อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"

อุ้มรักกราวใจ - ตอนที่ 5 จูบแรกจากคนที่เพิ่งรู้จักกัน โดย เจ้าก้อนแก้ว. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เลือดสาด,ผู้ใหญ่,ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง,พระเอกเป็นมาเฟีย,Nc,Nc18+,คลั่งรัก,กินดุ,กินเก่ง,รักมาเฟีย,รักลับมาเฟียร้าย,โรแมนติก,โรมานซ์,นิยายผู้ใหญ่,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อุ้มรักกราวใจ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

เลือดสาด,ผู้ใหญ่,ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกเป็นมาเฟีย,Nc,Nc18+,คลั่งรัก,กินดุ,กินเก่ง,รักมาเฟีย,รักลับมาเฟียร้าย,โรแมนติก,โรมานซ์,นิยายผู้ใหญ่,ดราม่า

รายละเอียด

อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"

ผู้แต่ง

เจ้าก้อนแก้ว.

เรื่องย่อ

"ฉันควรจะทำยังไงกับชีวิตน้อยๆนี้ดีนะใครกันนะที่ใจดำอำมหิตกล้าเอาเด็กตัวเล็กๆแค่นี้เอามาทิ้งได้ลงคอ...เจ้าพวกคนใจบาปหยาบช้า"

       อันนาเด็กสาวเพียงวัยยี่สิบปีถูกว่าจ้างให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เธอพึ่งเก็บมาจากข้างถนนโดยผู้ว่าจ้างที่ลึกลับไร้ตัวตนเธอจำต้องทำงานนี้เพราะเธอเองก็พึ่งจะตกงานมาหมาดๆด้วยเงินหนึ่งล้านบาทแลกกับการเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้แค่หนึ่งเดือน

       แต่อันนาเลี้ยงดูเด็กยังไม่ทันจะถึงหนึ่งอาทิตย์ก็ถูกกลุ่มคนจับตัวไปที่คฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่ง เธอที่ไม่รู้อะไรก็ได้แต่งวยงง

"เธอรีบตอบฉันมาเลยนะ...เธอทำงานนี้ให้ใคร...ใครเป็นคนให้เธอทำ!!!"

       ชายหน้าตาหล่อเหลาสูงขาวขาเรียวยาวใช้มือหนาบีบจับใบหน้าเธอจนบิดเบี้ยวเค้นถามเอาความจริงจากเธอด้วยน้ำเสียงที่เข้มและเกรี้ยวกราดสุดๆ เขาชักสีหน้าดุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ได้ถ้าเธอไม่ตอบคำถามเขา

"โอ๊ะโอ๊ย!!!!...ฉันเจ็บนะ...ปล่อยก่อนสิถ้าบีบปากอยู่แบบนี้ใครมันจะไปพูดได้"

"ฉันจำเป็นต้องฟังเธอหรอ...บอกมาว่าเธอทำงานนี้ให้กับใคร...ใครเป็นคนจ้างให้เธอลักพาตัวลูกของฉันไป..บอกมา!!!"

"เสียดายใบหน้าหล่อๆของแกเนอะ..หล่อแต่หูหนวก!!!...ปัญญาอ่อน!!!...สมองนิ่ม!!!ฉันก็บอกเป็นร้อยเป็นพันรอบแล้วนี่ไงว่าฉันไม่ได้ลักพาตัวเด็กคนนี้มา...ฉันไปเจอน้องเขาที่ข้างถนน...ฉันเจอเธอที่ข้างถนน!!"

"โกหก!!!...ถ้าไม่บอกฉันให้เธอไปนอนคุยกับรากมะม่วงแน่ๆ...บอกมาก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน...เผลอพลั้งมือยิงเธอตายห่าไปซะก่อน"

"ก็ยิงซะสิ...เอาจริงฉันก็เห็นใจเด็กคนนี้นะเธอมีพ่อที่เฮงซวยแบบนี้นี่เอง...เธอจึงมีนิสัยที่ชอบร้องโวยวายถ้าไม่ได้อย่างใจเพราะเขามีพ่อที่สารเลว..ชั่ว...ป่าเถื่อนแบบนี้ไง...เด็กมันถึงได้สติมีปัญหาอ่ะ"

