อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"

อุ้มรักกราวใจ - ตอนที่ 2 นั่นมันเด็ก!! เด็กตัวเป็นๆเลยนะ โดย เจ้าก้อนแก้ว. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เลือดสาด,ผู้ใหญ่,ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง,พระเอกเป็นมาเฟีย,Nc,Nc18+,คลั่งรัก,กินดุ,กินเก่ง,รักมาเฟีย,รักลับมาเฟียร้าย,โรแมนติก,โรมานซ์,นิยายผู้ใหญ่,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อุ้มรักกราวใจ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

เลือดสาด,ผู้ใหญ่,ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกเป็นมาเฟีย,Nc,Nc18+,คลั่งรัก,กินดุ,กินเก่ง,รักมาเฟีย,รักลับมาเฟียร้าย,โรแมนติก,โรมานซ์,นิยายผู้ใหญ่,ดราม่า

รายละเอียด

อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"

ผู้แต่ง

เจ้าก้อนแก้ว.

เรื่องย่อ

"ฉันควรจะทำยังไงกับชีวิตน้อยๆนี้ดีนะใครกันนะที่ใจดำอำมหิตกล้าเอาเด็กตัวเล็กๆแค่นี้เอามาทิ้งได้ลงคอ...เจ้าพวกคนใจบาปหยาบช้า"

       อันนาเด็กสาวเพียงวัยยี่สิบปีถูกว่าจ้างให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เธอพึ่งเก็บมาจากข้างถนนโดยผู้ว่าจ้างที่ลึกลับไร้ตัวตนเธอจำต้องทำงานนี้เพราะเธอเองก็พึ่งจะตกงานมาหมาดๆด้วยเงินหนึ่งล้านบาทแลกกับการเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้แค่หนึ่งเดือน

       แต่อันนาเลี้ยงดูเด็กยังไม่ทันจะถึงหนึ่งอาทิตย์ก็ถูกกลุ่มคนจับตัวไปที่คฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่ง เธอที่ไม่รู้อะไรก็ได้แต่งวยงง

"เธอรีบตอบฉันมาเลยนะ...เธอทำงานนี้ให้ใคร...ใครเป็นคนให้เธอทำ!!!"

       ชายหน้าตาหล่อเหลาสูงขาวขาเรียวยาวใช้มือหนาบีบจับใบหน้าเธอจนบิดเบี้ยวเค้นถามเอาความจริงจากเธอด้วยน้ำเสียงที่เข้มและเกรี้ยวกราดสุดๆ เขาชักสีหน้าดุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ได้ถ้าเธอไม่ตอบคำถามเขา

"โอ๊ะโอ๊ย!!!!...ฉันเจ็บนะ...ปล่อยก่อนสิถ้าบีบปากอยู่แบบนี้ใครมันจะไปพูดได้"

"ฉันจำเป็นต้องฟังเธอหรอ...บอกมาว่าเธอทำงานนี้ให้กับใคร...ใครเป็นคนจ้างให้เธอลักพาตัวลูกของฉันไป..บอกมา!!!"

"เสียดายใบหน้าหล่อๆของแกเนอะ..หล่อแต่หูหนวก!!!...ปัญญาอ่อน!!!...สมองนิ่ม!!!ฉันก็บอกเป็นร้อยเป็นพันรอบแล้วนี่ไงว่าฉันไม่ได้ลักพาตัวเด็กคนนี้มา...ฉันไปเจอน้องเขาที่ข้างถนน...ฉันเจอเธอที่ข้างถนน!!"

"โกหก!!!...ถ้าไม่บอกฉันให้เธอไปนอนคุยกับรากมะม่วงแน่ๆ...บอกมาก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน...เผลอพลั้งมือยิงเธอตายห่าไปซะก่อน"

"ก็ยิงซะสิ...เอาจริงฉันก็เห็นใจเด็กคนนี้นะเธอมีพ่อที่เฮงซวยแบบนี้นี่เอง...เธอจึงมีนิสัยที่ชอบร้องโวยวายถ้าไม่ได้อย่างใจเพราะเขามีพ่อที่สารเลว..ชั่ว...ป่าเถื่อนแบบนี้ไง...เด็กมันถึงได้สติมีปัญหาอ่ะ"

       พีรพัฒน์สุดจะทนแล้วเขาหันปากกระบอกปืนไปยิงใส่แก้วน้ำเพื่อเป็นการข่มขู่ว่าถ้าเธอไม่ยอมปริปากพูดเขาจะยิงเธอแน่นอน

          ~ปัง ปัง ปัง ~

"อ๊ายยยยย...ไอ้คนบ้าเอ๊ย!!!ในห้องมีเด็กตัวเล็กๆอยู่ด้วยนะเว้ย...ทำอะไรหัดคิดบ้างสิ"

"เขาไม่ได้ยินหรอกเพราะฉันหาอะไรปิดหูเขาไว้แล้ว.."

