อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"

อุ้มรักกราวใจ - ตอนที่ 6 เอะอะก็หาแต่เรื่องจะจูบ โดย เจ้าก้อนแก้ว. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เลือดสาด,ผู้ใหญ่,ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง,พระเอกเป็นมาเฟีย,Nc,Nc18+,คลั่งรัก,กินดุ,กินเก่ง,รักมาเฟีย,รักลับมาเฟียร้าย,โรแมนติก,โรมานซ์,นิยายผู้ใหญ่,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อุ้มรักกราวใจ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

เลือดสาด,ผู้ใหญ่,ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกเป็นมาเฟีย,Nc,Nc18+,คลั่งรัก,กินดุ,กินเก่ง,รักมาเฟีย,รักลับมาเฟียร้าย,โรแมนติก,โรมานซ์,นิยายผู้ใหญ่,ดราม่า

รายละเอียด

อันนาได้เข้าไปอยู่ในบ้านเจ้าพ่อมาเฟียแบบจำใจต้องยอมเหตุเพราะเขาสงสัยว่าเธอน่าจะร่วมมือกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป "ลูกของฉันเลิกติดเธอเมื่อไหร่รับรองเธอได้ไปจากฉันแน่"

ผู้แต่ง

เจ้าก้อนแก้ว.

เรื่องย่อ

"ฉันควรจะทำยังไงกับชีวิตน้อยๆนี้ดีนะใครกันนะที่ใจดำอำมหิตกล้าเอาเด็กตัวเล็กๆแค่นี้เอามาทิ้งได้ลงคอ...เจ้าพวกคนใจบาปหยาบช้า"

       อันนาเด็กสาวเพียงวัยยี่สิบปีถูกว่าจ้างให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เธอพึ่งเก็บมาจากข้างถนนโดยผู้ว่าจ้างที่ลึกลับไร้ตัวตนเธอจำต้องทำงานนี้เพราะเธอเองก็พึ่งจะตกงานมาหมาดๆด้วยเงินหนึ่งล้านบาทแลกกับการเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้แค่หนึ่งเดือน

       แต่อันนาเลี้ยงดูเด็กยังไม่ทันจะถึงหนึ่งอาทิตย์ก็ถูกกลุ่มคนจับตัวไปที่คฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่ง เธอที่ไม่รู้อะไรก็ได้แต่งวยงง

"เธอรีบตอบฉันมาเลยนะ...เธอทำงานนี้ให้ใคร...ใครเป็นคนให้เธอทำ!!!"

       ชายหน้าตาหล่อเหลาสูงขาวขาเรียวยาวใช้มือหนาบีบจับใบหน้าเธอจนบิดเบี้ยวเค้นถามเอาความจริงจากเธอด้วยน้ำเสียงที่เข้มและเกรี้ยวกราดสุดๆ เขาชักสีหน้าดุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ได้ถ้าเธอไม่ตอบคำถามเขา

"โอ๊ะโอ๊ย!!!!...ฉันเจ็บนะ...ปล่อยก่อนสิถ้าบีบปากอยู่แบบนี้ใครมันจะไปพูดได้"

"ฉันจำเป็นต้องฟังเธอหรอ...บอกมาว่าเธอทำงานนี้ให้กับใคร...ใครเป็นคนจ้างให้เธอลักพาตัวลูกของฉันไป..บอกมา!!!"

"เสียดายใบหน้าหล่อๆของแกเนอะ..หล่อแต่หูหนวก!!!...ปัญญาอ่อน!!!...สมองนิ่ม!!!ฉันก็บอกเป็นร้อยเป็นพันรอบแล้วนี่ไงว่าฉันไม่ได้ลักพาตัวเด็กคนนี้มา...ฉันไปเจอน้องเขาที่ข้างถนน...ฉันเจอเธอที่ข้างถนน!!"

