ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มพังทะลายเพียงเพราะคนหนึ่งคนต้องการสิ่งนั้นมาครอบครอง แต่ไม่รู้การควบคุม ข้อผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นแล้ว
รัก,ดราม่า,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,ครอบครัว,เตชินีกาวิน,คู่รองแซ่บ,พระเอกโบ้,ดราม่า,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เตชินีกาวินทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มพังทะลายเพียงเพราะคนหนึ่งคนต้องการสิ่งนั้นมาครอบครอง แต่ไม่รู้การควบคุม ข้อผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มพังทลายเพียงเพราะคนหนึ่งคนต้องการสิ่งนั้นมาครอบครอง แต่ไม่รู้การควบคุม ข้อผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นแล้ว
เมื่อเด็กในท้องเริ่มพัฒนาการขึ้นเรื่อย ๆ อาการต่าง ๆ ก็เริ่มชัดเจน
อดีตที่เคยมีแต่ความผิดพลาดนั้นไม่เคยเลือน จะก้าวออกมายอมรับความเป็นจริงได้ตอนไหน
" ตะวัน พี่ขอโทษ อยู่กับพี่ก่อนนะ นะตะวัน " เสียงคร่ำครวญเรียกร้องให้คนรักตื่นจากความเจ็บปวดที่นองไปทั่วพื้นถนนจนกลายเป็นสีแดง ทำให้คนที่พึ่งมีสติกลับคืนต้องลงจากรถหรูราคาแพงมาดูอาการของคนรักที่กำลังใกล้หมดลมหายใจขึ้นทุกที
เสียงรถพยาบาลค่อย ๆ เคลื่อนตัวมาจากที่ไกลก่อนจะหยุดลงตรงขนาบข้างรถหรู รถเข็นถูกเคลื่นลงมาจากข้างในตัวรถ กำลังตรงมาที่เขาและคนรักในอ้อมแขน ไม่นานตัวของตะวันก็ถูกแบกขึ้นนอนราบกับรถเข็นและลากกลับคืนสู่รถพยาบาล
เมื่อรถพยาบาลเคลื่อนตัวออก กาวินที่มองการเคลื่อนไหวของรถพยาบาลอยู่ลุกขึ้นยืนและมุ่งตรงไปยังรถหรูของตัวเอง เปิดประตูรถออกและขึ้นไปนั่ง เหยียบคันเร่งไปที่แรงสุดเพื่อขับตามรถพยาบาลนั้นให้ทัน
รถเข็นถูกเข็นเข้าโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งตรงไปยังห้องฉุกเฉิน เสียงแตกตื่นของบุรุษพยาบาลและพยาบาลต่างพากันเรียกให้คนอื่นหลีกทางให้ก่อนที่ประตูห้องฉุกเฉินจะปิดลง
กาวินเดินวนไปมาด้วยความวิตก หันมองบานประตูห้องฉุกเฉินหลายต่อหลายครั้ง ยังคงไม่มีการมาเยือนของคุณหมอที่ออกมาบอกว่าคนรักของเขานั้นปลอดภัยดี
ตึก ตึก ตึก เสียงเท้าวิ่งกึ่งเดินดังมาแต่ไกล เผยให้เห็นร่างของน้องชายและมารดาของตะวัน กาวินยกมือไหว้เมื่อทั้งสองหยุดยืนอยู่ตรงหน้า แต่ก็ต้องนิ่งเมื่อทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เขาคิดไว้
เพี้ยะ!!
