หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย,ต่างโลก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์
'ทอม' มนุษย์เงินเดือนผู้จบชวิตลงด้วยอุบัติเหตุแสนน่าอนาถ วิญญาณจึงถูกดึงไปเกิดใหม่ชาติต่อไปในร่างหมาคอร์กี้แห่งโลกเวทมนตร์โดยมีความสามารถทางการสื่อสารเฉกเช่นมนุษย์ จนได้มาพบกับ 'อาเนีย' สาวน้อยนักเรียนแห่งโรงเรียนเวทมนตร์ในร้านขาวสัตว์เลี้ยงและได้ตั้งชื่อใหม่ให้เป็น 'นัปโปะ' จากนั้นด้วยความบังเอิญบางอย่างทำให้นัปโปะรู้ว่าตัวเองสามารถร่ายคาถาเสกเวทมนตร์ได้ เขาจึงตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่หาใครเทียบเพื่อมีชีวิตอันสงบสบายกับเจ้าของ
สองวันผ่านไปไวเหมือนนักเขียนกดข้าม เปลือกตาลืมตื่นขึ้นพบกับความว่างเปล่า เมื่อมองไปรอบ ๆ ไม่เจออาเนียเจ้านายสุดที่รักจึงรู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งสมองรับรู้ได้ว่าเธอถูก 'พ่อ' ซึ่งเป็นจักรพรรดิมารจับตัวไปยิ่งดิ่งความรู้สึกหดหู่มากกว่าเดิม ความเงียบที่ดังที่สุดถาโถมทะลุเข้ามาในหู แม้ว่าจะพยายามยกขาอันสั้นเตี้ยปุกลุกขึ้นมาปิดแล้วก็ตามยังไม่สามารถระงับสิ่งนั้น ผมลับตาครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อตื่นมาพบว่าเรื่องก่อนหน้าเป็นเพียงฝันร้าย จากนั้นผมจะออดอ้อนอาเนียให้สมใจเพื่อให้เธอปลอบโยนหัวใจอันบอบบางของหมาน้อย
ไม่...นั่นต่างหากคือความฝัน
ส่วนนี่...คือความจริง
ความจริงแสนโหดร้าย ผมไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งโลกนั้นกับโลกนี้มันช่างคล้ายกันเหลือเกิน ต่อให้เป็นมนุษย์ธรรมดาหรือหมาคอร์กี้คาบไม้กายสิทธิ์ได้นั้นมีสภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่ โดยเฉพาะเรื่องโชคผู้หญิง อยู่กับได้มักถูกชิงตัวไปตลอด
ทำไม???
"นัปโปะ! กินข้าว!!" เสียงโซล่าดังมาจากชั้นล่างพอได้ยินความหมายของประโยคนั้นทำให้ผมจำใจกลิ้งตัวเองให้ลงจากเตียง พอร่างกายหล่นกระแทกพื้นจึงสามารถรีบูตตัวเองให้สามารถยืนได้อีกครั้ง ในตอนนี้ผมไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เนื่องจากไม้กายสิทธิ์แหลกเป็นเสี่ยงเพราะจักรพรรดิมารเป็นผู้ทำลายมันโดยบังเอิญโดยไม่รู้ว่ามันคือของเก่าของเจ้าตัว ยกเว้นกลายร่างเป็นมนุษย์ ทั้งพละกำลังและทักษะการใช้เวทย์ถูกเพิ่มจนสามารถร่างเวทย์ด้วยมือเปล่า แต่มีเวลาจำกัดเพียงสามนาที นับเป็นความสามารถที่กินสังขารอย่างมาก
โซล่ายืนเจียวไข่ในห้องครัวโดยจุดไฟกายไม้กายสิทธิ์จากนั้นเสียบไว้บนขาหนีบซึ่งออกแบบมาเพื่อยึดให้ไม้ตั้งตรง เธอบอกว่าแม่บ้านชนชั้นกลางอย่างเธอไม่มีเงินพอสำหรับเตาทำความร้อนด้วยหินไฟอนันตกาลอย่างพวกคนรวย
แน่ล่ะ...ทุกวันนี้ยังได้เงินจากอาจารย์ใหญ่คอนเนอร์อยู่เลย ผมคิดว่าเขาคงใช้ระบบผลิตเงินมากมายจนปัญหาขัดสนในเงินทองหายวับไปกับตา ส่วนเงินที่โซล่าได้มาตลอดสิบสามปีนั้นอาจเป็นเงินค่าเทอมของเหล่านักเรียนก็เป็นได้...ช่างเถอะ ไม่มีใครรู้เทคนิคการบริการเงินของ 'ท่านผู้สร้าง' ได้ขนาดนั้น ไม่แปลกใจเลยที่ฟีลาจะยอมครองคู่
สุดท้าย...ผู้หญิงก็ชอบคนรวย...เว้น โซล่าและอาเนีย...ล่ะมั้ง?
