อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"

อุ้มรักกราวใจ - ตอนที่ 1 ยกพวกตามหาลูกสาว โดย เจ้าก้อนแก้ว. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เลือดสาด,ผู้ใหญ่,ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง,พระเอกเป็นมาเฟีย,Nc,Nc18+,คลั่งรัก,กินดุ,กินเก่ง,รักมาเฟีย,รักลับมาเฟียร้าย,โรแมนติก,โรมานซ์,นิยายผู้ใหญ่,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อุ้มรักกราวใจ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

เลือดสาด,ผู้ใหญ่,ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกเป็นมาเฟีย,Nc,Nc18+,คลั่งรัก,กินดุ,กินเก่ง,รักมาเฟีย,รักลับมาเฟียร้าย,โรแมนติก,โรมานซ์,นิยายผู้ใหญ่,ดราม่า

รายละเอียด

อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"

ผู้แต่ง

เจ้าก้อนแก้ว.

เรื่องย่อ

"ฉันควรจะทำยังไงกับชีวิตน้อยๆนี้ดีนะใครกันนะที่ใจดำอำมหิตกล้าเอาเด็กตัวเล็กๆแค่นี้เอามาทิ้งได้ลงคอ...เจ้าพวกคนใจบาปหยาบช้า"

       อันนาเด็กสาวเพียงวัยยี่สิบปีถูกว่าจ้างให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เธอพึ่งเก็บมาจากข้างถนนโดยผู้ว่าจ้างที่ลึกลับไร้ตัวตนเธอจำต้องทำงานนี้เพราะเธอเองก็พึ่งจะตกงานมาหมาดๆด้วยเงินหนึ่งล้านบาทแลกกับการเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้แค่หนึ่งเดือน

       แต่อันนาเลี้ยงดูเด็กยังไม่ทันจะถึงหนึ่งอาทิตย์ก็ถูกกลุ่มคนจับตัวไปที่คฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่ง เธอที่ไม่รู้อะไรก็ได้แต่งวยงง

"เธอรีบตอบฉันมาเลยนะ...เธอทำงานนี้ให้ใคร...ใครเป็นคนให้เธอทำ!!!"

       ชายหน้าตาหล่อเหลาสูงขาวขาเรียวยาวใช้มือหนาบีบจับใบหน้าเธอจนบิดเบี้ยวเค้นถามเอาความจริงจากเธอด้วยน้ำเสียงที่เข้มและเกรี้ยวกราดสุดๆ เขาชักสีหน้าดุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ได้ถ้าเธอไม่ตอบคำถามเขา

"โอ๊ะโอ๊ย!!!!...ฉันเจ็บนะ...ปล่อยก่อนสิถ้าบีบปากอยู่แบบนี้ใครมันจะไปพูดได้"

"ฉันจำเป็นต้องฟังเธอหรอ...บอกมาว่าเธอทำงานนี้ให้กับใคร...ใครเป็นคนจ้างให้เธอลักพาตัวลูกของฉันไป..บอกมา!!!"

"เสียดายใบหน้าหล่อๆของแกเนอะ..หล่อแต่หูหนวก!!!...ปัญญาอ่อน!!!...สมองนิ่ม!!!ฉันก็บอกเป็นร้อยเป็นพันรอบแล้วนี่ไงว่าฉันไม่ได้ลักพาตัวเด็กคนนี้มา...ฉันไปเจอน้องเขาที่ข้างถนน...ฉันเจอเธอที่ข้างถนน!!"

"โกหก!!!...ถ้าไม่บอกฉันให้เธอไปนอนคุยกับรากมะม่วงแน่ๆ...บอกมาก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน...เผลอพลั้งมือยิงเธอตายห่าไปซะก่อน"

"ก็ยิงซะสิ...เอาจริงฉันก็เห็นใจเด็กคนนี้นะเธอมีพ่อที่เฮงซวยแบบนี้นี่เอง...เธอจึงมีนิสัยที่ชอบร้องโวยวายถ้าไม่ได้อย่างใจเพราะเขามีพ่อที่สารเลว..ชั่ว...ป่าเถื่อนแบบนี้ไง...เด็กมันถึงได้สติมีปัญหาอ่ะ"

       พีรพัฒน์สุดจะทนแล้วเขาหันปากกระบอกปืนไปยิงใส่แก้วน้ำเพื่อเป็นการข่มขู่ว่าถ้าเธอไม่ยอมปริปากพูดเขาจะยิงเธอแน่นอน

          ~ปัง ปัง ปัง ~

"อ๊ายยยยย...ไอ้คนบ้าเอ๊ย!!!ในห้องมีเด็กตัวเล็กๆอยู่ด้วยนะเว้ย...ทำอะไรหัดคิดบ้างสิ"

"เขาไม่ได้ยินหรอกเพราะฉันหาอะไรปิดหูเขาไว้แล้ว.."