"โกหก!!!...ถ้าไม่บอกฉันให้เธอไปนอนคุยกับรากมะม่วงแน่ๆ...บอกมาก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน...เผลอพลั้งมือยิงเธอตายห่าไปซะก่อน"

"ก็ยิงซะสิ...เอาจริงฉันก็เห็นใจเด็กคนนี้นะเธอมีพ่อที่เฮงซวยแบบนี้นี่เอง...เธอจึงมีนิสัยที่ชอบร้องโวยวายถ้าไม่ได้อย่างใจเพราะเขามีพ่อที่สารเลว..ชั่ว...ป่าเถื่อนแบบนี้ไง...เด็กมันถึงได้สติมีปัญหาอ่ะ"

       พีรพัฒน์สุดจะทนแล้วเขาหันปากกระบอกปืนไปยิงใส่แก้วน้ำเพื่อเป็นการข่มขู่ว่าถ้าเธอไม่ยอมปริปากพูดเขาจะยิงเธอแน่นอน

          ~ปัง ปัง ปัง ~

"อ๊ายยยยย...ไอ้คนบ้าเอ๊ย!!!ในห้องมีเด็กตัวเล็กๆอยู่ด้วยนะเว้ย...ทำอะไรหัดคิดบ้างสิ"

"เขาไม่ได้ยินหรอกเพราะฉันหาอะไรปิดหูเขาไว้แล้ว.."

"ไม่ได้ยินแล้วไง!!!...ไม่ได้ยินแล้วคิดว่าเขาไม่ได้ดู...มองไม่เห็นพฤติกรรมชั่วช้าของพ่อเขารึไง...รู้ไว้ด้วยนะ..เด็กวัยนี้เขากำลังจดจำสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้ดีเชียวล่ะ...คนเป็นพ่ออย่างแกรู้อะไรเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้างหน้าโง่ๆแบบนี้รู้อะไรบ้างมั้ย!!!"

"ถึงฉันจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขา..แต่ฉันก็รู้ว่าเขาชอบกินอะไร..เขาชอบของเล่นชิ้นไหน...นอนกี่ชั่วโมง..."

"รู้เพราะพี่เลี้ยงบอกล่ะสิ...แล้วรู้บ้างมั้ยก่อนที่เขาจะได้มานั่งดูคุณเอาปืนมาจ่อใส่หัวฉันอยู่แบบเนี้ย...เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้าเด็กคนนี้เจออะไรมาบ้าง...คุณรู้บ้างรึเปล่าว่าเธอเกือบตายถ้าไม่ได้ฉันช่วยไว้..ห๊ะ!!!คุณเคยรู้มั้ยว่าฉันไปเจอเธอในสภาพไหนเขาเอาเธอมาทิ้งไว้ข้างถนนในซอยเล็กๆเขาเอาเธอใส่ถุงดำมา!!!...คงกะจะให้ตายแต่เธอใจสู้!!!...คุณรู้มั้ยว่าเธอขาดอากาศหายใจนอนแน่นิ่งไปแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉันเปิดถุงดำนั่นออก...กว่าฉันจะช่วยยื้อชีวิตเธอกลับมาได้ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน...เธอขาดออกซิเจนไปนานแค่ไหนฉันก็ไม่รู้...เธอเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ใช่!!!...ฉันอาจจะเด็ก...ฉันพึ่งจะอายุแค่ยี่สิบ...แต่ฉันคิดว่าฉันรู้ความกว่าคุณเยอะฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบเสียงดัง!!!...ฉันรู้ว่าเขาชอบกินฟักทองบดละเอียด...แล้วฉันก็รู้ว่าเธอชอบฟังเพลงอะไรก่อนนอน...เรื่องพวกเนี้ย...คนเป็นพ่ออย่างคุณเคยรู้บ้างรึเปล่า...เคยรู้อะไรจริงๆเกี่ยวกับลูกตัวเองบ้างมั้ยห๊ะ"

