ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มพังทะลายเพียงเพราะคนหนึ่งคนต้องการสิ่งนั้นมาครอบครอง แต่ไม่รู้การควบคุม ข้อผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นแล้ว

เตชินีกาวิน - บทที่ ๒ เขายังอยู่ โดย ชาภิสา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,ครอบครัว,เตชินีกาวิน,คู่รองแซ่บ,พระเอกโบ้,ดราม่า,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เตชินีกาวิน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เตชินีกาวิน,คู่รองแซ่บ,พระเอกโบ้,ดราม่า,นิยายวาย

รายละเอียด

ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มพังทะลายเพียงเพราะคนหนึ่งคนต้องการสิ่งนั้นมาครอบครอง แต่ไม่รู้การควบคุม ข้อผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นแล้ว

ผู้แต่ง

ชาภิสา

เรื่องย่อ

ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มพังทลายเพียงเพราะคนหนึ่งคนต้องการสิ่งนั้นมาครอบครอง แต่ไม่รู้การควบคุม ข้อผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นแล้ว


เมื่อเด็กในท้องเริ่มพัฒนาการขึ้นเรื่อย ๆ อาการต่าง ๆ ก็เริ่มชัดเจน


อดีตที่เคยมีแต่ความผิดพลาดนั้นไม่เคยเลือน จะก้าวออกมายอมรับความเป็นจริงได้ตอนไหน

สารบัญ

เตชินีกาวิน-บทที่ ๑ โปรดยังอยู่,เตชินีกาวิน-บทที่ ๒ เขายังอยู่,เตชินีกาวิน-บทที่ ๓ มันจะไม่เกิดขึ้น,เตชินีกาวิน-บทที่ ๔ มันเกิดขึ้นแล้ว,เตชินีกาวิน-บทที่ ๕ เพื่อนรัก,เตชินีกาวิน-บทที่ ๖ รักเพื่อน,เตชินีกาวิน-บทที่ ๗ ใช่ว่าจะดี,เตชินีกาวิน-บทที่ ๘ แต่ก็ดี,เตชินีกาวิน-บทที่ ๙ แปลกประหลาด,เตชินีกาวิน-บทที่ ๑๐ แปลกแต่ชอบ,เตชินีกาวิน-บทที่ ๑๑ สมดั่งใจ,เตชินีกาวิน-บทที่ ๑๒ ปล่อยวาง,เตชินีกาวิน-ตอนพิเศษ ลูกสนิท,เตชินีกาวิน-END พูดคุยกับนักเขียน

เนื้อหา

บทที่ ๒ เขายังอยู่


บทที่ ๒

เขายังอยู่


เตชินเดินกึ่งวิ่งไปที่รถโดยที่ไม่ฟังคำเอ่ยเรียกของลุงคนขับรถและป้าแม่บ้านแม้แต่น้อย

ปึง!

เมื่อเตชินก้าวเท้าเข้ามานั่งบนรถมีสิ่งเดียวที่เขาทำได้คือร้องไห้ออกมาสุดเสียงด้วยความทรมาน

" ฮึก ฮือ " เตวินฟุบลงกับพวงมาลัยรถด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่พูดอะไรออกมาไม่ได้สักอย่าง

ทั้งที่เขาเองที่เป็นคู่พันธะของกาวิน ทั้งที่เขาเองที่เป็นคนนอนกับกาวินในวันนั้น ทั้งที่เป็นเขาเองที่แอบรักกาวินก่อน เป็นเขาเองทุกอย่าง แต่เขาก็ต้องถอยเพราะคำว่าพี่มันค้ำคออยู่

" ฮึก แม่พูดถูก ผมไม่น่าให้เขาเข้ามาในชีวิตพวกเราเลย ไม่งั้นทุกอย่างคงไม่พังแบบนี้ ฮือ ทำไม ๆ " เตชินได้แต่กำหมัดทุบตีเข้ากับพวงมาลัยรถอยู่อย่างนั้นด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

แม้แต่ความรักก็ไม่ได้รับจากกาวิน แม้แต่เงินทองเขาก็ไม่ได้รับจากแม่ เขาต้องตกอยู่ใต้ร่างของคำว่าน้องไปจนถึงเมื่อไหร่ เมื่อไหร่เขาถึงจะหลุดพ้นจากคนที่ชื่อตะวันเสียที

.

.

.

