เมื่อเด็กสาวที่ป่วยใกล้ตายวิงวอนขอพรต่อสวรรค์ขอให้เธอได้มีชีวิตอยู่ต่อไปแต่สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่ฟังเสียงร้องจากเธอ เธอตายจากไปจากโลกนี้ไปแต่จู่ๆเธอกลับได้ไปพบเจอกับโลกใหม่อีกใบที่แสนประหลาด

บันทึกรักนายซุป'ตาร์ - ตอนที่ 4 ลาแล้วโลกเดิมที่เคยอยู่ โดย เจ้าก้อนแก้ว. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,แฟนตาซี,ข้ามเวลา,ไทย,จูบเก่งจูบฉ่ำ,หึงหวงเก่ง,พระเอกขี้หวง,พระเอกเป็นซุปตาร์,คลั่งรัก,เกิดใหม่ ,เกิดใหม่ในร่างคนอื่น,นิยายเกิดใหม่,ต่างโลก,แฟนตาซี,LN,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกรักนายซุป'ตาร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,แฟนตาซี,ข้ามเวลา,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

จูบเก่งจูบฉ่ำ,หึงหวงเก่ง,พระเอกขี้หวง,พระเอกเป็นซุปตาร์,คลั่งรัก,เกิดใหม่ ,เกิดใหม่ในร่างคนอื่น,นิยายเกิดใหม่,ต่างโลก,แฟนตาซี,LN,ทะลุมิติ

รายละเอียด

เมื่อเด็กสาวที่ป่วยใกล้ตายวิงวอนขอพรต่อสวรรค์ขอให้เธอได้มีชีวิตอยู่ต่อไปแต่สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่ฟังเสียงร้องจากเธอ เธอตายจากไปจากโลกนี้ไปแต่จู่ๆเธอกลับได้ไปพบเจอกับโลกใหม่อีกใบที่แสนประหลาด

ผู้แต่ง

เจ้าก้อนแก้ว.

เรื่องย่อ

       สุชาดาเด็กสาววัยสิบเก้าปีบริบูรณ์จู่ๆในคืนวันเกิดของเธอก็เกิดเรื่องราวเลวร้ายบางอย่างขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว วันที่13-3-2023 คือวันคล้ายวันเกิดของเธอในอายุครบสิบเก้าปีบริบูรณ์

       ในตอนนั้นที่เกิดเรื่องคือเวลาจากห้าทุ่มห้าสิบห้าไปจนถึงเที่ยงคืนห้านาทีซึ่งเป็นเวลาของการที่เวลาของดาราจักรกำลังจะปรับเปลี่ยนดวงพอดีตอนนั้นสุชาดากำลังจะเข้านอนหลังจากที่เธอและครอบครัวและเพื่อนพ้องฉลองวันเกิดเธอเสร็จ 

       วินาทีที่เธอกำลังจะขึ้นไปนั่งบนเตียงจู่ๆเธอก็รู้สึกหน้ามืดแล้วก็ล้มลงสู่พื้นในทันทีแล้วก็สลบไปในที่สุดโดยที่เธอยังคุยสายค้างอยู่กับใครคนหนึ่งอย่างมีความสุข

"พรุ่งนี้ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไปสารภาพรักกับพี่เขา ฉันจะใจกล้าหน้าด้านขอพี่เขาเป็นแฟนฉันช่วยเป็นกำลังใจให้ฉันด้วยนะ"

"............…............"

"หมายความว่าไง!!!!!!"

       ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคนปลายสายพูดอะไรกับเธอหรือเป็นเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ที่จู่ๆก็ทำให้เธอล้มลงไปกองอยู่กับพื้นพร้อมกับการหมดสติไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว พอรุ่งเช้าเธอตื่นขึ้นมา

       เธอก็ได้พบว่าตัวเองได้นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยที่โรงพยาบาลที่ไหนสักแห่ง หลังจากที่ลืมตาขึ้นมาเธอก็เห็นพ่อแม่พี่น้องญาติคนสนิทและเพื่อนๆของเธอยืนล้อมข้างเตียงของเธอเต็มไปหมดและสีหน้าของแต่ละคนก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนักโดยเฉพาะคุณยายและคุณแม่ของเธอที่บนใบหน้าเห็นมีแต่คราบน้ำตาเปื้อนหน้าเต็มไปหมด 

       ทั้งสองคนต่างนั่งกุมมือสวยๆของเธออยู่อย่างไม่ห่างวางตาเลยเหมือนภายในกำลังมีเรื่องให้กลุ้มใจอย่างหนักสุชาดาค่อยๆตื่นลืมตาขึ้นมาช้าๆเพราะรู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายของเธอนั้นเหนือการควบคุมมากจากสมองของเธอ ทันทีที่เธอมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนเธอก็รีบฉีกยิ้มส่งให้กับทุกคนเพื่ออยากตะบอกว่าตอนนี้เธอสบายดีแล้ว