       อันนาทั้งพูดไปร้องไห้ไปด้วย เธอพยามอดกลั้นมานานหลายวันเธอเลือกที่จะไม่พูดเรื่องราวเหล่านั้นออกมาเพราะเธอเองก็สะเทือนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นอยู่ไม่น้อยเลยเธอรู้สึกสงสารเด็กที่จะต้องมาเจอและมาเติบโตอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้

"พูดว่าน้องพีม..ถูกยัดใส่ถุงดำไปทิ้งอย่างนั้นหรอ...น้องพีมเกือบตายงั้นหรอ"

"ใช่!!!...เธอไม่หายใจแล้วด้วยซ้ำตอนที่ฉันแกะถุงนั่นออก...คุณเคยคิดมั้ยว่าถ้าคุณไปเจอสถานการณ์เดียวกันกับฉันคุณจะเป็นยังไง...เด็กที่ตายอยู่ตรงหน้าเขาเป็นลูกใครก็ไม่รู้แต่ฉันดันไปเปิดดูฉันดันอยู่ตรงนั้น...เห็นเขาหมดลมหายใจเป็นคุณอ่ะ...คุณจะรู้สึกยังไง...ชีวิตหนึ่งต้องมาตายให้คุณเห็นต่อหน้าแบบนั้นอ่ะเป็นคุณ...คุณจะทำยังไงวะ...ฉันทั้งสติแตกทั้งร้องไห้เพราะสงสารเด็ก...ไม่รู้ว่าฉันจะช่วยอะไรเด็กได้บ้าง..ฉันช่วยเขาให้ฟื้นมาด้วยความยากลำบาก...แล้วดูสิ่งที่คุณทำกับเขาและฉันตอนนี้สิ...คุณแสดงพฤติกรรมชั่วช้าแบบนี้ให้เขาเห็น..คุณคิดว่ามันดีสำหรับเขาแล้วหรอ...เขายังเด็กเขาใสซื่อเขาบริสุทธิ์...เขาเป็นผ้าขาวสะอาด..แต่คนที่เป็นพ่อเขาที่จะเป็นปากกาขีดเขียนเขาให้โตไปในทางที่ผิดๆ...คุณว่ามันคุ้มกับที่ฉันเหน็ดเหนื่อยช่วยเธอในวันนั้นมั้ยมันคุ้มกันมั้ยลองใช้สมองอันน้อยนิดของคุณลองไตร่ตรองดูสิโว้ย...ไอ้พ่อชั่ว!!!"

       สิ้นเสียงตะโกนด่าอันนาก็เป็นลมล้มพับไปเป็นเพราะเธออดอาหารมาหลายวันพร้อม ทั้งวันนี้ร้องไห้หนัก เรี่ยวแรงก็เลยหมดไปกับการตะโกนด่าพีรพัฒน์ แต่ปัญหาก็ยังไม่จบเมื่อเด็กน้อยเห็นว่าอันนาหมดสติไปจากที่ตอนแรกเธอไม่เป็นอะไรจู่ๆเธอก็ร้องกรี๊ดๆลั่นห้องแล้วก็พยายามที่จะกระดึ๊บๆมาหาอันนา 

       พีรพัฒน์จึงได้รับรู้ว่าลูกสาวของเขานั้นติดและชอบอันนามากแค่ไหนพีรพัฒน์จึงอุ้มอันนาขึ้นไปนอนข้างๆน้องพีมเพื่อให้ลูกสาวหยุดร้องไห้ เด็กน้อยผู้เห็นว่าผู้หญิงที่คอยเลี้ยงดูและเอาอกเอาใจเธอในไม่กี่วันมานี้เป็นแม่ของเธอเธอจึงเข้าไปกอดเอื้อมมือไปจับไปแตะๆที่หน้าที่ตัวของอันนาแล้วก็ร้องไห้พึมพำภาพเหล่านั้นมันทำให้ทุกคนในห้องถึงกับอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอเบ้า โดยเฉพาะพีระพัฒน์ผู้เป็นพ่อ

