❝คุณไพเพอร์ครับ...ผมขอรักคุณได้ไหม?❞ ❝อย่ารักเลย...❞
ชาย-ชาย,Mpreg,ดรามา,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คุณไพเพอร์อย่าใจร้าย Mpreg [Set แฝด]❝คุณไพเพอร์ครับ...ผมขอรักคุณได้ไหม?❞ ❝อย่ารักเลย...❞
Trigger Warning !
Explicit sex scenes การบรรยายฉากร่วมเพศอย่างตรงไปตรงมาก/ Non-penetrative sex การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่สอดใส่/ Dirty talk คำพูดหยาบโลน / Mpreg ผู้ชายท้องได้/ Violence การใช้ความรุนแรง/ Blood เลือด/ Weapons การใช้อาวุธ
เรื่องย่อ
หลังจากที่โดนให้ออกจากงานกะทันหันเพราะดันไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น ผมก็มานั่งดื่มที่บาร์เพื่อย้อมใจ แต่เหมือนว่าผมจะโชคร้ายไม่หยุด จู่ๆ ก็มีเสี่ยคนหนึ่งเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นเด็กที่นัดเอาไว้ พอบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่เชื่อ จะลากผมไปด้วยให้ได้ แต่โชคยังดีที่มีใครบางคนผ่านมาทางนี้ ซึ่งดูแล้วเขาน่าจะเป็นผู้ที่มีอิทธิพลไม่น้อย ผมเลยถือโอกาสนี้เอาตัวรอดด้วยการโมเมว่าเขาเป็นลูกค้าของผมที่นัดกันเอาไว้ แถมผมยังพลั้งปากเรียกเขาว่า ‘ป๋า’ อีกต่างหาก ทั้งหมดทั้งมวลนั่นก็เพื่อเอาตัวรอดจากไอ้เสี่ยบ้ากาม เรียกได้ว่าเพราะเขาผมถึงรอดมาได้
และความบังเอิญก็ทำให้ผมได้พบกับ 'คุณไพเพอร์' อีกครั้ง ในฐานะผู้สมัครงาน ส่วนเขาคือรองประธานบริษัท แต่สุดท้ายทุกอย่างก็พังไม่เป็นท่า จะอะไรเสียอีก...ผมติดแบล็กลิสต์! ผมไม่สามารถเข้าทำงานบริษัทไหนได้อีกแล้ว ซึ่งนั่นเป็นฝีมือของผู้จัดการฝ่ายที่แกล้งผมให้หมดหนทางทำงาน นอกจากคุณไพเพอร์จะไม่รับผมเข้าทำงาน เขายังเข้าใจผิดคิดว่าผมขายบริการอีกต่างหาก เป็นเพราะเรื่องที่บาร์ในคืนนั้นแท้ๆ เลย...
ต่อให้ผมทำงานดีแค่ไหน ขยันขันแข็งมากเท่าไร สุดท้ายก็ต้องแพ้ให้กับความไม่ยุติธรรมอยู่ดี ผมถูกบีบให้ออกจากงาน เพราะดันไปรู้ไปเห็นเรื่องที่ไม่ควรเห็น ใครจะไปคิดว่าการที่เดินไปเข้าห้องน้ำในครั้งนั้น จะทำให้ผมต้องกลายเป็นคนที่ว่างงานในวันนี้ เรื่องทุกอย่างมันเกิดจากการที่ผมไปเข้าห้องน้ำ แต่ดันโชคไม่ดีไปเจอผู้จัดการฝ่ายกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกับเด็กฝึกงานที่เพิ่งจะเข้ามาฝึกงานยังไม่ถึงเดือนอยู่ในห้องน้ำ ทำไมต้องเป็นผมที่โชคร้ายมาเจอภาพอุจาดตาด้วยก็ไม่รู้...