       พีรพัฒน์สุดจะทนแล้วเขาหันปากกระบอกปืนไปยิงใส่แก้วน้ำเพื่อเป็นการข่มขู่ว่าถ้าเธอไม่ยอมปริปากพูดเขาจะยิงเธอแน่นอน

          ~ปัง ปัง ปัง ~

"อ๊ายยยยย...ไอ้คนบ้าเอ๊ย!!!ในห้องมีเด็กตัวเล็กๆอยู่ด้วยนะเว้ย...ทำอะไรหัดคิดบ้างสิ"

"เขาไม่ได้ยินหรอกเพราะฉันหาอะไรปิดหูเขาไว้แล้ว.."

"ไม่ได้ยินแล้วไง!!!...ไม่ได้ยินแล้วคิดว่าเขาไม่ได้ดู...มองไม่เห็นพฤติกรรมชั่วช้าของพ่อเขารึไง...รู้ไว้ด้วยนะ..เด็กวัยนี้เขากำลังจดจำสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้ดีเชียวล่ะ...คนเป็นพ่ออย่างแกรู้อะไรเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้างหน้าโง่ๆแบบนี้รู้อะไรบ้างมั้ย!!!"

"ถึงฉันจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขา..แต่ฉันก็รู้ว่าเขาชอบกินอะไร..เขาชอบของเล่นชิ้นไหน...นอนกี่ชั่วโมง..."

"รู้เพราะพี่เลี้ยงบอกล่ะสิ...แล้วรู้บ้างมั้ยก่อนที่เขาจะได้มานั่งดูคุณเอาปืนมาจ่อใส่หัวฉันอยู่แบบเนี้ย...เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้าเด็กคนนี้เจออะไรมาบ้าง...คุณรู้บ้างรึเปล่าว่าเธอเกือบตายถ้าไม่ได้ฉันช่วยไว้..ห๊ะ!!!คุณเคยรู้มั้ยว่าฉันไปเจอเธอในสภาพไหนเขาเอาเธอมาทิ้งไว้ข้างถนนในซอยเล็กๆเขาเอาเธอใส่ถุงดำมา!!!...คงกะจะให้ตายแต่เธอใจสู้!!!...คุณรู้มั้ยว่าเธอขาดอากาศหายใจนอนแน่นิ่งไปแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉันเปิดถุงดำนั่นออก...กว่าฉันจะช่วยยื้อชีวิตเธอกลับมาได้ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน...เธอขาดออกซิเจนไปนานแค่ไหนฉันก็ไม่รู้...เธอเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ใช่!!!...ฉันอาจจะเด็ก...ฉันพึ่งจะอายุแค่ยี่สิบ...แต่ฉันคิดว่าฉันรู้ความกว่าคุณเยอะฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบเสียงดัง!!!...ฉันรู้ว่าเขาชอบกินฟักทองบดละเอียด...แล้วฉันก็รู้ว่าเธอชอบฟังเพลงอะไรก่อนนอน...เรื่องพวกเนี้ย...คนเป็นพ่ออย่างคุณเคยรู้บ้างรึเปล่า...เคยรู้อะไรจริงๆเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้างมั้ยห๊ะ"

       อันนาทั้งพูดไปร้องไห้ไปด้วย เธอพยามอดกลั้นมานานหลายวันเธอเลือกที่จะไม่พูดเรื่องราวเหล่านั้นออกมาเพราะเธอเองก็สะเทือนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นอยู่ไม่น้อยเลยเธอรู้สึกสงสารเด็กที่จะต้องมาเจอและมาเติบโตอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้

"พูดว่าน้องพีม..ถูกยัดใส่ถุงดำไปทิ้งอย่างนั้นหรอ...น้องพีมเกือบตายงั้นหรอ"