ฝ่ามือเรียวเล็กของผู้เป็นแม่ตบลงตรงข้างแก้ม รอยแดงจากฝ่ามือนั้นค่อย ๆ เผยขึ้นให้เห็นชัดประจักแก่ทุกสายตาในโรงพยาบาล
" แม่ครับ นั้นพี่กาวินนะ " เตชิน น้องชายฝาแฝดของตะวันเอ่ยขึ้น
" ฉันบอกแกไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้วนะ ว่าผู้ชายคนนี้มันดูแลพี่แกไม่ได้!! แกไม่เห็นหรือไงว่าพี่แกต้องเจ็บตัวกลับบ้านมาไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แกและพี่แกก็ยังหัวรั้นไม่ยอมฟัง ถ้าพี่แกตายขึ้นมาจะทำไง!! "
" มันจะไม่มีวันนั้น " เสียงเข้มดุดันของกาวินดังขึ้นเมื่อประโยคคำพูดของผู้เป็นแม่จบลง กาวินอดที่จะฟังคำดูถูกของผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้อีกต่อไป ครั้งนี้เขาจะลุกขึ้นสู้
สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธยากที่จะปิดบังมองมาทางแม่ของตะวันด้วยความอดสู เขาทนคำดูถูกพวกนี้มาเป็นเดือน ๆ เพราะแค่เขาพลาดพลั้งทำสิ่งเลวร้ายกับลูกตัวเอง
มันต้องถึงขั้นโดนด่าและโดนดูถูกเหยียดหยามขนาดนี้เลยหรือไงกัน!! เขาก็ดูแลใครได้เหมือนกัน
" พี่กาวิน สงบสติครับ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ผมอยู่ตรงนี้นะครับ " อัลฟ่าหนุ่มหันมองผู้เป็นน้องชายคนรักด้วยความแปลกใจ คำพูดพวกนี้มันควรจะเป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของตะวันสิ ไม่ใช่เตชิน
มือบางลูบที่ต้นแขนแกร่งด้วยอาการสั่นเทาแต่ไม่ยอมปล่อยมือ ยังคงบรรจงลูบมันขึ้นลงเพื่อปรับอาการคลั่งของผู้ที่เป็นคนรักของพี่ชาย (?) ด้วยความอ่อนโยน เขารู้ดีกว่าต้องทำอย่างไรกับอาการคลั่งของกาวิน รู้ดีเสียยิ่งกว่าตะวันที่เป็นคนรักของกาวินมานาน
โอเมก้าหนุ่มแหงนมองคนตัวสูงด้วยท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อสายตาที่มองมาทางเขาจากกาวินเป็นสายตาที่สงสัยและแปลกใจ
นี่เขาเผลอตัวไปอีกแล้ว
เตชินถอยกรูเมื่อรับรู้ได้ว่าทุกอย่างกำลังจะพังลงอย่างที่ตะวันเคยว่าไว้ หากเขายังคงอยู่ใกล้ชิดกาวินและยังคงคอยดูอยู่ไม่ห่าง อาการที่มักจะเข้ามาช่วยกาวินโดยปราศจากความต้องการอื่นใดไปมากกว่านี้จะก่อเกิดขึ้น และมันได้เกิดขึ้นแล้วแม้ในวันที่ไม่รู้ว่าตะวันจะรอดหรือไม่รอดกลับมา
แต่เตชินก็ต้องตกใจเพราะถูกฝ่ามือหนาของกาวินคว้าเอวเอาไว้ไม่ให้ไปไหน พร้อมสายตาสับสนปนเปไปกับความโกรธที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
" พี่กาวินครับ ที่นี่โรงพยาบาลนะ ปล่อยผมเถอะครับ " กลิ่นหอมของมาการองจากตัวของเตชินลอยเตะจมูกกาวินจาง ๆ เขาคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้กลิ่นนี้มาจากที่ไหนสักแห่ง แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก
" ไปเอามาจากไหน "
" .... " เตชินหลุบตาลงไม่อยากสบตากาวิน กลัวว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะจบลง ทั้งหมดที่ช่วยปิดบังกับตะวันมาจะไม่เหลืออะไรเลย
" พี่ถามว่าไปเอาวิธีนี้มาจากไหน!! " เตชินหลับตาลงกับเสียงตะโกนของกาวิน จะกี่ครั้งเขาก็ไม่เคยชินกับมันเสียที
" นี้ ปล่อยเตชินนะ แกทำร้ายตะวันไม่พอยังจะมาทำร้ายเตชินอีกหรือไง! " แม่ตะวันเข้ามาดึงพันธนาการของกาวินออกจากลูกชายคนสุดท้อง กอดเตชินเอาไว้ไม่ยอมให้กาวินได้แตะต้องอีกเป็นครั้งที่สอง
เตชินและกาวินสบตากัน กาวินมองด้วยความไม่เข้าใจ นอกจากพ่อแม่แล้วไม่มีใครได้รู้ว่าต้องจัดการอารมณ์ครั่งของเขาอย่างไร แม้กระทั่งตะวันที่เคยทำให้เขาหยุดครั่งได้ก็ไม่ทำมันอีก