ที่ผู้จัดการฝ่ายร้อนรนขนาดนั้น เพราะเขากลัวว่าผมจะเอาเรื่องนี้ไปบอกภรรยาของเขาที่อยู่ฝ่าย HR* แถมยังขู่ผมอีกว่าถ้าเรื่องนี้เล็ดลอดออกไปเขาจะทำให้ผมไม่มีที่ยืนในสายงานไหนได้อีก แน่นอนว่าผมกลัวคำขู่ของเขา เพราะผู้จัดการฝ่ายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เป็นลูกน้องของผู้อิทธิพล ซึ่งนั้นก็คือเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง DZ ที่เป็นบริษัทแม่ของ Devon บริษัทที่ผมกำลังทำงานอยู่นี้ บุคลากรตามบริษัทต่างๆ มักจะรู้จักเขากันทั้งนั้น ตอนนี้ก็อย่างที่เห็น ผมกลายเป็นคนว่างงานโดยสมบูรณ์
ผมแวะมากินข้าวกับเพื่อนร่วมงานที่บริษัท เพราะเพื่อนๆ อยากเลี้ยงส่งผม เนื่องจากทุกคนเข้าใจว่าที่ผมออกจากงานเป็นเพราะได้งานใหม่ที่ดีกว่า ซึ่งนั่นมันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ ไม่ใช่ผมที่ปั้นเรื่องนี้มาหลอกคนอื่น แต่เป็นผู้จัดการฝ่ายที่บอกทุกคนจนเสร็จสรรพ ส่วนผมก็น้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เออออตามน้ำไป
เฮ้อ...ชีวิต
“ดีใจด้วยนะมัฟฟินที่ได้งานใหม่ อย่าลืมพวกเราล่ะ ไว้มีโอกาสเรานัดกันมากินข้าวด้วยกันอีกนะ”
...ทำได้เพียงแค่ฝืนยิ้มให้พวกเขา
ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ ทุกคนผลัดกันมากอดผม บอกตามตรงว่าใจหายเหมือนกันที่จู่ๆ ก็ไม่ได้ทำงานกับพวกเขาแล้ว ผมโชคร้ายที่ได้เจ้านายไม่ดี แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับผม นั่นคือผมได้เพื่อนร่วมงานที่ดีมาก
“ขอบคุณทุกคนมากนะ โชคดีนะทุกคน”
“พวกเราก็ขอให้มัฟฟินโชคดีเหมือนกันนะ”
พวกเราแยกกันตรงหน้าร้านอาหาร ก่อนจะกลับคอนโดผมคิดว่าจะแวะไปที่ห้างสรรพสินค้าเสียหน่อย เพราะว่าครีมอาบน้ำและของใช้อื่นๆ ของผมหมดแล้ว หลังจากนี้ไปผมต้องประหยัดให้มากขึ้น แม้ว่าจะอยู่ตัวคนเดียวก็เถอะ แต่ยังไงผมก็มีค่าใช้จ่ายมากมายที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าคอนโด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากิน ค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ สำหรับของที่ผมอยากได้ ในแต่ละเดือนผมจะให้ของขวัญตัวเองเดือนละอย่าง เป็นของใช้บ้าง เป็นของกินบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นของกินเสียมากกว่า
We’ re Bar
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมมานั่งดื่ม ทั้งๆ ที่ปกติไม่แตะแอลกอฮอล์เลยแม้แต่นิดเดียว ผมสั่งวอดก้ามาหนึ่งแก้ว ค่อยๆ จิบทีละนิดๆ จิบเป็นชั่วโมงแล้วยังไม่หมดเลย แต่รู้สึกเหมือนว่าจะกรึ่มๆ เสียแล้วสิ แบบนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าคออ่อน?
คิดเสียว่ามาดื่มด่ำกับบรรยากาศ ผมนั่งอยู่ตรงโต๊ะแถวๆ มุมเสา มองแสงไฟและฟังเพลงคลอไปเบาๆ จนกระทั่งมีผู้ชายที่เริ่มมีอายุคนหนึ่งเดินมานั่งข้างๆ ผมและดูเหมือนว่าเขาจะนั่งใกล้ผมจนเกินไป ผมเขยิบออกห่างเขาไปทางซ้าย ค่อยๆ เอื้อมมือหยิบแก้วเหล้าที่วางอยู่ แต่แล้วก็ต้องชะงักในทันใด เมื่อข้อมือของผมถูกคว้าเอาไว้
“หนูจะไปไหน?”