"ไม่ได้ยินแล้วไง!!!...ไม่ได้ยินแล้วคิดว่าเขาไม่ได้ดู...มองไม่เห็นพฤติกรรมชั่วช้าของพ่อเขารึไง...รู้ไว้ด้วยนะ..เด็กวัยนี้เขากำลังจดจำสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้ดีเชียวล่ะ...คนเป็นพ่ออย่างแกรู้อะไรเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้างหน้าโง่ๆแบบนี้รู้อะไรบ้างมั้ย!!!"

"ถึงฉันจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขา..แต่ฉันก็รู้ว่าเขาชอบกินอะไร..เขาชอบของเล่นชิ้นไหน...นอนกี่ชั่วโมง..."

"รู้เพราะพี่เลี้ยงบอกล่ะสิ...แล้วรู้บ้างมั้ยก่อนที่เขาจะได้มานั่งดูคุณเอาปืนมาจ่อใส่หัวฉันอยู่แบบเนี้ย...เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้าเด็กคนนี้เจออะไรมาบ้าง...คุณรู้บ้างรึเปล่าว่าเธอเกือบตายถ้าไม่ได้ฉันช่วยไว้..ห๊ะ!!!คุณเคยรู้มั้ยว่าฉันไปเจอเธอในสภาพไหนเขาเอาเธอมาทิ้งไว้ข้างถนนในซอยเล็กๆเขาเอาเธอใส่ถุงดำมา!!!...คงกะจะให้ตายแต่เธอใจสู้!!!...คุณรู้มั้ยว่าเธอขาดอากาศหายใจนอนแน่นิ่งไปแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉันเปิดถุงดำนั่นออก...กว่าฉันจะช่วยยื้อชีวิตเธอกลับมาได้ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน...เธอขาดออกซิเจนไปนานแค่ไหนฉันก็ไม่รู้...เธอเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ใช่!!!...ฉันอาจจะเด็ก...ฉันพึ่งจะอายุแค่ยี่สิบ...แต่ฉันคิดว่าฉันรู้ความกว่าคุณเยอะฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบเสียงดัง!!!...ฉันรู้ว่าเขาชอบกินฟักทองบดละเอียด...แล้วฉันก็รู้ว่าเธอชอบฟังเพลงอะไรก่อนนอน...เรื่องพวกเนี้ย...คนเป็นพ่ออย่างคุณเคยรู้บ้างรึเปล่า...เคยรู้อะไรจริงๆเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้างมั้ยห๊ะ"

       อันนาทั้งพูดไปร้องไห้ไปด้วย เธอพยามอดกลั้นมานานหลายวันเธอเลือกที่จะไม่พูดเรื่องราวเหล่านั้นออกมาเพราะเธอเองก็สะเทือนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นอยู่ไม่น้อยเลยเธอรู้สึกสงสารเด็กที่จะต้องมาเจอและมาเติบโตอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้

"พูดว่าน้องพีม..ถูกยัดใส่ถุงดำไปทิ้งอย่างนั้นหรอ...น้องพีมเกือบตายงั้นหรอ"