"ใช่!!!...เธอไม่หายใจแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉันแกะถุงนั่นออก...คุณเคยคิดมั้ยว่าถ้าคุณไปเจอสถานการณ์เดียวกันกับฉันคุณจะเป็นยังไง...เด็กที่ตายอยู่ตรงหน้าเขาเป็นลูกใครก็ไม่รู้แต่ฉันดันไปเปิดดูฉันดันอยู่ตรงนั้น...เห็นเขาหมดลมหายใจเป็นคุณอ่ะ...คุณจะรู้สึกยังไง...ชีวิตหนึ่งต้องมาตายให้คุณเห็นต่อหน้าแบบนั้นอ่ะเป็นคุณ...คุณจะทำยังไงวะ...ฉันทั้งสติแตกทั้งร้องไห้เพราะสงสารเด็ก...ไม่รู้ว่าฉันจะช่วยอะไรเด็กได้บ้าง..ฉันช่วยเขาให้ฟื้นมาด้วยความยากลำบาก...แล้วดูสิ่งที่คุณทำกับเขาและฉันตอนนี้สิ...คุณแสดงพฤติกรรมชั่วช้าแบบนี้ให้เขาเห็น..คุณคิดว่ามันดีสำหรับเขาแล้วหรอ...เขายังเด็กเขาใสซื่อเขาบริสุทธิ์...เขาเป็นผ้าขาวสะอาด..แต่คนที่เป็นพ่อเขาที่จะเป็นปากกาขีดเขียนเขาให้โตไปในทางที่ผิดๆ...คุณว่ามันคุ้มกับที่ฉันเหน็ดเหนื่อยช่วยเธอในวันนั้นมั้ยมันคุ้มกันมั้ยลองใช้สมองอันน้อยนิดของคุณลองไตร่ตรองดูสิโว้ย...ไอ้พ่อชั่ว!!!"

       สิ้นเสียงตะโกนด่าอันนาก็เป็นลมล้มพับไปเป็นเพราะเธออดอาหารมาหลายวันพร้อม ทั้งวันนี้ร้องไห้หนัก เรี่ยวแรงก็เลยหมดไปกับการตะโกนด่าพีรพัฒน์ แต่ปัญหาก็ยังไม่จบเมื่อเด็กน้อยเห็นว่าอันนาหมดสติไปจากที่ตอนแรกเธอไม่เป็นอะไรจู่ๆเธอก็ร้องกรี๊ดๆลั่นห้องแล้วก็พยายามที่จะกระดึ๊บๆมาหาอันนา 

       พีรพัฒน์จึงได้รับรู้ว่าลูกสาวของเขานั้นติดและชอบอันนามากแค่ไหนพีรพัฒน์จึงอุ้มอันนาขึ้นไปนอนข้างๆน้องพีมเพื่อให้ลูกสาวหยุดร้องไห้ เด็กน้อยผู้เห็นว่าผู้หญิงที่คอยเลี้ยงดูและเอาอกเอาใจเธอในไม่กี่วันมานี้เป็นแม่ของเธอเธอจึงเข้าไปกอดเอื้อมมือไปจับไปแตะๆที่หน้าที่ตัวของอันนาแล้วก็ร้องไห้พึมพำภาพเหล่านั้นมันทำให้ทุกคนในห้องถึงกับอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอเบ้า โดยเฉพาะพีระพัฒน์ผู้เป็นพ่อ

"อาเต๋อ...แกได้ยินอย่างที่ฉันได้ยินใช่มั้ยน้องพีมเกือบจะตายเพราะผู้หญิงแพศยานั่น...แกว่าฉันควรจะทำยังไงกับคนในครอบครัวนั้นดี...แกช่วยฉันคิดทีสิอาเต๋อ"

"ขอเพียงนายเอ่ยปาก...พวกเราพร้อมที่จะไปจัดการครับนาย"

"กล้าทำถึงขั้นนี้...ก็แสดงว่าพวกมันอยากจะเป็นศัตรูกับฉันโดยเปิดเผย...ก็ดีเลยแต่ก่อนเพราะฉันเกรงใจฉันจึงไม่ลงมือแต่ตอนนี้ฉันตาสว่างมากแล้ว...รับรองว่าฉันไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆแน่นอน"

