หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์ - ตอนที่ 33 พร 3 ประการ โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย,ต่างโลก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ต่างโลก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์ โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

 'ทอม' มนุษย์เงินเดือนผู้จบชวิตลงด้วยอุบัติเหตุแสนน่าอนาถ วิญญาณจึงถูกดึงไปเกิดใหม่ชาติต่อไปในร่างหมาคอร์กี้แห่งโลกเวทมนตร์โดยมีความสามารถทางการสื่อสารเฉกเช่นมนุษย์ จนได้มาพบกับ 'อาเนีย' สาวน้อยนักเรียนแห่งโรงเรียนเวทมนตร์ในร้านขาวสัตว์เลี้ยงและได้ตั้งชื่อใหม่ให้เป็น 'นัปโปะ' จากนั้นด้วยความบังเอิญบางอย่างทำให้นัปโปะรู้ว่าตัวเองสามารถร่ายคาถาเสกเวทมนตร์ได้ เขาจึงตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่หาใครเทียบเพื่อมีชีวิตอันสงบสบายกับเจ้าของ

สารบัญ

เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 1 หมาตูดใหญ่,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 2 สัตว์เลี้ยวแสนรักก่อเรื่อง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 3 คาถาแยกร่าง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 4 โรงเรียนเวทมนตร์ศาสตร์เอสคูเรีย,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 5 ผู้สร้างระบบ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 6 หอพักสูงเสียดฟ้า,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 7 ชมรมประลองเวทย์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 8 ผจญภัยยามวิกาล,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 9 มารศาสตร์มืด,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 10 วิชาคาถามหัศจรรย์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 11 สัตว์เลี้ยงผู้ช่วย,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 12 สนทนากับอาจารย์ใหญ่,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 13 ร่างมนุษย์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 14 ทัวร์นาเม้นต์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 15 ผู้ท้าทายในวันหยุด,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 16 คืนบุกรุก,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 17 จักรพรรดิมารเสด็จ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 18 อาจารย์ใหญ่ ปะทะ จักรพรรดิมาร,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 19 โหมดจอมเวทย์ผู้พิทักษ์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 20 ช่วงเวลาบะหมี่สุก,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 21 ไม้กายสิทธิ์แหลกเป็นเสี่ยง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 22 แอบรักในรั้วโรงเรียน,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 23 มนต์รักเร่าร้อน,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 24 แผนเข้าห้องอาจารย์ใหญ่,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 25 คัมภีร์ผนึกมาร,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 26 คืนที่ไม่มีเธอ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 27 ผู้ให้กำเนิดกับทายาท ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 28 มารในใจ ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 29 ร้านขายไม้กายสิทธิ์,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 30 ผจญเพลิง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 31 มังกรเพลิงโดรก้าเดรส,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 32 หอคอยวงกต,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 33 พร 3 ประการ,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 34 พรสวรรค์ ปะทะ พรแสวง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 35 หมาคอร์กี้เผชิญมังกรเพลิง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 36 ผู้ช่วยเหลือจากแสงสว่าง,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 37 สงครามแห่งโลกคาโรเนีย,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 38 ศึกสายเลือด,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 39 ทุ่มสุดตัวเพื่อเลือดหยดเดียว,เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์-ตอนที่ 40 (ตอนอวสาน) คุณคือผู้บริสุทธิ์?

เนื้อหา

ตอนที่ 33 พร 3 ประการ

ความเงียบและความหนาวอุ่นพัดพาเข้ามาในห้องขังครอบคลุมให้เด็กสาวผมดำขลับไฮไลค์สีชมพูปล่อยเส้นบนศีรษะสยายออกยาวถึงกลางหลังนั่งกอดเข่าหลังชิดกำแพง ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังชามอาหารชุดใหม่ที่สมุนมารคนใหม่เข้ามาเปลี่ยนให้ เขามีท่าทางหวาดกลัวเธอยิ่งเนื่องจากได้ข่าวมาจากทหารยามว่าผู้ได้รับหน้าที่นี้คนเก่าถูกจักรพรรดิมารสังหารอย่างโหดร้ายเนื่องจากบังคับขู่เช็ญให้อาเนียกินอาหารที่เขาอุตส่าห์ยกลงมาให้

ในคราวนี้ความแตกต่างของซุปชามล่าสุดเหมือนมีอะไรบางอย่างแตกต่างกันทั้ง ๆ ที่ลักษณะไม่เหมือนกันหมด เป็นน้ำใสขุ่นข้นมีข้าวและธัญพืชแช่อยู่ภายใน

โครกก!!