"อาเต๋อ...แกได้ยินอย่างที่ฉันได้ยินใช่มั้ยน้องพีมเกือบจะตายเพราะผู้หญิงแพศยานั่น...แกว่าฉันควรจะทำยังไงกับคนในครอบครัวนั้นดี...แกช่วยฉันคิดทีสิอาเต๋อ"

"ขอเพียงนายเอ่ยปาก...พวกเราพร้อมที่จะไปจัดการครับนาย"

"กล้าทำถึงขั้นนี้...ก็แสดงว่าพวกมันอยากจะเป็นศัตรูกับฉันโดยเปิดเผย...ก็ดีเลยแต่ก่อนเพราะฉันเกรงใจฉันจึงไม่ลงมือแต่ตอนนี้ฉันตาสว่างมากแล้ว...รับรองว่าฉันไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆแน่นอน"

       พีรพัฒน์กัดฟันกรอดแต่เพราะอยู่ต่อหน้าลูกสวยเขาจึงแสดงสีหน้าออกมาไม่ได้เขาเอื้อมมือไปลูบหัวลูกสาวเบาๆพร้อมกับเหลือบไปมองหน้าคนที่เป็นลมอยู่ตรงหน้าที่ตอนนี้ที่ขอบตาก็ยังมีน้ำตาชุ่มๆอยู่เขารู้สึกขอบคุณเธอที่ช่วยเหลือน้องพีมเอาไว้และเขาก็คิดว่ายังไงๆเขาก็คงต้องตอบแทนบุญคุณนี้คืนกลับแก่เธอให้สาสม

"อาเต๋อ...นายพาคนไปเก็บข้าวของของเธอมาไว้ที่ห้องเล็กที...ฉันจะให้เธอมาเป็นพี่เลี้ยงให้น้องพีม...เก็บมาให้หมดทุกอย่างแล้วก็ทำเรื่องซื้ออพาร์ทเม้นท์นั่นด้วยนะซื้อไว้เลย...ซื้อเป็นชื่อของเธอ"

คำเตือน

ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงานวิชาชีพต่างๆ และเหตุการณ์ที่มีการใช้ความรุนแรงในนิยายเป็นแค่เรื่องสมมุตินิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงและความสนุกสนานเท่านั้นโดยไม่มีเจตนาชี้นำหรือส่งเสริมการกระทำใดๆที่เกิดขึ้นในนิยาย ตัวละครหรือเนื้อหาอาจจะมีการใช้ความรุนแรงทางเพศและตัวละครอาจมีการใช้คำพูดที่ค่อนข้างจะหยาบคายแต่เพื่อความสมจริงและเพิ่มอรรถรสให้กับนิยายได้สมจริงมากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ขอขอบคุณพระคุณไว้ล่วงหน้าหากท่านจะมาเป็นผู้ใหญ่ใจดีอุดหนุนsupportนิยายเรา🙏🙏🙏

สารบัญ

อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 1 ยกพวกตามหาลูกสาว,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 2 นั่นมันเด็ก!! เด็กตัวเป็นๆเลยนะ,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 3 นี่ลูกฉันเป็นอะไรไป,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 4 เคยรู้อะไรจริงๆบ้างมั้ย,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 5 จูบแรกจากคนที่เพิ่งรู้จักกัน,อุ้มรักกราวใจ-ตอนที่ 6 เอะอะก็หาแต่เรื่องจะจูบ

เนื้อหา

ตอนที่ 6 เอะอะก็หาแต่เรื่องจะจูบ

05.45      เช้าของวันใหม่

ในห้องครัว

       อันนาตื่นลงมาที่ห้องครัวแต่เช้าเพราะเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ เธอตามเสียงจอแจๆของพวกแม่บ้านไปเรื่อยๆจนถึงประตูหน้าห้องครัว

"พี่แมว...คนนี้พี่จะลงพนันกับฉันมั้ยพี่ฉันว่าคนนี้อยู่ได้ไม่เกินเดือน...ดูก็รู้ว่าอายุยังน้อย...ดีไม่ดีอาจจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับพวกเรา"