       พีรพัฒน์กัดฟันกรอดแต่เพราะอยู่ต่อหน้าลูกสวยเขาจึงแสดงสีหน้าออกมาไม่ได้เขาเอื้อมมือไปลูบหัวลูกสาวเบาๆพร้อมกับเหลือบไปมองหน้าคนที่เป็นลมอยู่ตรงหน้าที่ตอนนี้ที่ขอบตาก็ยังมีน้ำตาชุ่มๆอยู่เขารู้สึกขอบคุณเธอที่ช่วยเหลือน้องพีมเอาไว้และเขาก็คิดว่ายังไงๆเขาก็คงต้องตอบแทนบุญคุณนี้คืนกลับแก่เธอให้สาสม

"อาเต๋อ...นายพาคนไปเก็บข้าวของของเธอมาไว้ที่ห้องเล็กที...ฉันจะให้เธอมาเป็นพี่เลี้ยงให้น้องพีม...เก็บมาให้หมดทุกอย่างแล้วก็ทำเรื่องซื้ออพาร์ทเม้นท์นั่นด้วยนะซื้อไว้เลย...ซื้อเป็นชื่อของเธอ"

คำเตือน

ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงานวิชาชีพต่างๆ และเหตุการณ์ที่มีการใช้ความรุนแรงในนิยายเป็นแค่เรื่องสมมุตินิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงและความสนุกสนานเท่านั้นโดยไม่มีเจตนาชี้นำหรือส่งเสริมการกระทำใดๆที่เกิดขึ้นในนิยาย ตัวละครหรือเนื้อหาอาจจะมีการใช้ความรุนแรงทางเพศและตัวละครอาจมีการใช้คำพูดที่ค่อนข้างจะหยาบคายแต่เพื่อความสมจริงและเพิ่มอรรถรสให้กับนิยายได้สมจริงมากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ขอขอบคุณพระคุณไว้ล่วงหน้าหากท่านจะมาเป็นผู้ใหญ่ใจดีอุดหนุนsupportนิยายเรา🙏🙏🙏

สารบัญ

อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 1 ยกพวกตามหาลูกสาว,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 2 นั่นมันเด็ก!! เด็กตัวเป็นๆเลยนะ,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 3 นี่ลูกฉันเป็นอะไรไป,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 4 เคยรู้อะไรจริงๆบ้างมั้ย,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 5 จูบแรกจากคนที่เพิ่งรู้จักกัน,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 6 เอะอะก็หาแต่เรื่องจะจูบ

เนื้อหา

ตอนที่ 5 จูบแรกจากคนที่เพิ่งรู้จักกัน

       หลังจากวันนั้นมาอันนาก็ได้กลายมาเป็นพี่เลี้ยงของคุณหนูพีมไปโดยปริยายแต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องขึ้นตรงจากคำสั่งของพีรพัฒน์เท่านั้น

17.45

ห้องทำงานของพีรพัฒน์

"ทำไมฉันต้องเป็นพี่เลี้ยงตามใบสั่งของพวกคุณด้วย...ฉันก็มีการมีงานทำนะคุณ"

       อันนาเอ่ยปากพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าตาสงสัยในคำสั่งของอีกฝ่าย เธอถามพร้อมกับชักสีหน้าใส่เขา อันนาจ้องมองไปที่ใบหน้าหล่อๆจนพีรพัฒน์นั้นต้องหันหน้าหนีไปอีกทาง

"ไหนบอกว่าเป็นคนตรงๆ...ไม่พูดโกหกไงนี่ยังไม่ทันจะข้ามวันก็โกหกหมกเม็ดแล้วหรอฉันให้คนไปสืบมาแล้ว...ในวันที่เธอเจอกับน้องพีมวันนั้นเธอถูกไล่ออกจากงานพอดีฉันพูดถูกรึเปล่า"

       อันนาทำหน้าตาเลิกลั่กเมื่อเธอนั้นถูกจับได้ไล่ทัน 

"ถูกไล่ออกก็ใช่...แต่ฉันก็ต้องหางานใหม่ได้เร็วอยู่ดี...คนขยันที่ไหนเขาก็จ้างแหละ"

       อันนาตอบโต้พีรพัฒน์ด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะดันทุรัง เธอพูดตะกุกตะกักติดๆขัดๆไม่เหมือนกับวันแรกที่พบกัน