"แม่คะแม่เป็นอะไรทำไมถึงร้องไห้ล่ะเกิดอะไรขึ้นหรอทำไมทุกคนถึงได้กลับมาอีกล่ะไม่ใช่ว่าเมื่อกี้ทุกคนกลับบ้านไปนอนกันหมดแล้วหรอหรือว่ามีเซอร์ไพรส์วันเกิดอะไรให้หนูอีกหรอกนะคะคุณแม่คุณยาย"

"ชาดาลูก!!! อย่าพึ่งพูดอะไรมากเลยนะคนดีของยายตอนนี้หลานสาวคนดีของยายหิวมั้ยอยากกินน้ำหรือหิวข้าวหรือเปล่าลูก"

"คุณยายคะคุณยายเป็นอะไรคะร้องไห้ทำไมเจ้านันตามันทำอะไรให้ยายโมโหอีกแล้วใช่มั้ยคะเนี่ย คุณยายไม่ร้องนะเดี๋ยวหนูจะตัดการมันให้คุณยายนะโอเคมั้ย ไม่ร้องนะคะไม่ร้อง"

       สุชาดายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่เปื้อนใบหน้าให้กัคุณยายสมรของเธอพร้อมกับเอ่ยปลอบใจโดยที่เธอก็ยังไม่ได้คิดเอะใจอะไรกับพฤติกรรมที่แปลกไปของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น พอเธอฟื้นขึ้นมาได้เพียงไม่นานเหล่าคุณหมอและพยาบาลก็ต่างพากันได้วิ่งวุ่นเข้ามาในห้องของเธออีกครั้งเพราะเมื่อเธอฟื้นขึ้นมาได้ไม่นานเธอก็เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันช็อกหมดสติไปอีกครั้งโดยที่ครั้งนี้อาการเธอนั้นหนักลงกว่าเดิมมาก

"คุณหมอคะลูกของฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอทำไมแกที่เพิ่งจะฟื้นขึ้นมาก็กลับไปเป็นแบบนี้ได้อีกบอกเราเถอะค่ะคุณหมอ"

"หมอต้องบอกแบบนี้ครับ ผู้ป่วยตอนนี้หลังจากที่ช่วยกลับมาได้อาการก็ยังคงทรงตัวอยู่ครับแต่หมอก็ยังคงยืนยันคำเดิมครับว่าให้ญาติเริ่มเตรียมใจไว้เลยเพราะเธอเป็นระยะสุดท้ายแล้วที่ผ่านมาโรคไม่ส่ออาการให้เห็นอาจเป็นเพราร่างกายของคนไข้แข็งแรงและมีจิตใจที่เข้มแข็งตอนนี้ก็ทำได้แค่พยุงอากาศไม่ให้ทรุดลงกว่านี้หมอจะจัดยาเพื่อไม่ให้เธอเจ็บปวดมากก่อนเธอจะจากไป"

"ลูกของฉันจะไม่รอดแล้วหรอคะไม่มีทางรักษาได้เลยงั้นหรอคะคุณหมอ ช่วยเธอหน่อยเถอะนะคะเธออายุเพิ่งจะสิบเก้าปีเองได้โปรดเถอะค่ะหาทางช่วยเธอที"

"ญาติคนไข้ครับ หมอเองก็รู้ดีแล้วในใจก็เห็นใจคนไข้มากเหมือนกันแต่ในสามเดือนที่ผ่านมานี้เราหาทางและปรึกษากับหลายๆโรงพยาบาลแม้กระทั่งหมอผู้เชี่ยวชาญที่ต่างประเทศแล้วทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเคสนี้หาได้ยากมากๆปกติแล้วคนไข้ส่วนมากถ้ามีเนื้องอกที่มีก้อนใหญ่มากขนาดนี้เกิดขึ้นในร่างกาย ร่ายกายน่าจะมีปฏิกิริยาอะไรบ่งบอกออกมาบ้างแต่นี่เธอเป็นมานานมากแล้วจนเข้าขั้นระยะสุดท้ายของโรคแล้วเธอจะมามีอาการก็ตอนที่หนักแล้วไม่สามารถที่จะรักษาได้แล้ว ผมไม่อยากจะพูดคำนี้หรอกนะครับแต่ไม่มีทางรักษาได้แล้วจริงๆหมอเสียใจด้วยจริงๆนะครับเธออาจจะอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนแล้วในระหว่างนี้ถ้าเกิดคนไข้ฟื้นขึ้นมาญาติก็ควรใช้เวลากับคนไข้ให้ได้มากที่สุดอยู่กับเธอเป็นกำลังแรงใจให้เธอเผื่อเธอจะอยู่กับเราให้ได้นานที่สุด"

"ไม่เกินเดือน!!!! ยัยหนูของยาย"