เสียงท้องร้องของเด็กสาวร้องครวญครางลั่นจากไม่มีอะไรตกถึงท้อง เธออมแหวนกระเป๋าไว้ในปากแต่ไม่สามารถเปิดมันออกเนื่องด้วยไม้กายสิทธิ์ถูกยึดไป เธอพยายามทุ่มทั้งกายใจเพื่อร่ายคาถาเปิดกระเป๋าแหวนด้วยมือเปล่าเพื่อกินอาหารสำรอง เมื่อนั้นจึงรู้ซึ้งถึงความยากเธอจึงพยายามซ่อนแหวนกระเป๋าเพื่อไม่ให้สมุนมารรู้ เพราะไม่อย่างนั้นคงจะถูกยึดไปจนหมดกระทั่งไม่เหลือความหวังในการพึ่งตัวเองยกเว้นแต่เชื่อในความหวังลมแล้งให้นัปโปะหรือใครก็ตามมาช่วย

“มื้อนี้ก็ไม่กินอีกแล้วเหรอครับ?” สมุนมารตนหนึ่งก้าวเท้าเข้ามาในห้องขังพร้อมประคองถาดอาหารด้วยสองมือ ดวงตาของเขาดำทมิฬจนไม่เหลือตาขาว ท่าทางของเขาสุขุมนุ่มลึกไม่ป่าเถื่อนเหมือนที่ผ่านมา

เขาวางถาดอาหารบนพื้นแล้วค่อย ๆ จัดอาหารชามใหม่วางไว้อย่างใจเย็นก่อนหยิบชามเก่ากลับคืน เขาพินิจพิจารณาอยู่อย่างนั้นชั่วครู่จากนั้นเสียงครวญครางจากท้องเด็กสาวดังขึ้นอีกครั้ง

“คุณอาเนียไม่ได้ทานอะไรมาสามวัน ไม่อย่างนั้นคุณจะตายได้นะครับ” เขาเตือนด้วยความหวังดีและอกเป็นห่วงอีกฝ่ายไม่ได้ อีกทั้งยังสงสารในโชคชะตาของเธอซึ่งสุดท้ายแล้วจะพบจุดจบอย่างไร ร่างกายของเธอผ่ายผอม ริมฝีปากแห้งบาก เสื้อผ้าเครื่องแบบนักเรียนฉีกขาดเล็กน้อย ดวงตาไร้แววเลื่อนลอย “คุณอาเนีย”

“ไม่ว่ายังไงฉันก็จะตายในคืนนี้อยู่แล้ว” อาเนียตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ดวงตามองไกลไปยังจักรวาลไร้สิ้นสุด “อาหารไม่มีความจำเป็นสำหรับฉันอีกต่อไปแล้ว”

“อย่างน้อยจะได้มีแรง…”

“มันจำเป็นตรงไหน พวกแกก็อุ้มฉันไปสิ ระหว่างทำพิธีฉันไม่ต้องทำอะไรนอกจากนอนนิ่ง ๆ ให้จักรพรรดิมารควักหัวใจก็พอ” อาเนียพูดเค้นเสียงให้ดังดวงยังคงเลื่อนลอย “ไม่ต้องมาทำเป็นเห็นใจหรอกค่ะ”

สมุนมารตนนั้นยืนนิ่งใช้ความคิดอยู่อึดใจหนึ่งก่อนผงกศีราะก่อนหันหลังเดินออกไปจากห้องขัง

เมื่อประตูห้องขังถูกปิดล็อกไปแล้ว เธอคายแหวนกระเป๋าออกมาจากปากลงบนมือพร้อมตั้งสมาธิร่ายเวทย์ด้วยมือเปล่าโดยแววตากลับมามีแววอีกครั้ง กำลังวังชากลับมาเหมือนเดิมจากต้องแสดงละครเป็นเหยื่อผู้น่าสงสาร หิวโหย และหวาดกลัว