"คนนี้ฉันว่าน่าจะสามเดือนนะ...เพราะดูจากการพูดการจาของนาง...นางก็เหมือนว่าจะแน่อยู่เหมือนกัน...แต่ก็ไม่รู้ทำไมว่ะฉันตะหงิดๆใจว่าคนนี้ไม่เหมือนกันกับทุกคนที่มาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก...นางดูมีออร่าอะไรบางอย่าง...ดูผิวพรรณวรรณะนางก็ดูผ่องๆไม่เหมือนคนที่จะมาเป็นขี้ข้าอย่างเราๆ...นางดูมีอะไรๆอยู่"

       เสียงจอแจของบรรดาสาวใช้น้อยใหญ่ต่างพากันพูดกันถึงเรื่องของอันนาที่มาเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ของคุณหนูพีม

"นี่ถึงขั้นลงพนันกันเลยหรอเนี่ย...ใครลงก็แพ้หมดนั่นแหละเพราะฉันจะอยู่ไม่นานฉันจะหาทางออกไปจากขุมนรกนี้ให้เร็วที่สุด...ขืนอยู่ต่อนะ...มีหวังได้ลงไปนอนคุยกับรากมะม่วงอย่างที่พวกนั้นขู่ไว้แน่ๆ"

       อันนาบ่นกับตัวเองแล้วก็ค่อยๆเดินไปยังห้องครัวที่อยู่ไม่ไกลจากตรงที่เธอยืนอยู่แต่ไม่ทันที่อันนาจะได้แสดงตัวเธอก็ถูกสาวใช้อีกคนจับได้ซะก่อน

"คุณคะ...ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะคะ...หรือว่าต้องการอะไรรึเปล่า...หิวข้าวหรอคะ"

       อุ้มสาวใช้ตัวน้อยเดินมาจากทางด้านหลังแล้วบังเอิญเห็นอันนายืนแอบอยู่ข้างหลังประตู อุ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สุภาพและอ่อนโยนพร้อมกับโค้งคำนับจนอันนาเห็นแล้วก็ต้องแปลกใจในพฤติกรรมนั้น

"คือว่าฉัน...ฉันนอนไม่ค่อยหลับก็เลยเดินลงมาเรื่อยๆ...มีอะไรให้ฉันช่วยทำบอกได้เลยนะคะ...ฉัน...ฉันยังไม่รู้ว่าควรทำอะไรบ้างเกี่ยวกับหน้าที่พี่เลี้ยง"

"เจ้านายไม่ได้สั่งไว้ล่วงหน้าหรอคะ...อ้อฉันหมายถึง...ยังไม่ได้รับคำสั่งอะไรจากนายหรอคะ"

"ยังค่ะ...เขาไม่ได้สั่งอะไรไว้เลยค่ะ"

"ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรอคำสั่งค่ะ...เพราะที่นี่นอกจากเจ้านายแล้วไม่มีใครออกคำสั่งหรือให้คุณทำอะไร...เข้าไปนั่งคุยเล่นกับทุกคนก่อนมั้ยคะ...เผื่อคุณอยากจะทำความรู้จักกับคนอื่นๆ"

"ค่ะ...ฉันชื่ออันนาค่ะ...แล้วคุณล่ะคะ"

"ฉันชื่ออุ้มค่ะ...ทุกคนรู้ชื่อของคุณและประวัติคร่าวของคุณแล้วค่ะเหลือเพียงแค่ให้คุณทำความรู้จักกับคนอื่นๆค่ะ"

       อันนายกคิ้วขึ้นสูงเพราะรู้สึกตกใจและเป็นงงสุดกับคำพูดของสาวใช้ที่อยู่ตรงหน้า

"รู้จักชื่อ...แล้วก็ประวัติคร่าวๆของฉันหมายความว่าไงคะ...ทุกคนรู้ได้ไงคะ"

"ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกค่ะคุณเจ้านายจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคุณ...ทุกคนในบ้านเลยจำเป็นที่จะต้องรู้เกี่ยวกับคุณ...อย่างน้อยก็ต้องรู้ชื่อ..รู้อายุรู้ประวัตินิดๆหน่อยๆ"

"เจ้านายจอมเผด็จการสินะคะ..."

