เธอย้อนเวลากลับมาพบกับ คุณเผิง และ อาหยูตัวน้อย ความเข้าใจผิดในอดีตจะได้รับการเเก้ไขหรือไม่ ? เมื่อมีผู้หญิงอีกคนมาบอกว่า "คืนสามีให้ฉันเถอะค่ะ !"
รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ย้อนเวลา,เลี้ยงเด็ก,อาหยู,ดราม่า,รักวัยรุ่น,แอบรัก,สามี,เกิดใหม่แต่ใจเดิม,เกิดใหม่ ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
หนีรักมาพบคุณเธอย้อนเวลากลับมาพบกับ คุณเผิง และ อาหยูตัวน้อย ความเข้าใจผิดในอดีตจะได้รับการเเก้ไขหรือไม่ ? เมื่อมีผู้หญิงอีกคนมาบอกว่า "คืนสามีให้ฉันเถอะค่ะ !"
เป็นโอกาสจากสวรรค์หรือบทลงโทษ ที่ให้ย้อนเวลากลับมาพบเขาอีกครั้ง !
“เธอ” อกหักรักผู้ชายคนนี้แค่ครั้งเดียวก็เกินพออยู่แล้ว ซ้ำยังมาตายเพราะอุบัติเหตุเหนือคาด
แต่ทำไมต้องจะอกหักซ้ำซ้อนอีก หรือว่านี่คือความเมตตาจากสวรรค์ที่ให้วิญญาณเธอย้อนเวลามา
เพื่อพบกับ “คุณเผิง” ป๊ะป๋าสายอ่อย และ “ลูกชายตัวน้อย” ในฐานะพี่เลี้ยงเด็ก(สาวใช้)อีกครั้ง
แค่หน้าที่พี่เลี้ยงเด็กทำได้อยู่แล้ว แต่หน้าที่พี่เลี้ยง(ใจ)คุณป๊ะป๋าน่ะ เธอไม่ไหวหรอกนะ...
ก็เพราะเขาดันพูดขึ้นว่า “มาเป็นหม่าม้าของอาหยูได้ไหม ?”
เธอจะตอบเต็มปากได้อย่างไร ในเมื่อมีผู้หญิงอีกคนมาบอกว่า
“ขอร้องนะคะ คืนสามีให้ฉันเถอะค่ะ !”
นี่เป็นบทลงทัณฑ์จากสวรรค์หรือยังไงกัน—!?
Chapter 2
หลังจากที่เดินซื้อของรวมถึงแวะรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบสองทุ่ม หญิงสาวทั้งสองช่วยกันขนของจากท้ายรถเดินเข้ามาวางไว้บนโต๊ะในห้องครัว
“เดือนหน้าที่บริษัทมีวันหยุดยาวจะกลับบ้านไหม ?” ถลัชนันท์เอ่ยถามขึ้นขณะที่วางของ
“จริง ๆ วันหยุดยาวมีตั้งแต่วันนี้และยาวไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหางานใหม่ได้” หญิงสาวตอบกลับพลางหยิบของที่ซื้อมาจัดใส่เข้าตู้เย็น
“อย่าบอกนะว่าเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ ?”
“ใช่ที่ไหนล่ะ เพื่อนที่นี่ดีทุกคนแหละ แต่เดินทางไกล งานก็หนักเงินก็น้อย” หญิงสาวพูดพลางถอนหายใจออกมาเสียงดัง หันหน้ามามองพี่แล้วพูดต่อไปว่า “ก็มันกลับดึกนี่ ก็รู้ว่าขนาดวันหยุดบางทียังต้องเข้าไปเก็บผลการทดลองที่ทำค้างไว้เลย มันเหนื่อยและจอมก็อยากทำงานที่ขึ้นตำแหน่งสูงมากกว่านี้ได้ด้วย”
“แล้วบอกแม่หรือยัง ?”