“อะเปอลาโบซ่า….อะเปอลาโบซ่า…อะเปอลาโบซ่า…” เธอพึมพำคำร่ายนี้มานับพันครั้งได้ แม้ไม่ได้ดื่มหรือกินอะไรมานาน จิตใจของเด็กสาวยังคงตั้งมั่นเปี่ยมไปด้วยความหวังถึงตัวเองและความช่วยเหลือจากสัตว์เลี้ยงแสนรัก มือขวากางนิ้วทั้งห้ายื่นไปหาแหวนทองวงขนาดเท่านิ้วชี้อันเรียวสวย มันสาารถเพิ่มละลดขนาดตัวเองเพื่อให้พอดีกับนิ้วเจ้าของ แต่ตอนนี้มันเปรียบเสมือนตู้เซฟซึ่งล็อกด้วยแม่กุญแจแต่กลับทำกุญแจหาย เธอยังคงท่อนคาถาปลดล็อกราวกับคนบ้าโดยมีน้ำตาไหลอาบแก้ม กระเพาะของเธอร้องครวญครางอย่างบ้าคลั่ง

“อะเปอลาโบซ่า….อะเปอลาโบซ่า…อะเปอลาโบซ่า…”

…………………..

“อียอนน่า!” เรย์ม่อนต์เสกคาถาลอยได้ใส่ก้อนหินออฟซิเดี้ยนก่อนใช้กำปั้นหวดพวกมันใส่เหล่าสมุนมารก่อนพวกมันจะได้เอ่ยปากร่ายคาถา มือของเด็กหนุ่มเริ่มมีเลือดไหลเนื่องจากโดยส่วนแหลมคมจากหินสีทมิฬทิ่มแทงฝังเศษเล็กเศษน้อยในบาดแผนสร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แม้ทั้งสามทุ่มเทต่อสู้ขนาดไหน เหล่าสมุนมารกลับทยอยเข้ามากันไม่ขาดสาย ราวกับว่าพวกมันขนพรรคพวกมาทั้งหอคอยเพื่อหยุดนักเรียนสองคนกับหมาหนึ่งตัว

"เอ็กซเปวซิมัส แม็กซิมัม!!" ผมเสกคาถาลำแสงสีแดงใส่ พวกมันล้มหมดสภาพไปสองสามตน ส่วนคาลอสได้ใช้คาถาใหญ่ไปสองสามคาถาซึ่งไม่รู้ว่าเป็นคาถาอะไรบ้าง แต่คำร่ายฟังดูซับซ้อนอย่างบอกไม่ถูก พวกเราเริ่มเหนื่อยหอบเพราะด้วยอากาศหายใจน้อย อีกทั้งยังต้องฮึดกำลังเอาตัวรอดจากตรงนี้ให้ได้ คาถาหายตัวมีเพียงรุ่นพี่คาลอสเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ แต่ในสถานที่แห่งนี้มักมีข้อจำกัดในการใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งสมาธิให้แน่วแน่ สถานที่ที่ต้องการไป รวมถึงใบอนุญาตในการหายตัวทางไกล ซึ่งตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องนึกถึงใบอนุญาตออกโดยรัฐบาล แต่เป็นการตั้งสมาธิของเด็กหนุ่ม อีกทั้งเขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะใช้สองคาถาได้ในครั้งเดียวอย่างผมในร่างมนุษย์

จริงสิ...ถ้าผมกลายร่างเป็นมนุษย์แล้วสู้ให้เต็มที่ก่อนหมดเวลา จากนั้นรอพักให้ร่างกายและพลังเวทย์ฟื้นตัวอีกหน่อยเป็นอันใช้ได้

จากนั้นผมจึงใช้ร่างมนุษย์จัดการเหล่าสมุนมารล้มหมดสภาพ คาถาสงบนิ่งถูกยิงออกจากปลายไม้ จากนั้นจึงร่ายคาถาสนับสนุนแยกร่างพวกมันออกเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งทยานเป็นห่าฝนโจมตีเหล่าสมุนมารล้มระเนระนาดในระลองเดียวสร้างความหวังให้กับเรย์ม่อนต์และรุ่นพี่คาลอสมากมาย เมื่อนั้นผมจึงออมพลังเอาไว้ด้วยการกลับคืนร่างเดินก่อนวิ่งหาทางลงไปหาอาเนียต่อ