"ไม่ได้ยินแล้วไง!!!...ไม่ได้ยินแล้วคิดว่าเขาไม่ได้ดู...มองไม่เห็นพฤติกรรมชั่วช้าของพ่อเขารึไง...รู้ไว้ด้วยนะ..เด็กวัยนี้เขากำลังจดจำสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้ดีเชียวล่ะ...คนเป็นพ่ออย่างแกรู้อะไรเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้างหน้าโง่ๆแบบนี้รู้อะไรบ้างมั้ย!!!"

"ถึงฉันจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขา..แต่ฉันก็รู้ว่าเขาชอบกินอะไร..เขาชอบของเล่นชิ้นไหน...นอนกี่ชั่วโมง..."

"รู้เพราะพี่เลี้ยงบอกล่ะสิ...แล้วรู้บ้างมั้ยก่อนที่เขาจะได้มานั่งดูคุณเอาปืนมาจ่อใส่หัวฉันอยู่แบบเนี้ย...เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้าเด็กคนนี้เจออะไรมาบ้าง...คุณรู้บ้างรึเปล่าว่าเธอเกือบตายถ้าไม่ได้ฉันช่วยไว้..ห๊ะ!!!คุณเคยรู้มั้ยว่าฉันไปเจอเธอในสภาพไหนเขาเอาเธอมาทิ้งไว้ข้างถนนในซอยเล็กๆเขาเอาเธอใส่ถุงดำมา!!!...คงกะจะให้ตายแต่เธอใจสู้!!!...คุณรู้มั้ยว่าเธอขาดอากาศหายใจนอนแน่นิ่งไปแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉันเปิดถุงดำนั่นออก...กว่าฉันจะช่วยยื้อชีวิตเธอกลับมาได้ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน...เธอขาดออกซิเจนไปนานแค่ไหนฉันก็ไม่รู้...เธอเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ใช่!!!...ฉันอาจจะเด็ก...ฉันพึ่งจะอายุแค่ยี่สิบ...แต่ฉันคิดว่าฉันรู้ความกว่าคุณเยอะฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบเสียงดัง!!!...ฉันรู้ว่าเขาชอบกินฟักทองบดละเอียด...แล้วฉันก็รู้ว่าเธอชอบฟังเพลงอะไรก่อนนอน...เรื่องพวกเนี้ย...คนเป็นพ่ออย่างคุณเคยรู้บ้างรึเปล่า...เคยรู้อะไรจริงๆเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้างมั้ยห๊ะ"

       อันนาทั้งพูดไปร้องไห้ไปด้วย เธอพยามอดกลั้นมานานหลายวันเธอเลือกที่จะไม่พูดเรื่องราวเหล่านั้นออกมาเพราะเธอเองก็สะเทือนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นอยู่ไม่น้อยเลยเธอรู้สึกสงสารเด็กที่จะต้องมาเจอและมาเติบโตอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้

"พูดว่าน้องพีม..ถูกยัดใส่ถุงดำไปทิ้งอย่างนั้นหรอ...น้องพีมเกือบตายงั้นหรอ"