"ใช่!!!...เธอไม่หายใจแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉันแกะถุงนั่นออก...คุณเคยคิดมั้ยว่าถ้าคุณไปเจอสถานการณ์เดียวกันกับฉันคุณจะเป็นยังไง...เด็กที่ตายอยู่ตรงหน้าเขาเป็นลูกใครก็ไม่รู้แต่ฉันดันไปเปิดดูฉันดันอยู่ตรงนั้น...เห็นเขาหมดลมหายใจเป็นคุณอ่ะ...คุณจะรู้สึกยังไง...ชีวิตหนึ่งต้องมาตายให้คุณเห็นต่อหน้าแบบนั้นอ่ะเป็นคุณ...คุณจะทำยังไงวะ...ฉันทั้งสติแตกทั้งร้องไห้เพราะสงสารเด็ก...ไม่รู้ว่าฉันจะช่วยอะไรเด็กได้บ้าง..ฉันช่วยเขาให้ฟื้นมาด้วยความยากลำบาก...แล้วดูสิ่งที่คุณทำกับเขาและฉันตอนนี้สิ...คุณแสดงพฤติกรรมชั่วช้าแบบนี้ให้เขาเห็น..คุณคิดว่ามันดีสำหรับเขาแล้วหรอ...เขายังเด็กเขาใสซื่อเขาบริสุทธิ์...เขาเป็นผ้าขาวสะอาด..แต่คนที่เป็นพ่อเขาที่จะเป็นปากกาขีดเขียนเขาให้โตไปในทางที่ผิดๆ...คุณว่ามันคุ้มกับที่ฉันเหน็ดเหนื่อยช่วยเธอในวันนั้นมั้ยมันคุ้มกันมั้ยลองใช้สมองอันน้อยนิดของคุณลองไตร่ตรองดูสิโว้ย...ไอ้พ่อชั่ว!!!"

       สิ้นเสียงตะโกนด่าอันนาก็เป็นลมล้มพับไปเป็นเพราะเธออดอาหารมาหลายวันพร้อม ทั้งวันนี้ร้องไห้หนัก เรี่ยวแรงก็เลยหมดไปกับการตะโกนด่าพีรพัฒน์ แต่ปัญหาก็ยังไม่จบเมื่อเด็กน้อยเห็นว่าอันนาหมดสติไปจากที่ตอนแรกเธอไม่เป็นอะไรจู่ๆเธอก็ร้องกรี๊ดๆลั่นห้องแล้วก็พยายามที่จะกระดึ๊บๆมาหาอันนา 

       พีรพัฒน์จึงได้รับรู้ว่าลูกสาวของเขานั้นติดและชอบอันนามากแค่ไหนพีรพัฒน์จึงอุ้มอันนาขึ้นไปนอนข้างๆน้องพีมเพื่อให้ลูกสาวหยุดร้องไห้ เด็กน้อยผู้เห็นว่าผู้หญิงที่คอยเลี้ยงดูและเอาอกเอาใจเธอในไม่กี่วันมานี้เป็นแม่ของเธอเธอจึงเข้าไปกอดเอื้อมมือไปจับไปแตะๆที่หน้าที่ตัวของอันนาแล้วก็ร้องไห้พึมพำภาพเหล่านั้นมันทำให้ทุกคนในห้องถึงกับอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอเบ้า โดยเฉพาะพีระพัฒน์ผู้เป็นพ่อ

"อาเต๋อ...แกได้ยินอย่างที่ฉันได้ยินใช่มั้ยน้องพีมเกือบจะตายเพราะผู้หญิงแพศยานั่น...แกว่าฉันควรจะทำยังไงกับคนในครอบครัวนั้นดี...แกช่วยฉันคิดทีสิอาเต๋อ"

"ขอเพียงนายเอ่ยปาก...พวกเราพร้อมที่จะไปจัดการครับนาย"

"กล้าทำถึงขั้นนี้...ก็แสดงว่าพวกมันอยากจะเป็นศัตรูกับฉันโดยเปิดเผย...ก็ดีเลยแต่ก่อนเพราะฉันเกรงใจฉันจึงไม่ลงมือแต่ตอนนี้ฉันตาสว่างมากแล้ว...รับรองว่าฉันไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆแน่นอน"

       พีรพัฒน์กัดฟันกรอดแต่เพราะอยู่ต่อหน้าลูกสวยเขาจึงแสดงสีหน้าออกมาไม่ได้เขาเอื้อมมือไปลูบหัวลูกสาวเบาๆพร้อมกับเหลือบไปมองหน้าคนที่เป็นลมอยู่ตรงหน้าที่ตอนนี้ที่ขอบตาก็ยังมีน้ำตาชุ่มๆอยู่เขารู้สึกขอบคุณเธอที่ช่วยเหลือน้องพีมเอาไว้และเขาก็คิดว่ายังไงๆเขาก็คงต้องตอบแทนบุญคุณนี้คืนกลับแก่เธอให้สาสม

