หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ข้ามเวลา,ไทย,ต่างโลก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เกิดใหม่เป็นหมาคอร์กี้ในโลกเวทมนตร์หลังจากจบชีวิตอย่างอนาถในโลกก่อนจึงเกิดใหม่ในโลกเวทมนตร์ในร่างของหมาคอร์กี้ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมในเส้นทางหมาน้อยสายจอมเวทย์
'ทอม' มนุษย์เงินเดือนผู้จบชวิตลงด้วยอุบัติเหตุแสนน่าอนาถ วิญญาณจึงถูกดึงไปเกิดใหม่ชาติต่อไปในร่างหมาคอร์กี้แห่งโลกเวทมนตร์โดยมีความสามารถทางการสื่อสารเฉกเช่นมนุษย์ จนได้มาพบกับ 'อาเนีย' สาวน้อยนักเรียนแห่งโรงเรียนเวทมนตร์ในร้านขาวสัตว์เลี้ยงและได้ตั้งชื่อใหม่ให้เป็น 'นัปโปะ' จากนั้นด้วยความบังเอิญบางอย่างทำให้นัปโปะรู้ว่าตัวเองสามารถร่ายคาถาเสกเวทมนตร์ได้ เขาจึงตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่หาใครเทียบเพื่อมีชีวิตอันสงบสบายกับเจ้าของ
แสงจากพระจันทร์สีชาดดวงมหึมาเป็นดั่งสัญญาณเริ่มต้นสงคราม ผู้วิเศษและมารวิ่งเข้าประจันหน้าแล้วโบกสะบัดไม้กายสิทธิ์ยิงกระสุนเวทย์ราวกับห่าฝน ผมร่ายเวทย์สร้างโล่ป้องกันขนาดใหญ่ ก่อนยิงกระสุนระเบิดไฟส่งผลให้ร่างสมุนมารปลิวลอยต่างทิศทาง บางตนถึงกลับร่างกายฉีกขาดเลยทีเดียว เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน เสียงโฮ่ร้องฮึกเหิ่ม เสียงกระสุนเวทย์สาดใส่กันไม่ยั้งมือ เสียงลำแสงเวทย์ปะทะกันอย่างดุเดือด
ผมเข้าร่วมสงครามเป็นครั้งแรกและไม่รู้ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตหรือไม่ ในใจอยากให้เป็นอย่างนั้นโดยตอนสุดท้ายผมยังมีชีวิต ไม่อยากเป็นเพียงชื่อที่ถูกสลักไว้บนศิลาเหมือนกับผู้อื่นกระทั่งถูกลืมเลือนไปในกาลเวลา
โซล่าสร้างดาบแสงจากปลายไม้กายสิทธิ์เข้าปะทะกับหญิงสาวร่างสูงชุดดำนามลุคซูริอา ทั้งสองปะทะกันด้วยเวทย์ระยะประชิดและยิงกระสุนเวทย์ใส่กันอย่างบ้าคลั่งราวกับโกรธกันมาแต่ชาติปางก่อน
"นี่หรือเมียเก่าขององค์จักรพรรดิ" สาวชุดดำแสยะยิ้มด้วยความเย้ยหยันก่อนสบัดไม้กายสิทธิ์เสกคำสาปตัดชีวิต แน่นอนว่าโซล่าเสกลำแสงสีฟ้าปะทะ "ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลยนี่หว่า! สู้เมียคนปัจจุบันไม่ได้หรอก!!"