       สุชาดาหลังจากช็อกแล้วถูกยื้อชีวิตกลับคืนมาได้อีกครั้งพอหลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาสีโลกของเธอก็เปลี่ยนไป เธอเมื่อได้สติกลับคืนมาแต่ยังไม่ทันจะได้ลืมตามองดูหน้าใครๆหูของเธอก็พลันได้ยินคำพูดของคนในครอบครัวของตัวเองจนหมดแล้วว่าเธออาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึงหนึ่งเดือนสาเหตุเป็นเพราะเธอมีเนื้องอกในก้านสมองซีกซ้ายขนาดใหญ่อีกทั้งเจ้าเนื้องอกตัวนี้ก็ได้ก่อเป็นมะเร็งที่ร้ายแรงไปแล้วทั่วสมอง

       ถึงแม้นว่าถ้าผ่าก็ใช่ว่าจะมีทางรอดโอกาสที่จะรอดนั้นเป็นศูนย์ เนื้อก้านสมองถูกมะเร็งกัดกินลามเป็นวงกว้างไปทั่วทุกที่ของสมองเพราะฉะนั้นหมอจึงแนะนำให้ญาติคนไข้ทำใจ และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆสุชาดาอยู่ได้ไม่ถึงเดือนเธอก็พลันจากโลกใบนี้ไปอย่างสงบ

"ถ้านรกหรือสวรรค์มีจริงได้โปรดท่านช่วยรับฟังคำขอจากหนู นางสาวสุชาดา พิเศษโสณี คนนี้สักครั้งจะได้มั้ยคะปีนี้หนูเพิ่งจะอายุแค่สิบเก้าปีเองนะคะท่าน ท่านใจดีให้หนูได้เกิดมาแล้วทำไมท่านไม่ปล่อยให้หนูได้อยู่สร้างความดีให้โลกใบนี้อีกสักหน่อยล่ะคะท่าน หนูยังไม่มีโอกาสได้เรียนมหาลัยให้จบเลยหนูยังไม่มีโอกาสที่จะหาเงินมาตอบแทนคุณพ่อแม่ปู่ย่าตายายเลยหนูยังไม่ได้มีโอกาสพาครอบครัวของหนูไปเที่ยวที่ไหนสวยๆสักที่เลยหนูยังไม่มีโอกาสได้คุยกับน้องชายดีๆเลย เราสองคนพี่น้องส่วนมากก็เอาแต่ทะเลาะกันตลอดจนพ่อแม่ต้องไม่ค่อยสบายใจ หนูเป็นพี่สาวโตจนถึงป่านนี้ก็ยังไม่เคยได้สอนน้องทำการบ้านเลยสักครั้งแล้วอีกอย่างหนูโตมาจนถึงป่านนี้หนูยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคนเมื่อหลายเดือนก่อนนี้หนูเพิ่งจะไปแอบชอบรุ่นพี่คนนึงมากะว่าจะได้ไปสารภาพรักกับพี่เขาอยู่แล้วแท้ๆแต่ท่านก็จะมาพรากหนูไปเสียก่อน แบบนี้หนูจะพูดว่าท่านทำกับหนูแบบไม่ค่อยจะยุติธรรมเลยหนูพูดได้มั้ยคะ

หนูอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อถึงจะให้ได้ไม่นานอย่าน้อยๆก็น่าจะให้หนูได้เตรียมใจก่อนสักนิดนะคะหนูขอสักปีสองปีก็ได้ถ้าปีสองปีมันมากไปหนูขอแค่ปีเดียวก็ได้สิบเดือนก็ได้ห้าวันก็ยังดีให้หนูได้มีโอกาสได้ทำใจได้บอกลาครอบครัวหนูอีกสักหน่อยจะได้รึเปล่า ขอร้องล่ะค่ะท่านอย่าใจร้ายกับเด็กน้อยอย่างหนูนักเลยได้โปรดเถอะนะคะได้โปรดให้หนูได้ร่ำลาพวกเขาอีกสักนิดก่อนไปได้มั้ยคะได้โปรดล่ะหนูขอร้องนะคะท่าน"

------ตี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด------

       เสียงเครื่องวัดชีพจรร้องดังขึ้นยาวๆเพื่อแจ้งเตือนว่าคนไข้ได้เสียชีวิตแล้ว ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของสุชาดาถูกพ้นออกมาใส่หน้ากากเครื่องช่วยหายใจเพียงเสี้ยววินาทีแล้วก็หมดลงไปหลังจากนั้นในห้องก็มีแต่เสียงร้องไห้โดยความโศกเศร้าและเสียใจกับการจากไปของผู้เป็นที่รักคนหนึ่งของครอบครัวพิเศษโสณี สุชาดาหลั่งน้ำตาหยดสุดท้ายออกมาแล้วจากไปอย่างกายสงบแต่ภายในจิตใจกลับมีแต่ความหม่นหมองจิตใต้สำนึกของใจกลับเต็มไปด้วยคำขอร้องจากสวรรค์หรือคนที่กุมอำนาจอยู่เบื้องบนฟ้าที่แสนไกล

       อีกหนึ่งซีกของมิติจักรวาลแสนไกล

          ​​​​​​​ณ.กรุงบีดีมัลล์ แห่งฟลอเทียร์

"ท่านคะได้โปรดให้โอกาสหนูได้มีชีวิตอีกครั้งเถอะนะคะ ท่านคะหนูขอร้อง!!!!!"

       เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มสดใสนอนหลับอยู่บนเตียงเธอดิ้นไปดิ้นมาพร้อมกับพูดพร่ำเพ้อละเมออะไรออกมาโดยที่คนเป็นแม่ก็ฟังไม่ค่อยได้ความมากดีลิสเดรียเดินเข้าห้องมาปลุกผู้เป็นลูกสาวอย่างเช่นทุกๆวันเพื่อไปทำงานให้ทันเวลา

"อิสซี!!! อิสซี!!!! ตื่นได้แล้วนะลูกรักสายแล้วอิสซีจ๊ะอิสซี!!!"

"แม่คะ!!!! หนูยังไม่อยากตายพ่อคะช่วยหนูที"

               คำเตือน

       ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงาวิชาชีพต่างๆ และเหตุการณ์ที่มีการใช้ความรุนแรงในนิยายเป็นแค่เรื่องสมมุตินิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงและความสนุกสนานเท่านั้นโดยไม่มีเจตนาชี้นำหรือส่งเสริมการกระทำใดๆที่เกิดขึ้นในนิยาย ตัวละครหรือเนื้อหาอาจจะมีการใช้ความรุนแรงทางเพศและตัวละครอาจมีการใช้คำพูดที่ค่อนข้างจะหยาบคายแต่เพื่อความสมจริงและเพิ่มอรรถรสให้กับนิยายได้สมจริงมากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ขอขอบคุณพระคุณไว้ล่วงหน้าหากท่านจะมาเป็นผู้ใหญ่ใจดีอุดหนุนsupportนิยายเรา🙏🙏🙏















สารบัญ

บันทึกรักนายซุป'ตาร์-ตอนที่ 1 จะจีบหรืออะไร,บันทึกรักนายซุป'ตาร์-ตอนที่ 2 อาคาเดรก็คือเป้าหมาย,บันทึกรักนายซุป'ตาร์-ตอนที่ 3 หนูมีสายเลือดที่เป็นกลุ่มพิเศษ,บันทึกรักนายซุป'ตาร์-ตอนที่ 4 ลาแล้วโลกเดิมที่เคยอยู่

เนื้อหา

ตอนที่ 4 ลาแล้วโลกเดิมที่เคยอยู่

ภายในบ้าน

"เป็นอะไรไปไหนลูกบอกกับแม่เองว่าลูกผ่านการสัมภาษณ์งานแล้วไม่ใช่รึไงลูกรัก ลูกได้งานที่ใจใฝ่ปราถนาลูกก็น่าจะดีใจนะมันถึงจะถูกหรือว่าผู้ชายคนนั้นไม่ตรงปกหรือเขาด่าว่าลูกหรือเขาไม่ชอบลูกสาวของแม่ ตอบแม่มาแม่จะไปคุยกับเขาเอง"

       ​​​​​​ดีลีสเดรียสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆของอีสซีผู้เป็นลูกสาวหลังจากที่เธอนั้นกลับมาจากการไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทอาคาเดร อีสซีดูมีอาการซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัดเจน เธอไม่ร่าเริงแจ่มใสทั้งๆที่เธอพึ่งจะได้รับการตอบรับจากที่ทำงานมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"คุณแม่ขาาา!!! หนูรู้สึกเหมือนหนูอกหักทั้งๆที่ยังไม่ได้สารภาพรักเลยค่ะแม่ ใจหนูในตอนนี้มันเหมือนถูกอะไรบางอย่างกดทับแทบจะหายใจลำบากเหมือนจะขาดใจแต่ก็ไม่ขาด แม่คะหนูควรจะทำยังไงดีหนูรู้สึกไม่มีความสุขเลยจริงๆ"

"เพราะอะไรถึงทำให้ลูกรู้สึกแบบนั้นล่ะคะ เป็นเพราะไอดอลของหนูคนนั้นหรอเขาไม่เหมือนกับที่อยู่ในจอใช่มั้ยเขาดูลูกแม่หรอคะหรือเป็นเพราะอะไรลูกคุยกับแม่ได้นะลูกรัก"

"หนูคิดมาตลอดว่าเรื่องข่าวลือที่บอดว่าพี่เขากับผู้จัดการแอบกิ๊กกันมันไม่เป็นความจริงมันไม่น่าที่จะเป็นไปได้แต่เท่าที่หนูดูและเห็นในวันนี้หนูพอจะเดาได้ว่าพี่เขาน่าจะแอบกิ๊กกันจริงๆค่ะแม่"

       อีสซีนั่งคอตกหัวคิ้วขมวดแทบจะวิ่งชนกัน เธอมีสีหน้าที่เศร้าหมองมากๆเหมือนคนดวงใจกำลังจะแหลกสลายโดยที่ตัวเธอก็ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยเธอถูกแม่ประคองให้ลุกเดินไปพักผ่อนในห้องก่อนเธอจะแอบร้องไห้แล้วผล็อยหลับไปในที่สุด