อาหารของวันนี้ถูกเตรียมไว้ในชามอาหารสำหรับสุนัข ประกอบไปด้วยอาหารเม็ด...อาหารเม็ด...และอาหารเม็ด...แถมชามน้ำเปล่าว่างไว้ข้างกันช่างเป็นมื้อเช้าแสนจืดชือดอีกวันเลยทีเดียว หลายเดือนที่ผมอยู่กับอาเนียได้กินไส้กรอกดุ้นใหญ่แทบทุกมื้อ ส่วนอาหารเม็ดนั้นให้กินสัปดาห์ละครั้งเห็นจะได้
แต่นี่...อาหารเม็ดวันที่สองแล้วเจ้าค่ะ ได้เงินมาใช้ฟรี ๆ ในขณะตัวเองนอนตีพุงอยู่บ้าน ขี้เหนียวสิ้นดี
"รีบกินเข้าล่ะ เดี๋ยววันนี้ไปตลาดแมงดาด้วยกัน" เธอบอกพร้อมถือกระทะเดินเข้ามาย่อตัวเทไส้กรอกดุ้นมหึมาเทียบเท่าท่อนเอ็นในนิยายวายไทยที่เคยอ่านในแอปทำให้ดวงตาผมเบิกดพล่งทับอาหารเม็ดดัง ตุ้บ!!
.
.
.
โอเค...ผมขอถอดถอนคำพูดทั้งหมดครับ
ไส้กรอกดุ้นบิ้กไบค์ไจแอนด์ส่งกลิ่นหอมฉุยเตะจมูกชวนน้ำลายสอมากจ้ะแม่ เชื่อเถอะว่านั่นเป็นช่วงเวลาชั่วขณะที่ผมลืมอาเนียไป
"ตลาดแมงดาเหรอครับ?" ผมถามพลางเริ่มอ้าปากกว้างสวาปามไส้กรอกดุ้นยักษ์รสชาติเข้มข้นอุดมไปด้วยโปรตีนและไขมัน คุณแม่บ้านคนนี้ผมให้ใจไปหมดเลยครับ เสียดายที่ดันเป็นเมียของจักรพรรดิมารไปซะได้
"เป็นเมืองตลาดของผู้วิเศษหนึ่งเดียวในโลกคาโรเนีย เป็นที่ที่ไปซื้อนายมานั่นแหละ" เธอตักซุปใสในหม้อดีบุกที่เคี่ยวค้างคืนไว้ในชามแล้วจรดริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่มเมื่อมองลงลำคอขยับขึ้นลงและหลังคอขาวเรียวระหงส์ชวนมั่นใจในความตาถึงของไอ้จักรพรรดิมารดี ซึ่งพันธุกรรมเหล่านั้นถูกส่งผ่านมายังอาเนียซึ่งสีใบหน้าสวยตามวัยไม่ต่างจากโซล่า พอดวงตาแสนซุกซนมองส่วนเว้าโค้งจากด้านหลังเลื่อนลงตามแรงโน้มถ่วงปะกับสะโพก กระทั่งผมได้สติพลางสะบัดหัวอย่างบ้าคลั่งพร้อมด้วยร่างกายร้อนรุ่มไปทั้งตัว
"ได้ฟังอยู่หรือเปล่า? ถ้าไม่ได้ฟังอยู่เดี๋ยวปัดเอาไปตืนเลยนี่" เธอหันกลับมาดุเล็กน้อย "แล้วก็ไม่ต้องแปลงร่างนะ เดี๋ยวคนเขาหาว่าฉันมีผัวใหม่ไม่บอกใคร"
"ขะ...เข้าใจแล้ว..."