"ที่นี่ก็จ้างนี่...อีกอย่างที่นี่ก็จ้างเธอด้วยค่าแรงที่สูงมากๆเลยไม่ใช่หรอ...งานนี้เธอมีแต่ได้ไม่มีเสีย...จะปฎิเสธทำไม"

"ทำไมคุณถึงอยากให้ฉันอยู่ที่นี่นักคะฉันไม่เคยมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กเลยสักนิด...ฉันเลี้ยงให้ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ...แล้วไอ้ที่รับปากเขาว่าจะเลี้ยงให้ตั้งเป็นเดือนนั่นก็เพราะว่าฉันพึ่งจะตกงาน...หูตามืดบอดไปกับเงินทองสิ่งของนอกกายไปชั่วขณะ"

"อยากรู้หรอ...เพราะตอนนี้น้องพีมแกเอาแค่คุณคนเดียวไง...ปกติแกไม่เป็นแบบนี้นะ...น้องพีมมีพี่เลี้ยงเป็นพยาบาลช่วงนี้คุณก็ทนอยู่ก่อนแล้วกัน...รอให้แกลืมคุณ...ตอนนั้นคุณก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป"

       พีรพัฒน์พูดออกไปตรงๆ เขาไม่มองหน้าอันนาด้วยซ้ำว่าคนที่ได้ยินจะคิดยังไงอันนาชักสีหน้างอคอค้อดเล็กน้อยพร้อมกับนั่งนิ่งไม่ยอมถามต่อ ด้วยความที่ว่าพีรพัฒน์เป็นผู้ชายที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในด้านความรักหรือจะเรียกง่ายๆว่าพีรพัฒน์เป็นผู้ชายที่เป็นผู้ชายจริงๆ 

       เขาไม่มีแม้นแต่ความอ่อนโยนไม่เคยได้ดูแลเอาใจใครไม่ค่อยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเพศตรงข้ามในชีวิตเขามีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็มีเพียงไม่กี่คน เขาเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่เสียตั้งแต่ยังเด็กญาติที่เขามีเพียงคนเดียวก็คือน้องชายสุดที่รักของเขาที่พึ่งตายจากเขาไปเมื่อไม่นานมานี้ 

       พีรพัฒน์เป็นผู้ชายประเภทไม่ชอบยุ่งกับเพศหญิงที่เรียกว่าสาวๆสวยๆเพราะเขาคิดว่าสาวๆเหล่านั้นน่าเบื่อเชื่อถือไม่ค่อยได้และอีกอย่างเขาก็มีอดีตที่เลวร้ายกับผู้หญิงที่สวยแต่รูปจูบไม่หอม พีรพัฒน์เห็นอันนานั่งเงียบเขาจึงร้องเรียกให้คนที่รออยู่หน้าห้องเข้ามารับคำสั่งด่วน

"นินจา...เข้ามานี่หน่อยสิ"

       คำพูดห้วนๆแต่น้ำหนักของเสียงเข้มข้นเรียกลูกน้องที่อยู่หน้าห้องให้เข้ามานินจาเด็กหนุ่มหน้าตาดีขาวตี๋สูงยาวตัวโปร่งเดินเข้ามาแล้วโค้งคำนับเพื่อรองรับคำสั่งจากเจ้านาย

"นายพาคุณผู้หญิงคนนี้ไปห้องที่จัดไว้นะแล้วก็หาใครสักคนมาอธิบายกฎของบ้านให้เธอฟังอย่างละเอียดด้วย...รวมไปถึงกฎเหล็กของบ้านหลังนี้ด้วย"

"ครับนาย"

"นายเอากระเป๋าของเขาล่วงหน้าไปก่อนเพราะฉันกับเขายังคุยธุระกันยังไม่เสร็จ"

"ครับนาย"

       สิ้นเสียงของนายบ่าวอย่างนินจาก็รับหิ้วเอาสัมภาระของอันนาเพียงไม่กี่อย่างเดินล่วงหน้าไปก่อน อันนาได้แต่มองตามข้าวของไปอย่างกังวลใจ