ลฎาภาส่ายหน้าทันที “มีหวังให้กลับมาช่วยทำงานที่บ้านแน่ ๆ”
คนเป็นพี่ยิ้มหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำตอบ แน่นอนว่ารู้นิสัยของน้องสาวดีที่ไม่ชอบกลับไปทำงานรีสอร์ทที่บ้านเกิด เพราะต้องรับมือกับแขกเดาไม่ได้และรวมถึงเธอด้วย
“แต่แกจะมานั่ง ๆ นอน ๆ แบบนี้โดยไม่หางานทำไม่ได้นะ”
ลฎาภามองแล้วยิ้มออกมาด้วยสายตาอ้อนออด
“เอาน่า จอมสัญญาว่าจะรีบหางานใหม่ให้ได้เร็ว ๆ”
เฮ้อ...เสียงถอนหายใจของถลัชนันท์ดังขึ้นอีกครั้ง พลางเหล่มองน้องสาวที่กะพริบตาให้
“เออ รีบ ๆ ด้วยละกัน เงินเก็บฉันจะหมดเพราะแกนี่แหละ”
“น่ารักที่สุดเลย !” เธอพูดเสียงหวาน เดินเข้ามากอดถลัชนันท์แน่น ก่อนจะคลายวงแขนออกและยิ้มหวานให้ ขณะที่คนเป็นพี่มองแล้วส่ายหน้าออกมาก่อนเดินออกจากห้องครัวไป เหลือเพียงลฎาภาที่ยืนยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและโล่งอก
อย่างน้อยก็ไม่ถูกไล่ให้กลับบ้านไปสักพักหนึ่งละนะ...
อยากจะบ้าตายสุด ๆ ไปเลย
ลฎาภาสบถในใจพลางเอนตัวลงพิงที่พนักเก้าอี้ หลังจากที่รออีเมลตอบกลับจากบริษัทหลายแห่งมาหลายวันแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีการตอบกลับอีกเช่นเดิม เธอยกมือขยี้เส้นผมสีน้ำตาลสั้นประบ่า มือข้างหนึ่งก็เอื้อมหยิบขนมที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมากินเพราะยังรออีเมล แต่จะปล่อยให้ว่างงานไปหลายเดือน
ก็ไม่ได้ มีหวังต้องโดนบ่นแน่
หญิงสาวถอนหายใจพลางเปิดเข้าไปดูโพสต์ที่อัพเดทรวมทั้งข้อความที่บ่นเพ้อของเพื่อนสมัยเรียน ก่อนขยับตัวลุกขึ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตัดใจ ดูท่าแล้วคงไม่มีจดหมายตอบรับจากบริษัทที่ส่งใบสมัครงานไปแน่ ๆ
ลฎาภาเดินออกจากห้องนอนมายังห้องครัวเพื่อหาอาหารว่างรับประทาน ทว่าเสียงถอนหายใจดังนับสิบรอบ ขณะเดินกลับขึ้นมานั่งอยู่หน้าจอคอมเช่นเดิม ทันใดนั้นก็มีเสียงอีเมลตอบกลับมา เธอจึงไม่รอช้าที่จะเปิดอ่านทันที ครั้นได้อ่านใบหน้าสวยที่บูดบึ้งอยู่นั้นก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมา
“ได้แล้ว ๆ” หญิงสาวร้องออกมาด้วยความดีใจ ขณะที่ลุกขึ้นเต้นราวกับว่าถูกรางวัลก้อนใหญ่ แม้จะยังไม่รู้ผลตอบรับการเข้าทำงาน แต่บริษัทเรียกสัมภาษณ์งานนั้นถือเป็นเรื่องน่ายินดี อีกอย่างบริษัทใหญ่มีการตลาดดีทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งสวัสดิการพนักงานก็ดีด้วย
สวรรค์ช่วยลูกแล้ว !
ลฎาภาดีใจอยู่นานก่อนจะรีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าในทันที มองเสื้อผ้าสำหรับใส่ไปวันสัมภาษณ์ในวันอังคารหน้า จนกระทั่งผ่านไปแล้วสิบนาที เสื้อผ้าทั้งตู้ก็ถูกขนออกมาจนเกือบหมดแล้วก็ยังหาตัวที่เหมาะสมกับการใส่ยังไม่ได้ หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะจัดเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ดังเดิม
“ไปซื้อใหม่ก็ได้ เผื่อจะได้งานที่นี่” ลฎาภาพูดแล้วหยิบเสื้อผ้าออกมาเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากอาบน้ำเสร็จเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมามองสายที่โทร. เข้า ก่อนกดรับ
“ว่าไงคะ คุณพี่”
[วันนี้กลับดึกนะ กะว่าจะไปกินดินเนอร์กับพี่อาร์ตสักหน่อย]
“พอดีเลย จอมจะออกไปซื้อของอยู่”
[งั้นแค่นี้นะ ปิดประตูบ้านให้ดีล่ะ]
“รับทราบค่า”
ลฎาภาวางสายเดินมาแต่งหน้าแล้วหยิบกระเป๋าออกจากห้องไปทันที
หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ....
ถลัชนันท์ยืนรออยู่หน้าประตูห้องคอนโด ฯ ของเขามาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว พอโทร. หาแฟนหนุ่มก็ปิดเครื่องไม่รับสาย จนสุดท้ายตัดสินใจที่จะใช้กุญแจสำรองที่ได้ให้เปิดเข้าไปรอข้างใน
เกือบสองอาทิตย์ที่ไม่ได้พบหน้ากับชายหนุ่มเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายงานเยอะ โทร. หรือส่งข้อความไปก็มักจะบอกว่า ติดประชุมบ้าง เจ้านายเร่งงานบ้าง หรือต้องออกไปพบปะลูกค้า จึงทำให้ไม่กล้าโทร. มากวนมากเท่าไหร่ แต่มันก็นานมากจนทำให้เธอรู้สึกว่าเริ่มห่างกันออกไป
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเดินดูไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะเดินไปยังห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่ม ไม่นานนักเธอก็ได้ยินเสียงเปิดประตูจึงรีบเดินไปทว่าก็ ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งแทรกเข้ามาทำให้หยุดชะงักลงและหาที่ซ่อนทันที
“มาอยู่กับฉันแบบนี้ แฟนคุณจะไม่ว่าเหรอคะ ?” เสียงหวานน่ารักออดอ้อนดังขึ้นจากหน้าประตู ถลัชนันท์รีบซ่อนตัวอยู่ในห้องครัว ยกมือปิดปากเงียบเอี้ยวหูฟังบทสนทนาของทั้งสองคน จนกระทั่งแสงสะท้อนผ่านเห็นเป็นเงาจึงรู้ว่าทั้งสองคนนั้นอยู่ฝั่งตรงโต๊ะที่เธอหลบอยู่ หญิงสาวมองเงาเห็นเป็นรูปร่าง มือทั้งสองก็กดปิดปากแน่นกลั้นเสียงเอาไว้ หยดน้ำตาไหลลงมาไม่รู้ตัว ร่างกายสั่นเทาจนไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้น
พอมองจากเงาจึงรู้ว่าแฟนหนุ่มของเธอกำลังกอดและจูบฝ่ายหญิงอยู่
เธอทำอะไรผิด ทำไมถึงต้องนอกใจเธอ ?
“นี่ อย่าสิ...เดี๋ยวแฟนคุณมาจะไม่ดีนะ” หล่อนพูดเสียงหวานเป็นเชิงห้ามแต่ก็เป็นการเชิญชวนอีกฝ่ายให้เข้าหา
“ไม่มาหรอก เราคบกันมาปีหนึ่งแล้วนะ ยังไม่ถูกจับได้เลย”
“งั้นก็เลิกกับมันซะสิ” หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“เรื่องนั้นค่อยว่ากัน ตอนนี้เรามาสนุกกันดีกว่านะ”
ถลัชนันท์ได้แค่ฟังเสียงครางของทั้งสองคน ขณะกลั้นเสียงตัวเองเอาไว้มองเงาที่ผ่านลงมายังผนังกำแพงด้วยความเจ็บปวดใจ ก่อนเงานั้นจะหายไปและตามด้วยเสียงปิดประตูห้อง เธอจึงรู้ว่าทั้งสองคนได้เข้าไปในห้องนอนแล้ว ร่างกายทรุดลงเรี่ยวแรงแทบไม่มีเมื่อได้รู้ความจริง เขาคบกับเธอมาห้าปีกว่าแล้วแต่ไม่คิดเลยว่าจะทำแบบนี้ ทั้งที่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะแต่งงานและสร้างครอบครัวด้วยแล้ว
ถลัชนันท์หัวเราะสมเพชกับตัวเองพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตา ไม่ใช่ว่าไม่เคยอกหักหรือถูกนอกใจ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รู้สึกเจียนตาย
หญิงสาวเดินออกมาหันมองไปยังประตูห้องนอนที่มีเสียงดังครางของทั้งสองคนเป็นระยะ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยจิตใจล่องลอย
จะมีสักคนที่เชื่อใจได้จริง ๆ ไหม ?
สักคนที่ไม่นอกใจ
ถลัชนันท์ไม่รู้ตัวเลยสักนิดด้วยซ้ำว่าได้เดินออกมานอกประตูคอนโดฯ ของชายหนุ่มแล้ว พอได้ยินเสียงแตรรถบีบเรียกให้ได้สติขึ้นมาก็หันมองแสงไฟที่ส่องจ้า แล้วรู้ว่าตัวเองนั้นได้ยืนอยู่ท่ามกลางถนน จึงรีบสาวเท้าวิ่งข้ามฝั่งอย่างรวดเร็ว ครั้นก่อนเดินต่อไปก็หันมองคอนโด ฯ อีกครั้ง และรีบหมุนตัวสาวเท้าเดินไปเพื่อขับรถออกไปทันที...
“กลับมาแล้วเหรอ ?” เสียงใสของลฎาภาเอ่ยถามขึ้นขณะที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ลำพัง แต่ก็ต้องงุนงงเมื่อพี่สาวเดินผ่านไปโดยไม่ทักตอบ หญิงสาวไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหยิบรีโมตที่อยู่ข้างตัวกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ
ทางด้านถลัชนันท์หลังจากที่ประตูห้องปิดลงแล้ว ก็ทรุดตัวนั่งลงร้องไห้สะอื้นออกมา ยังทำใจยอมรับความเจ็บปวดและภาพที่แสนจะบาดตานั้นไม่ได้ ไม่เคยรู้ที่เขาคบหญิงอื่นมาตลอดหนึ่งปีทั้ง ๆ ที่มอบความเชื่อใจให้ ...เธอนั่งเศร้าอยู่นาน พยายามทำใจให้เข้มแข็งและเลิกสนใจผู้ชายเฮงซวยคนนั้นก่อนตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปหยิบของทั้งหมดที่แฟนหนุ่มซื้อมาให้ในโอกาสต่าง ๆ ใส่ลงถุงขยะ ก่อนจะเปิดประตูห้องและขนออกมาให้หมดในรอบเดียวแล้วแบกลงมาชั้นล่างจนครบทั้งหมด
“ทำอะไรน่ะ” ลฎาภาเอ่ยถามขึ้นหันมองด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นพี่สาวขนของจำนวนมากลงมาจากห้องนอน บางชิ้นเธอจำได้ว่าเป็นของที่เคยบอกว่าสำคัญเพราะแฟนหนุ่มเป็นคนซื้อให้
“ของแบบนี้ เอาไปทิ้งให้หมดเลย !” ถลัชนันท์ตะโกนด้วยน้ำเสียงสั่น
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ?”
ถลัชนันท์นิ่งเงียบไม่ตอบคำถาม เอาแต่ร้องไห้สะอื้นออกมาจนคนมองพอจะเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าแท้จริงเป็นอย่างไรกันแน่
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?” ลฎาภาเอ่ยถามอีกครั้ง
ถลัชนันท์ยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า ครั้นอยากจะเอ่ยปากเล่าทว่ายังทำใจไม่ได้
“ทำ…ไม…ฮือ ๆ …”
“พี่อาร์ตบอกเลิกเหรอ”
ลฎาภาเอ่ยถามเสียงแผ่วพลางส่งสายตามองพี่สาว ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาเดินเข้าไปหา พี่สาวเอาแต่ร้องไห้ออกมา ครั้นจะพูดก็พูดไม่รู้เรื่อง แม้จะพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้เพื่อที่จะพูดมันออกมา
“เขานอกใจ…คนเลว…ฮือ ๆ…”