"อาเต๋อ...นายพาคนไปเก็บข้าวของของเธอมาไว้ที่ห้องเล็กที...ฉันจะให้เธอมาเป็นพี่เลี้ยงให้น้องพีม...เก็บมาให้หมดทุกอย่างแล้วก็ทำเรื่องซื้ออพาร์ทเม้นท์นั่นด้วยนะซื้อไว้เลย...ซื้อเป็นชื่อของเธอ"

คำเตือน

ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงานวิชาชีพต่างๆ และเหตุการณ์ที่มีการใช้ความรุนแรงในนิยายเป็นแค่เรื่องสมมุตินิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงและความสนุกสนานเท่านั้นโดยไม่มีเจตนาชี้นำหรือส่งเสริมการกระทำใดๆที่เกิดขึ้นในนิยาย ตัวละครหรือเนื้อหาอาจจะมีการใช้ความรุนแรงทางเพศและตัวละครอาจมีการใช้คำพูดที่ค่อนข้างจะหยาบคายแต่เพื่อความสมจริงและเพิ่มอรรถรสให้กับนิยายได้สมจริงมากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ขอขอบคุณพระคุณไว้ล่วงหน้าหากท่านจะมาเป็นผู้ใหญ่ใจดีอุดหนุนsupportนิยายเรา🙏🙏🙏

สารบัญ

อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 1 ยกพวกตามหาลูกสาว,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 2 นั่นมันเด็ก!! เด็กตัวเป็นๆเลยนะ,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 3 นี่ลูกฉันเป็นอะไรไป,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 4 เคยรู้อะไรจริงๆบ้างมั้ย,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 5 จูบแรกจากคนที่เพิ่งรู้จักกัน,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 6 เอะอะก็หาแต่เรื่องจะจูบ

เนื้อหา

ตอนที่ 1 ยกพวกตามหาลูกสาว

       ในห้องประชุมอันกว้างใหญ่ตอนนี้มีผู้คนนับสิบคนกำลังนั่งทำหน้าเครียดกันอยู่ จู่ๆก็มีเสียงมือถือดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ถึงแม้นมือถือจะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆและก็ดังมาสักพักแล้วแต่เจ้าตัวคนเจ้าของเครื่องก็ยังไม่ทันจะรู้ตัว จนสายตาของคนทั้งห้องจ้องมองมาที่เขาเขาจึงตื่นตัวรู้ว่ามือถือของตนกำลังดัง

"ท่านประธานคะ...คือว่ามือถือท่านมันดังมาสักพักแล้วค่ะ...จะรับสายก่อนมั้ยคะท่าน"

       เลขาคนสวยช่วยเอ่ยปากเตือนสติเจ้านายอีกแรง เพราะดูจากตรงนี้ท่านประธานคงจะยังไม่รู้ตัวสักเท่าไหร่

"ของผมหรอ...เป็นของผมเองหรอ"

"ค่ะ...ของท่านประธานเลยค่ะ...มันดังมาสักพักแล้วด้วยค่ะท่าน"

"โทษทีครับ...ผมมัวแต่ใจจดใจจ่อแต่กับเรื่องในหัวมากไปหน่อย...งั้นผมรับสายสักครู่ล่ะกัน...พักเบรคสักสิบนาทีแล้วกันนะคุณสวย"

       พีรพัฒน์หันไปสั่งเลขาก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้เพื่อเดินออกไปรับสายที่กำลังกดโทรมาอย่างดุเดือด 

"รับทราบค่ะท่านประธาน"

       พีรพัฒน์เดินทำหน้าหงิกออกมาจากห้องประชุมพร้อมกับกดรับสายอย่างท่าทางเซ็งๆ ประกอบกับตอนนี้เขาก็กำลังอารมณ์ไม่ค่อยจะดี

"ว่าไง...มีอะไรว่ามา"

       พีรพัฒน์เอ่ยขึ้นถามคนปลายสายด้วยน้ำเสียงที่เข้มๆทุ้มๆจนคนปลายสายต้องเงียบไปสักแป๊บแล้วค่อยกล้าที่จะเอ่ยปากตอบคำถาม