"นี่คุณจะให้เขาเอาของของฉันไปไหนเนี่ยก็บอกแล้วไงว่าไม่อยู่...ฉันไม่ขอรับข้อเสนอจากคุณ...เงิน...ถึงมันจะสำคัญต่อการดำรงชีพมากก็ตาม...แต่ฉันก็ไม่ได้อยากได้เงินที่มากมายเหล่านั้นจากคุณ...คุณอาจจะอยากขอบคุณฉันที่ช่วยน้องเขาเอาไว้แต่ฉันจะบอกเอาไว้ตรงนี้ว่าฉันไม่ได้อยากได้เงินของพวกคุณ...เพราะฉะนั้นฉัน...จะไม่เป็นพี่เลี้ยงให้กับลูกของคุณมันหมดเวลาพี่เลี้ยงชั่วคราวอย่างฉันแล้วค่ะ...ให้ฉันไปเถอะนะคะคุณ..ฉันไม่สะดวกใจที่จะทำงานที่นี่จริงๆค่ะ"

       อันนาพูดจบก็หวังว่าจะเดินออกไปจากห้องแต่พีรพัฒน์ก็กดเสียงเข้มดุใส่หน้าอันนาเอาไว้เพื่อห้ามปรามเธอ

"ก็ลองก้าวออกจากห้องนี้ไปสิ...คนอย่างพีรพัฒน์อยากได้อะไรแล้วไม่เคยได้ขอกับใคร...ถ้าอยากจะมีชีวิตอยู่แค่วันนี้ก็รีบๆก้าวเท้าออกไปจากห้องนี้เลย"

       พีรพัฒน์ยกขาเรียวยาวทั้งสองข้างขึ้นมาวางบนโต๊ะทำงานอย่างชิลๆพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบปืนออกมาลูบๆคลำๆหวังจะขู่ให้อันนากลัว เมื่ออันนาเห็นปืนกับหน้าตาและท่าทางของพีรพัฒน์ก็เกิดความกลัวว่าถ้าขืนตัวเองอยู่ที่นี่ต่อไปเธอจะยิ่งอายุสั้นลงไปกว่าเดิม 

       อันนารีบหันหลังให้เขาพร้อมกับก้าวเท้าใส่เกียร์หมาหวังจะวิ่งออกจากห้องนี้แบบอย่างไม่คิดชีวิตแต่อันนายังไม่ทันที่จะก้าวเท้าไปได้ถึงห้าก้าวจู่ๆเธอก็เหลือบไปเห็นแจกันที่ตั้งอยู่หน้าห้องข้างประตูแตกเพราะถูกกระสุนปืนยิงใส่ อันนากรี๊ดขึ้นอย่างสุดเสียงพร้อมกับยกมือขึ้นมาป้องหูทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยความกลัวตายเธอนั่งลงกับพื้นแล้วตัวสั่นเหมือนกับลูกหมาตกน้ำ

"ก็พึ่งบอกไปเองนะ...ว่าฉันต้องการให้เธออยู่ที่นี่กับน้องพีมก่อน...เธอจะไปจากที่ได้แบบยังมีชีวิตก็ต่อเมื่อน้องพีมไม่ชอบเธอแต่ถ้าวันนี้เธอยังขืนไม่ฟังคำสั่งฉันอยู่แบบนี้ฉันคงไม่มีทางเลือก...เธอคงต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะได้ไปเกิดใหม่ในชาติภพหน้านู่น"

       พีรพัฒน์ลุกเดินออกจากโต๊ะทำงานมานั่งลงข้างๆอันนาก่อนจะเอื้อมมือมาจับที่ปลายคางเล็กๆของอันนาแล้วพูดเสียงเข้มใส่หน้าเธอให้เธอได้ฟังชัดๆอีกรอบหนึ่ง

"ทีนี้เข้าใจแล้วรึยังว่าทำไมเธอถึงจะต้องอยู่ที่นี่...ก็เพราะเธอยังมีประโยชน์ต่อที่นี่ถ้าเธอหมดประโยชน์แล้วเมื่อนั้นฉันจะให้คนไปส่งเธอถึงหน้าประตูห้องเธอเลย"