กาวินลูบหัวคนรักอยู่ใต้ผ้าห่ม ทั้งสองมองดูซีรีส์ที่ดูค้างไว้ด้วยกันจนจบไปแล้วหลายเรื่อง

ตะวันชี้นิ้วบอกความต้องการว่าอยากจะดูเรื่องใดต่อ ตั้งแต่เที่ยงวันจนตอนนี้ใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วผู้เป็นคนรักก็ยังคงไม่ยอมปล่อยจากซีรีส์เหมือนเช่นเคย

" ตะวันต้องพักได้แล้วนะ กินข้าวเสร็จแล้วค่อยมาดูต่อก็ได้ครับ เดี๋ยวพี่ต้องลงไปทำงานต่อ " กาวินหยุดเล่นโทรทัศน์และหันมองคนรักในอ้อมกอด หอมศีรษะนั้นเบา ๆ ก่อนที่จะมองอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

" ก็ได้ครับ ตะวันลงไปกินข้าวด้วยก็ได้ " กาวินยิ้มรับ " เรื่องของเตชินวันนี้พี่อย่าโกรธน้องเลยนะ ถือว่าตะวันขอ "

รอยยิ้มนั้นหุบลง ก่อนที่จะย้อนคิดไปถึงเรื่องเมื่อกลางวันที่อยู่ ๆ เตชินก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ และคิดจะมาป้อนข้าวเขา ทั้ง ๆ ที่หน้าที่นี้ควรจะเป็นของตะวันไม่ใช่เตชิน

" ครับ เราไปกินข้าวกันเถอะ "

เมื่อทั้งสองนั่งลงบนโต๊ะอาหารที่ถูกจัดเตรียมไว้โดยป้าแม่บ้านที่อยู่ดูแลกาวินมาเป็นเวลานาน กาวินก็รีบเอ่ยชมฝีมืออาหารของป้าแม่บ้านที่ไม่เคยเปลี่ยนไปตั้งแต่เด็กจนโตไม่ลืมที่จะตักกับข้าวให้ตะวันได้ลิ้มลอง

แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ความดูแลเอาใจใส่ของกาวินที่มีต่อตะวันจะถูกมองด้วยสายตาที่หวาดกลัวของลุงคนขับและป้าแม่บ้าน

" ฉันเริ่มจะกลัวแล้วนะตา คุณเขายังทำเหมือนทุกอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่เลยอะ "

" อย่าเสียงดังไป เดี๋ยวคุณเขาจะอารมณ์ไม่ดีเหมือนตอนอยู่กับคุณเตชินอีก "

" ฉันอยากให้คุณเตชินอยู่ด้วยวะ จะได้ไม่น่ากลัวเหมือนตอนนี้ " ลุงคนขับรถพยักหน้าตอบกลับ

ทั้งสองยังคงมองดูเจ้านายตัวเองนั่งพูดคุยคนเดียวไม่หยุด จานที่มีเพียงข้าวสวยเปล่าตอนนี้กลับถูกอาหารมากมายมาปิดทับจนแทบไม่เห็นข้าวสวย เป็นแบบนี้มาหลายวัน นานเกือบเดือน

.

.

.

โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งที่เตชินมักจะมาหาเพื่อนอยู่เป็นประจำเพื่อทักทาย แต่วันนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อเตชินเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนเดิมตั้งแต่สองเดือนก่อน และได้รับบัตรนัดตรวจกับหมอเป็นระยะ ๆ จนตอนนี้หนึ่งเดือนแล้วเขายังคงมาที่นี้เหมือนเคย

" เตชิน " เขาหันมองเสียงเรียกนั้นด้วยความสงสัย ก่อนที่จะพบว่าคนคนนั้นคือใคร

" ภวัฒน์ ว่าไง " เตชินยิ้มรับด้วยท่าทางอ่อนเพลียเนื่องจากเมื่อคืนเขาต้องลุกมาอ้วกหลายต่อหลายครั้ง แทบไม่ได้นอน

" หมอนัดอีกแล้วเหรอ "

" ใช่ มาดูพัฒนาการของเด็กน่ะ " เตชินพูด มือยังคงลูบไปที่หน้าท้องไม่หยุด

" แล้วได้เจอพ่อเด็กบ้างหรือยัง คุยตกลงกันแล้วใช่ไหม " เตชินหลุบตาลง ยิ้มอ่อนให้กับคำพูดของภวัฒน์ " นี้เตยังไม่ได้บอกเขาเรื่องนี้อีกเหรอ "

" เตบอกไม่ได้หรอก แค่เขาเสียคนที่เขารักมากไปก็เจ็บจะแย่อยู่แล้ว ถ้าเขารู้ว่าเขาทำเตท้องทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รักเตเลยแม้แต่น้อย เขาคงจะอาละวาดและทำทุกอย่างแย่ลงกว่านี้ ลูกก็คงจะไม่ได้เกิดมา " เตชินพูดทั้งน้ำตา ก้มมองเด็กน้อยที่กำลังค่อย ๆ พัฒนาการอยู่ภายใต้ท้องของตัวเองด้วยความรู้สึกผิด แต่เขารักพ่อเด็กด้วยใจจริง

เขาแพ้ทุกอย่างแล้วจริง ๆ แพ้ให้กับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายตัวเองแล้วจริง ๆ