“ปล่อยผมนะครับ” พยายามสะบัดข้อมือ แต่กลับไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย
“รอบนี้คุณผิงหาคนมาสวยขนาดนี้ สงสัยต้องให้เงินคุณผิงเพิ่มแล้วสิ”
คุณผิงไหน? เขาหมายความว่ายังไงกัน?
“ผมคิดว่าคุณเข้าใจผิดครับ ผมไม่รู้จักคนที่คุณพูดถึงเลยแม้แต่น้อย แล้วผมก็ไม่รู้จักคุณด้วย ปล่อยผมนะครับ”
“หนูจะเล่นตัวกับเสี่ยทำไม? เสี่ยจ่ายคุณผิงไปก็ไม่ใช่น้อยๆ หรือว่าหนูอยากได้เพิ่ม? ก็ได้นะ...ถ้าบริการดี เสี่ยยอมจ่ายไม่อั้นอยู่แล้ว ไหนมาให้จูบให้ชื่นใจก่อนสักทีสิ” เขาเริ่มใช้กำลังบีบบังคับด้วยการกระชากข้อมือผมอย่างแรงจนร่างเซประชิดตัวเขาและจูบเข้าที่แก้มของผมอย่างจัง ผมอาศัยจังหวะนั้นเอาหัวโขกเข้าที่หน้าผากของไอ้เสี่ยบ้านี่ พร้อมกับคว้าแก้วเหล้าสาดเข้าหน้าของมันไปเต็มๆ
“อีนี่! มึงชอบให้กูใช้กำลังใช่ไหม”
แม้ว่าในบาร์จะมีลูกค้ามากมาย ทว่ากลับไม่มีใครสามารถให้ความช่วยเหลือผมได้เลยสักคน ถึงแม้ว่าเขาจะเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ตาม ผมรีบจ้ำอ้าวเดินออกจากบริเวณนั้นทันที หวังเพียงแค่ให้ผมรอดพ้นไปจากตรงนี้ แต่แล้วความหวังที่มีอยู่ริบหรี่ก็ต้องดับลง เมื่อไอ้เสี่ยบ้านั่นให้ลูกน้องของมันเดินมาขวางหน้าผม ตอนนี้ผมมืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อเลยจริงๆ
“มึงจะเล่นตัวทำไม? กูเสียเงินไปตั้งเท่าไร คิดว่ากูจะมัวมาเล่นวิ่งไล่จับกับมึงอยู่หรือไง?” มือที่แสนสกปรกคว้าเข้าที่เอวบาง แรงดึงจากทางด้านหลังทำให้ผมเสียหลักจนกระแทกเข้าที่อกของมันอย่างแรง
กวาดสายตามองรอบๆ บริเวณ เผื่อว่าจะพอมีคนช่วยผมได้ จนกระทั่งมีใครบางคนเดินตรงมาทางนี้พอดี ซึ่งด้านหลังของเขายังมีผู้ติดตามมาด้วยถึงสองคน
...เป็นไงเป็นกัน นี่เป็นโอกาสรอดเดียวของผม!
“ป๋าครับ” เมื่อปากไวกว่าความคิดเลยพูดโพล่งเรียกเขาว่าป๋า
คนที่ถูกเรียกหยุดฝีเท้าในฉับพลันนั้น เขาปรายตามองผมที่กำลังสลัดตัวออกจากไอ้เสี่ยบ้ากาม ผมยิ้มแป้นให้กับเขา ก่อนจะถือวิสาสะคว้าเข้าที่แขนแกร่ง จากนั้นก็โอบกอดรอบเอวสอบ เขยิบตัวเข้าหาเขาเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ซบลงที่อกกว้างให้ดูสมจริง
“ป๋าครับ คุณคนนี้เข้าใจมัฟฟินผิดครับ เขาคิดว่ามัฟฟินเป็นคนที่เขานัดเอาไว้ บอกเท่าไรก็ไม่ฟังว่าไม่ใช่ แต่เขาก็ไม่เชื่อ” ผมเงยหน้ามองเจ้าของแขนแกร่งด้วยสายตาที่อ้อนวอน เพื่อให้เขาช่วยผม
“หนูหมายความว่ายังไง?”
จะมาคาดคั้นอะไรจากผมอีก ก็ผมอธิบายไปหมดแล้วว่าผมไม่ใช่คนที่เขานัดเอาไว้ ทำไมถึงไม่เชื่อกัน ฮือ...