..................
การเดินทางไปยังตลาดแมงดาซึ่งห่างไกลจากบ้านเกือบสิบกิโลเมตรซึ่งเป็นชุมชนเล็ก ๆ เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย แน่นอนว่าตลาดนั้นมีกระจัดกระจายหลายแห่งทั่วโลกมีเจ้าของผูกขาดกับรัฐบาลผู้วิเศษเพียงผู้เดียวอย่าง 'ชัคเกอร์ แมนซัม' นักการเมืองและนักการตลาดผู้มีอิทธิพลในรัฐสภา ผมเคยเห็นใบหน้าของชายร่างเตี้ย ศีรษะล้านกลับไว้หนวดเครารุงรัง ดวงตาเปี่ยมประกายทองอร่ามสว่างไสว สวมชุดสูทตามแบบสมัยใหม่สีดำคาบซีการ์พร้อมพ่นควันตลอดเวลา เชื่อเถอะว่ามันทำให้ผมนึกถึงเจ้าของบริษัทเก่าที่เคยทำงานให้สมัยชาติก่อนผู้วัน ๆ เอาแต่เมาสุราเคล้านารีเป็นว่าเล่น
พวกเราบินผ่านด้วยไม้กวาดทางมะพร้าวเคลือบยางนุ่มเพื่อไม่ให้เจ็บก้นระหว่างขับขี่ สาเหตุที่ไม่ยอมใช้คาถาลอยตัวบินไปแทนนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังเวทย์โดยใช้เหตุ แถมคาถาหายตัวนั้นยังรุนแรงเกินไปสำหรับหมาตัวน้อยอย่างผม แต่ในความเป็นจริงผมสามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ด้วยโหมด 'จอมเวทย์ผู้พิทักษ์' แล้วใช้คาถาทุกอย่างในโลกราวกับเป็นพระเจ้าแต่โซล่าห้ามไว้ก่อน เนื่องจากเธออยากพาผมชมโลกใบนี้ตราบใดที่ยังมีโอกาส
โลกเบื้องล่างยามมองจากบนฟ้าช่างแสนหวาดเสียวอย่างไรไม่อาจรู้ได้ แต่ไม่ต่างจากโลกชนบทบ้านเกิดชาติก่อนแม้แต่น้อย ทุ่งนาข้าวเหลืองอร่ามต้องแสงแดดยามสายเป็นประกายไร้สารเคมีเจือปนไหวไปมาเพราะแรงลมอ่อน ๆ โชยกลิ่นหอมของมันลอยมาเตะจมูก ขนทุกเส้นทั้งสีส้มและสีขาวและใบหูคู่ยาวปลิวไสวตามลมที่ปะทะใบหน้าคลายความเครียดได้ในระดับหนึ่ง ในใจยังคงคิดถึงโหยหาผู้เป็นนายไม่จางหาย