"ข้าไม่อนุญาตให้พวกเจ้าลงไปหาเหยื่อบูชายัญ" มารตนหนึ่งปรากฎตัวพร้อมยิ่งคาถาลำแสงสีม่วงใส่พวกเรา รุ่นพี่คาลอสร่ายคาถาสายฟ้าสีเหลืองทองใส่ ทั้งสองพุ่งชนเข้าหากันเกิดแสงประกายกึ่งกลางสีเขียวพร้อมด้วยสะเก็ตไฟ พร้อมด้วยลมระลอกหนึ่งพัดวูบ เด็กหนุ่มกัดฟันแน่นขณะกำไม้กายสิทธิ์ชี้ไปทางศัตรู รูปร่างลักษณะของมันเป็นชายผิวเข้มร่างกายกำยำ ใบหน้าเล็ก ศีรษะโล้นเตียน ดวงตาสีดำทมิฬ มีแผนเป็นบริเวณมุมปากเหมือนถูกกรีดด้วยของมีคมน่าสยดสยอง รุ่นพี่คาลอสสะบัดไม้กายสิทธิ์ไปด้านบนหนึ่งครั้งเพื่อเบี่ยงวิถีคาถาขึ้นไปบนเพดาน ซึ่งมันส่งผลให้มันเกิดรอยแตกกระทั่งเศษหินสีนิลตกลงมา มารร่างใหญ่หยุดมันด้วยคาถาก่อนปล่อยมันตกลงพื้นด้วยความเยือกเย็น

"ไอ้หมอนี่ดูท่าทางเก่ง ฉันจะหยุดมันเอง พวกนายไปตามหาอาเนียเถอะ" รุ่นพี่คาลอสถือไม้กายสิทธิ์ป้องใบหน้าเชิงท้าทาย สายตาอันดุดันจับจ้องไปยังศัตรูซึ่งมีออร่าทมิฬพวยพุ่งทะลักออกมาแสดงถึงความแข็งแกร่งคนละระดับ "ในฐานะอันดับหนึ่งด้านการประลองแห่งดอสคูเรีย ฉันจะจัดการไอ้นี่เอง"

"ช่วยกันสู้ดีกว่านะครับรุ่นพี่!" ผมค้านหัวชนฝาพร้อมชี้ไม้กายสิทธิ์เผชิญหน้ากับศัตรู

"มันจะไม่ทันการณ์" รุ่นพี่คาลอสยกมือมาบังและดันผมถอยหลัง ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นจับจ้องไปยังอีกฝ่ายเปลือกตาไม่กระพริบ "นี่เป็นวันบูชาประจันทร์สีชาดแล้ว ไม่รู้ว่าจักรพรรดิมารจะดำเนินพิธีกันเมื่อไหร่ ตอนนี้เราต้องชิงไปหาอาเนียให้เร็วที่สุด"

"แต่เราไม่รู้เส้นทางเลยนะ!" เรยม่อนต์แย้ง

"นั่นแหละ" รุ่นพี่คาลอสแสยะยิ้ม "ยิ่งเดินทางด้วยจำนวนคนน้อย ยิ่งไปกันไวกว่าเดิม ฝากดูกันและกันไว้ด้วย วิ่งไปด้านหน้าห้ามหันหลังมาเด็ดขาด ต่อให้ฉันล้มหมดสติลงก็ห้ามหยุด"

ผมกัดฟันแน่นเท้าขาสั้นยังสั่นเทิ้ม แต่เรย์ม่อนต์ไม่คิดอย่างนั้น เขาคว้าร่างผมก่อนดีดตัวพุ่งทะยานฝ่าศัตรูด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ มารร่างใหญ่ตนนั้นจะร่ายคาถาใส่ แต่รุ่นพี่คาลอสกลับเสกคาถาแส้เรืองแสงสีทองคว้าข้อมือไว้ได้ทัน เป็นซื้อเวลาให้พวกเราสามารถผ่านหลังศัตรูรอดได้อย่างหวุดหวิด มารตนนั้นหันกลับไปเห็นคาลอสคาบไม้กายสิทธิ์คาบในปากพร้อมด้วยสายแส้เรืองแสงงอกออกมาจากปลายนิ้วทั้งสิบออกแรงดึงสกัดขัดขวางศัตรู

"สามารถใช้เวทมนตร์ได้โดยไม่เพิ่งไม้กายสิทธิ์งั้นเหรอ?" มารร่างใหญ่แสยะยิ้มอย่างพอใจ "แบบนี้ค่อยเหมาะกับเป็นคู่มือให้แบบสมน้ำสมเนื้อหน่อย"

มารกล้ามโตกระชากร่างเด็กหนุ่มจนลอยบนอากาศไปหามัน กำปั้นอันหนักหน่วงพุ่งกระแทกบริเวณลำตัวอย่างจังกระทั่งได้ยินเสียงของแข็งภายในลั่น ราวกับก้อนน้ำแข็งถูกกระเทาะจนเกิดรอยร้าว ก้อนโลหิตแดงฉานทะลักออกจากปาก ความเจ็บปวดแล่นแปลบไปทั่วร่างกายเหมือนถูกเข็มพันเล่มทิ่มแทง

"อั้ก!!"