"ขอประทานอภัยครับนาย...พอดีที่นี่...ที่โรงพยาบาลเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นครับ"

"มีอะไรว่ามา...ฉันกำลังประชุมอยู่"

"คุณหนูหายตัวไปครับนาย...ตอนนี้ผมกำลังให้คนออกไปตามหาครับนาย"

"ว่าไงนะ!!!...ลูกฉันหายงั้นหรอกิตติ"

"ครับนาย"

"แล้วพวกแกเฝ้าลูกฉันยังไงให้หายไปได้ไปเลยนะ...รีบให้คนตามหาให้เจอเลยนะถ้าลูกฉันเป็นอะไรแม้นแต่ปลายเส้นผมฉันไม่เอาแกไว้แน่กิตติ...ฉันจะไปเดี๋ยวนี้"

       เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าจากลูกน้องคนสนิทพีรพัฒน์ก็ถึงกับเข่าทรุด ก่อนจะกดมือถือโทรไปยกเลิกการประชุมครั้งนี้ พีรพัฒน์เดินทำหน้าเข้มขมวดคิ้วเป็นปมออกจากบริษัทเพื่อไปขึ้นรถที่มาจอดรออยู่ที่หน้าบริษัท ล้อรถหมุนเร็วจี๋มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล 

"ว่าไงอาเต๋อ...ได้เรื่องรึเปล่า"

"ทราบตัวคนทำแล้วครับนาย...ตอนนี้ผมกำลังให้คนของเราเช็คกล้องวงจรทุกตัวแถวๆโรงพยาบาลแล้ว...อีกไม่นานก็คงจะเจอตัวการแล้วครับ"

"ดี!!!!!...ถ้าจับได้ให้จับเป็นนะ...มันกล้าดียังไงถึงได้มาล้วงคอคนอย่างฉันถึงที่"

"รับทราบครับนาย"

       พีรพัฒน์กดวางสายพร้อมกับกัดฟันกรอดมือไม้สั่นไปหมดเพราะความโกรธจัด เขาเผลอใช้มือบีบมือถือจนสุดแรงที่มี

"คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้ฉันหวั่นได้งั้นหรอ...ถ้าเด็กเป็นอะไรไปล่ะก็นะฉันจะเล่นให้ครอบครัวเธอไม่เหลือแม้นแต่ข้าวเอาไว้กรอกหม้อเลยคอยดูสิพิตา"

       *****ตอนนี้เวลาผ่านไปก็เกือบจะค่ำมืดแล้วป่านนี้คนของพีรพัฒน์ก็ยังคงตามหาตัวเด็กน้อยนั่นไม่เจอเลย  

"ให้ผมแจ้งตำรวจดีมั้ยครับนาย...ให้ตำรวจช่วยเราอีกแรงเผื่อเราจะเจอคุณหนูเร็วขึ้น"

"แกพูดเหมือนพึ่งมาทำงานกับฉันวันแรกเลยนะกิตติ...แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบตำรวจคนอย่างฉันไม่จำเป็นจะต้องพึ่งตำรวจ"

       กิตติเงียบไปในทันทีที่โดนด่า เขาก้มลงโค้งคำนับอย่างรู้สึกผิดก่อนจะกล่าวคำขอโทษออกมาเบาๆ

"ผมขอโทษครับนาย...ผมก็แค่ร้อนใจกลัวว่าเราจะหาตัวคุณหนูไม่เจอครับ"

"เอาเถอะ...ฉันไม่ถือโทษโกรธนายหรอกนะ...เอางี้นะ..ฉันวานให้นายพาคนของเราช่วยกันตามหา...ไปขอดูกล้องทุกจุด...ส่วนฉันกับอาเต๋อจะไปเยี่ยมญาติฝ่ายหญิงสักหน่อย...ฝากลูกฉันด้วยนะ...เธอก็เป็นเหมือนหลานของนาย...ตามหายเธอให้เจอด้วยนะ"

"ครับนาย...ผมจะตามหาจนเจอครับ"