"ใช่!!!...เธอไม่หายใจแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉันแกะถุงนั่นออก...คุณเคยคิดมั้ยว่าถ้าคุณไปเจอสถานการณ์เดียวกันกับฉันคุณจะเป็นยังไง...เด็กที่ตายอยู่ตรงหน้าเขาเป็นลูกใครก็ไม่รู้แต่ฉันดันไปเปิดดูฉันดันอยู่ตรงนั้น...เห็นเขาหมดลมหายใจเป็นคุณอ่ะ...คุณจะรู้สึกยังไง...ชีวิตหนึ่งต้องมาตายให้คุณเห็นต่อหน้าแบบนั้นอ่ะเป็นคุณ...คุณจะทำยังไงวะ...ฉันทั้งสติแตกทั้งร้องไห้เพราะสงสารเด็ก...ไม่รู้ว่าฉันจะช่วยอะไรเด็กได้บ้าง..ฉันช่วยเขาให้ฟื้นมาด้วยความยากลำบาก...แล้วดูสิ่งที่คุณทำกับเขาและฉันตอนนี้สิ...คุณแสดงพฤติกรรมชั่วช้าแบบนี้ให้เขาเห็น..คุณคิดว่ามันดีสำหรับเขาแล้วหรอ...เขายังเด็กเขาใสซื่อเขาบริสุทธิ์...เขาเป็นผ้าขาวสะอาด..แต่คนที่เป็นพ่อเขาที่จะเป็นปากกาขีดเขียนเขาให้โตไปในทางที่ผิดๆ...คุณว่ามันคุ้มกับที่ฉันเหน็ดเหนื่อยช่วยเธอในวันนั้นมั้ยมันคุ้มกันมั้ยลองใช้สมองอันน้อยนิดของคุณลองไตร่ตรองดูสิโว้ย...ไอ้พ่อชั่ว!!!"

       สิ้นเสียงตะโกนด่าอันนาก็เป็นลมล้มพับไปเป็นเพราะเธออดอาหารมาหลายวันพร้อม ทั้งวันนี้ร้องไห้หนัก เรี่ยวแรงก็เลยหมดไปกับการตะโกนด่าพีรพัฒน์ แต่ปัญหาก็ยังไม่จบเมื่อเด็กน้อยเห็นว่าอันนาหมดสติไปจากที่ตอนแรกเธอไม่เป็นอะไรจู่ๆเธอก็ร้องกรี๊ดๆลั่นห้องแล้วก็พยายามที่จะกระดึ๊บๆมาหาอันนา 

       พีรพัฒน์จึงได้รับรู้ว่าลูกสาวของเขานั้นติดและชอบอันนามากแค่ไหนพีรพัฒน์จึงอุ้มอันนาขึ้นไปนอนข้างๆน้องพีมเพื่อให้ลูกสาวหยุดร้องไห้ เด็กน้อยผู้เห็นว่าผู้หญิงที่คอยเลี้ยงดูและเอาอกเอาใจเธอในไม่กี่วันมานี้เป็นแม่ของเธอเธอจึงเข้าไปกอดเอื้อมมือไปจับไปแตะๆที่หน้าที่ตัวของอันนาแล้วก็ร้องไห้พึมพำภาพเหล่านั้นมันทำให้ทุกคนในห้องถึงกับอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอเบ้า โดยเฉพาะพีระพัฒน์ผู้เป็นพ่อ

"อาเต๋อ...แกได้ยินอย่างที่ฉันได้ยินใช่มั้ยน้องพีมเกือบจะตายเพราะผู้หญิงแพศยานั่น...แกว่าฉันควรจะทำยังไงกับคนในครอบครัวนั้นดี...แกช่วยฉันคิดทีสิอาเต๋อ"

"ขอเพียงนายเอ่ยปาก...พวกเราพร้อมที่จะไปจัดการครับนาย"

"กล้าทำถึงขั้นนี้...ก็แสดงว่าพวกมันอยากจะเป็นศัตรูกับฉันโดยเปิดเผย...ก็ดีเลยแต่ก่อนเพราะฉันเกรงใจฉันจึงไม่ลงมือแต่ตอนนี้ฉันตาสว่างมากแล้ว...รับรองว่าฉันไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆแน่นอน"

       พีรพัฒน์กัดฟันกรอดแต่เพราะอยู่ต่อหน้าลูกสวยเขาจึงแสดงสีหน้าออกมาไม่ได้เขาเอื้อมมือไปลูบหัวลูกสาวเบาๆพร้อมกับเหลือบไปมองหน้าคนที่เป็นลมอยู่ตรงหน้าที่ตอนนี้ที่ขอบตาก็ยังมีน้ำตาชุ่มๆอยู่เขารู้สึกขอบคุณเธอที่ช่วยเหลือน้องพีมเอาไว้และเขาก็คิดว่ายังไงๆเขาก็คงต้องตอบแทนบุญคุณนี้คืนกลับแก่เธอให้สาสม

"อาเต๋อ...นายพาคนไปเก็บข้าวของของเธอมาไว้ที่ห้องเล็กที...ฉันจะให้เธอมาเป็นพี่เลี้ยงให้น้องพีม...เก็บมาให้หมดทุกอย่างแล้วก็ทำเรื่องซื้ออพาร์ทเม้นท์นั่นด้วยนะซื้อไว้เลย...ซื้อเป็นชื่อของเธอ"

คำเตือน

ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงานวิชาชีพต่างๆ และเหตุการณ์ที่มีการใช้ความรุนแรงในนิยายเป็นแค่เรื่องสมมุตินิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงและความสนุกสนานเท่านั้นโดยไม่มีเจตนาชี้นำหรือส่งเสริมการกระทำใดๆที่เกิดขึ้นในนิยาย ตัวละครหรือเนื้อหาอาจจะมีการใช้ความรุนแรงทางเพศและตัวละครอาจมีการใช้คำพูดที่ค่อนข้างจะหยาบคายแต่เพื่อความสมจริงและเพิ่มอรรถรสให้กับนิยายได้สมจริงมากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ขอขอบคุณพระคุณไว้ล่วงหน้าหากท่านจะมาเป็นผู้ใหญ่ใจดีอุดหนุนsupportนิยายเรา🙏🙏🙏

สารบัญ

อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 1 ยกพวกตามหาลูกสาว,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 2 นั่นมันเด็ก!! เด็กตัวเป็นๆเลยนะ,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 3 นี่ลูกฉันเป็นอะไรไป,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 4 เคยรู้อะไรจริงๆบ้างมั้ย,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 5 จูบแรกจากคนที่เพิ่งรู้จักกัน,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 6 เอะอะก็หาแต่เรื่องจะจูบ

เนื้อหา

ตอนที่ 2 นั่นมันเด็ก!! เด็กตัวเป็นๆเลยนะ

"แย่จัง!!!..วันนี้ฝนตกอีกแล้ว...วันนี้มันคงจะเป็นวันซวยของฉันล่ะสินะเนี่ยร่มก็ไม่ได้พกมาซะด้วยสิทีนี้..โอ้ยฝนๆจะหยดตกมั้ยเนี่ย...ขอร้องล่ะนะ..ช่วยเห็นใจคนที่พึ่งตกงานด้วยเถอะขอร้อง"

       เสียงบ่นงุ้งงิ้งๆคนเดียวอยู่เบาะหลังสุดของรถบัสประจำทางดังมาเป็นพักๆ อันนาสาวน้อยวัยยี่สิบปีบ่นพึมพำเบาๆกับตัวเองเมื่อเห็นว่าตอนนี้ฝนกำลังจะตกหนัก เธอพึมพำมาตลอดทางกับเรื่องชีวิตอันเส็งเคร็งของเธอในชาตินี้ที่มันมีแต่เรื่องแต่ราวผ่านเข้ามาได้ทุกวี่ทุกวัน

       ตั้งแต่เธอสูญเสียครอบครัวอันเป็นที่รักไปชีวิตคุณหนูอย่างเธอก็กลับกลายมาเป็นคุณหนูตกอับ นี่ก็ผ่านมาเกือบจะสองปีแล้วที่เธอเสียคนที่รักยิ่งไป วันนั้นเมื่อสองปีก่อนเธอกำลังจะไปฉลองกับพ่อแม่

       เนื่องในโอกาสวันเรียนจบและสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่ไม่รู้ว่าด้วยเวรหรือกรรมที่เคยก่อไว้ตั้งแต่ชาติปางไหนวันนั้นจู่ๆฝนก็ตกหนักมากราวกับแผ่นดินจะถล่มฟ้าจะถลาย รถของครอบครัวเธอวิ่งชนประสานงานเข้ากับรถเก๋งสุดหรูของเด็กหนุ่มคนนึงเข้า อุบัติเหตุในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตสามรายคือพ่อแม่ของอันนาและคู่กรณี 

       ส่วนเธอรอดมาได้อย่างหวุดหวิดเพราะมีพลเมืองดีช่วยนำส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นเองทำให้เธอไม่ชอบฝนตกและไม่ชอบเสียงของฟ้าที่ร้องคำราม 

       เมื่อถึงปลายทางที่จะต้องลงจากรถอันนาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่โตก่อนจะควักเอาเสื้อแขนยาวมาสวมทับแล้วรีบสาวเท้าเล็กๆวิ่งจ่ำอ้าวลงจากรถไปหลบฝนที่ป้ายรถเมล์

"โอ้ยยย..ดูท่าแล้วคงจะตกทั้งคืนเลยสินะเนี่ย...ห้องก็อยู่อีกตั้งไกล..ถ้าจะฝ่าฝนไปก็คงจะเปียกหมดทั้งตัว..แต่ถ้าจะรอให้ฝนเจ้ากรรมมันหยุดตกก็คงจะต้องรอถึงเช้าเลยล่ะมั้งเนี่ย...จะเอาไงดีหิวก็หิว...วิ่งเลยแล้วกัน"

       เมื่อถูกเถียงกับตัวเองเสร็จอันนาก็รีบใส่เกียร์หมาวิ่งสับขาสั้นไปอย่างเร็วเพื่อหวังว่าก่อนจะไปถึงห้องเธอจะไม่เปียกไปหมดทั้งตัวซะก่อน แต่คนมันดวงจะซวยอ่ะเนอะ อันนาวิ่งเข้าซอยที่ลึกลับมาได้แค่ไม่ถึงครึ่งซอยหูทิพย์ของเธอก็ดันไปได้ยินเสียงหนึ่งเข้า

"เสียงลูกแมวที่ไหนมาร้องอยู่แถวนี้นะคงจะร้องเพราะตัวเปียกฝนล่ะสินะ..เหมี๊ยวๆ...เหมี๊ยวๆ..อยู่ไหนออกมาเร็วเดี๋ยวพี่คนสวยใจดีคนนี้จะพาแกไปหลบฝนเอง...ออกมาสิจ๊ะ..เหมี๊ยวๆๆๆ"

       ด้วยความใจดีของเธอ เธอจึงเดินตามหาเสียงเจ้าแมวน้อยนั่นไปจนถึงกองขยะที่วางเกลื่อนกลาดแถวๆนั้น 

"บ้าจริง..คนใจร้ายเอาแมวมาทิ้งหรอเนี่ยใส่ถุงดำแบบนี้กะให้ขาดอากาศหายใจตายเลยสินะ...โอ้วววว...ไม่เป็นไรนะพี่มาช่วยน้องแล้ว...เหมี๊ยวๆๆ..ไม่ร้องนะ"

       ด้วยความที่ไม่ได้คิดอะไรมาก อันนารีบหิ้วเอาถุงดำติดมือไปจนถึงห้องของตัวเองแต่กว่าจะไปถึงห้องเธอก็ใช้เวลานานถึงยี่สิบนาทีเพราะฝนตกและลมก็แรงมากเมื่ออันนาไปถึงห้องพักเธอก็รีบแกะถุงดำเพื่อหวังจะช่วยน้องแมวน้อย 

       แต่พอเธอแกะถุงดำออกมาได้เท่านั้นแหละ อันนาก็ตกใจเกือบจะเป็นลมเมื่อสิ่งที่เธอเจอในถุงดำไม่ใช่น้องแมวแต่เป็นเด็กน้อยทารกเพศหญิงคนหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่เด็กน้อยทารกทั้งเนื้อทั้งตัวตอนนี้เขียวไปทั้งตัวเพราะหนาวและพึ่งจะขาดอากาศหายใจไปเมื่อตะกี้ อันนาทำอะไรไม่ถูกมือไม้สั่นไปทั้งตัว เธอไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มช่วยน้องจากตรงไหนดี 

"นี่มัน...นี่มันคนเลยนะไม่ใช่แมว..แต่ว่าทำไมเหมือนน้องจะไม่หายใจแล้วล่ะไม่ๆๆๆ...ไม่นะ...ทำไงดี...ฉันต้องทำไงดีฉันจะทำไงดีกับชีวิตน้อยๆนี่..น้องอย่าอย่าตายนะคะ...ตายไม่ได้นะหนู"

       อันนาพูดและตะโกนออกมาทั้งน้ำตาเธอสติแตกไปชั่วขณะแต่ก็รีบตั้งสติแล้วทำการcprเพื่อช่วยน้องให้รอดอันนาใช้สองนิ้วกดลงกลางอกเล็กอยู่นานนับสี่ห้านาที เธอทั้งผายปอดและตะโกนร้องเรียกน้องให้ฟื้นคืนมา แต่ถึงจะเป็นวันที่ซวยมากๆแต่ก็ยังมีเรื่องที่ดีตามมา 

       ไม่นานนักเสียงร้องเหมือนเสียงของน้องแมวก็กลับมาดังขึ้นอีกครั้ง อันนารีบวิ่งหน้าตั้งไปหยิบเอาผ้าเช็ดตัวมาหลายผืนเพื่อห่อหุ้มให้เจ้าตัวน้อยได้มีไออุ่น แต่ถึงน้องจะอุ่นกายแต่น้องก็ยังไม่ยอมหยุดร้อง อันนาจะต้องวิ่งวุ่นอีกรอบเพื่อหาอะไรสักอย่างมาทำให้น้องหยุดร้อง เมื่อคิดอะไรไม่ออกเธอจึงกลับไปค้นถุงดำที่ใช้ห่อน้องมาก็เจอขวดนมหนึ่งขวดกับกระดาษที่ชุ่มน้ำอีกหนึ่งแผ่น

         ข้อความในจดหมาย

"ใครก็ช่างที่เจอน้อง...ได้โปรดอย่าแจ้งความนะคะ...ช่วยเลี้ยงน้องแบบเงียบๆ...อีกหนึ่งเดือนเราจะติดต่อคุณกลับไป...ขอร้องอย่าพาน้องไปแจ้งความนะคะไม่งั้นน้องจะมีอันตรายถึงชีวิต"

*********************************

"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันล่ะเนี่ย...ไม่ได้จะเอามาทิ้งแต่จะซ่อนตัวเด็กงั้นหรอ..หรือ..หรือว่าเด็กคนนี้จะเป็นของคนที่ไม่ธรรมดาตายห่าแล้วฉัน...จะโดนหมายหัวฆ่าทิ้งมั้ยล่ะเนี่ย...หาแต่เรื่องจริงๆเลยฉันยัยนาจะเอาไปวางไว้ที่เดิมจะทันมั้ยเนี่ย..เห้ยย"

       เมื่อหมดแรงจะคิดเธอจึงนำนมไปป้อนเพื่อให้น้องหยุดร้อง เมื่อเด็กได้กินนมก็หยุดร้องและนอนหลับไปในที่สุด พี่เลี้ยงจำเป็นกับเด็กน้อยทารกแสนน่ารักต่างคนต่างเหนื่อยจนนอนกองกันอยู่บนเตียงราวกับว่าทั้งคู่เป็นแม่กับลูกกัน 

       ทุกๆอย่างที่อันนาทำก็ใช่ว่าจะไม่มีคนเห็น ดวงตาในเงามืดจับจ้องสอดส่องมองมาที่เธอผ่านกล้องส่องทางไกล

06.02

       เช้าวันใหม่แห่งความวุ่นวานได้เริ่มต้นขึ้นอันนาถูกปลุกจากการนอนด้วยเสียงของเจ้าตัวน้อยที่กำลังร้องไห้เพราะหิวนมเพราะเธอยังไม่ชินกับการที่จะต้องมีเด็กเล็กๆมาร้องไห้ให้ฟังเธอถึงกับสะดุ้งตื่นเพราะตกใจ ประกอบกับว่าเธอคงอาจจะลืมไปแล้วว่าเมื่อคืนเธอไปเจอกับอะไรมาบ้าง

"เสียงแมวที่ไหนมันมาร้องอยู่แถวนี้เนี่ยหนูๆ...เงียบๆหน่อยจะได้มั้ยลูกพี่นาจะนอน...วันนี้ไม่ได้ไปทำงานพี่นาขอนอนให้เต็มที่หน่อยเถอะ...เมื่อคืนกว่าพี่จะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบจะตีหนึ่ง...ห๊ะตีหนึ่ง!!"

       อันนาสะดุ้งดีดตัวลุกขึ้นมานั่งเมื่อพึ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเสียงๆนั้นไม่ใช่เสียงของแมว

"ตายห่าแล้ว!!!!...ลืมไปสนิทเลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง...ร้องปลุกพี่แต่เช้าเลยนะคราวนี้เป็นอะไรอีกเนี่ย...หิวอีกแล้วหรอ"

       อันนาเกาหัวยิ๊กๆเพราะไม่รู้จะเอาไงกับนาฬิกาปลุกชั้นดีที่มีลมหายใจที่ตอนนี้นอนดิ้นกระแด่วๆอยู่บนเตียงของเธอ

"ร้องเสียงดังขนาดนี้ถ้าคนข้างห้องได้ยินเขาคงจะหาว่าฉันท้องไม่มีพ่อแหงๆ..ตัวแค่นี้ริอาจจะไปมีความรักมีลูกติดท้องมาด้วย...เขาจะหาว่าฉันแรดมั้ยเนี่ยห๊ะเจ้าหนูว่าที่ผัว..ฉันก็ยังตามหาไม่เจอเลยแต่จู่ๆดันมีลูกซะแล้วเจริญจริงๆเลยฉัน...หยุดร้องนะคะคนดีของพี่..หยุดร้องเถอะนะขอร้องไม่บ่นแล้วก็ได้โอเคมั้ย...ไม่ร้องนะไม่ร้อง"

       อันนากรอกตาขึ้นมองบนเพราะหมดปัญญาที่จะทำให้เด็กหยุดร้อง เธอจึงล้มตัวลงบนเตียงอีกรอบก่อนจะเด้งตัวขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเคาะประตูรัวๆ

"นั่นปะไรล่ะ...ความวัวยังไม่ทันหายตอนนี้ความควายก็เข้ามาแทรกอีกแล้วสินะเนี่ยค่าค้าาาาามาแล้วค้าาาาา"

       แต่เมื่อเธอเปิดประตูออกไปกลับไม่เจออะไรเลย ไม่มีใครเลยสักคนแต่กลับมีกล่องสามสี่ใบขนาดใหญ่วางซ้อนกันอยู่หน้าห้องของเธอ บนกล่องจ่าหน้าซองถึงเธอโดยเฉพาะเธอจึงรีบขนกล่องพวกนั้นเข้าอย่างไว 

       เมื่อเธอเปิดกล่องนั่นดูก็พบว่ามีกล่อมนมผงสำหรับเด็กแล้วก็ข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็กอีกเพียบและที่สะดุดตาไปกว่าของเหล่านั้นก็คือซองสีน้ำตาลขนาดใหญ่ที่ข้างในบรรจุเงินจำนวนหนึ่งล้านบาทกับจดหมายอีกหนึ่งฉบับ

**************

เนื้อความในจดหมาย

"ขอบคุณที่ทำตามคำขอของเรานะคะขอบคุณที่ไม่พาน้องไปแจ้งความ...เราจะขอให้คุณเลี้ยงเด็กคนนี้ให้เราแค่เดือนเดียวเท่านั้น...ส่วนค่าตอบแทนที่ทางเรามอบให้ถือว่าเป็นน้ำใจที่คุณช่วยเหลือโปรดช่วยเลี้ยงดูเธอสักพักนะคะคุณของใช้จำเป็นเราเตรียมมาให้หมดแล้วขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกอย่างค่ะ"

*******************************

"ให้เงินเป็นมาล้านขนาดนี้...แลกกับให้เลี้ยงเด็กคนนี้แค่เดือนเดียว...สรุปแล้วหนูเป็นใครกันแน่เนี่ย...หวังว่าเธอจะไม่นำความลำบากมาให้ฉันในภายหลังนะ"

       อันนาเริ่มภารกิจโดยการทำตามที่คู่มือเลี้ยงเด็กแนะนำ เธอทั้งอาบน้ำเช็ดตัวให้หนูน้อยอย่างคล่องมือราวกับว่าเธอเป็นคุณแม่มาแล้วนานแสนนานจนเธอเองก็ต้องประหลาดใจในความสามารถของเธอ

"เอาล่ะ...น้ำก็อาบแล้ว...นมก็กินแล้วต่อไปเราจะทำอะไรกันดี...เราจะต้องอยู่ด้วยกันไปอีกตั้งเดือนหนึ่งนับจากนี้เราควรจะรู้ชื่อของกันและกันสิถูกมั้ยพี่ชื่ออันนานะ...แล้วหนูชื่ออะไรคะคนสวยหรือพี่ควรจะตั้งชื่อให้หนูก่อนดี..เราจะได้สนิทกันง่ายขึ้น...อืมมมมมมจะตั้งชื่อว่าอะไรดีน๊าาาาา...ชื่อน้องฝนพรำดีมะเพราะหนูมากับวันฝนพรำ...เอ๊ะหรือว่าชื่อน้องเหมียวดีมะ...ใช่ๆชื่อนี้ชื่อนี้แหละน้องเหมียวเหมี่ยว...น่ารักดีนะชื่อนี้"

                  

                         จบตอน





​​​​​​