"ไม่ต้องเศร้าไปหรอก ฉันเห็นก็กระวนกระวายพอ ๆ กับเธอนั่นแหละ" โซล่าลูบศีรษะผมอย่างเบามือพลางเลื่อนมาเกาคางทำให้รู้สึกจั้กจี้เล็กน้อย "แต่อาเนียจะไม่เป็นอะไร ฉันสอนลูกสาวมาดี จิตใจของเขาจะไม่มีทางตามคนอย่างจักรพรรดิมารตอนนี้ได้หรอก"
"หมายความว่าไง?" ผมหันขวับกลับมาถาม
"คงเป็นความโชคดีล่ะมั้งที่อาเนียเกิดมาเป็นเด็กผู้หญิงที่จิตใจเข้มแข็งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว" สาววัยสามสิบกลางยิ้มมุมปากสีชมพูกระดกขึ้น เส้นผมสีดำขฃับมีประกายไฮไลค์สีชมพูเหมือนลูกสาวปลิวไสวตามแรงลมเผยให้เห็นเรียวคอขาวอ่อนระหงส์ละลายใจชายชาตรีในร่างหมาน้อยจนแทบระเหย "อาเนียไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะ แต่ตอนนี้เราต้องเตรียมตัวสำหรับบุกฐานทัพของพวกมาร"
"เตรียมตัวเหรอ?" โซล่าชี้ไปยังซองหนังเสียบไม้กายสิทธิ์อันว่างเปล่า ผมมเข้าใจในทันที
....................
พวกเรายืนอยู่หน้าร้าน 'วอดเดอร์วูด' หนึ่งในร้านทำและขายไม้กายสิทธิ์ที่ดีที่สุดแห่งโลกคาโรเนีย เนื่องจากมีเพียงร้านเดียวบนโลก ออเดอร์จากทั่วสารทิศมักมาส่งด้วยกระดาษพับเป็นเครื่องบินพุ่งตรงมายังกล่องรับก่อนคลี่ตัวเองกลับไปแผ่นกระดาษดังเดิม โซล่าบอกว่าผู้วิเศษหนึ่งเดียวที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องไม้กายสิทธิ์ศาสตร์หนึ่งเดียวผู้นี้อายุมากกว่าหมื่นปี ปริศนาในความเป็นอมตะของเธอนั้นไม่มีใครสามารถแก้ได้
"แสดงว่าเธอก็ไม่มีผู้สืบทอดน่ะสิ สงสัยจริงว่าจะแก่หงำเหงือกขนาดไหน" ผมตั้งข้อสังเกตพลางเงยหน้ามองสิ่งปลูกสร้างด้วยไม้สีแดงเลือดหมู ป้ายร้านติดเหนือประตูทางเข้าสีน้ำตาลเข้ม ตัวหนังสืออักษรสีทองเขียนตัวใหญ่ว่า 'Wonder Wood' และตัวอักษรขนาดเล็กกว่าในสีเดียวกันเขียนว่า 'ดีที่สุดหนึ่งเดียวในคาโรเนีย เพราะแม่งมีอยู่ร้านเดียวยังไงล่ะ!!'
