หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์ - ตอนที่ 30 ผจญเพลิง โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย,ต่างโลก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ต่างโลก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์ โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

 'ทอม' มนุษย์เงินเดือนผู้จบชวิตลงด้วยอุบัติเหตุแสนน่าอนาถ วิญญาณจึงถูกดึงไปเกิดใหม่ชาติต่อไปในร่างหมาคอร์กี้แห่งโลกเวทมนตร์โดยมีความสามารถทางการสื่อสารเฉกเช่นมนุษย์ จนได้มาพบกับ 'อาเนีย' สาวน้อยนักเรียนแห่งโรงเรียนเวทมนตร์ในร้านขาวสัตว์เลี้ยงและได้ตั้งชื่อใหม่ให้เป็น 'นัปโปะ' จากนั้นด้วยความบังเอิญบางอย่างทำให้นัปโปะรู้ว่าตัวเองสามารถร่ายคาถาเสกเวทมนตร์ได้ เขาจึงตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่หาใครเทียบเพื่อมีชีวิตอันสงบสบายกับเจ้าของ

สารบัญ

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 1 หมาตูดใหญ่,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 2 สัตว์เลี้ยวแสนรักก่อเรื่อง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 3 คาถาแยกร่าง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 4 โรงเรียนเวทมนตร์ศาสตร์เอสคูเรีย,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 5 ผู้สร้างระบบ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 6 หอพักสูงเสียดฟ้า,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 7 ชมรมประลองเวทย์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 8 ผจญภัยยามวิกาล,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 9 มารศาสตร์มืด,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 10 วิชาคาถามหัศจรรย์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 11 สัตว์เลี้ยงผู้ช่วย,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 12 สนทนากับอาจารย์ใหญ่,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 13 ร่างมนุษย์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 14 ทัวร์นาเม้นต์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 15 ผู้ท้าทายในวันหยุด,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 16 คืนบุกรุก,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 17 จักรพรรดิมารเสด็จ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 18 อาจารย์ใหญ่ ปะทะ จักรพรรดิมาร,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 19 โหมดจอมเวทย์ผู้พิทักษ์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 20 ช่วงเวลาบะหมี่สุก,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 21 ไม้กายสิทธิ์แหลกเป็นเสี่ยง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 22 แอบรักในรั้วโรงเรียน,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 23 มนต์รักเร่าร้อน,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 24 แผนเข้าห้องอาจารย์ใหญ่,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 25 คัมภีร์ผนึกมาร,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 26 คืนที่ไม่มีเธอ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 27 ผู้ให้กำเนิดกับทายาท ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 28 มารในใจ ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 29 ร้านขายไม้กายสิทธิ์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 30 ผจญเพลิง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 31 มังกรเพลิงโดรก้าเดรส,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 32 หอคอยวงกต,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 33 พร 3 ประการ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 34 พรสวรรค์ ปะทะ พรแสวง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 35 หมาคอร์กี้เผชิญมังกรเพลิง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 36 ผู้ช่วยเหลือจากแสงสว่าง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 37 สงครามแห่งโลกคาโรเนีย,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 38 ศึกสายเลือด,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 39 ทุ่มสุดตัวเพื่อเลือดหยดเดียว,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 40 (ตอนอวสาน) คุณคือผู้บริสุทธิ์?

เนื้อหา

ตอนที่ 30 ผจญเพลิง

กลิ่นหอมอโรม่าจากสมุนไพรสีประหลาดนำไปคั่วในเตาให้แห้งก่อนเทน้ำร้อนลงไปพร้อมตั้งเทียนให้เดือดตลอดเวลาทำให้บรรยากาศในร้านผ่อนคลาย มันคือพืชทางเมืองตอนใต้ชื่อ 'มาโจวนา' ยิ่งอบแห้งมากเท่าไหร่ยิ่งส่งกลิ่นหอมมากเท่านั้น แต่น่าแปลกใจที่พืชชนิดนี้ผิดกฎหมายในโลกนี้ แต่มิลันยากลับมีเก็บสต๊อกจนใช้ทั้งชาติก็ไม่มีวันหมด ผมไม่มั่นใจเลยว่าเธอรอดมาเพราะเธอซ่อนให้ห่างจากสายตรวจหรือเป็นเพราะหากเธอโดนจับก็ไม่มีใครสานต่อกิจการและศาสตร์ความรู้ทั้งหมด