" เต " มือหนาของภวัฒน์จับเข้าที่ฝ่ามือเล็กของเตชิน เขาเงยหน้ามองใบหน้านั้น " ถ้าพ่อเด็กเขาไม่รับ เดี๋ยววัฒน์จะเป็นพ่อเด็กให้กับลูกเตเองนะ "

เตชินมองแววตาของคนตรงหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง เขาไม่อยากให้อนาคตของภวัฒน์ต้องมาตกม้าตายเพราะแค่เด็กไม่มีพ่อ

" ไม่ได้หรอกวัฒน์ เตไม่อยากให้วัฒน์ต้องมาทิ้งความฝันเพราะเต วัฒน์ทำตามความฝันตัวเองเถอะนะ " เตชินดึงมือหนาออกจากฝ่ามือบางของตัวเอง ก่อนที่พยาบาลจะเดินมาตามเตชินให้เข้าตรวจร่างกายกับหมอประจำตัว

เตชินนอนดูพัฒนาการของเด็กบนเครื่องคอมที่กำลังฉายภาพของเด็กน้อยตัวเล็กขยับไปมาเบา ๆ ในท้อง เตชินมองดูเขาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับน้ำตาแห่งความสุข ถึงแม้เด็กจะเล็กมากเกินกว่าจะมองเพศออกเขาก็มีความสุข

เมื่อตรวจเช็กทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยจึงถึงการพูดคุยพัฒนาการของลูกที่มีผลต่อคุณแม่ในห้องตรวจ

" เด็กอายุครรภ์ได้หนึ่งเดือนแล้วนะคะ ตอนนี้คุณแม่มีอาการอะไรบ้างหรือเปล่า "

" เหมือน...จะอ้วกน่ะครับ เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลย "

" คุณแม่แพ้ท้องสินะคะ แล้วคุณพ่อละคะ มีอาการแพ้ท้องแทนคุณแม่หรือเปล่า " แพทย์หญิงหันมองภวัฒน์ที่ขอติดสอยห้อยตามมาดูพัฒนาการเด็กด้วยกันกับเตชิน จึงทำให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าภวัฒน์เป็นพ่อของเด็กในท้องเตชิน

" เขาไม่ใช่พ่อเด็กน่ะครับ "

" ใช่...ใช่ครับ ผมแค่มาเป็นเพื่อนเตชินเขา "

" เหรอคะ คุณหมอต้องขอโทษด้วยนะคะ คิดว่าจะมีหลานให้แพทย์ใหญ่ได้อุ้มแล้ว " แพทย์หญิงและภวัฒน์ต่างพากันแก้ตัวและหัวเราะขบขันด้วยท่าทีขัดเขิน ก่อนที่การตรวจทุกอย่างจะไปผ่านด้วยดี

" ขอบคุณมากนะที่มาส่งเตถึงรถเลย "

" สบายมาก ท้องโตขึ้นทุกวันนะ ต่อไปนี้ต้องให้คนขับรถไปรับไปส่งได้แล้ว ขับรถเองมันอันตราย " เตชินยิ้มรับ " หรือจะให้วัฒน์ไปรับไปส่งให้ก็ได้นะ "

" ไม่เอาดีกว่า ขอบคุณนะภวัฒน์ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลย " ภวัฒน์ยิ้มรับ ถึงแม้ว่าอยากจะได้มากกว่าคำว่าขอบคุณก็ตาม แต่เขาไม่คิดจะทำอะไรไปมากกว่านี้นอกจากคอยช่วยดูแลเตชินอยู่ใกล้ ๆ

เตชินก้าวเท้าขึ้นรถก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับออกไป ภวัฒน์ยังคงมองดูรถหรูนั้นขับออกไปจนลับสายตาก่อนที่จะกลับเข้าไปทำงานต่อ

.

.

.

เคร้ง! ตึก!

เสียงข้าวของในห้องกระจัดกระจายตกลงบนพื้นเกลื่อนกลาด อาการคลั่งของอัลฟ่าหนุ่มกลับมาอีกครั้งเมื่อออกห่างจากคู่พันธะนานกว่ากำหนด เขามักเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ไม่มีกลิ่นของคู่พันธะอยู่รอบตัว อาจจะน้อยครั้งที่เกิดขึ้น แต่มันก็หนักทุกครั้ง

กาวินคลุ้มคลั่งอยู่ภายในห้อง โดยมีป้าแม่บ้านและลุงคนขับยังคงโทรหาเตชินอยู่ไม่ขาดสาย เสียงคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดยังคงดังไม่หยุด ก่อนที่สายจากคนในโทรศัพท์จะรับขึ้น