อีกฝากฟ้าจักรวาลที่แสนไกล

โรงพยาบาลเอกชนแห่งที่หนึ่ง

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

       เสียงนี้เป็นเสียงของเครื่องช่วยวัดความดันและเครื่องช่วยวัดชีพจรในห้องไอีซียูห้องเบอร์แปดตอนนี้บนโลกมนุษย์จากวันเกิดของชาดาจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาแล้วเกือบจะสามเดือน 

       ชาดาถูกพามารักษาตัวอยู่ที่นี่จะสามเดือนแล้วและอาการของเธอในแต่ระวังก็ไม่ค่อยจะคงที่สักเท่าไหร่เพราะเธอมักจะมีอาการช็อคและชักกระตุกอยู่เป็นระยะเนื่องเกิดมาจากเนื้องอกในสมองของเธอที่มันเริ่มลุกลามเร็วขึ้นเรื่อยๆหลังจากเธอไม่ได้สติ

       และหมอเจ้าของไข้ก็เคยพูดเป็นนัยๆไว้ครั้งหนึ่งแล้วว่าเธออาจจะอยู่กับเราได้อีกไม่นานแต่แล้วปาฏิหาริย์ก็มักจะแอบใจดีกับคนตกทุกข์อยู่เสมอวันนี้จู่ๆเธอก็มีอาการตอบสนองกับเสียงของใครบางคนที่มาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลและเธอก็มีปฏิกิริยากับเธอแค่คนเดียวคนนั้นก็คือมีมี่เพื่อนรักสมัยเด็กของเธอที่เธอรักและไว้ใจที่สุด

"ชะดาได้โปรดเถอะนะเธอช่วยฟื้นลืมตาขึ้นมารับฟังคำขอโทษจากฉันสักครั้งจะได้มั้ยชะดาเธอคือเพื่อนรักของฉัน ได้โปรดนะชะดาฉันกับเขาอยากจะขอโทษเธอด้วยใจจริงๆ ชะดาจ๋า"

       สิ้นสุดคำพูดของมีมี่ชาดาก็มีปฏิกิริยาโดยการมีนิ้วกระตุกจนที่เข้าไปเยี่ยมไข้ต่างพากันแตกตื่นเมื่อแม่บัวเห็นแบบนั้นก็รีบตามคุณหมอมาเช็คดูอาการของลูกสาวอย่างไว 

       และเมื่อคุณหมอได้เข้ามาตรวจก็ปรากฏว่าชาดามีปฏิกิริยาตอบรับจากเสียงของมีมี่จริงๆ และอาจเป็นไปได้ที่ชาดาอาจจะฟื้นขึ้นมาเร็วๆนี้

"หมอก็บอกไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกนะครับว่าคนไข้จะฟื้นได้วันไหนแต่เท่าที่หมอตรวจดูคุณไข้มีการตอบสนองจริงและคนไข้อาจจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างเป็นไปได้หมดครับญาติ"

"ขอบคุณนะคะคุณหมอ!!! ขอบคุณ...คุณพระคุณเจ้าที่ฟังคำขอนี้จากลูกช้างลูกม้าตาที่ดำๆบุญไม่ว่าจะเป็นบุญเก่าแต่ชาติปางไหนหรือไม่ว่าจะเป็นบุญใหม่ที่ลูกได้สั่งสมมาในชาตินี้ลูกขอใช้มันเพื่อแลกกับชีวิตของลูกสาวของลูกขอเพียงเธอฟื้นขึ้นมาและมีสุขภาพที่แข็งแรงจะให้ลูกชดใช้ด้วยการทำบุญอีกเป็นร้อยชาติลูกก็ยอม สาธุๆๆ"

       แม่บัวคำแสนยกมือพนมก้มกราบต่อเทวดาฟ้าดินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็นที่อยู่เหนือเกล้าและเหนือหัวทั้งคุณพระศรีรัตนตรัยที่ปกครองทั่วฟ้านี้

"อีกยี่สิบนาทีจะหมดเวลาเยี่ยมแล้วนะคะญาติ"

       เสียงพูดที่ไพเราะนุ่มนวลจากคุณพยาบาลเจ้าประจำดังขึ้นเพื่อเตือนให้ญาติได้รู้ถึงเวลาเข้าเยี่ยมนั้นใกล้จะหมดลงแล้ว สิ้นสุดเสียงของพี่พยาบาลสาวจู่ๆแม่บัวก็ได้ยินเสียงแว่วๆมาจางๆเมื่อแม่บัวหันไปหาต้นเสียงก็เห็นว่าชาดาที่กำลังค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ทันทีที่แม่บัวเห็นว่าชาดากำลังลืมตาขึ้นมามองตนเธอก็ปล่อยโฮออกมาทันทีด้วยความดีใจ