ร้านของเธอมองจากภายนอกดูเล็กสวนทางกับชื่อเสียงของเธอนับหมื่นปี คงเป็นเพราะคาถาขยายพื้นที่ทำให้ภายในกว้างขวางจนเก็บเหล่าวัสดุไม้หายากมากมายรวมกันราวกับเป็นป่าดิบชื้นพร้อมเหล่าเครื่องไม้เครื่องมือธรรมดาอย่างที่เห็นได้จากร้านเหล่าช่างทั่วไป ระหว่างทางเดินไปพร้อมมีแม่มดสาวอายุหมื่นปีควงแขนไปด้วยแอบทำให้เดินลำบากยังไงก็ไม่รู้ หากอาเนียมาเห็นสภาพนี้คงได้กัดไม้กายสิทธิ์ขาดเป็นแน่

ในขณะเดียวกันผมสังเกตบางอย่าง

"หูของเธอมันแหลมไม่เหมือนผู้วิเศษคนอื่นเลย" ผมตั้งข้อสงสัยประการหนึ่ง จู่ ๆ ใบหูแหลมดันมีเลือดฝาดแดงซะงั้น

"เธอนี่ล่ะก็ช่างสังเกตจังเลยนะ นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่มีใครทักแบบนี้" มิลันยาดันหน้าอกอันอวบนิ่มเบียดเสียดต้นแขนจนทำให้บางสิ่งบางอย่างใต้กางเกงแขนตุงและร่างกายดันร้อนผ่าวขั้นมายังไงยังงั้น "ฉันเป็นผู้วิเศษผสมเอลฟ์จ้ะพ่อหมาหนุ่มน้อย นี่คือความลับของความเป็นอมตะของฉัน"

"ไม่ใช่ว่าเอลฟ์ออกไปจากโลกคาโรเนียตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอคะ?" โซล่าเองก็ตกใจไม่แพ้กัน "เหมือนจะเคยเรียนในวิชาประวัติศาสตร์โลกอยู่"

"ก็เหลือฉันเป็นคนสุดท้ายยังไงล่ะ ก็ดีนะ สมญานามของฉันว่า 'เอลฟ์ตนสุดท้าย' ช่างเท่อะไรปานนี้!!" เธอออกแรงกอดแขนผมแน่นจนกล้ามเนื้อยับยูยี้ก่อนส่งสายตาหวานเยิ้มใส่ "ไม่อยากมีเมียเป็นเอลฟ์เหรอคะ? หมาน้อยผู้น่ารัก"

"พอเลย พอเลยมิลันยา ฉันไม่ได้พาเจ้านี่มาเพื่อให้เธอกินหรอกนะ" โซล่าคว้าร่างผมไปเหมือนเด็กแย่งของเล่นพลางหรี่ตามองจิก "หมาตัวนี้เป็นของลูกสาวฉัน"

"น้องอาเนียน่ะเหรอ? วันนี้ไม่มาด้วยล่ะ?"

"เรื่องนั้นช่างก่อน ตอนนี้ฉันอยากได้ไม้กายสิทธิ์ให้กับเจ้านี่" โซล่าตัดบทก่อนคะยั้นคะยอให้เอลฟ์ผู้วิเศษจัดการหาไม้ให้ผม

"ก็ได้" มิลันดายักใหล่พร้อมยื่นมือมาหาด้วยแววตาจริงจังจนบรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนแปลงไปราวฟ้ากับเหว "ขอมือหน่อย"

ผมมองโซล่าแทนคำถามในใจ เธอพยักหน้าแทนคำตอบจึงทำให้ผมมั่นใจว่าหากยื่นมือให้แล้วผมยังคงเหลือมันกลับมาครบสามสิบสองประการ

เมื่อยื่นมือไป เธอคว้ามาแล้วปล่อยอย่างรวดเร็วจากนั้นท่องพึมพำบางอย่างโดยไม่ใช่เสียงก่อนใช้นิ้วจิ้มกลางหน้าผาก จากนั้นเธอดึงแสงสีขาวบางอย่างออกมาสร้างความตะลึงงันออกมา

ผมอ้าปากค้างไม่พูดอะไร ราวกับอีกฝ่ายกำลังเล่นกลที่แม้แต่คาถาทุกบทของผมกลายเป็นของเด็กเล่นไปอย่างไรอย่างนั้น