“ลูกค้าของผมคือป๋าครับ ไม่ใช่คุณ ผมคิดว่าคุณจำคนผิดแล้วครับ” สมองสั่งให้พูดอะไรออกไปก็ไม่รู้ ทั้งเรียกเขาว่าป๋า ทั้งยังบอกว่าเขาเป็นลูกค้าของผมอีก นี่ผมทำอะไรลงไป...
คนตรงหน้าทำทีท่าว่าจะสาวเท้าเข้ามากระชากตัวผม ทว่ากลับต้องผงะไปเมื่อได้ยินเสียงของเขา
“ถอย...” คนตัวสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ดวงตาคมดุจ้องมองที่เสี่ยบ้ากามไม่ไหวติง ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก เมื่อเริ่มสัมผัสได้ถึงบรรยากาศชวนขนลุก คล้ายกับความเย็นยะเยือกห้อมล้อมอยู่รอบๆ ตัวผม แค่เพียงคำคำเดียวที่เขาได้เอ่ยออกมา ก็ทำเอาผมรู้สึกเกรงกลัวอย่างบอกไม่ถูก
“เสี่ยครับ คนของตระกูลอัครพัฒนวัชร์ เราถอยดีกว่าครับ”
ไอ้เสี่ยนั่นดูตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ลูกน้องของมันพูด ‘ตระกูลอัครพัฒนวัชร์’ ? คงเป็นตระกูลของผู้มีอิทธิพลอย่างนั้นสินะ เขาน่าจะมีอำนาจมากพอตัว ถึงทำให้เสี่ยคนนี้ยอมถอยได้ง่ายๆ นับว่าผมมาขอความช่วยเหลือถูกคนทีเดียว
ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา แสงไฟนีออนมัวๆ ก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนเป็นโทนสีอุ่นนวลๆ เลยทำให้ทั่วบริเวณสว่างไสวขึ้น ดวงตาสีน้ำอ่อนคมดุเต็มไปด้วยความน่าค้นหา แต่อีกนัยกลับดูน่ากลัวเหลือเกิน
“ปล่อย” น้ำเสียงของเขาช่างเย็นชา แต่ทว่ามันกลับแฝงไปด้วยความดุดันอยู่ในนั้น ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอใครที่ทำให้รู้สึกกลัวจนขนลุกแบบนี้มาก่อนเลยให้ตาย ผมรีบปล่อยมือจากเอวของเขาในทันทีที่ตั้งสติได้
“เอ่อ...ขอบ...” ‘ขอบคุณครับที่ช่วยผม’
ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ เขาก็เดินจากไปเสียแล้ว...
ช่างเป็นวันที่ดีสำหรับผมเสียเหลือเกิน...เฮ้อ
ผมหยิบตุ๊กตาแฮมสเตอร์ตัวน้อยขึ้นมากอดพลางนั่งทายาไปด้วย ข้อมือของผมยังคงปรากฏรอยแดงจากการถูกกระชากอย่างแรงที่บาร์ แขนผมก็เท่านี้เองกระชากมาได้ โคตรเจ็บ...
พยายามนั่งนึกถึงนามสกุลของเขาเพราะจะลองเอามาค้นข้อมูลดูในอินเทอร์เน็ต แต่กลับจำไม่ได้ ท่าทางที่ดูเย็นชาของเขา บวกกับน้ำเสียงที่แสนเยือกเย็นนั่น เพียงแค่ได้ยินก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ แถมเขายังเป็นผู้มีอิทธิพลอีก เสี่ยคนนั้นถึงได้ถอยโดยไม่รอรี ถ้าผมไม่เจอเขาก่อน ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้ผมจะเป็นยังไง ไม่แน่อาจจะเสร็จไอ้เสี่ยบ้ากามนั่นไปแล้วก็ได้ ผมหวังว่าผมจะมีโอกาสได้พบเขาอีก ผมอยากขอบคุณเขา...ที่ช่วยผมไว้
* Human Resource ก็คืองานของฝ่ายบุคคล หรือการบริหารทรัพยากรมนุษย์ โดยเป็นการใช้กลยุทธ์วางแผนการทำงานให้มีความสัมพันธ์กับทุกๆ ฝ่ายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด