉันรู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายพุ่งสูงขึ้น มือหนาประคองเอาสาวบางแน่นขึ้นเหมือนต้องการเป็นเจ้าของไปตลอดชีวิต
ท่ามกลางความเงียบ เราถอนริมฝีปากออกพลางมองลึกเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ฉันมั่นใจว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นเราสองคนในห้องทดลองลับอย่างแน่นอน
"เรียนจบแล้ว...แต่งงานกับผมนะ โซล่า" เขาพูดประโยคนี้ออกมาอย่างหนักแน่น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวังและความรักที่ลึกซึ้งพร้อมย่อชันเข่าตัวเองพร้อมกุมมือเล็กอย่างถนุถนอม
ทุกอย่างรอบตัวฉันเหมือนเหือดหายไป แม้แต่ระเบียบปฏิบัติตามประเพณีโบราณสูญสลายหายจากความคิด
ฉันย่อลงกับพื้นโดยไม่พูดอะไร ก่อนโน้มตัวเข้าไปโอบกอดและจุมพิศอย่างแผ่วเบา ยิ่งใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่ ดอกไม้ยิ่งเบ่งบานมากเท่านั้น เธอโน้มตัวดันร่างแกร่งที่เริ่มโอนอ่อนจนแผ่นหลังแนบกับพื้นห้องจากนั้นจึงเริ่มเปลือยเครื่องแบบพร้อมเข้าสู่ห้วงอนันตกาล
.......................
เวลาผ่านล่วงเลยกระทั่งสองปี ฉันและเวอร์โก้จบการศึกษาจากโรงเรียนเวทมนตร์ศาสตร์เอสคูเรียด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งและสองตามลำดับเพราะเขาทำหน้าที่ 'แฟน' ได้อย่างดีเยี่ยมระหว่างปลายชั้นปีที่ห้าและทั้งชั้นปีที่หก เขาช่วยติววิชาที่ฉันไม่ถนัดให้จนสามารถสอบเก็บคะแนนได้ในระดับดีเยี่ยม รวมถึงผ่านการทดสอบประลองเวทย์ ฉันเอาชนะได้ทุกคนยกเว้น 'ว่าที่สามี' ซึ่งเขารับหน้าที่เป็นคู่ซ้อมให้หลังเลิกเรียน
ลึก ๆ เวอร์โก้ไม่ใช่คนที่แย่ เพียงแค่บางครั้งก็อารมณ์ร้อนตามประสาวัยรุ่น เมื่อมองหน้าเปื้อนรอยยิ้มของฉัน เปลวเพลิงแห่งโทสะจึงมอดดับเร็วพลัน ทำให้ฝ่ายชายหนุ่มเริ่มตกหลุมรักในตัวอีกฝ่ายขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งจับมือกันเดินภายในโรงเรียนได้อย่างเปิดเผย
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกระพริบตา ทั้งคู่จับมือพร้อมเข้าสู่ประตูวิวาห์หลังจบการศึกษาได้ในเวลาไม่นาน สองครอบครัวเข้ามาพบปะพูดคุยสินสอดทองมั่นตามประเพณีสมัยใหม่แม้ลึก ๆ ซิริก้ายายของฉันจะไม่เห็นด้วยก็ตาม ในเมื่อเป้าหมายคือทำให้เด็กมียีนของเวอร์โก้ผู้ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งออกมาได้ก็คือว่าบรรลุเป้าหมาย เธอจึงไม่ปรี่ปากอะไรแล้วปล่อยให้เวลาล่วงเลยกระทั่งอาเนียได้จุติในครรภ์ของฉัน
ชีวิตครอบครัวข้าวใหม่ปลามันอยู่ในบ้านสองชั้นท่ามกลางพื้นที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มห่างไกลจากหมู่บ้านร้านตลาดเพียงไม่กี่กิโลเมตรซึ่งสามารถเดินทางได้ด้วยไม้กวาดและการวาร์ป
ช่วงเดือนแรกเวอร์โก้ใส่ใจดูแลประคบประหงมฉันในฐานะภรรยาสุดที่รัก หาข้าวหาน้ำให้ไม่ขาด ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าชายหนุ่มที่เธออุตส่าห์ลงแรงจับมานั้นกลายเป็นสามีอันแสนดีที่ฉันสามารถบอกรักเขาได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
พอย่างเข้าเดือนที่หก ตามร่างกายของชายหนุ่มเริ่มมีอักขระสีดำแปลกกระหลาดปรากฎขึ้น อีกทั้งยังสามารถขยับกระดุกกระดิกไปมาอย่างน่าขนลุก
"ไปสักมาใหม่เหรอคะ? สวยดีนะ" ฉันเอ่ยถามและพยายามไม่คิดมากเพราะมันคงเป็นอักขระสวย ๆ ที่มีความหมายสำหรับเขาจึงไม่ก้าวก่าย อีกทั้งเด็กในท้องเริ่มเติบโตขึ้นจึงไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับลวดลายบนตัวสามีซึ่งเวลาผ่านไปก็เริ่มชักเพิ่มขึ้นจนผิดสังเกต อีกทั้งช่วงนี้เขามักชอบเก็บตัวอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวโดยไม่อนุญาตให้ย่างกายเข้าไป เชื่อเถอะว่าวันที่พวกเราเริ่มสร้างบ้านหลังนี้ แบบแปลนดั้งเดิมไม่มีห้องนี้อยู่ด้วยซ้ำแต่เวอร์โก้ดังเพิ่มเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ไปร้านมิสเตอร์แท็กมานะ พูดคุยกันแปปนึงเขาก็ลงงานให้เลย ชอบไหมล่ะ?” ดวงตาของเขากลอกไปมาทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอ่านทำอะไรอยู่กันแน่
หากยังจำ ‘คัมภีร์ผนึกมาร’ ได้
มันเป็นเรื่องเคลือบแคลงใจฉันมาตลอดหลายเดือนว่า ‘มันคือหนังสือเกี่ยวกับอะไร?’ ‘ทำไมถึงต้องให้ฉันเอาอนาคตของตัวเองไปเสี่ยงในห้องอาจารย์ใหญ่เพื่อขโมยมันออกมา?’ ‘จนป่านนี้อาจารย์ใหญ่คอนเนอร์ไม่เอ่ะใจบ้างเลยเหรอว่ามีหนังสือปกสีดำหนึ่งเดียวที่วางเด่นบนชั้นหนังสือปกสีขาว?’
คำถามประดังประเดเข้ามาในหัวไม่หยุดหย่อนจนเกือบทำอาหารเย็นไหม้เพราะความเหม่อลอย
พอวันนี้สามีไม่อยู่บ้านฉันจึงใช้โอกาสนี้แอบขึ้นไปยังห้องทำงาน ฉันใช้คาถาปลดล็อกประตูขั้นสูงเพื่อไม่ให้เขาเอะใจเมื่อกลับมาถึง ในตอนนี้ฉันเริ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอความตายจนทำเอาขาสั่นเมื่อบานประตูถูกเปิดออก ออร่าสีทมิฬลอยทะมึนออกมาราวกับควันไฟไหม้โหมกระหน่ำอยู่ภายใน ฉันอยากประแทกบานประตูปิดลงพร้อมร่ายคาถาลงกลอนไว้อย่างเดิมพร้อมหันหลังกลับไปนั่งจิบชาบนโซฟาอันอ่อนนุ่มโดยลืมทุกอย่างให้หมด
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นขั้นสุดจึงตัดสินใจฝืนก้าวขาเข้าไปโดยกุมท้องที่มียอดดวงใจอยู่ เพียงผ่านพ้นธรณีประตู แรงกดดันต่าง ๆ และออร่าทมิฬกลับสลายหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทันใดนั้น ฉันจึงได้เห็นความจริง
กลิ่นคาวเลือดพุ่งเข้ามาเตะจมูกแทบยกมือขึ้นปิดจมูกไม่ทัน ภายในห้องมืดรายล้อมไปด้วยเทียนไขสีขาวพร้อมจุดไฟสีเขียวสลัว บนกำแพงมีกระดาษข้อมูลเกี่ยวกับศาสตร์มืด คาถาต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลลัทธิมารศาสตร์มืด เชื่อเถอะว่าประเพณีการสืบพันธุ์จากสมัยโบราณดูเด็กลงไปเลยหากเทียบกับสิ่งที่ฉันกำลังเห็นในตอนนี้
ยังไม่รวมวงแหวนเวทย์ซึ่งวาดด้วย 'เลือด' ฉันไม่มั่นใจเลยว่ามันเป็นเลือดของสัตว์วิเศษหรือเลือดมนุษย์ด้วยกัน ฉันสัมผัสถึงความชั่วร้ายไร้สิ้นสุดในตัวสามีในจากห้องนี้ และคัมภีร์ผนึกมารเล่มสีดำตั้งวางไว้กลางห้องเปิดออกเห็นภาพคนกำลังถูกชำแหละบนแท่นบูชาญัยเลือดสีแดงไหลนองอย่างน่าสยดสยอง มีตัวละครวาดด้วยหมึกสีดำยืนคล่อมร่างพร้อมชูบางสิ่งบางอย่างเป็นก้อนวาดไว้หมึกสีแดงและเลือดไหลย้อมมือให้เป็นสีเดียวพร้อมหยดลงบนแท่นบูชายัญ พื้นหลังรูปพระจันทร์สีชาดขนาดใหญ่ ซึ่งมันจะตรงกับวันบูชาพระจันทร์สีชาด เป็นคืนเดียวในรอบหลายปีที่พระจันทร์จะมีขนาดใหญ่กว่าหมายเท่าตัวและมีสีแดง จะทำให้เหล่าผู้วิเศษมีพลังแข็งกล้าขึ้น
ฉันรู้ได้ทันทีว่ามันคือการควักหัวใจเพื่อบูชาอะไรบางอย่าง
แต่บูชาอะไรกันล่ะ?
รายละเอียดถูกเขียนไว้มุมล่างขวามือด้วยลายมือของเวอร์โก้ว่า
'วันบูชาพระจันทร์สีชาด ควักหัวใจทายาทออกมากินแล้วจะได้รับพลังอย่างไร้ขีดจำกัด'
ร่างกายของฉันสั่นเทิ้มเมื่อได้อ่านบรรทัดถัดไป เข่าคู่อ่อนเปลี้ยจนทรุดนั่งกับพื้น
'พอข้าขึ้นเป็นจักรพรรดิมารและกินหัวใจของอาเนีย ข้าจักทำให้โลกคาโรเนียตกอยู่ในความมืดมิดตลอดกาล'
"ทะ...ทำไม?" ปากของฉันสั่นด้วยความหวาดกลัว เรี่ยวแรงถดถอยจนเผลอปล่อยมือจากคัมภีร์ลงพื้น
"โซล่า" เสียงทุ้มต่ำของเวอร์โก้ทำให้ฉันสะดุ้งสุดตัว ดวงตาเบิกโตหันขวับกลับไปเจอร่างชายหนุ่มปกคลุมไปด้วยเงามืด ด้วยตาแดงก่ำเรืองสว่างน่าสะพรึงกลัว มือทั้งสองและไม้กายสิทธิ์เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ฉันสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่สามีที่ฉันรู้จักอีกต่อไปแล้ว
_____________________________________________
To Be Continue Ep.26