"มึงเองสินะ" โซล่ากัดฟันแน่นก่อนฮึดใส่พลังสุดแรงจนก้อนลำแสงที่กำลังปะทะย้อนกลับไปหามารหุ่นสะเบิ้ม ความโกรธของหญิงสาวนั้นช่างน่าเกรงกลัวยิ่งนัก ด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านของเธอมีต่อสาวชู้จึงทำให้พลังเวทย์ระเบิดล้นทะลักยิ่งกว่าเดิม
ลุคซูริอาบาปแห่งราคะสัมผัสได้ถึงความเสียเปรียบจึงตัดสินใจใช้ไม้ตายเล่นงานคู่ต่อสู้ให้มึนงงด้วยกลิ่นฟีโรโมนซึ่งร่างกายของเธอสามารถสกัดออกมาได้ตลอดเวลา หากใช้กับเพศเดียวกันกั้นการรับรู้ของสมองทำให้คู่ต่อสู้เกิดความมึนงง หากใช้กับเพศตรงข้าม เขาคนนั้นจะถูกดึงดูดให้มาสืบพันธุ์อย่างที่เคยใช้กับจักรพรรดิมาร
"มึงใช้วิธีนี้หลอกล่อผัวกูสินะ" โซล่าพูดเสียงโทนต่ำก่อนเสกจุกอุดจมูกก่อนกลั้นหายใจ สายตาของเธอเห็นควันสีชมพูจาง ๆ ลอยละล่องมาจากร่างกายบาปแห่งราคะที่กำลังยืนนิ่ง ในช่วงจังหวะนั้น เธอเห็นโอกาสทองในการโจมตีถึงดีดตัวฮุกเข้าวงในในเวลาเสี้ยววินาที นิ้วชี้ของเธอส่องแสงสีชมพูก่อนปรากฎวงเวทย์รูปหัวใจ "ฟาสซีโน กรานเด้!"
ตราคาถามหาเสน่ห์ถูกประทับบริเวณหลังคอของลุคซูริอาโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ทันใดนั้นหญิงสาวชุดดำถูกมนตร์สะกดโบราณเล่นงานเข้าให้ แต่ด้วยสติสัมปชัญญะที่ยังคงหลงเหลือจึงพยายามต่อสู้ดิ้นรนสุดชีวิต
"คาถาโบราณเก้ากึ้กแบบนั้นทำอะไรข้า...อุ๊บ!!" ไม่ทันที่ลุคซูริอาจะได้เอ่ยอะไร มือเรียวขาวพุ่งปิดปากในทันทีพร้อมปลายไม้กายสิทธิ์จ่อ
"เวอร์โบมันเดรก" แสงสีทองสว่างวาบก่อนที่บาปแห่งราคะไม่สามารถเอ่ยสิ่งใดออกมาได้ ด้วยความกลัวซึ่งปะทุออกมาราวกับลาวาภูเขาไฟ ปากคาบไม้กายสิทธิ์แล้วง้างมือตบใบหน้าเรียวขาวซีดของลุคซูริอาอย่างไม่ลังเล ฝ่ามือตบแก้มขวาแก้มซ้ายสุดแรง ฝ่ายถูกกระทำพยายามยิงกระสุนเวทย์ใส่ แต่โซล่ากลับเขี่ยงศีรษะหลบได้ไม่ยากก่อนคว้าไม้กายสิทธิ์ศัตรูหักด้วยมือข้างเดียว ดวงตาอีกฝ่ายเบิกโตด้วยความตกใจไม่คิดว่าตัวเองจะพ่ายแพ้ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว "เป็นแค่เมียน้อยลักกินของคนอื่น ไม่มีค่าให้ทำพันธุ์ต่อหรอก แซมมา บีนาซา"
ลำแสงสีม่วงพุ่งออกจากปลายไม้กายสิทธิ์ของโซล่าเจาะใต้คางทะลุสมอง บาปแห่งราคะถูกปลิดชีพร่างไร้วิญญาณแน่นิ่งท่ามกลางสมรภูมิ หญิงสาวไม่สนใจลุคซูริอาผู้พ่ายแพ้ เธอจึงช่วยจัดการเหล่าสมุนมารต่อไปโดยภายในใจลึก ๆ แอบรู้สึกผิดที่ใช้คำสาปตัดชีวิตซึ่งเป็นเวทย์ถูกสร้างโดย 'ปฐมมาร'
..............................