       อันนาพอพูดถึงพีรพัฒน์เธอก็เผลอแสดงอาการไม่ชอบใจแล้วก็เหลือบตาขึ้นมองบนโดยอัตโนมัติจนอุ้มสาวใช้แอบเห็นแล้วนางก็แอบยิ้มแอบขำเบาๆ  อุ้มเดินนำหน้าอันนาเข้าไปในห้องครัวพร้อมกับเอ่ยปากว่าเธอเองก็จะพนันกับพวกสาวใช้ที่คุยกันอยู่ก่อนหน้า

"ฉันว่าคนนี้อยู่นาน...นานพอที่บ้านหลังนี้จะมีการเปลี่ยนแปลง...ฉันลงเดิมพันด้วยเงินหนึ่งหมื่นบาท"

       อุ้มเอ่ยปากขึ้นเสียงดังพร้อมกับส่งซิกให้เพื่อนได้รู้ตัวว่าคนที่พวกเธอกำลังพูดถึงได้ยืนอยู่ตรงหน้านี้แล้ว เมื่อทุกคนหันไปเจออันนาก็ถึงกับอึ้งแดก ต่างคนต่างพากันมีอาการที่เลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก

"ไม่ต้องตื่นเต้นไปหรอกค่ะพี่ๆ...ฉันไม่ได้ติดใจอะไรกับคำพูดแบบนั้นเลยนะคะฉันว่ามันก็น่าสนุกดีออกค่ะ"

       อันนาพูดคุยหยอกล้อสนทนากับพวกสาวใช้อย่างสนิทสนมราวกับว่าเคยเจอกันมานานแล้ว 

"คุณอันนา...เป็นเรื่องจริงหรอคะที่เขาว่าเขาลือกันมาว่าคุณไปเจอคุณหนูตัวเล็กที่กองขยะในซอยเปลี่ยวๆ"

"ค่ะ...ทีแรกที่ได้ยินเสียงร้องไห้อันนาคิดว่าเป็นแค่เสียงน้องแมวด้วยซ้ำค่ะ...จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าวันนั้นอันนาไม่ถอยหลังกลับไปดู...เจ้าตัวเล็กจะเป็นยังไงไม่กล้าคิดเลยล่ะค่ะพี่ต้อยติ่ง"

"คนทำนี่ก็ช่างใจร้ายใจดำกับเด็กเหลือเกินนะคะ...โดยเฉพาะเด็กคลอดก่อนกำหนดแบบคุณหนูพีม...จิตใจมันทำด้วยอะไรก็ไม่รู้นะคะ...พี่ว่ามันน่าจับมาตัดมือบั่นคอให้มันตายๆไปเลย...คุณคิดแบบนั้นมั้ยคะ"

       อันนาไม่ได้ตอบอะไรเธอทำเพียงพยักหน้าพร้อมกับยิ้มแห้งๆส่งกลับไปเพื่อเป็นการตอบกลับต้อยติ่ง อันนากวาดสายตามองไปรอบๆตัวพร้อมกับฉุกคิดอะไรไปภายในใจ

(อันนาคิดในใจ)

"คนบ้านนี้ทำไมดูแล้วน่ากลัวกันทุกคนเลยนะ...เจ้านายก็จอมขู่...แม้กระทั่งสาวใช้ก็ยังจะฆ่าคนตัดมือคนบั่นคอคน...นี่เป็นกันหมดทั้งนายทั้งบ่าวเลยหรอเนี่ย...น่ากลัวจังเลย"

********************

       อันนารีบปลีกตัวออกมาจากตรงนั้น เธอเดินไปเรื่อยๆเพื่อสำรวจดูทางหนีทีไล่​​​​เอาไว้ เดินออกจากห้องครัวไม่ไกลนักอันนาก็เดินออกมานอกบ้านแล้วพบเจอกับสระน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆบ้านในสวนข้างบ้านถูกจัดไว้อย่างร่มรื่นและเงียบสงบ