"ชะดาลูก!!!! ลูกของแม่ฟื้นแล้ว ใครก็ได้ๆไปตามคุณหมอทีเร็วเข้ามีมี่หนูช่วยไปตามหมอให้แม่ที"

       ทุกคนในห้องไอซียูรวมถึงคนที่รออยู่ด้านนอกต่างพากันเฮลั่นดีอกดีใจยิ่งกว่าถูกรางวัลที่หนึ่งเมื่อคุณหมอทั้งตำแหน่งน้อยใหญ่พามากันตรวจเรียบร้อยก็ยอมปล่อยให้ญาติที่มารอเข้าเยี่ยมได้เยี่ยมและพูดคุยกับคนไข้อีกนิดหน่อย

       สุชาดาเมื่อได้สติกลับคืนมาเกือบจะเต็มร้อยเธอก็ได้พบว่าตัวเองได้นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยที่โรงพยาบาลที่ไหนสักแห่ง หลังจากที่ลืมตาขึ้นมาเธอก็เห็นพ่อแม่พี่น้องญาติคนสนิทและเพื่อนๆของเธอยืนล้อมข้างเตียงของเธอเต็มไปหมดและสีหน้าของแต่ละคนก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนักโดยเฉพาะ

       คุณยายและคุณแม่ของเธอที่บนใบหน้าเห็นมีแต่คราบน้ำตาเปื้อนหน้าเต็มไปหมด ทั้งสองคนต่างนั่งกุมมือสวยๆ ของเธออยู่อย่างไม่ห่างวางตาเลยเหมือนภายในใจกำลังมีเรื่องให้กลุ้มใจอย่างหนัก

       สุชาดาค่อยๆตื่นลืมตาขึ้นมาช้าๆเพราะเธอรู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายของเธอนั้นเหนือการควบคุมมากจากสมองของเธอ ทันทีที่เธอมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนเธอก็รีบฉีกยิ้มส่งให้กับทุกคนเพื่ออยากจะบอกว่าตอนนี้ตัวเธอนั้นสบายดีแล้ว

"แม่คะแม่เป็นอะไรทำไมถึงร้องไห้ล่ะเกิดอะไรขึ้นหรอทำไมทุกคนถึงได้กลับมาอีกล่ะไม่ใช่ว่าเมื่อกี้ทุกคนกลับบ้านไปนอนกันหมดแล้วหรอหรือว่ามีเซอร์ไพรส์วันเกิดอะไรให้หนูอีกหรอกนะคะคุณแม่คุณยาย"

"ชาดาลูก!!! อย่าพึ่งพูดอะไรมากเลยนะคนดีของยายตอนนี้หลานสาวคนดีของยายหิวมั้ยอยากกินน้ำหรือหิวข้าวหรือเปล่าลูก"

"คุณยายคะคุณยายเป็นอะไรคะร้องไห้ทำไมเจ้านันตามันทำอะไรให้ยายโมโหอีกแล้วใช่มั้ยคะเนี่ย คุณยายไม่ร้องนะเดี๋ยวหนูจะจัดการมันให้คุณยายนะโอเคมั้ย ไม่ร้องนะคะไม่ร้อง"

       สุชาดายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่เปื้อนใบหน้าให้กับคุณยายสมรของเธอพร้อมกับเอ่ยปลอบใจโดยที่เธอก็ยังไม่ได้คิดเอะใจอะไรกับพฤติกรรมที่แปลกไปของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น 

      พอเธอฟื้นขึ้นมาได้เพียงไม่นานเหล่าคุณหมอและพยาบาลก็ต่างพากันได้วิ่งวุ่นเข้ามาในห้องของเธออีกครั้งเพราะเมื่อเธอฟื้นขึ้นมาได้ไม่นานเธอก็เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันช็อคหมดสติไปอีกครั้งโดยที่ครั้งนี้อาการเธอนั้นหนักลงกว่าเดิมมาก ครั้งนี้คุณหมออาจารย์แพทย์เจ้าของไข้ของชาดาถึงกับต้องเรียกญาติไปนั่งคุยกันอย่างเป็นทางการ

"คุณหมอคะลูกของฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอทำไมแกที่เพิ่งจะฟื้นขึ้นมาก็กลับไปเป็นแบบนี้ได้อีกบอกเราเถอะค่ะคุณหมอ"

"หมอต้องบอกแบบนี้ครับ ผู้ป่วยตอนนี้หลังจากที่ช่วยกลับมาได้อาการก็ยังคงทรงตัวอยู่ครับแต่หมอก็ยังคงยืนยันคำเดิมครับว่าให้ญาติๆเริ่มเตรียมใจไว้เลยเพราะเธอเป็นระยะสุดท้ายแล้วที่ผ่านมาโรคไม่ส่ออาการให้เห็นอาจเป็นเพราะร่างกายของคนไข้แข็งแรงและมีจิตใจที่เข้มแข็งตอนนี้ก็ทำได้แค่พยุงอาการไม่ให้ทรุดลงกว่านี้หมอจะจัดยาเพื่อไม่ให้เธอเจ็บปวดมากก่อนเธอจะจากเราไป"