"นี่คือเศษเสี้ยววิญญาณของเธอ เจ้าหมาน้อย" เธอกระดิกนิ้วหนึ่งครั้ง ไม้กายสิทธิ์ที่ทำเสร็จแล้วลอยมาจากโต๊ะทำงานจำนวนสี่อัน "เธอเลือกไม้ที่ต้องการได้เลย จากขวาไปซ้ายคือไม้พะยูง ขึ้นชื่อในเรื่องของการนำโชคลาภมาแก่เจ้าของ จงรักภักดีที่สุดในบรรดาไม้ทั้งสี่ ไม้โอ้ค ขึ้นชื่อในการร่ายคาถาสารพัดนึก เชื่องกับเจ้าของง่ายแต่ค่อนข้างหลายใจ"

สายตาเหลือบไปมองโซล่า

"ไม้โอ้คเคยเป็นของสามีของเธอ โซล่า ซึ่งตอนนี้ได้เข้าสู่ด้านมืด" เธอหันมาสบตากับผมต่อ "ไม้ตะเคียน ขึ้นชื่อของความสามารถในการดึงศักยภาพของผู้ใช้ออกมาได้สูงสุดแบบเจ้าของของเจ้า อีกทั้งยังสามารถดึงพลังแฝงจากเจ้าของออกมา ส่วนไม้สุดท้าย ไม้แอปเปิ้ล ขึ้นชื่อเรื่องความพยศสูงมาก หากได้ครอบครองทั้งกายใจมันแล้วไซร้ มันจะดึงพลังแฝงออกมารีดจนหยดสุดท้าย"

"ผมต้องเลือกหนึ่งในสี่อย่างนั้นสินะครับ" ผมแสยะยิ้มก่อนคว้าไม้แอปเปิ้ลโดยไม่รีรอ โซล่าและมิลันดาเบิกตาด้วยความแปลกใจ แต่ไม่ได้เอ่ยปากเปล่งวาจาอะไร

จากนั้นแสงเศษเสี้ยววิญญาณถูกใส่เข้าไปในเนื้อไม้แอปเปิ้ลที่ผมเลือก ไม้กายสิทธิ์ด้ามไม้สั่นในมือพร้อมเปร่งแสงสีขาวอีกครั้งก่อนจะรู้สึกถึงลมวูบหนึ่งพัดเข้ามาเส้นผมเคลื่อนไหวตามแรงก่อนหยุดลงกระทันหันทั้งที่รอบด้านปิดมิดชิดจากอากาศด้านนอก

"ทีนี้ไม้กายสิทธิ์ก็เป็นของเจ้าแล้ว หลังจากนี้จงใช้มันให้ดี กลายเป็นนายที่ควรคู่กับมัน ผู้ถือไม้ที่พลังวิญญาณภายในตรงกันจะสามารถรีดประสิทธิภาพของไม้ออกมาได้ดีที่สุด..." มิลันดากล่าวด้วยวาจาน้ำเสียงจริงจังและทรงพลังก่อนหยุดชะงักเนื่องจากได้ยินเสียงกริ้ดร้องจากภายนอก "เสียงอะไร?"

ร่างมนุษย์ของผมหมดเวลาลงแล้วจึงกลับคืนร่างเป็นหมาดังเดิม ผมคาบไม้กายสิทธิ์ด้ามไม้พร้อมวิ่งออกไปด้านนอกพร้อมผู้ใหญ่ทั้งสอง จึงเห็นสมุนมารจำนวนมากกำลังถล่มตลาดแห่งนี้อยู่ ผู้วิเศษหลายคนพยายามเข้าต่อสู้แต่กลับเสียทีให้กับคาถาตัดชีวิต ขากรรไกรของผมกัดไม้ใหม่แน่นขึ้นก่อนดีดตัวพุ่งเข้าไปใส่เดี่ยวกับสมุนมารตัวหนึ่งทันที คาถาสงบนิ่งอัดเข้ากลางลำตัวล้มลงกับพื้นขยับไม่ได้

เมื่อสมุนมารอีกสองสามคนเห็นเหตุการณ์จึงยิงคาถาลำแสงสีม่วงใส่ไม่ยั้ง

ผมพุ่งเข้าหลบก่อนใช้คาถาแยกร่างทั้งหมดห้าร่างก่อนเผยตัวตนออกไปรุมยิงคาถาใส่จนแน่นิ่ง จากนั้นจึงมองไปรอบ ๆ เห็นว่าตลาดวายไปแล้ว ผู้วิเศาบางคนเข้าต่อสู้กับเหล่ามาร พวกมันพุ่งเข้าปล้น ฆ่าและขืนใจสร้างความหวาดกลัวแก่ขาวบ้านเป็นอย่างมาก