แจ๊กไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีพลังมากมายถึงขั้นออร่าสีฟ้าพวยพุ่งออกมาทุกรูขุมขน ตั้งแต่เกิดมาเขาถูกวินิจฉัยว่ามีพลังเวทย์น้อย หากจำเป็นต้องใช้การฝึกฝนอย่างหนักเพื่อเพิ่มพลัง แน่นอนว่าเราทำอยู่ทุกวันจนเข้าโรงเรียน เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมชั้น เขายังคงห่างไกล จึงกลายเป็นข้อด้อยที่ตรึงเขาอยู่ในความตรอมตรม ไร้ความมั่นใจ ขาดความนับถือในตัวเอง
ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว เขาปัดป้องการโจมตีของสมุนมารก่อนยิงกระสุนเวทย์ระเบิดสวนกลับ การเคลื่อนไหวของเขาคล่องแคล่วว่องไวขึ้นราวกับร่างกายเปิดโหมดออโต้ไพลอด กระสุนเวทย์ที่เขายิงปะทะกับสมุนมารล้วนหนักแน่นรุนแรง จู่ ๆ สมุนมารตนหนึ่งลอบยิงคาถาใส่กลางหลังแจ๊ก แต่หนูแฮมสเตอร์อย่าง 'ชูบา' กระโดดออกมาจากกระเป๋าเสื้ออ้าปากกว้างเขมือบมันลงท้องก่อนถ่มใส่กลับคืน
"เก่งมากชูบา" ไม่ทันได้หยุดพักหายใจ ลำแสงสีม่วงพุ่งตรงมาจากทิศทางปริศนา ชูบาดีดตัวพุ่งออกมาเขมือบลำแสงจนหมด ด้วยพลังอำนาจของคำสาปตัดชีวิตอันร้อนแรงทำให้ควันพวยพุ่งจากปากของหนูแฮมสเตอร์ "ขอบใจมาก"
"ไอ้หนูแฮมสเตอร์นี่น่าสนใจดี เป็นสัตว์วิเศษตัวแรกที่รอดจากคำสาปนี้ถือว่าสัตว์เลี้ยงของแกไม่ธรรมดา" มารอ้วนชี้ไม้กายสิทธิ์มาทางเด็กหนุ่ม "อยากได้ว่ะ ถ้าได้มาคงจะดีไม่น้อย ส่งมันมาซะดี ๆ"
"ผมไม่ส่งให้หรอก สไตเคลโม!" แจ๊กยิงคาถาสงบนิ่งใส่ ชายอ้วนใช้มือเปล่าปัดป้องได้อย่างเฉียบคม
"โจมตีหนักหน่วงดี แต่มันก็แค่นั้น" เขาสูดจมูกฟืดฟัดไปมาก่อนชี้ไม้กายสิทธิ์โบกมันไปในอากาศพร้อมยิงลำแสงสีม่วงใส่อีกครั้ง คราวนี้ชูบาพ่นคาถาลำแสงสีม่วงเข้าปะทะ กระทั่งการโจมตีของชายอ้วนไร้ผลลัพธ์จึงทำให้ใบหน้าของเขาแดงระอุเส้นเลือดคลุมหนังศีรษะอันโล้นเตียน
"ไอ้หนูบ้านี่!! บังอาจล้อเล่นกับกุลลา บาปแห่งตะกละได้นะ!!" อีกฝ่ายระดมยิงกระสุนเวทย์ใส่ไม่ยั้งมือ แจ๊กสร้างคาถาโล่ป้องกันขนาดใหญ่ ซึ่งถูกทำลายลงด้วยคาถาปริศนาที่ชายร่างอ้วนเสกใหม่ด้วยความแค้น รูปร่างของมันเป็นเหมือนโลหะเหลวที่ไหลพุ่งเข้ามาชนโล่เวทย์แตกกระจายและกระแทกเด็กหนุ่มล้มก้นคะมำไปกับพื้น มันไม่ได้หยุดเพียงนั้น กุลลาสะบัดโลหะเหลวหวดฟาดลงกับพื้นราวกับแส้ แจ๊กสามารถกลิ้งตัวหลบได้ แต่บาปแห่งตะกละไม่ยอมหยุดเพียงนั้น มันแยกส่วนโลหะเหลวออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนปั้นให้มีรูปร่างใบมีดชี้ปลายแหลมมาทางเด็กชาย ไม่เพียงเท่านั้นพวกมันพุ่งเข้าใส่รัวเร็วราวกับห่าฝน