"ลูกของฉันจะไม่รอดแล้วหรอคะไม่มีทางรักษาได้เลยงั้นหรอคะคุณหมอ ช่วยเธอหน่อยเถอะนะคะเธออายุเพิ่งจะสิบเก้าปีเองได้โปรดเถอะค่ะหาทางช่วยเธอที"

"ญาติคนไข้ครับหมอเองก็รู้ดี แล้วในใจก็เห็นใจคนไข้มากเหมือนกันแต่ในสามเดือนที่ผ่านมานี้เราหาทางและปรึกษากับหลายๆ โรงพยาบาลแม้กระทั่งหมอผู้เชี่ยวชาญที่ต่างประเทศแล้วทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเคสนี้หาได้ยากมากๆปกติแล้วคนไข้ส่วนมากถ้ามีเนื้องอกที่มีก้อนใหญ่มากขนาดนี้เกิดขึ้นในร่างกาย ร่ายกายน่าจะมีปฏิกิริยาอะไรบ่งบอกออกมาบ้างแต่นี่เธอเป็นมานานมากแล้วจนเข้าขั้นระยะสุดท้ายของโรคแล้วเธอจะมามีอาการก็ตอนที่หนักแล้วไม่สามารถที่จะรักษาได้แล้ว ผมไม่อยากจะพูดคำนี้หรอกนะครับแต่ไม่มีทางรักษาได้แล้วจริงๆ หมอเสียใจด้วยจริงๆนะครับ เธออาจจะอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนแล้วในระหว่างนี้ถ้าเกิดคนไข้ฟื้นขึ้นมาญาติก็ควรใช้เวลากับคนไข้ให้ได้มากที่สุดอยู่กับเธอเป็นกำลังแรงใจให้เธอเผื่อเธอจะอยู่กับเราให้ได้นานที่สุด"

"ไม่เกินเดือน!!!! ยัยหนูของยาย"

       สุชาดาหลังจากช็อคแล้วถูกยื้อชีวิตกลับคืนมาได้อีกครั้งพอหลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาสีโลกของเธอก็เปลี่ยนไป เธอเมื่อได้สติกลับคืนมาแต่ยังไม่ทันจะได้ลืมตามองดูหน้าใครๆ 

       หูของเธอก็พลันได้ยินคำพูดของคนในครอบครัวของตัวเองจนหมดแล้วว่าเธออาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึงหนึ่งเดือนสาเหตุเป็นเพราะเธอมีเนื้องอกในก้านสมองซีกซ้ายขนาดใหญ่อีกทั้งเจ้าเนื้องอกตัวนี้ก็ได้ก่อเป็นมะเร็งที่ร้ายแรงไปแล้วทั่วสมอง

       ถึงแม้นว่าถ้าผ่าก็ใช่ว่าจะมีทางรอดโอกาสที่จะรอดนั้นเป็นศูนย์ เนื้อก้านสมองถูกมะเร็งกัดกินลามเป็นวงกว้างไปทั่วทุกที่ของสมองเพราะฉะนั้นหมอจึงแนะนำให้ญาติคนไข้ทำใจ และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ 

       สุชาดาอยู่ได้ไม่ถึงเดือนเธอก็พลันจากโลกใบนี้ไปอย่างสงบ แต่ก่อนที่สุชาดาจะได้เสียเฮือกลมหายใจสุดท้ายของเธอ เธอได้วิงวอนขอพรภาวนาต่อฟ้าดินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีในสากลโลกเธอขอวอนเพียงอยากจะได้รับโอกาสอำลาพ่อแม่ยายและน้องชายของเธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนลาจากโลกนี้ไปอย่างถาวร