"โหมดผู้พิทักษ์จะหมดอะไรตอนนี้วะ" ผมสบถในใจก่อนปะหน้ากับสมุนมารอีกห้าตนเลยสั่งร่างแยกจัดการด้วยคาถาสงบนิ่ง

เสียงกรีดร้อง เสียงร่ำให้ เสียงก่นด่าสาปแช่งต่าง ๆ นานาดังไปทั่วตลาด ในตอนนี้ผมไม่สามารถเข้าไปช่วยได้หมดทุกคน สุดท้ายจึงวิ่งเข้าไปจัดการกับสมุนมารจนหนึ่งกำลังฉีกทึ้งเสื้อผ้าผู้วิเศษสาวอย่างบ้าคลั่ง

"อัลควาลันน์!!" ผมเสกใบมีดน้ำพุ่งไปเฉือนคอสมุนมารตนนั้นหลุดจากบาก่อนกระโดดใช้ขาสองคู่ถีบมันล้มกับพื้นแล้วไล่ให้หญิงสาวเสื้อผ้าหลุดรุ่นเผยให้เห็นเนื้อหนังมังสาขาวนวลวิ่งหนีไป

สถานการณ์เริ่มเลงร้ายลงเนื่องจากเกิดอัคคีเพลิงลุกไหม้ร้านค้าร้านหนึ่งสร้างด้วยไม้ล้วน แน่นอนว่าตึกร้านค้ารอบข้างจะกลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่สามารถต่อเปลิวเพลิงให้โหมกระหน่ำ ทั้งสู้และดับไฟด้วยคาถาน้ำไปด้วยเป็นสิ่งที่เพียงใช้ปากคาบไม้กายสิทธิ์แล้วร่ายเวทย์ไปด้วยนั้นช่างยากลำบาก แม้ว่าจะชินชาจากการฝึกฝนมานักต่อนักระหว่างอยู่โรงเรียนเอสคูเรียแล้วก็ตาม

"นัปโปะ! ทางนี้!" เสียงของโซล่าดังเข้าหูจึงหันไปเจอเจ้าของเสียงโบกไม้โบกมืออยู่ไม่ห่าง ด้านหลังของเธอคือร้านค้าขายร้านสัตว์เลี้ยงที่ผมเคยอยู่ช่วงเวลาหนึ่งมันกำลังเกิดเพลิงไหม้และกำลังลามเข้าไปถึงด้านในตัวร้านอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่ผมกำลังจะดีดตัวพุ่งไปช่วยนั้นกลับมีสมุนมารพุ่งเข้ามาอัดผมด้วยหมัดจนร่างลอยไถลกับพื้น ผมรีบชันตัวลุกก่อนดีดตัวไปเก็บไม้กายสิทธิ์ด้ามปัจจุบันพร้อมร่ายคาถาโจมตีใส่ซึ่งแน่นอนว่ามันปัดป้องสมบูรณ์แบบ

"ไอ้หมาคอร์กี้ที่เอสคูเรียนี่หว่า! มาดวลกันหน่อยซิว่าจะเจ๋งแค่...อั้ก!!" กระสุนแสงกระแทกกลางหลังสมุนมารจนมันล้มหน้าคว่ำไปกับพื้น คาดว่าฟันหน้าคงเฉาะกับพื้นอิฐอย่างแรงเทียบเท่าน้ำหนักตัวจนมันหลุดเลือดไหลอาบ ผู้ที่จัดการกับสมุนมารตัวนั้นคือ 'คาลอส' นั่นเอง เขาถือไม้กายสิทธิ์สีน้ำตาลอ่อนโบกสะบัดปัดป้องการโจมตีสมุนมารตัวหนึ่งอย่างชำนาญโดยตาไม่กระพริบก่อนหมุนตัวเสกคาถาโจมตีอันรุนแรงกระแทกให้ร่างทมิฬของมารกระเด็นลอยไปถูกหอกของรูปปั้นเสียบทะลุท้องดับสนิทคาที่

"ให้ช่วยไหมเจ้าหมาน้อย ขึ้นมาบนบ่าสิ" คาลอสยิ้มแต่จู่ ๆ โดนฝ่ามือใหญ่ฟาดเข้าหลังศีรษะจนก้มมองพื้นแบบไม่ทันตั้งตัว

"ไอ้นี่มัวแต่คุยกับหมาไม่มองดูตัวเองว่าจะโดนฆ่า!" เรย์ม่อนต์กระโดดเข้ามาประคองร่างคู่แข่งพร้อมเอ็ดเสียงเขียว "ไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ"

"รุ่นพี่คาลอส! เรย์ม่อนต์! มาได้ยังไงกันเนี่ย!?" ดวงตาของผมเป็นประกายเมื่อเห็นรุ่นพี่และเพื่อนร่วมห้อง

"นัปโปะ! เป็นอะไรหรือเปล่า!?" โซล่าเข้ามาสมทบพอดี แต่มิลันยาไม่ได้มาด้วย เธอมองเด็กหนุ่มทั้งสองพร้อมเกิดคำถามในใจ "สองคนนี้เป็นเพื่อนกับอาเนียงั้นเหรอ?"