" ทำไมยังอยู่อีก! บอกแล้วใช่ไหมว่าไปไกล ๆ ไป! ไม่อยากเห็นหน้า!! " กาวินโยนข้าวของใส่ตะวันอย่างรุนแรง ทั้งรีโมททีวี แจกันดอกไม้ กระทั่งเก้าอี้ไม้ในห้อง

ไม่ว่าตะวันจะร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดจากการกระทำของกาวินยังไง กาวินก็ไม่หยุดมือลง ยังคงมองหาสิ่งของรอบตัวโยนไปทางตะวันไม่หยุดเพื่อขับไล่

หน้ากาวินแดงก่ำด้วยความโกรธยังคงร้อนระอุ เสียงตะโกนโวยวายด้วยความเจ็บปวดทรมานยังคงดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

กาวินเป็นหนึ่งในห้าที่มีอาการรัทผสมกับคลุ้มคลั่งในหมู่อัลฟ่าเมื่อไม่ได้เสพสมกับคู่พันธะเป็นเวลานาน และทุกครั้งที่เขาต้องการตะวันมักจะปฏิเสธจึงห้ามไม่ได้ที่อาการนี้จะเกิดขึ้น

เลือดจากศีรษะของตะวันยังคงไหลนองลงมาที่ฝ่ามือ ปากยังคงเอ่ยบอกให้กาวินมีสติปะปนไปกับเสียงร้องไห้ไม่หยุดของตะวัน ก่อนที่เสียงเปิดประตูห้องจะถูกเปิดขึ้นจากคนด้านนอก

กรึก!

เขาหันมองคนที่มาใหม่ และกลิ่นกายขนมหวานมาการองที่คุ้นเคย กาวินสงบลงเล็กน้อยเมื่อกลิ่นนั้นเตะเข้ามาที่จมูก การกระทำทุกอย่างหยุดลง เหลือเพียงเสียงหอบหายใจหนักของอัลฟ่าหนุ่มเท่านั้น

" พี่กาวินใจเย็น ๆ นะครับ ค่อย ๆ หายใจนะ " เมื่อเตชินเห็นกาวินสงบลงเล็กน้อย จึงใช้โอกาสนี้ค่อย ๆ เดินเข้าหาประชิดตัวกาวินทันที " ค่อย ๆ หายใจนะครับ ผมอยู่นี้แล้วนะ "

" .... " สัมผัสอ่อนโยนของอีกฝ่ายค่อย ๆ ปลอบประโลมเขาที่ต้นแขนอย่างช้า ๆ กลิ่นมาการองจากคนตรงหน้ายิ่งทำให้เคลิ้มไปกับมัน

" เดี๋ยวเตจัดการเองครับ ป้าปิดประตูได้เลย "

กรึก

พรึบ!!

" !!! " เมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้น ฝ่ามือหนาได้จับเข้าที่ต้นแขนของเตชินและดันเข้ามาใกล้ตัวด้วยความแรง

กาวินประกบจูบอันร้อนแรงนั้นมอบให้กับเตชิน กาวินพยายามแทรกลิ้นเข้าในปากของเตชินแต่ก็ต้องหยุดไป ก่อนที่จะกัดเข้าที่ริมฝีปากของเตชินจนเลือดซึมทำให้เตชินเผลออ้าออก นี่จึงเป็นโอกาสที่กาวินได้แทรกลิ้นเข้ามา

" อึก อือ " เตชินถูกกาวินผลักให้นอนลงกับเตียง มือที่ครั้นจะดันอีกฝ่ายออกก็ถูกกาวินดึงรั้นเอาไว้เหนือศีรษะ " พี่กาวิน... อึก " ยังไม่ทันได้พูดจบกาวินก็ประกบจูบปิดปากเตชินอีกครั้ง

จูบอันร้อนแรงจากกาวินยังคงถูกส่งต่อมายังริมฝีปากของเตชิน กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วในโพล่งปาก มือหนาซุกซนไล่ปลดกระดุมเสื้อทำงานของเตชินออกและใช้มันมัดเข้ากับข้อมือของเตชิน

" พี่กาวินตั้งสติหน่อย " เตชินพยายามดิ้นออกจากพันธนาการของเสื้อตัวเอง แต่มันถูกรัดจนแน่นเกินกว่าจะหลุดออกได้ เตชินจึงหันมาเรียกสติของกาวินด้วยเสียงของตัวเองแทนถึงแม้จะไม่มีหวังเลยแม้แต่น้อยก็ตามช

มือหนาของกาวินเริ่มลุกลามไปถึงกางเกงชั้นในของเตชิน และสุดท้ายก็ทำสำเร็จ ตอนนี้เตชินไม่มีเสื้อผ้าชิ้นไหนปกปิดร่างกายอันขาวเนียนนั้นไว้แล้ว

ไม่...มันจะเกิดขึ้นอีกรอบไม่ได้


....