"ถ้านรกหรือสวรรค์มีจริงได้โปรดท่านช่วยรับฟังคำขอจากหนู นางสาวสุชาดา พิเศษโสณี คนนี้สักครั้งจะได้มั้ยคะปีนี้หนูเพิ่งจะอายุแค่สิบเก้าปีเองนะคะท่าน ท่านใจดีให้หนูได้เกิดมาแล้วทำไมท่านไม่ปล่อยให้หนูได้อยู่สร้างความดีให้โลกใบนี้อีกสักหน่อยล่ะคะท่าน หนูยังไม่มีโอกาสได้เรียนมหาลัยให้จบเลยหนูยังไม่มีโอกาสที่จะหาเงินมาตอบแทนคุณพ่อแม่ปู่ย่าตายายเลย หนูยังไม่ได้มีโอกาสพาครอบครัวของหนูไปเที่ยวที่ไหนสวยๆสักที่เลยหนู ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับน้องชายดีๆเลยเราสองคนพี่น้องส่วนมากก็เอาแต่ทะเลาะกันตลอดจนพ่อแม่ต้องไม่ค่อยสบายใจ หนูเป็นพี่สาวโตจนถึงป่านนี้ก็ยังไม่เคยได้สอนน้องทำการบ้านเลยสักครั้ง แล้วอีกอย่างหนูโตมาจนถึงป่านนี้หนูยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคนเมื่อหลายเดือนก่อนนี้หนูเพิ่งจะไปแอบชอบรุ่นพี่คนนึงมากะว่าจะได้ไปสารภาพรักกับพี่เขาอยู่แล้วแท้ๆ แต่ท่านก็จะมาพรากหนูไปเสียก่อน แบบนี้หนูจะพูดว่าท่านทำกับหนูแบบไม่ค่อยจะยุติธรรมเลยหนูพูดได้มั้ยคะหนูอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อถึงจะให้ได้ไม่นานอย่างน้อยๆ ก็น่าจะให้หนูได้เตรียมใจก่อนสักนิดนะคะหนูขอสักปีสองปีก็ได้ถ้าปีสองปีมันมากไปหนูขอแค่ปีเดียวก็ได้สิบเดือนก็ได้ห้าวันก็ยังดีให้หนูได้มีโอกาสได้ทำใจได้บอกลาครอบครัวหนูอีกสักหน่อยจะได้รึเปล่า ขอร้องล่ะค่ะท่านอย่าใจร้ายกับเด็กน้อยอย่างหนูนักเลยได้โปรดเถอะนะคะได้โปรดให้หนูได้ร่ำลาพวกเขาอีกสักนิดก่อนไปได้มั้ยคะได้โปรดล่ะหนูขอร้องนะคะท่าน"

------ตี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด------

       เสียงเครื่องวัดชีพจรร้องดังขึ้นยาวๆเพื่อแจ้งเตือนว่าคนไข้ได้เสียชีวิตแล้ว ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของสุชาดาถูกพ้นออกมาใส่หน้ากากเครื่องช่วยหายใจเพียงเสี้ยววินาทีแล้วก็หมดลงไปหลังจากนั้นในห้องก็มีแต่เสียงร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าและเสียใจกับการจากไปของผู้เป็นที่รักคนหนึ่งของครอบครัวพิเศษโสณี 

       สุชาดาหลั่งน้ำตาหยดสุดท้ายออกมาแล้วจากไปอย่างกายสงบแต่ภายในจิตใจกลับมีแต่ความหม่นหมองจิตใต้สำนึกของใจกลับเต็มไปด้วยคำขอร้องต่อสวรรค์หรือคนที่กุมอำนาจอยู่เบื้องบนฟ้าที่แสนไกล

"ชะดาลูกแม่!!!! ไม่นะได้โปรด...คุณแม่คะยัยยัยชะดาของเรา!!!!"

       คุณยายสายสมรถึงกับเป็นลมล้มพับไปเลยทันทีเมื่อรู้ว่าท้ายที่สุดแล้วก็ยื้อชีวิตน้อยๆของหลานสานคนโตเอาไว้ไม่ได้ ห้องพักฟื้นวีไอพีในตอนนี้มีแต่เสียงร้องไห้ของคนในครอบครัวของชาดา

       ส่วนคุณแม่บัวกับคุณยายสายสมรต่างกรีดร้องจนเสียงหลงเพราะทำใจไม่ได้กับการจากไปโดยไม่มีทางหวนกลับคืนของสุชาดา

"ชะดาลูกทำไมถึงได้มีชะตาอาภัพเช่นนี้นะลูกอายุก็เพิ่งจะแค่สิบเก้าปีเองทำไมถึงได้อายุสั้นขนาดนี้ หรือเป็นเพราะผีห่าซาตานตนไหนที่มันใจร้ายใจดำมาเอาลูกหลานของฉันไป ชะดาลูกยายขอร้องหนูเถอะนะหนูกลับมาหายายได้มั้ยยายใจจะขาดแล้วนะหนูอย่าทำแบบนี้กับยายเลยยายทำใจไม่ได้หรอกนะชะดาได้โปรด"

อีกหนึ่งซีกของมิติจักรวาลแสนไกล

ณ.กรุงบีดีมัลล์ แห่งฟลอเทียร์

"ท่านคะได้โปรดให้โอกาสหนูได้มีชีวิตอีกครั้งเถอะนะคะ ท่านคะหนูขอร้อง!!!!!"

       เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มสดใสนอนหลับอยู่บนเตียงเธอดิ้นไปดิ้นมาพร้อมกับพูดพร่ำเพ้อละเมออะไรออกมาโดยที่คนเป็นแม่ก็ฟังไม่ค่อยได้ความมากดีลิสเดรียเดินเข้าห้องมาปลุกผู้เป็นลูกสาวอย่างเช่นทุกๆ วันเพื่อไปทำงานให้ทันเวลา

"อิสซี!!! อิสซี!!!! ตื่นได้แล้วนะลูกรักสายแล้ว อิสซีจ๊ะอิสซี!!!"

"แม่คะ!!!! หนูยังไม่อยากตายพ่อคะช่วยหนูที"


                          จบตอน