"ป้าเป็นใคร?" เรย์ม่อนต์ยักคิ้วถามด้วยท่าทางกวนเบื้องล่าง แน่นอนว่าโซล่าเขกศีรษะเด็กหนุ่มพร้อมประกาศกร้าวว่าห้ามยุ่งกับลูกสาวเด็ดขาด

ผมไม่สนใจเหตุการณ์ตรงหน้า แต่ร้านขายสัตว์เลี้ยงนั้นต่างหาก ว่าแล้วจึงกระโจนตัวมุ่งหน้าไปยังร้านแห่งนั้น มองดี ๆ เริ่มเห็นว่าไฟไหม้ลามเข้าไปด้านใน แถมยังได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเหล่าสัตว์ซึ่งถูกขังกรง

"เอ็กซ์เปวซิมัส!" ผมร่ายคาถาปลดอาวุธ แต่หากทุ่มพลังเวทย์ลงไปหน่อยมันจะกลายเป็นกระสุนเวทย์ระเบิดทลายประตูเป็นชิ้น ๆ ไอความร้อนสะกิดผิวจนแสบพอง ผมกัดไม้กายสิทธิ์ด้ามใหม่แน่นก่อนเข้าไปด้านในเห็นสัตว์ในกรงกำลังร้องอย่างทรมาณพร้อมดิ้นทุรนทุรายเมื่อสัมผัสถึงความตาย ในขณะเดียวกันเห็นคุณลุงเจ้าของร้านนอนคว่ำหน้าอยู่ ตอนนี้ผมรู้อยู่แก่ใจว่าสามารถช่วยได้เพียงอย่างเดียว...แต่ทำอย่างไรถึงจะช่วยให้ได้หมดกันล่ะ?

"คุณลุง! คุณลุง! ไฟมันลามไปหมดแล้วนะ! รีบตื่นเร็วสิ!!" ผมใช้ศีรษะโหม่งร่างชายชราแต่กลับไม่มีทีท่าว่าจะลุก สุดท้ายจึงเสกคาถาปลดล็อก "ดิสคูลเบลอ!!"

เหล่าสัตว์วิเศษทั้งหมดกระโจนออกนอกกรงขังเป็นอิสระ พวกมันบางตัวหนีออกทางประตูหน้าร้านสู่โลกกว้างโดยไม่หันกลับมามอง ในตอนนี้เหลือเพียงผมกับคุณลุงซึ่งกำลังหมดสติ ผมมองไปยังกรงของเจ้าจิ้งเหลนไฟคู่กัดชั่วข้ามคืนสมัยนิยายช่วงต้นกลับไม่อยู่แล้ว แถมไฟแค่นี้คงทำอะไรมันไม่ได้ แสดงว่ามันคงถูกซื้อหลังจากผมหรือไม่ก็หนีไปเมื่อกี้โดยลืมผมไปแล้ว

แต่ช่างมันไปก่อน ตอนนี้เพดานกำลังจะถล่มจึงรวบรวมสมาธิเพื่อร่ายคาถา

"อียอนน่า!!" ร่างชายชราลอยเหนือพื้นจากนั้นจึงวิ่งออกมาจากร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งนั้น เพียงเส้นยาแดงผ่าแปด เพดานติดไฟได้ถล่มลงมาเสียงดังโครมครามเขม่าฝุ่นคลุ้งไปทั่วบริเวณเข้าไปในรูจมูกจนผมสำลักออกมาทำให้ไม้กายสิทธิ์หลุดจากปาก ชายชราหลุดจากมนตร์จึงหล่นตุ้บลงพื้นซึ่งสูงไม่กี่เซนติเมตรจึงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก ส่วนผมผมนั่งหอบอยู่แต่เหล่าสมุนมารมากมายนับไม่ถ้วนกลับยืนล้อมชี้ไม้กายสิทธิ์จ่อดักทางหนีหมดทุกทิศทาง

"ฉิบหายละ..."

---------------------------------------

To Be Continue Ep.31