       ถึงแม้นว่าในทุกๆตารางของพื้นที่รอบๆบ้านจะมีแต่ชายฉกรรจ์หน้าตาดูแล้วดุร้ายราวกับสัตว์ป่าล่าเนื้อก็ตาม อันนาเดินชมสวนพร้อมกับรอยยิ้มที่เบิกบานอารมณ์ดีพฤติกรรมเหล่านั้นของเธอถูกดวงตาคู่หนึ่งที่ยืนจิบกาแฟอยู่บนห้องตรงระเบียงบ้าน

"ทีเมื่อคืนบอกไม่อยากจะอยู่"

       พีรพัฒน์ใช้ดวงตาคมจ้องมองไปที่ร่างบางอย่างไม่วางตา ก่อนที่จะลุกออกจากตรงนั้นแล้วเดินลงมาหาเจ้าหล่อนที่สวน

"อ้าว!!!...ยังอยู่หรอ...คิดว่าหนีออกจากที่นี่ไปได้แล้วซะอีก...ก็คงจะแค่ปากเก่งล่ะสินะเอ๊ะ!!!..หรือว่าเปลี่ยนใจเพราะเห็นว่าที่นี่หรูหราน่าอยู่ขึ้นมา..."

       พีรพัฒน์เอ่ยปากพูดทักทายพร้อมกับพูดเย้ยหยันอันนาอยู่ด้านหลัง เขาตั้งใจเดินย่องเท้าเบาเพื่อจะมาพูดแขวะเธอโดยเฉพาะอันนาเมื่อได้ยินเสียงนั้นก็สะดุ้งตัวตื่นตกใจเธอหันขวับไปมองคนต้นเสียงอย่างไวพร้อมกับรีบสาวเท้าจ้ำอ้าวหวังจะเดินหนีเขาไปให้ไกลที่สุดแต่ก็ไม่ทันจะได้ก้าวไปหลายก้าวเอวคอดของเธอก็ถูกล็อกเอาไว้ด้วยท่อนแขนอันแข็งแกร่งจากคนร่างโต

"ทำอะไรเนี่ยคุณ...อย่ามาทำรุ่มร่ามกับฉันแบบนี้นะ...อย่าคิดว่าที่คุณทำกับฉันได้มะคืนแล้ววันนี้มันจะเกิดขึ้นได้อีกนะ...ไม่มีทางค่ะ"

"อ้ออออ...อย่างนั้นหรอ?"

       ว่าแล้วพีรพัฒน์ก็กอดเอวอันนาไว้จนแน่นมือพร้อมกับค่อยๆก้มหน้าลงไปดูหน้าคนตัวเล็กที่ตอนนี้พยายามจะดีดดิ้นหนีจากเขา

       พีรพัฒน์ก้มลงแล้วหันจมูกไปที่ลำคอของอันนาแล้วกระซิบคำพูดใส่หูอันนาอย่างแผ่วเบา 

"ถ้าฉันเกิดหน้ามืดต้องการเธอขึ้นมาจริงๆเธอคิดหรอว่าเธอจะรอดจากมือฉันไปได้ก็บอกไปแล้วไง...ถ้าอยากจะไปจากที่นี่มีแค่ไม่กี่วิธี...ฉันแนะนำนะ...ถึงเธอจะกลายร่างเป็นแมลงอะไรก็ช่าง..จะเป็นยุงก็ตาม...คนของฉันก็เห็นเธอได้หมดไม่เชื่อก็ลองหาทางหนีออกไปดูสิ..ไม่เกินห้านาทีเธอจะถูกพวกการ์ดพวกนั้นหิ้วตัวเธอกลับมา...แต่จะกลับมาสภาพไหนอันนั้นฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ"