ต่างจากสายตาของเตชินที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง กลิ่นไม่เป็นมิตรของกาวินยังคงคละคลุ้งไปทั่วบริเวณจนคนรอบข้างต่างถอยกรู
แบบนี้ไง ผมถึงยังหยุดเป็นห่วงพี่ไม่ได้สักที
ก่อนที่กาวินจะได้โต้ตอบอะไรออกไป เสียงจากหมอก็ได้ดังขึ้นทางด้านหลังของเขา ทำให้เขาต้องหันไปคาดหวังกับหมอแทน
" แฟนผมเป็นไงบ้างครับ " ทันทีที่หันมองมาเจอกับหมอกาวินก็เอ่ยถามทันที
" เป็นญาติของคนไข้เหรอครับ "
" ดิฉันเป็นแม่ของตะวันค่ะ " แม่และเตชินก้าวเท้าเข้ามาหาหมอด้วยความเร็ว ไม่ให้กาวินได้มีช่องโหว่ในการพูด
" คนไข้ปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้วครับ หมอขอตัวก่อนนะครับ " ก่อนที่หมอจะกลับเข้าห้องฉุกเฉินไปอีกครั้ง
ร่างของผู้เป็นแม่ร่วงหล่นก่อนที่จะถูกเตชินรับเอาไว้ รอยยิ้มโล่งใจได้เผยขึ้นบนใบหน้าของกาวิน มองเตชินด้วยความสุขที่พี่ของเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่กลับถูกมองมาด้วยแววตาที่เศร้าหมองปนด้วยความห่วงใย
ร่างของผู้เป็นแม่นั่งดมยาบนรถเข็มคนไข้โดยมีคนขับรถคอยเข็นให้ เตชินเมื่อเห็นว่ามารดาถูกนำตัวออกไปไกลจึงกลับมามองกาวินอีกครั้ง
" พี่กาวินโอเคไหมครับ ให้เตไปอยู่เป็นเพื่อนด้วยไหม "
" ไม่จำเป็น พี่กลับก่อนนะ ตะวันพักห้องไหนอย่าลืมบอกพี่ด้วย " กาวินเดินออกไปทันทีเมื่อพูดจบ เตชินได้แต่งงงวยในสิ่งที่กาวินพูดอยู่ที่เดิม
" หมายความว่าไงของเขานะ " เตชินทำได้แค่มองดูแผ่นหลังของกาวินเดินลับออกไป ความวุ่นวายรอบตัวในโรงพยาบาลก็ไม่อาจฉุดดึงสายตาเขาที่มองดูกาวินได้
.
.
.
เมื่อวันเวลาได้ผ่านไปเกือบจนอาทิตย์ เตชินก็ได้รับโทรศัพท์จากทางบ้านของกาวิน สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นถูกบรรยายโดนคนขับรถและแม่บ้านของกาวิน ทำให้เตชินต้องเดินทางไปหากาวินถึงที่พักอาศัย
เมื่อเตชินถึงบ้านของกาวินก็ถูกต้อนรับโดนชายสูงวัยและหญิงสูงวัยของบ้าน
" พี่กาวินอยู่ไหนครับ "
" ห้องทำงานครับ " เตชินพยักหน้าตอบรับ มุ่งตรงไปที่ห้องทำงานส่วนตัวของกาวินทันที
แกรก
" พี่กาวินครับ " ทันทีที่เตชินเปิดประตูออก ก็พบว่ากาวินกำลังนั่งบนขอบโต๊ะคล้ายกำลังพูดคุยกับใครอยู่ก่อนหน้า เตชินหันมองรอบห้องแต่ก็ไม่พบใคร " พี่กาวินคุยกับใครอยู่เหรอครับ "
" ตะวันไง ตะวันพึ่งออกจากโรงพยายาลมาเมื่อสองวันก่อน อากาศดีขึ้นเร็วมากเลยนะ "
" พี่ตะวัน? " เตชินคิ้วขมวด เห็น ๆ อยู่ว่าภายในห้องไม่มีใครเลยแม้แต่น้อย มีเพียงกาวินคนเดียว
" คุณกาวินเป็นแบบนี้มาได้สามวันแล้วค่ะ พวกเราไม่รู้จะทำยังไง เลยโทรให้คุณเตชินมาช่วย "
" ครับ ผมเข้าใจแล้ว " เตชินมองกาวินด้วยความเป็นห่วง กาวินยังคงหัวเราะพูดคุยอยู่กับอากาศภายในห้อง เขาจึงตัดสินใจปิดประตูและเดินเข้าไปใกล้กาวินให้มากกว่าเดิม " พี่กาวินกินข้าวหรือยังครับ "
" กินแล้ว ตะวันพึ่งป้อนเสร็จไปเอง เนอะ ตะวัน " เตชินหันมองอากาศที่กาวินกำลังคุยอยู่ ก่อนที่จะหันมองจานข้าวที่ยังคงเหลืออยู่บนโต๊ะโดยที่ไม่มีการแตะต้องแม้แต่นิดเดียว
" แต่พี่กาวินยังไม่ได้กินเลยนะครับ ข้าวยังเหลือเยอะอยู่เลย เดี๋ยวเตป้อนนะ " เตชินเดินเข้าไปถือจานข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนที่จะถูกกาวินปัดมันลงพื้นจนหมด
เพล้ง!