"โพรเทคชั่น แม็กซิมัม เวอซาโต้คอบโปะ!!" แจ๊กกัดฟันแน่นพร้อมสร้างโล่เวทย์ต่อด้วยคาถาแยกร่างเพิ่มโล่เวทย์ซ้อนกันเจ็ดชั้น มีดทองพุ่งปะทะกับโล่เวทย์อย่างแรงเกิดเสียงเอฟเฟ็กต์ดังสนั่นอลังการ ความแข็งแกร่งของพวกมันส่งผลให้โล่ชั้นแรกแตกละเอียดอย่างง่ายดาย ตามมาด้วยชั้นที่สองและชั้นที่สามติด ๆ แจ๊กพยายามสร้างโล่เวทย์ขึ้นมาอีกหลายชั้น แต่ด้วยการโจมตีที่มีพลังรุนแรงเกินกว่าโล่ป้องกันจะทนทานไว้จึงผ่านทะลุพวกมันทั้งหมดเข้ามาได้
ในวินาทีที่เด็กชายรับรู้ถึงความตายด้วยสัญชาตญาณ เขาคว้าตัวหนูแฮมสเตอร์ก่อนโยนให้ห่างจากวิถีห่าคมมีดพร้อมรอยยิ้มแสยะ ชูบามองผู้เป็นนายด้วยดวงตาดำเบิกกว้าง หากเทียบกันในหนึ่งวินาทีของมนุษย์เทียบเท่าหลายชั่วโมงสำคัญแฮมสเตอร์ผู้มีอายุขัยอันสั้น มันรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายยอมสละชีวิตอย่างไม่ตั้งใจเพื่อให้สัตว์เลี้ยงแสนรักของตัวเองอยู่รอด
"มีชีวิตอยู่ต่อไปนะ ชูบา..." ไม่ทันได้เอ่ยสิ้นประโยคดี ฝนคมมีดแทงทะลุร่างเด็กชายเลือดกระฉูด ทะลักอาบนองพื้น ร่างกายของแจ๊กดูไม่ต่างจากกระบองเพชรเลยทีเดียว
ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก!
ชูบามองร่างอันไร้วิญญาณของผู้เป็นนายซึ่งมีมีดสีทองปักนับไม่ถ้วน ใบหน้า ร่างกาย แขน ขา อวัยวะทุกส่วนล่วนถูกปักด้วยมีดมิดด้าม
"ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ไอ้เด็กเวรนี่ตายเสียที!!" กุลลาหัวเราะร่าประกาศชัยชนะจนไขมันหน้าท้องขนาดใหญ่สั่นกระเพื่อมก่อนเดินมาหาเจ้าหนูแฮมสเตอร์ซึ่งมันไม่คิดจะหนี มันรับรู้ถึงการจากไปของเจ้านายดี แต่หากไม่เหลือเขา มันไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป มันยืนรอรับชะตากรรมของตัวเองด้วยการยืนยืดหลังตรงเผชิญหน้ากับชายร่างอ้วนที่กำลังชี้ไม้กายสิทธิ์ "ส่วนแก เจ้าหนูนา จงไปอยู่กับเจ้านายของแกเสีย! แซมมา บีนาซ่า แม็กซิมัม!!"
ฉึก!!
"อ๊ากกกก!!" ชายร่างอ้วนกรีดร้องเสียงแหลมเหมือนสุกรถูกฉุดกระชากลากเข้าโรงฆ่าสัตว์ ใบหน้าเงยมองท้องฟ้าแหกปากร้องจนเส้นเสียงขาดสะบั้น ลำแสงสีม่วงขาดสายไปทำให้ไม้กายสิทธิ์ลวดลายปราดเปรียวสีน้ำตาลอ่อนหลุดจากมือกลิ้งไปบนพื้นสนามรบ ใบหน้าหนึ่งยื่นออกมาจากด้านหลังชายอ้วนกำลังแสยะยิ้มอย่างมีชัย
แจ๊กนั่นเอง
"กะ...แกตายไปแล้ว!!" ความงุนงงผุดขึ้นภายในหัวบาปแห่งตะกละ แต่เมื่อเห็น 'ร่างแยก' ของเด็กชายที่เพิ่งสลายเป็นผงจึงทำให้ทุกอย่างกระจ่าง เด็กชายจับมีดทองของกุลลาแทงกลางหลังทำลายกระดูกส่วนสำคัญในร่างกายส่งผลให้อีกฝ่ายไม่ตายในทันที แต่จะไม่สามารถขยับตัวไปได้อีกตลอดชีวิต "อยากได้...ทองหรือเปล่าล่ะ? ถ้าเอา...ข้าจะให้ เด็กอย่างเจ้าน่าจะต้องใช้มันมากกว่าข้า..."
"พูดอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่อง" แจ๊กเอ่ยก่อนใช้ขาดันร่างอันกลมบวมคะมำกับพื้นก่อนเสกคาถาสงบนิ่งใส่เพื่อให้ร่างกายหยุดชะงักแต่ยังคงความเจ็บปวดของแผลบริเวณแผ่นหลัง ดวงตาอันเรียบเย็นจับจ้องไปยังร่างอันนิ่งสนิทแล้วย่อตัวแบมือไปรับหนูแฮมสเตอร์คู่ใจขึ้นมาวางบนไหล่ "ลูกชายประธานบริษัทอย่างผมไม่ต้องการทองกระจอกจากคุณหรอกนะครับ"
เขาพูดจบก่อนหันหลังจากไปเข้าร่วมสงครามระหว่างผู้วิเศษและมารศาสตร์ต่อด้วยท่าทางและบรรยากาศที่เปลี่ยนไป
..................................
เฌอแตมเขาปะทะกับหนึ่งในเจ็ดบาปหญิงสวมหน้ากากไม้วาดลวดลายสีแดง ดวงตาของมันเรืองแสงสีแดงฉานสร้างความอึดอัดใจแก่คู่ต่อสู้ ไม่ว่าจะคาถาใดกลับถูกปัดป้องอย่างง่ายดายราวกับรู้อยู่ก่อนล่วงหน้า เธอพยายามใช้คาถาแยกร่างเพื่อโจมตีแต่กลับถูกคาถากระสุนเวทย์ระเบิดซัดจนอยู่หมัด ท่าทางการร่ายเหมือนเต้นรำ ด้วยสรีระร่างกายบางสะโอดสะองค์ ขนาดหน้าอกใหญ่กว่าไข่ดาวเล็กน้อยรวมถึงแขนขาเพรียวบางแต่เปี่ยมไปด้วยมวลมัดกล้ามยิ่งทำให้การร่ายรำพริ้วไหวดั่งสายน้ำซึ่งยากต่อการรับมือ
"เก่งเกินไปแล้ว" เฌอแตมเริ่มหอบหายใจ แต่จู่ ๆ อาเนียกลับเดินมาจากทิศทางปริศนาถือไม้กายสิทธิ์เผชิญหน้ากับหนึ่งในเจ็ดบาปอย่างไม่เกรงกลัว "อาเนีย! เธอเพิ่งสู้กับเจ็ดบาปอีกตนมาไม่ใช่เหรอ!? ยัยนี่ฉันจัดการเอง"
"ขอโทษนะรุ่นพี่เฌอ แต่ยัยนี่เราช่วยกันจัดการดีกว่านะคะ" อาเนียเอ่ยก่อนสะบัดไม้กายสิทธิ์ยิงลำแสงสีแดงใส่อย่างรวดเร็วซึ่งมันทำลายหน้ากากไม้ของหนึ่งในเจ็ดบาปตนนั้นอย่างไม่คาดคิด
เพียงเท่านั้น ใบหน้าอันแท้จริงของอีกฝ่ายถูกเปิดเผย แน่นอนว่าเฌอแตมอ้าปากค้างด้วยความตกใจอย่างยิ่ง แต่มีอาเนียที่ยังคงสีหน้าเรียบนิ่ง
"ซูเปริอา บาปแห่งอัตตา...คือฟองเบียร์..." อาเนียกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ "ลูกสาวนอกสมรสของจักรพรรดิมาร...พี่สาวต่างสายเลือดของฉันเอง"
-----------------------
To Be Continue Ep.38