เธอย้อนเวลากลับมาพบกับ คุณเผิง และ อาหยูตัวน้อย ความเข้าใจผิดในอดีตจะได้รับการเเก้ไขหรือไม่ ? เมื่อมีผู้หญิงอีกคนมาบอกว่า "คืนสามีให้ฉันเถอะค่ะ !"

หนีรักมาพบคุณ - บทที่ 9 เจ้าตัวกลมผู้โดดเดียว โดย เฌอรินทิพย์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ย้อนเวลา,เลี้ยงเด็ก,อาหยู,ดราม่า,รักวัยรุ่น,แอบรัก,สามี,เกิดใหม่แต่ใจเดิม,เกิดใหม่ ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หนีรักมาพบคุณ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ย้อนเวลา,เลี้ยงเด็ก,อาหยู,ดราม่า,รักวัยรุ่น,แอบรัก,สามี,เกิดใหม่แต่ใจเดิม,เกิดใหม่

รายละเอียด

เธอย้อนเวลากลับมาพบกับ คุณเผิง และ อาหยูตัวน้อย ความเข้าใจผิดในอดีตจะได้รับการเเก้ไขหรือไม่ ? เมื่อมีผู้หญิงอีกคนมาบอกว่า "คืนสามีให้ฉันเถอะค่ะ !"

ผู้แต่ง

เฌอรินทิพย์

เรื่องย่อ

เป็นโอกาสจากสวรรค์หรือบทลงโทษ ที่ให้ย้อนเวลากลับมาพบเขาอีกครั้ง ! 

“เธอ” อกหักรักผู้ชายคนนี้แค่ครั้งเดียวก็เกินพออยู่แล้ว ซ้ำยังมาตายเพราะอุบัติเหตุเหนือคาด

แต่ทำไมต้องจะอกหักซ้ำซ้อนอีก หรือว่านี่คือความเมตตาจากสวรรค์ที่ให้วิญญาณเธอย้อนเวลามา 

เพื่อพบกับ “คุณเผิง” ป๊ะป๋าสายอ่อย และ “ลูกชายตัวน้อย” ในฐานะพี่เลี้ยงเด็ก(สาวใช้)อีกครั้ง 

แค่หน้าที่พี่เลี้ยงเด็กทำได้อยู่แล้ว แต่หน้าที่พี่เลี้ยง(ใจ)คุณป๊ะป๋าน่ะ เธอไม่ไหวหรอกนะ...

ก็เพราะเขาดันพูดขึ้นว่า “มาเป็นหม่าม้าของอาหยูได้ไหม ?”

 เธอจะตอบเต็มปากได้อย่างไร ในเมื่อมีผู้หญิงอีกคนมาบอกว่า 

“ขอร้องนะคะ คืนสามีให้ฉันเถอะค่ะ !”

 นี่เป็นบทลงทัณฑ์จากสวรรค์หรือยังไงกัน—!?