       พูดจบพีรพัฒน์ก็ยื่นจมูกโด่งๆของเขาลงไปแตะๆที่ลำคอขาวของอันนาพร้อมกับจุ๊บจารึกประทับตราเบาๆ พฤติกรรมเช่นนั้นของเขามันทำให้อันนาถึงกับสะดุ้งตัวแรงเธอยกมือน้อยขึ้นมาจับต้นคอของเธอแล้วใช้มืออีกข้างดันใบหน้าของเขาให้ออกห่างจากใบหน้าเธอ

"ว๊ายยย!!!...เป็นโรคจิตรึไงเนี่ย...ขาดการอบรมสั่งสอนรึไง...ทำไมถึงได้ชอบรังแกฉันนักห๊ะ...ไอ้คนไม่รู้จักบุญคุณคนเอ้ย"

       พีรพัฒน์แสยะยิ้มร้ายทันทีเมื่อเขาถูกเธอด่าว่าขาดการอบรมสั่งสอน เขากำลังจะจูบเธออีกครั้งแต่ดันถูกขัดจังหวะเพราะพยาบาลดันร้องเรียกหาอันนาบอกว่าน้องพีมตื่นมก็ร้องไห้หาแต่เธอ 

       คราวนี้อันนาจึงรอดตัวไปได้อย่างหวุดหวิด อันนาเมื่อถูกปล่อยจากการพรรณนาการเธอก็รีบวิ่งสับเท้าเข้าบ้านอย่างไว เธอมุ่งหน้าวิ่งไปยังห้องของน้องพีม

"จ๊ะเอ๋....ใครร้องไห้คะ...ไหนคนไหนร้องไห้ไม่ร้องนะคะ..ไม่ร้อง...คนสวยไม่ร้องนะคะ"

       อันนาเอื้อมมือลงไปอุ้มเอาน้องพีมขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนแต่เป็นเพราะเธอรีบมากเกินไปเธอจึงยกน้องพีมผิดจังหวะ เธอพาตัวน้องพีมเซถอยหลังเกือบจะล้มลงแต่ก็ยังโชคดีที่พีรพัฒน์รับตัวของทั้งคู่ไว้ได้ทันทั้งอันนาและน้องพีมเซลงไปอยู่ในอ้อมแขนของพีรพัฒน์อย่างปลอดภัย 

"ระวังหน่อยซิเธอ...ถ้าเกิดฉันไม่ได้อยู่ตรงนี้เมื่อกี้เธอคงจะพาลูกของฉันล้มลงหัวฟาดพื้นแล้วมั้งเนี่ย...ประมาทแบบนี้เธอจะพาลูกฉันเจ็บตัวมั้ยเนี่ยอันนา"

อันนาหันไปสบตากับพีรพัฒน์พร้อมกับยกเท้าน้อยไปกระเทือบลงบนเท้าใหญ่

เขาถูกเธอสั่งสอนทั้งทางร่างกายและทางสายตาที่แอบก่นด่าเขาอยู่ภายในใจ

"ถ้าฉันจะพลาดทำให้น้องพีมเจ็บตัวก็คงจะเป็นเพราะคุณนั่นแหละ...ออกไปได้แล้วฉันจะพาน้องพีมไปอาบน้ำ"

"ก็ไปสิ...ใครห้ามเธอไว้ล่ะ"

"ไม่มีใครห้าม...แต่มีมือของมารตัวหนึ่งกำลังกอดรั้งตัวฉันไว้...ไม่ยอมปล่อยสักที...กอดเป็นหมอนข้างเลยเนี่ย"

     พีรพัฒน์พอถูกด่าเขาก็สะดุ้งตัวเด้งเพราะพึ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองนั้นกอดอันนาไว้แน่น พีรพัฒน์เพื่อแก้เขินเขาจึงเดินไปหยิบนั่นดูนี่แล้วก็ทำเป็นบ่นๆไปเรื่อยก่อนจะทำทีเดินเลี่ยงๆหนีออกไปจากห้องอย่างหน้าตาตื่น


                       จบตอน