"ทำไมต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย...เราไม่เคยมีอะไรบาดหมางใจต่อกันมาก่อนเลยนะ...เราไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนด้วยซ้ำคุณมีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่งกับฉัน"

"ไม่มีสิทธิ์แล้วไง...พูดแบบนี้เหมือนอยากจะให้ฉันมีสิทธิ์พิเศษในตัวเธองั้นแหละหรือว่าอยากจะอยู่ที่นี่ในฐานะอื่นด้วยหรอเรื่องนั้นค่อยเป็นค่อยไปก็ได้นี่...ฉันไม่รีบ"

       พีรพัฒน์ผมด้วยอารมณ์เหมือนจะดีนะแต่สีหน้าของเขากลับเหมือนกำลังดูถูกและเยาะเย้ยดูหมิ่นศักดิ์ศรีของอันนาอยู่

"ถึงคุณจะพอหน้าตาดูดีอยู่บ้างก็เถอะนะแต่ฉันว่าคุณดูจะนิสัยเสียมากๆเหมือนกันฉันไม่เคยมีเลยสักนิดในหัวว่าอยากจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรก็ตาม...ไม่ว่าสถานะพี่เลี้ยงหรือฐานะผู้หญิงของคุญบนเตียงฉันก็ไม่เคยคิด...แว๊บเดียวก็ไม่เคย..ไม่เคยจริงๆฉันว่าคุณหน้ารังเกียจนะ...แล้วก็คงจะหลงตัวเองแบบขั้นสุดด้วยล่ะมั้งเนี่ย...คุณถึงได้คิดเองเออเองไปเองซะหมดว่าใครๆเขาอยากจะอยู่กับคุณ"

       อันนาเอ่ยด้วยความคิดแค้นในใจที่อยู่ๆก็ถูกผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ดูถูกดูแคลนเธออย่างสาดเสียเทเสีย เธอจ้องเขม็งที่ใบหน้าของเขาอย่างเครียดแค้นจนพีรพัฒน์เองถึงกับชักสีหน้าหงุดหงิดเพราะถูกสาวเจ้าพูดด่าว่าต่อหน้าอย่างตรงๆ

       พีรพัฒน์รู้สึกหมั่นไส้เด็กผู้หญิงที่นั่งทำตัวสั่นอยู่ตรงหน้าเขาจึงแกล้งเพื่อนในหน้าหล่อๆของเขาเข้าไปใกล้ๆเธออันนาที่ถูกจ้องตานานๆเข้าก็รู้สึกกลัวว่าคนตรงหน้าจะคิดไม่ดีต่อเธอ เธอจึงพยายามจะถอยออกให้ห่างจากเขาแต่จะด้วยอะไร ไม่ว่าเธอจะพยายามถอยตัวออกห่างเขากลับเป็นว่าเขาก็ยิ่งอยากจะขยับเข้าไปให้ใกล้เธอมากเท่านั้นจนใบหน้าของคนทั้งสองเกือบจะประชิดติดกัน ทั้งคู่ใกล้กันจนอันนานั้นได้ยินเสียงของการหายใจเข้าออกของเขา 

(อันนาคิดในใจ)


"ผู้ชายคนนี้ถ้าไม่ติดว่าหลงตัวเองกับปากเสียล่ะก็...เขาก็คงเป็นผู้ชายคนนึงที่สาวๆหลายหมายปองเลยล่ะ...ว้าวววดูผิวพรรณอันเนียนนวลน่าลูบไล้นั่นซะก่อน...ผู้ชายอะไรจะผิวพรรณดีได้ขนาดนี้นะ...ดูก้อนลูกกระเดือกที่ลำคอนั่นสิเซ็กซี่บาดใจจริงๆ...เสียดายความหล่อของเขาจัง...ทำไมไม่เป็นคนดีๆนะ"

**************************

       พีรพัฒน์ก้มหน้าลงไปใกล้ๆสาวเจ้าทำทีว่าเขาจะจูบเธอให้ได้ อันนาเอนตัวหนีเขาอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชจนร่างเล็กบางของเธอนอนลงแนบชิดติดกับพื้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เมื่ออันนาเห็นว่าเขาหวังจะจูบเธอจริงๆเธอจึงรีบจะดันร่างคนที่โตกว่าออกไปให้พ้นเธอ 