" !!! " เตชินยืนมองจานข้าวที่แตกเป็นเสี่ยงอยู่บนพื้นโดยมีข้าวที่ป้าแม่บ้านเตรียมไว้ให้หกกระจัดกระจายเกลื่อนไปด้วย
" พี่บอกแล้วไงว่าตะวันป้อนพี่แล้ว เราจะเอามาให้พี่กินอีกทำไม " เสียงตะโกนดังลั่นขึ้น ทำให้ลุงคนขับรถและป้าแม่บ้านที่ยืนรออยู่ข้างนอกตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดอะไรขึ้นบ้างไม่รู้ในห้อง แต่ไม่กล้าที่จะเข้าไปแทรกเพราะตอนนี้นายของตัวเองกำลังไม่เหมือนเดิม
" เฮ้อ เตขอโทษครับ เตคิดว่าพี่ตะวันจะป้อนข้าวให้พี่น้อย เลยคิดว่าจะให้อีกรอบ ไม่คิดว่าพี่กาวินจะโมโหขนาดนี้ งั้นเตขอตัวก่อนนะครับ โอ๊ย! " ก่อนที่เตชินจะได้เดินออกไปเขากลับถูกเศษจากบาดเข้าที่ฝ่าเท้าโดยไม่ได้ตั้งตัว รู้ตัวอีกทีก็เจ็บและเห็นเลือดออกมาแล้ว
กาวินที่เห็นอย่างนั้นจึงจับรั้งแขนของเตชินเอาไว้ และเรียกป้าแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด
เมื่อทุกอย่างถูกจัดการเรียบร้อยกาวินจึงลากตัวเตชินเข้ามานั่งตรงโซฟาในห้องและคุกเข่าทำแผลให้กับเตชิน
เตชินมองดูการกระทำของกาวินแล้วน้ำตาคลอ แหงนหน้ามองเพดานขาวเพื่อให้น้ำตาไม่ไหลนอง แต่สุดท้ายก็ไหลลงมาอาบข้างแก้มอย่างห้ามไม่อยู่ เขาไม่คิดว่ากาวินจะรักตะวันถึงขั้นเป็นขนาดนี้ ทุกอย่างมันผิดเพี้ยนไปหมดเพราะความเห็นแก่ตัวของเขาเอง
" ฮึก "
" เสร็จแล้ว เตชินร้องไห้ทำไม " กาวินแหงนหน้ามองเตชินที่ตอนนี้กำลังปาดน้ำตาออกจากข้างแก้ม เขาได้รับคำตอบจากคนตรงหน้าเพียงการส่ายหน้าไปมาเท่านั้น
มือบางอีกข้างลูบเข้าที่หน้าท้องไปมาหวังไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะระยะการนั่งของเขาและกาวินมันคนละระดับ กาวินจึงเห็นว่าเขากำลังลูบหน้าท้องตัวเองอยู่
" เตชินเจ็บท้องเหรอ ไปหาหมอไหม หรือจะกินยา " ยังคงเป็นอีกครั้งที่เตชินส่ายหน้าเป็นคำตอบให้กับเขา
เตชินเลือกที่จะยืนขึ้นแล้วขอตัวเดินออกไป ทิ้งให้กาวินสงสัยกับการกระทำและอาการของอีกคนเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่มากเกินกว่าที่เขาจะลืมตะวันที่ก็ยืนมองเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่เงียบ ๆ ในมุมเดิมตรงหน้าโทรทัศน์
. . . .