ทำเอาผมสับสนจนไม่รู้ควรรู้สึกอย่างไรดี
ภายในร้านไม่ได้ตกแต่งอะไรมากนอกจากกล่องพัสดุจำนวนมากตั้งตระหว่างราวกับหลุดเข้ามาอีกโลก ทั้งเมืองตะวันตก เมืองตะวันออก เมืองเหนือ เมืองใต้เขียนอยู่ตามกล่องพวกนั้นจนไม่อาจคำนวนได้ว่าในหนึ่งวันเจ้าของร้านต้องทำไม้กายสิทธิ์กี่อันและได้เงินเท่าไหร่ เชื่อเถอะว่าเพียงนั่งนับกล่องเหล่านี้ได้เกินวันแน่
"โซล่า" เสียงหญิงสาวดังมาจากด้านบนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาสะดุ้งสุดตัวไม่น้อย จึงหันไปมองตามสัญชาตญาณเห็นเจ้าของเสียงยืนอยู่บนชั้นลอยก่อนลอยตัวลงมาอย่างนุ่มนวล หุ่นของเธอบางจนเกือบกำรอบด้วยมือเดียว สะโพกผายและหน้าอกอวบอึ๋มสะกดตาชายทั้งโลก ไว้ผมสีชมพูตัดสั้นประบ่าเข้ากับใบหน้าอ่อนเยาว์ไม่ต่างจากสาวมหาวิทยาลัยพร้อมแว่นตา เธอท้าวเอวบางที่กำลังสวมถุงมือช่างด้วยท่าทางองอาจก่อนมองไปยังโซล่าด้วยแววตาเป็นประกายสีรุ้ง "ไม้กายสิทธิ์ด้ามนั้นซื้อไปแค่ยี่สิบปีก็หักแล้วงั้นเหรอ? แสดงว่ารักษาของไม่ได้งั้นสิ เพราะว่าไม้กายสิทธิ์ตีแบรนด์วอนเดอร์วูดของฉันมันไม่มีวันหักถ้าเจ้าของไม่ดูแลเอาใจใส่อย่างดี"
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะคุณเจ้มิลันยา" โซล่าปฏิเสธพลางโบกมือไปมาก่อนอุ้มผมขาลอยเหนือพื้นโดยไม่บอกกล่าวจนผมประหน้ากับหญิงสาวอายุนับหมื่น "พาเจ้านี่มาเลือกไม้กายสิทธิ์อันใหม่เท่านั้น"
มิลันยายื่นหน้าสวยจ้องมองตาไม่กระพริบก่อนระเบิดหัวเราะออกมา
"ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! หมาตัวนี้เนี่ยนะใช้เวทมนตร์ได้!?" เธอหงายหลังล้มตึงกลิ้งหลุน ๆ หัวเราะต่อบนพื้นอย่างบ้าคลั่ง "โอ๊ย! ขำอ่ะ! สัตว์วิเศษบางตัวยังใช้เวทมนตร์ไม่ได้เลย แต่นี่ไม่ใช่สัตว์วิเศษเสียด้วยซ้ำ"
ผมถอนหายใจก่อนหันกลับมามองโซล่า เธอสบตามผมก่อนพยักหน้าเป็นดั่งสัญญาณ
"โอเค" ผมกระโดดลงจากมือหญิงสาวก่อนกลายร่างเป็นมนุษย์ในชุดคลุมสีน้ำตาล เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสีครีม ทรงผมตัดสั้นสไตล์เกาหลีสีดำไฮไลค์สีเทาควันบุหรี่ดวงตาสีนิลเป็นประกายราวอัญมณี ทำเอาหญิงสาววัยหมื่นปีเบิกตาโตพร้อมด้วยใบหน้าแดงก่ำ
"อุ๊ยตายว๊ายกริ้ด! หมากลายร่างเป็นมนุษย์อย่างนี้ไม่ได้หากันง่าย ๆ แบบนี้หรอกนะ ร้อยวันพันหมื่นปีจะมีสักครั้ง จะว่าไปนั่นฉันก็เพิ่งเคยเห็นเป้นครั้งแรกนี่หว่า! อย่าถือสากันเลยนะ ฉันแก่แล้ว ได้เห็นของสวย ๆ งาม ๆ ก่อนตายสักครั้งจะเป็นอะไรไป" มิลันยาพูดรัวเป็นต่อยหอยก่อนพุ่งเข้ามาควงแขนผมที่มีความสูงมากกว่า ศีรษะของเธอแค่หัวใหล่ผมเท่านั้น "มา ๆ อยากได้ไม้กี่อันฉันจะให้หมดเลย โปรโมชั่นพิเศษของร้านเรามีแค่เธอคนเดียวนะรู้ไหม"
ระหว่างที่มิลันยาลากผมเข้าไปหลังร้าน โซล่ามองตามด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่
"อีแก่หัวงูประจำเดือนแห้งเอ้ย..."
--------------------
To Be Continue Ep.30