       พูดจบพีรพัฒน์ก็เดินขึ้นรถไปเพื่อมุ่งหน้าไปยังบ้านของพิตาแม่ของเด็กน้อยคนนั้นเมื่อรถพีระพัฒน์ไปถึงหน้าคฤหาสน์ใหญ่ที่แสนจะสวยและมีการ์ดมากมายเฝ้าหน้าประตู เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงชี้นิ้วสั่งให้ลูกน้องนับสิบๆคนกราดยิงใส่การ์ดที่กำลังยืนรักษาความปลอดภัยอยู่ข้างประตูจนตายกันหมดทุกคน 

       พร้อมกับสั่งให้อาเต๋อลูกน้องมือขวาทำลายกุญแจบ้านแล้วบุกเข้าไปในบริเวณบ้านอย่างอุกอาจและบ้าคลั่ง ไม่ถึงสามนาทีคนในบ้านก็รีบวิ่งออกมาดูว่าข้างหน้าบ้านนั้นกำลังเกิดอะไรขึ้น 

"นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่เนี่ยพีรพัฒน์เป็นบ้าอะไรถึงได้ถือปืนมายิงคนกลางวันแสกๆแบบนี้...คิดว่าตัวเองมีอำนาจใหญ่ล้นฟ้ามาจากไหนถึงได้กล้าทำเรื่องชั่วๆอุกอาจขนาดนี้..."

       ชายสูงวัยคนนึงสาวเท้าฉับๆออกมาจากในบ้านเพราะตื่นตระหนกตกใจเสียงปืนพร้อมกับชี้หน้าด่าผู้มาเยือนแบบไม่ยั้งปาก

"ผมไม่เคยคิดว่าผมใหญ่โตมาจากไหนหรอกครับท่าน...ผมมันก็เป็นแค่เด็กที่ไม่รู้จักโต...ผมทำอะไรก็เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอยู่เสมอ...แต่ถึงยังไง..ผมก็ยังเคารพท่านเหมือนพ่อคนนึงนะครับ"

       พีรพัฒน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมมากๆถึงแม้นว่าภายในใจของเขาในตอนนี้จะร้อนยิ่งกว่าถูกเปลวไฟนรกโลการนใจ

"นี่ขนาดแกเคารพฉันเปรียบเสมือนพ่อแล้วนะเนี่ย...แกยังกล้าฆ่าลูกน้องฉันตายเกลื่อนกลาด...แล้วถ้าเกิดแกไม่เคยคิดจะนับถือฉันแกไม่เอาปืนมาจ่อยิงกบาลฉันถึงบนเตียงนอนแล้วหรอแกนี่มันไม่รู้จักบุญคุณคนเลยจริงๆนะ"

"เชื่อเถอะครับว่าผมเคารพท่านเจ้าสัวเสมือนพ่อของผมเอง...แต่วันนี้ที่มาที่นี่ไม่ใช่เพราะเรื่องพวกนี้หรอกครับคุณอาที่ผมมาก็เพื่อจะมาตามหาเด็กครับผมพอจะเดาออกว่าที่เด็กน้อยคนนั้นหายตัวไป...ก็เป็นเพราะฝีมือของพิตาถ้าคุณอาเอาเด็กคืนมาให้ผม...ผมขอรับรองว่าผมจะไปจากที่นี่ทันทีเลย..."

       พีรพัฒน์พูดด้วยท่าทีที่เย็นชามากๆสีหน้าของเขาดูไม่ได้จะเกรงกลัวบุคคลที่กำลังด่าเขาอยู่เลยสักนิด เขาใช้สายตาจ้องเขม็งไปที่หญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังยืนตัวสั่นอยู่ที่หน้าประตูบ้าน

"นี่แกกำลังพูดถึงเรื่องบ้าอะไรอยู่งั้นหรอแกก็รู้ว่าฉันไม่เคยยินดีปรีดาที่จะให้เจ้าเด็กตัวปัญหานั่นเข้ามาอยู่ในบ้านของฉันแล้วมันจะมาอยู่ที่นี่ได้ไง...ไหนแกลองบอกฉันมาสิ"