สารบัญ

หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 1 จุดจบที่เริ่มต้นใหม่,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 2 ความรัก (ไม่) กลับคืน,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 3 ความจริงที่เจ็บปวด,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 4 เรื่องมันเกิดจากความตื่นเต้น,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 5 ผู้ชายเฮงซวยตายไปเหอะ,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 6 แต่งงาน,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 7 อยู่กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 8 ผู้ชายเลว ๆ คนนั้นนั่นเอง,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 9 เจ้าตัวกลมผู้โดดเดียว,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 10 งานแต่งงาน,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 11 งานแต่งที่(ผู้ชาย)ไม่อยากได้,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 12 หาที่อยู่ใหม่,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 13 พบเจ้านาย,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 14 คาดเดาไม่ได้,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 15 เจ้าตัวกลมไม่สบาย,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 16 หัวใจสั่งให้ทำอย่างไร้เหตุผล,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 17 ไม่ค่อยว่าง,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 18 งานเลี้ยงรุ่น,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 19 เจ้านายอารมณ์แปรปรวน,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 20 อาหยูอยากเที่ยว,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 21 เสียงหัวใจ,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 22 ป๊ะป๋าทำคุณป้าร้องไห้เหรอ,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 23 ป๊ะป๋า หม่าม้า อาหยูมาแล้ว,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 24 อาหยูรออยู่,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 25 คุณเผิงหึง,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 26 ครั้งหน้าเรามาเดตกันจริง ๆ นะ,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 27 มีสามีเหมือนไม่มี,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 28 ป๊ะป๋าหิว,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 29 ปฏิเสธไม่ได้สินะ,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 30 ความจริงที่เจ็บปวด,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 31 อาหยูกลัวคุณปีศาจ,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 32 ความรู้สึกที่ทรมาน,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 33 หม่าม้า(ตัวจริง)ของอาหยู,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 34 ผู้หญิงอันตราย,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 35 อาหยูติดเหาแล้ว,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 36 สระผมให้ป๊ะป๋า,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 37 ป๊ะป๋าตกลงกับอาหยู,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 38 ฮันนี่มูน,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 39 แม่แท้ ๆ ของอาหยู,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 40 วิญญาณ,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 41 พักที่ต่างจังหวัด,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 42 แช่น้ำร้อน,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 43 หาเพื่อนให้คุณหมี,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 44 คุณหมีแย่งเตียงอาหยู,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 45 อดีต,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 46 แม่ใจร้าย,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 47 แค่อยากได้ครอบครัวคืน,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 48 คนแปลกหน้า,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 49 หม่าม้าคนนั้นถูกคูณปีศาจลงโทษไปแล้ว,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 50 คำตอบอะไร?,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 51 หม่าม้าหายไปไหน,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 52 อดีตก็คืออดีต,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 53 คุณเผิงของคุณ,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 54 ความทรงจำที่หายไป,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 55 ความทรงจำที่หายไป II,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 56 อาหยูขออ้อน,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 57 วิธีฟื้นความจำ,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 58 ขั้นตอนฟื้นความจำ,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 59 ความรู้สึกที่คุ้นเคย,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 60 special I,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 61 special II,หนีรักมาพบคุณ-บทที่ 62 special III + Epilogue

เนื้อหา

บทที่ 9 เจ้าตัวกลมผู้โดดเดียว

Chapter 8
ผ่านมาแล้วไม่รู้กี่วันที่ชีวิตของลฎาภายังคงว่างงาน แม้จะลองหางานที่อื่นๆ ดูระหว่างรอผลสัมภาษณ์แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า อาจเป็นเพราะเธอเลือกสถานที่ทำงานที่เดินทางสะดวกด้วยก็เป็นได้จึงทำให้ยังไม่ได้งานสักที
ครืด—ครืด
แรงสั่นจากโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ลฎาภาเอื้อมมือหยิบดูก่อนกดรับทันทีที่รู้ว่าคนที่โทร. มาคือเพื่อนสนิทสมัยมัธยม
“ว่าไงจ๊ะ คุณครูคนสวย” หญิงสาวเอ่ยทักทาย
[ยัยจอม โทษทีนะ ฉันเพิ่งหาเวลาว่างได้]
“แล้ว...”
[แกว่างไหม ช่วงนี้น่ะ]
“ก็ว่างอยู่หรอก แต่จะไปไหนเหรอ ?” ลฎาภาเอ่ยถามขึ้นเพื่อรอคำตอบของอีกฝ่ายก่อนตกลง
[ไปกินบุฟเฟต์ไหม ? วันนี้มีโปรโมชั่นลดอยู่ มีเรื่องอยากคุยเยอะเลย]
ถ้าแค่กินก็โอเคเพราะเดินช็อปปิ้งด้วยเธอคงไม่ไหวอย่างแน่นอน อีกอย่างช่วงนี้ต้องใช้เงินเก็บอย่างประหยัด ทั้งที่ไม่อยากนำเงินเก็บออกมาใช้จ่ายเลยแท้ ๆ จนกว่าจะหางานใหม่ได้ก็คงต้องตัดรายจ่ายไม่จำเป็นออกไป
“ถ้าแค่บุฟเฟต์ก็ได้อยู่นะ แต่เรื่องช็อปปิ้งฉันขอบาย” หญิงสาวพูดขึ้นทันที เพราะเกรงว่าถ้าหากไปเดินด้วยกันแล้วอาจจะอดใจไม่ไหว “แกไม่ได้จะไปเดินช็อปปิ้งด้วยใช่ไหม ?”
อาจจะเป็นการปฏิเสธแบบแล้งน้ำใจไปเสียหน่อย แต่จะให้ทำอย่างไรได้กันในเมื่อตอนนี้ยังว่างงานอยู่
[ไม่ช็อปหรอก ฉันแค่อยากคุยเล่นแหละ งั้นศุกร์นี้เจอกันนะ]
“โอเค แล้วเจอกันจ้า”
หญิงสาววางโทรศัพท์ลงที่โต๊ะถอนหายใจออกมา แล้วเปิดอีเมลเพื่อส่งจดหมายสมัครงานต่อ ก่อนจะเดินออกจากห้องมายังห้องครัวเพื่อทำอาหารกินมื้อกลางวัน
ลฎาภาใช้เวลาทำอาหารและรับประทานในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เดินกลับเข้ามาในห้องนั่งอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์เช่นเดิม คราวนี้ไม่ได้นั่งหาบริษัทเพื่อสมัครงาน แต่กลับเป็นการหาละครย้อนหลังดู จนกระทั่งมีอีเมลเด้งขึ้นมา หญิงสาวจึงกดพักละครเอาไว้แล้วเปิดอ่านทันที
ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ริมฝีปากอ้าค้างก่อนจะกรี๊ดลั่นออกมาเสียงดังแล้วลุกขึ้นวิ่งไปรอบห้องราวกับถูกรางวัลที่หนึ่ง
เธอได้งานทำแล้ว !
ลฎาภาตั้งสติและเดินเข้ามาอ่านอีเมลอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุดเหมือนว่าได้โชคใหญ่เข้ามา ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีโอกาสได้เข้าไปทำงานในบริษัทใหญ่ทั้งที่ใจนั้นไม่กล้าคาดหวังเลยสักนิด
แน่นอนว่าวันนี้เป็นวันดีที่สุดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา...
“เอกสารที่คุณเผิงต้องเซ็นอนุมัติครับ”
แฟ้มเอกสารสีดำถูกวางลงบนโต๊ะ เขาละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์แล้วหันมอง ก่อนเอื้อมมือหยิบแฟ้มงานขึ้นมาเปิดอ่านดู
“เดือนหน้านี้จะมีลูกค้าจากต่างประเทศติดต่อมา นายจัดการหาคนไปรับรองเขาและนำเสนอแผนงานของบริษัทด้วย แล้วเรื่องการติดต่อส่งอาหารสำเร็จรูปไปต่างประเทศ ตอนนี้คืบหน้าไปถึงไปแล้ว” อวิ่นเยว่เอ่ยถามขึ้นขณะที่สายตายังมองเอกสารตรงหน้า เขาคือประธานบริษัท S คนปัจจุบันที่อายุไม่ถึงสามสิบและขึ้นบริหารงานต่อจากเผิงลู่เสียน ผู้เป็นมารดา ด้วยความสามารถและการบริหารงาน ทำให้ธุรกิจเติบโตไปด้วยดีทั้งในประเทศรวมถึงต่างประเทศ
“ตอนนี้รอทางนั้นติดต่อกลับมาและทำสัญญากันครับ เขาบอกว่าให้คำตอบภายในสิ้นเดือนนี้” ผู้ช่วยหนุ่มตอบ
อวิ่นเยว่พยักหน้าก่อนพูดต่อไปว่า “เรื่องเอกสารที่ลูกค้าติดต่อมารีบดำเนินการให้เสร็จด้วย”
“ครับ เอ่อ...คือของที่ให้ผมนำไปคืนผู้หญิงคนนั้น...” เจตนิพัทธ์เกริ่นขึ้นอย่างไม่เต็มเสียงมากนัก เพราะมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรมากมายที่เขาควรจะรายงาน อีกทั้งเจ้านายคงไม่สนใจอยู่แล้ว
อวิ่นเยว่เงยหน้าขึ้นมอง “มีอะไร ?”
“เอ่อ เปล่าครับ” เจตนิพัทธ์ไม่กล้าบอกความจริงที่หญิงสาวคนนั้นขออาสาเลี้ยงอาหารหนึ่งมื้อแก่เจ้านาย
อวิ่นเยว่ปิดแฟ้มเอกสารและส่งคืน สายตาก็เหลือบมองเห็นซองสีชมพูที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนหน้านั้น ซึ่งเขาเองก็ยุ่งกับการเจรจาธุรกิจกับลูกค้าจึงไม่ได้สนมากนัก
“การ์ดแต่งงานของลูกชายคุณลภัสรดาครับ” เจตนิพัทธ์เอ่ยขึ้น
“งานแต่งงาน ?” ชายหนุ่มมีท่าทีตกใจเล็กน้อย เขาเอื้อมมือหยิบซองสีชมพูที่วางอยู่หัวมุมโต๊ะขึ้นมาและเปิดดูทันที วันแต่งงานที่ใกล้ถึงในอีกไม่กี่สิบวันข้างหน้าและเป็นช่วงที่เขาไม่มีการเดินทางไปต่างประเทศพอดี จึงปฏิเสธที่จะไม่ไปก็ไม่ได้ เป็นถึงคู่ค้าคนสำคัญด้วย
“ไม่มีอะไรแล้ว ผมขอไปทำงานที่ค้างอยู่ต่อก่อนนะครับ” เมื่อพูดจบเจตนิพัทธ์ก็เดินออกจากห้องทำงานไปทันที
อวิ่นเยว่ถอนหายใจก่อนเก็บการ์ดลงในซองวางไว้ในลิ้นชักของโต๊ะทำงาน สายตาคมจ้องมองภายในลิ้นชักราวกับถูกมนตร์สะกด เขายังเก็บไว้อยู่อีกหรือ ? ...นึกว่าโยนทิ้งลงขยะไปซะแล้ว
ชายหนุ่มเอื้อมมือหยิบรูปขึ้นมามองด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะขย้ำจนเป็นแค่กระดาษแล้วโยนทิ้งลงในถังขยะอย่างไม่ไยดี เพราะไม่มีความจำเป็นที่ต้องเก็บไว้อีก อวิ่นเยว่เรียกสติของตนเองกลับมา ก่อนจะจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าอีกครั้ง
เสียงออดดังขึ้นบอกถึงเวลาเลิกเรียน ลฎาภาเดินเข้าในโรงเรียนอนุบาล พลางมองไปยังรถที่ขับเข้าออกและเด็กน้อยกำลังวิ่งเล่นเพื่อรอผู้ปกครองมารับกลับบ้านในช่วงตอนเย็น หญิงสาวเดินเข้ามานั่งรอด้านนอกที่โต๊ะม้าหินอ่อนจัดวางอยู่ จนกระทั่งถูกสะกิดเรียกจากทางด้านหลังจึงรีบหันไป
มองแล้วพบกับเกณิกาเพื่อนที่เป็นครูประจำอยู่ที่นี่
“ยัยจอม ขอโทษนะ” เกณิกาเดินเข้ามาหาพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไร” ลฎาภายิ้มรับอย่างอารมณ์ดี
เกณิกาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พักให้หายเหนื่อย แต่ยังไม่ทันพูดอะไรเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน เธอกดรับและเมื่อได้ฟังฝ่ายตรงข้ามพูดทำให้แสดงสีหน้าผิดหวังออกมา
“แกวันนี้อาจจะต้องรอหน่อยนะ” เกณิกาพูดเสียงแผ่วด้วยความรู้สึกผิด ความจริงแล้ววันนี้ไม่ใช่เวรช่วงเย็นแต่เพราะเพื่อนครูอีกคนดันติดธุระสำคัญขึ้นมาจึงฝากวานให้อยู่แทน “ไม่สิ อาจจะช้ามาก ๆ เลยก็ได้”
ลฎาภาเลิกคิ้วมองเพื่อนสาวเป็นเชิงสงสัย
“ดูท่าวันนี้ พ่อของเด็กคนนั้นอาจจะมารับช้าอีกแล้วน่ะสิ” เมื่อพูดจบก็หันไปมองเด็กชายที่นั่งอยู่เพียงลำพัง ใบหน้ากลมน่ารัก ริมฝีปากเล็กสีชมพู ทว่าแววตานั้นกลับไม่สดใสเสียเลย
“น่ารักอะแก” ลฎาภาเอ่ยปากชมพร้อมกับลุกขึ้น
“แกรอฉันหน่อยนะ ฉันต้องรอจนกว่าพ่อของเขาจะมารับ”
ลฎาภามองเด็กน้อยอย่างเพลินตา “เขาน่ารักมาก พ่อกับแม่เขาต้องสวยและหล่อมากแน่ ๆ”
“แกเป็นเอามากนะ ชอบเด็กแต่ไม่อยากมีแฟน”
“มันต่างกันนะยะ” หญิงสาวหันมาพูดอย่างหัวเสีย “ฉันชอบเด็ก แต่ไม่ได้อยากจะแต่งงานมีลูกสักหน่อย”
“จ้ะ แม่คนรักเด็ก”
“ฉันเข้าไปทักเด็กคนนั้นได้ไหมแก” ลฎาภาเอ่ยถามโดยที่สายตายังคงมองเด็กชายอยู่
“ก็ไปสิ แต่เด็กคนนั้นไม่ค่อยพูดนะ แกอาจจะไม่ชอบ...” ยังฟังไม่ทันจบลฎาภาก็ไม่อยู่ตรงนี้เสียแล้ว เกณิกามองเพื่อนสาวที่เดินเข้าไปหาและย่อตัวนั่งลงตรงหน้าของเด็กชาย
ลฎาภานั่งจ้องอยู่นานพอสมควรกว่าเด็กชายจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตรนัก ทว่าหญิงสาวก็ยังส่งยิ้มหวานให้กลับไป
“ให้พี่เล่นเป็นเพื่อนไหม ?”
เด็กน้อยจ้องมองและส่ายหน้าก่อนจะหันหลังหนีทันที ลฎาภามองเห็นเด็กชายนั่งกลิ้งลูกบอลพลาสติกเป็นเวลานาน จึงลุกขึ้นเดินไปย่อตัวนั่งที่หน้าของเด็กชายอีกครั้ง
“เล่นคนเดียวเหงาน้า” เธอยังคงพูดพร้อมกับยิ้มหวานให้แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวกลมนั้นยังไม่คิดที่จะคุยด้วยสักนิด
“ป๊ะป๋าบอกว่าห้ามคุยกับคนแปลกหน้า คุณป้าเป็นคนแปลกหน้า”
คุณป้า ?!
หญิงสาวรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อยเมื่อได้ยิน แต่เพราะความน่ารักและแก้มทั้งสองข้างนั้นทำให้เธอใจอ่อนอีกครั้ง
“ยัยจอม ดูท่าแกจะชอบเด็กคนนี้มากเลยนะ” เกณิกาเดินเข้ามาหา
“ก็น่ารักนี่ ฉันชอบเด็กผู้ชาย แก้มกลม ๆ ตาตี๋ น่าร๊ากอะ” หญิงสาวพูดขณะที่มองเด็กชายหันหน้าหนีและเล่นลูกบอลเพียงลำพัง ก่อนหันมาเอ่ยถามเกณิกาต่อไปว่า “แล้วพ่อของเขาจะมารับตอนไหนล่ะ”
เกณิกาเมื่อได้ยินก็ถอนหายใจออกมา ไม่กล้าพูดเพราะเกรงใจเพื่อนรักนั่นเอง ทั้งที่เป็นฝ่ายนัดแท้ ๆ
“ฉันไม่รู้เหมือนกัน ขอโทษนะแก เด็กคนนี้ถ้าวันไหนที่พ่อของเขามารับช้า ครูเวรประจำวันบางครั้งต้องอยู่รอจนกว่าจะมารับ ฉันไม่รู้ว่าเขาจะมารับตอนไหน...”