"ร่างกายอ่อนแอสิ้นดี นี่หรืออันดับหนึ่งของเอสคูเรีย?" มารร่างใหญ่พ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างเยาะเย้ย "ฉันไม่คิดอย่างนั้นเลย"

ร่างอันปวกเปียกตกลงสู่พื้น เพียงอึดใจต่อมาเกิดออร่าสีเหลืองทองโอบอุ้มร่างเอาไว้ อวัยวะกระทั่งกระดูกถูกสมานเยียวยากลับมาเป็นเหมือนดังเดิม เด็กหนุ่มแสยะยิ้มพลางลุกขึ้นยืนยืดตัวตรงสร้างความตกใจแก่มารร่างใหญ่อย่างมาก

"ถูกข้าอัดด้วยกำปั้นจนกระดูกแหลกแล้วยังไม่เป็นอะไรสินะ?" มันกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "งั้นยิ่งคุ้มค่าให้หนึ่งในเจ็ดบาปอย่าง 'เคออส' บาปแห่งความริษยาอย่างข้าเอาจริงเอาจังแล้วล่ะ"

"เบียวเหมือนในการ์ตูนเลยว่ะ" คาลอสไม่พูดพร่ำทำเพลงต่อจึงตวัดไม้กายสิทธิ์ยิงคาถาใส่ เคออสหยิบไม้กายสิทธิ์ของตัวเองขึ้นมาพร้อมปัดป้องการโจมตีได้หมด ใบหน้ายังคงยิ้มเย้าะอีกฝ่ายแม้ว่าจะยังเคลือบแคลงในพลังการรักษาเยียวยาให้หายจากอาการฉกรรจ์สาหัส คาลอสระดมโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง ระหว่างนั้นเขาพึมพำบางอย่างในปากซึ่งมองไม่ออกว่าเขากำลังเอ่ยอะไรในลำคอ เคออสจึงวาร์ปไปด้านหลังของเด็กหนุ่มก่อนหวดกำปั้นใส่กลางกระดูกสันหลังเข้าจัง ๆ

กร๊อบ!!

"ถ้าแกลุกขึ้นมาอีก ข้าก็จะซัดจนกว่าแกจะตายนั่นแหละ" เคออสตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย

เมื่อแสงสีทองห่อหุ้มร่างกายอีกครั้ง คาลอสกลิ้งตัวหลบอัดของเคออสทันหวุดหวิดก่อนยิงกระสุนสายฟ้าสีเหลืองใส่ไม่ทันตั้งตัว มารร่างใหญ่เจ็บแปลบบริเวณที่ถูกคาถาโจมตี แต่นั่นทำได้เพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยไม่ส่งผลต่อชีวิตแต่อย่างใด

"ว่าแล้วต้องเป็นคาถา 'พรสามประการ' นี่เอง" เคออสจับจุดเด็กหนุ่มได้พร้อมฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันเขรอะไปด้วยคราบสีแดง ดวงตาสีทมิฬเป็นประกาย "คาถาโบราณที่สาปสูญไปนั่นเอง เป็นคาถาที่สามารถทำให้ผู้ใช้ได้รับพรที่ต้องการจำนวนสามข้อ แค่ด้วยเวลาครึ่งชีวิตของตัวเอง ไม่คิดว่าจะได้เห็นกับตา แสดงว่าสาเหตุที่ร่างกายฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติก็เพราะพรสองข้อนั่นแน่ ๆ"

"รู้ดีเกินไปนะ" คาลอสยิ้มแหย ไม้กายสิทธิ์ในมือสั่นระริก

เคออสเยื้องกายเข้ามาใกล้ ร่างกายของเขาพาดเงาทมิฬทับร่างเด็กหนุ่มจนมิด มองเผิน ๆ เหมือนไม่อาจเอาชนะได้ง่าย แต่หารู้ไม่ว่าเขากำลังพึมพำบางอย่างในลำคอ

-----------------------------

To Be Continue Ep.34