       แต่เธอก็หาทำได้เลยเขาใช้แรงอันน้อยนิดกดทับร่างบางเอาไว้ใช้มือใหญ่รวบตรึงแขนเรียวเอาไว้แน่นก่อนจะก้มหน้าลงไปประทับตราจูบจองตัวเธอ สัมผัสแรกเริ่มเดิมทีของการจูบในครั้งนี้พีรพัฒน์กะแค่ว่าจะแกล้งอันนาให้เกรงกลัวในอำนาจของเขาแต่เขากลับเหมือนจะห้ามใจตัวเองให้หยุดจูบเธอไม่ได้ริมฝีปากบางนุ่มนิ่มถูกริมฝีปากหนาประกบจูบทับอย่างเร่าร้อนจนเธอนั้นแทบจะหายใจไม่ได้ 

       พีรพัฒน์งับริมฝีปากบนล่างสลับกันขึ้นลงๆ ทุกอย่างในตัวของพีรพัฒน์ในตอนนี่มันถูกครอบงำไปด้วยความอยากเอาชนะและกิเลสตัณหาราคะกำลังจะเข้ามาบังตาให้เขาทำสิ่งที่ไม่ดีต่อผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า

"ปล่อยฉันนะ!!!!....นี่คุณ...จะทำบ้าอะไรฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายบริการนะเว้ยที่คิดจะทำอะไรที่ไหนตรงไหนก็ได้อะ...ปล่อยปล่อยสิ!!!!...หยุดนะหยุดจูบฉันได้แล้ว"

"ไม่ชอบหรอ...จูบนี้จะทำให้เธอตราตรึงใจไปตลอดชีวิตเลยก็ได้นะ"

        อันนาใบหน้าร้อนผ่าวราวกับนอนอยู่บนกองไฟ เธอถูกเขาจูบอย่างดุเดือดจนแทบจะขาดอากาศหายใจ เมื่อพีรพัฒน์ถูกอันนากัดที่ริมฝีปากเขาก็ได้สติคืนมาทันที พีรพัฒน์จนรีบผละตัวออกจากเธอแล้วร้องตะโกนให้ลูกน้องที่อยู่หน้าห้องมาพาตัวอันนาไปที่ห้องของตัวเอง

"จำไว้นะ...เมื่อไหร่ที่เธอคิดจะหนีถ้าฉันรู้หรือจับตัวเธอได้ฉันจะจัดการเธอเหมือนเช่นเมื่อกี้...แต่ถ้าเธอไม่ยอมฟังคำสั่งฉันฉันก็จะมอบร่างอันบอบบางของเธอให้กับเด็กๆของฉัน...ให้พวกมันบำเรอเธอให้สาแก่ใจเธอ...ไม่เชื่อก็ลองดู"

       เมื่ออันนาได้ยินแบบนั้นออกจากปากของเขาเธอก็ถึงกับเก็บอาการคันไม้คันมือไว้ไม่อยู่ เธอเอื้อมมือไปตบที่แก้มขวาของเขาอย่างสุดกำลังที่จะตบได้ไปหนึ่งทีก่อนจะเดินหนีเขาออกมาอย่างโมโห

"ไอ้โรคจิต!!!...แกมันเลว...เลวจริงๆเลยกล้าทำกับฉันคนที่พึ่งจะช่วยชีวิตลูกของตัวเองแบบนี้ได้ยังไง...สันดานต่ำที่สุดถ้าชีวิตของฉันมันจะชะตาขาดตายที่นี่ก็ช่วยเอาศพของฉันไปทิ้งนอกบ้านหลังนี้ทีเถอะนะ...ฉันไม่อยากเน่าเปื่อยที่นี่ให้เป็นเสนียดแก่กระดูกตัวฉันเอง...ขอร้องนะ...ถึงตายก็อย่าเอาศพฉันทิ้งไว้ที่นี่"


                        จบตอน







​​​​​