"เรื่องนั้นผมเองก็ทราบดีครับว่าท่านเจ้าสัวไม่ได้อยากได้เด็กน้อยคนนั้นเข้ามาอยู่ร่วมชายคา...ส่วนจะเป็นเพราะรังเกียจหรืออะไรก็แล้วแต่ผมไม่สนใจหรอกในเมื่อผู้หญิงคนนั้นยอมเซ็นยกเด็กให้ผมไปเลี้ยงแต่เพียงผู้เดียวแล้ว...เธอก็ไม่มีสิทธิ์จะมาทำอะไรที่ไร้สาระแบบนี้ท่านเองก็คงจะรู้จักนิสัย...อ้อไม่สิครับต้องเรียกว่าท่านเองก็คงจะรู้จักสันดานของผมดีพอ...ผมไม่ใช่เจ้าพีรพลน่าโง่ที่จะมาทำอะไรก็ได้...ท่านก็รู้ใช่มั้ยครับ"

       เจ้าสัวรังสรรค์ถึงกับไอความร้อนขึ้นหูเพราะถูกพีรพัฒน์เจ้าเด็กจองหองพูดย้อนเกล็ดอย่างเสียหมา เจ้าสัวรังสรรค์ถูกเด็กตอกหน้าจังๆจนหน้าชาไปชั่วขณะก่อนจะตะโกนเสียงดังราวกับฟ้าผ่าเมือง

"ไอ้เด็กเมื่อวานซืน...แกกล้ามากนะที่เดินเข้ามาขู่ฉันถึงในบ้าน...วันนี้ฉันจะทำให้แกได้รู้ว่าฉันไม่ใช่คนที่แกจะมาพูดแบบนี้ด้วยได้...เด็กๆ!!!!...ไปจัดการมันซะ"

       พลันพริบตาเดียวบอดี้การ์ดของท่านเจ้าสัวผู้ยิ่งใหญ่ก็ล้มลงไปนอนตายกองกันอยู่บนพื้นหญ้าจนเกือบหมด

"ผมว่าท่านส่งเด็กมาให้ผมซะก็สิ้นเรื่องอย่าฝืนธรรมชาติอีกเลยครับท่าน....เดี๋ยวท่านจะเจ็บตัวซะเปล่าๆนะครับเก็บแรงไว้ไปเดินชมสวนน่าจะดีกว่านะครับ...แต่ถ้าท่านยังคงดื้อด้านอยากจะมีเรื่องให้ได้...ผมก็ทำให้มีได้นะครับ"

"ไอ้เด็กไร้มารยาท...ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ...ฉันกับแกนับตั้งแต่วันนี้ความสัมพันธ์ที่ฉันกับพ่อของแกสร้างมามันขาดกันนับจากวินาทีนี้ไปไอ้เสือ!!!"

"แบบนั้นก็ยิ่งดีเลยครับ...งั้นก็ขออนุญาตล่วงเกินแล้วนะครับท่านเจ้าสัวรังสรรค์"

       พีรพัฒน์แสยะยิ้มร้ายออกมาทางมุมปากพร้อมกับหันหน้าไปยิ้มเย้ยใส่พิตาผู้หญิงที่เขานั้นเกลียดที่สุดในโลก ก่อนจะหันหน้าไปตะโกนสั่งให้ลูกน้องบุกเข้าไปค้นหาตัวเด็กในบ้านท่านเจ้าสัวตามใจตัว

"เด็กๆ!!!...เข้าไปค้นในบ้าน...ใครมันกล้าขัดขวางทางปืนก็เป่ากบาลมันได้เลย!!!!"

       สายตาที่ดุร้ายถูกเอาออกมาใช้เพื่อข่มขู่ทุกคนในบ้าน พีรพัฒน์ใช้สายตาแสดงออกว่าเขาไม่เคยเกรงกลัวใครหน้าไหนในบ้านนี้เลย ลูกน้องส่วนหนึ่งของพีรพัฒน์แยกย้ายกันเข้าไปค้นหาเด็กตามคำสั่งในบ้านและส่วนที่เหลือก็คอยตรึงกำลังยืนล้อมรอบตัวเจ้านายเอาไว้เป็นอย่างดี

"แกมันเด็กเปรต...ฉันไม่เอาแกไว้แน่"

"จริงครับ...ผมมันเด็กเปรตมาตั้งแต่เกิดขนานแท้...ผมชอบท่านนะครับที่แก่แล้วก็ยังคงคิดว่าตัวเองยังพอมีกึ๋นอยู่บ้างตาต่อตาฟันต่อฟันแบบนี้แหละครับผมโคตรชอบเลย...ว่ามั้ยครับท่าน"


                             จบตอน