เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2] - บทที่ 31 เบาะแส? โดย MIN-G @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น,เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก

รายละเอียด

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2] โดย MIN-G @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

ผู้แต่ง

MIN-G

เรื่องย่อ

จะเป็นอย่างไร... เมื่อความตายนั้นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต?


ชายวัย 31 ปีที่ทำแต่ความดีมาโดยตลอดเพราะเชื่อในเรื่องของสวรรค์และนรก แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงเพราะการทำความดี ซึ่งดวงวิญญาณของเขากลับไม่ไปบนสวรรค์ดั่งหวัง แต่ได้ไปเกิดใหม่ยังโลกแห่งเวทมนตร์และพลังเหนือธรรมชาติในชื่อ “คาอิดะ อาคุมุ” ลูกคนสุดท้ายของตระกูลคาอิดะ เขาจะทำอย่างไรเมื่อได้มาเกิดใหม่อีกครั้งในโลกใหม่และชีวิตใหม่!!

“ถ้าเป็นคนดีแล้วไม่ได้ไปสวรรค์…” 

“...แสดงว่าสวรรค์ไม่มีอยู่จริง”

“แล้วฉันจะทำความดีทำไมกันเล่า!!!” 



---------------------------------------------------

หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มิได้เจตนาพาดพิงถึงผู้ใดและไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่

หมายเหตุ 2 : ชื่อสิ่งต่าง ๆ ในนิยายเรื่องนี้เช่น สถานที่ เป็นชื่อที่เกิดจากจินตนาการของผู้แต่ง ไม่ได้มีจริงแต่อย่างใด

หมายเหตุ 3 : เครื่องหมายคำพูด (“ ”) คือการพูดปกติ 
เครื่องหมายคำพูด (‘ ’) คือการคิดในใจ

----------------------------------------------


ระดับของนักเวท
นักเวทระดับ 1
นักเวทระดับ 2
นักเวทระดับ 3
จอมเวทระดับ 1
จอมเวทระดับ 2
จอมเวทระดับ 3
ราชันจอมเวทระดับ 1 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 2 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 3 ดาว


ระดับของปีศาจเวทมนตร์
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 4
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 5
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 6
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3 ดาว

สารบัญ

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 31 เบาะแส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 32 นายน้อย?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 33 ผู้แข็งแกร่ง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 34 เปิดฉากการต่อสู้,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 35 การต่อสู้ระดับสูง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 36 “นายน้อยต้องมีชีวิตต่อไปนะครับ...”,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 37 เรื่องราวที่เกิดขึ้น,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 38 เริ่มต้นการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 39 ความแปลกใหม่ของทักษะ,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 40 ผลประโยชน์อันมหาศาล,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 41 สิ้นสุดการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 42 กลไกในสนามประลอง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 43 สู่สนามประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 44 เริ่มต้นการประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 45 เล่นเป็นนักยิงธนู,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 46 เล่ห์เหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 47 เพื่อชัยชนะย่อมไม่เลือกวิธีการ?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 48 เหลี่ยมเหนือเหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 49 การประลองเพียงครั้งเดียว?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 50 ดาบแห่งราชัน?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 51 ผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 52 พลังที่แท้จริง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 53 คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 54 รอบ 8 คนสุดท้าย,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 55 ราชันจอมเวทอาวุโส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 56 เริ่มการประลองแบบกลุ่ม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 57 ความได้เปรียบเป็นศูนย์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 58 ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 59 หนึ่งรุมหก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 60 มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]

เนื้อหา

บทที่ 31 เบาะแส?

บทที่ 31 : เบาะแส?

“ถ้าเป็นแบบนั้น... ผมก็คงไม่ต้องกินมันแล้วล่ะครับ ข้าวน่ะ” ว่าแล้วอาคุมุก็สร้างวงแหวนเวทขึ้นมานับสิบวง ซึ่งแต่ละวงนั้นอยู่ห่างจากตัวเขาออกไปไม่มากนัก

“แสงอัสนีบาต!!”

ทักษะแสงอัสนีบาตที่ออกมาจากวงแหวนเวทได้พุ่งตรงไปยังรอบทิศ ทั้งบนฟ้า ด้านหน้า และบนพื้น จนเกิดแรงปะทะและเสียงที่ดังสนั่น

ตู้มมม!!!

“หึหึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แหม ๆ นึกว่าจะมีอะไรมากกว่านี้ซะอีกนะเนี่ย นายนี่จะทำให้ฉันขำไปอีกนานแค่ไหนกัน ที่พูดออกมานั่นทำเอาฉันตกใจเลยนะ”

‘คาดเดาไม่ได้เลยว่าไอ้หมอนี่มันซ่อนตัวยังไง ไม่รู้วิธีที่จะออกไปจากของแบบนี้ด้วยสิ บ้าชะมัด’ ในตอนนี้อาคุมุได้พบกับวิกฤตอย่างแท้จริง เพราะเขตแดนพลังเวทนั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน การที่จะทำลายมันนั้น เขาก็ไม่รู้ว่าสามารถทำได้ด้วยวิธีใด แม้แต่หาตัวตนของผู้ใช้งานก็ยังทำไม่ได้ ข้อมูลเกี่ยวกับการรับมือสถานการณ์แบบนี้เป็นศูนย์

‘ฝืนโจมตีไปก็มีแต่จะผลาญพลังเวทไปเสียเปล่า’

“ออกมาสู้กันตรง ๆ จะไม่ดีกว่าเหรอครับ? หรือสู้กับเด็กก็ยังต้องใช้วิธีนี้น่ะ? ปอดแหกมากเลยนะครับ” อาคุมุพูดออกไปอย่างนั้น เพราะตัวเขาเองก็คิดหาทางที่จะเอาชนะศัตรูไม่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว

“นายพูดแบบนี้เป็นครั้งที่สองแล้วนะเจ้าหนู ฉันน่ะหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวนายมาก่อนแล้ว ระดับในตอนนี้คงไม่รู้จักสิ่งที่ฉันใช้อยู่ใช่ไหมล่ะ? ฉันพูดถูกไหม? ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”

“เอ๋?!”

คำตอบที่อาคุมุได้รับกลับมานั้นทำให้เขาตกใจเล็กน้อย เพราะศัตรูที่เขากำลังต่อสู้ด้วยอยู่นั้น เป็นศัตรูที่หาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขามาล่วงหน้าอีกแล้ว

‘ทำไมฉันถึงมีคู่อริเยอะจังเลยนะ’

“คือว่า สุดท้ายแล้วคุณก็รู้จักผมสินะครับ? หรือว่าใครสั่งให้มาพาตัวผมไปอีกล่ะ? ตอนนี้ผมค่อนข้างที่จะยุ่งอยู่พอสมควรน่ะครับ”

“รู้สึกตัวช้าไปหรือไงกันนะ... หึหึ”

เสียงนั้นดังขึ้นข้าง ๆ หูของอาคุมุ ซึ่งนั่นทำให้เขาขนลุกซู่และตกใจเป็นอย่างยิ่ง

“อะ...”

“เอานี่ไปกิน!!!”

“อั่ก!!? ฮึบ!”

สิ้นเสียงของอาคุมุ ก่อนที่ร่างกายของเขาจะกระเด็นหายไปในความมืดมิด เขาได้สัมผัสตัวของศัตรูไปเล็กน้อย

เดิมทีช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงที่ท้องฟ้ามืดมิดเกินกว่าจะบรรยายแล้ว หากแต่ยังมีแสงของไฟสลัว ๆ ข้างทาง แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ตาม ภายในเขตแดนพลังเวทนี้ก็มืดเสียจนบดบังวิสัยทัศน์ไปหมดแล้ว โอกาสที่อาคุมุจะโต้กลับได้นั้นแทบจะไม่มี

“จ... เจ็บชะมัดเลย นี่ฉันโดนต่อยหรืออะไรกันเนี่ย หมัดหนักขนาดนี้ยังใช่คนอยู่ไหม?”

“โอ๊ะโอ~ เหมือนจะยังไม่ตายสินะ” เสียงนั้นดังกึกก้องขึ้นมาอีกครั้ง

‘หลอนเป็นบ้า แต่หวังว่าฉันคงจะไม่เป็นบ้าตายเพราะหมอนี่นะ’ คำพูดบางอย่าง อาคุมุทำได้แค่คิดในใจ เพราะถ้าเขาพูดมันออกมาจนแสดงให้เห็นถึงความกลัวล่ะก็ การที่จะชนะและออกไปจากเขตแดนพลังเวทแห่งนี้คงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้

“ถ้ารู้จักผมจริง ๆ ก็ต้องรู้สิครับว่าผมไม่ได้อ่อนปวกเปียกขนาดนั้น โดนต่อยครั้งเดียวตายเนี่ยนะ? เหอะ! เพ้อเจ้อครับลุง”

“หึหึ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า! พูดจาใหญ่โตจังเลยนะ ที่แกโดนไปหมัดเดียวก็ทำแกร้องโอดโอยได้ไม่ใช่หรือไง?!!” เสียงนั้นดังขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนจากการพูดเบา ๆ สบาย ๆ กลายเป็นตวาดด้วยความโมโห

“สุดท้ายก็พ่ายคำพูดสินะครับ” อาคุมุพูดตอบกลับไปด้วยความมั่นใจ พร้อมกับหันหน้าไปตามเสียงนั้น และนั่นเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มุมปากของอาคุมุ

“พล่ามอะไรของแก?!”

“ระเบิด!!”

ตู้มมมมม

“เฮือก?!! อึ่ก!...”

ได้มีการระเบิดเกิดขึ้นบริเวณข้างบน ซึ่งนั่นคือทิศทางที่อาคุมุหันไปตามเสียง

“ได้ผลด้วย ถือว่าใช้ได้แฮะ เยี่ยมเลย”

เขตแดนพลังเวทที่อาคุมกำลังเผชิญอยู่นั้นค่อย ๆ เบาบางลง กระทั่งมันหายไปจนหมดและเผยให้เห็นโลกภายนอกที่ซึ่งดูปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“อยู่บนนั้นเองหรอกเหรอ?” อาคุมุมองขึ้นไปยังตำแหน่งของศัตรูปริศนา ซึ่งตำแหน่งนั้นคือบนหลังคาของตึกแห่งหนึ่งใกล้ ๆ กัน

‘หวังว่าทักษะเขตแดนนั้นจะใช้ได้แค่ครั้งเดียวนะ’

“สร้างวงแหวน–” 

“ความมืดโอบล้อม!!”

อาคุมุยังไม่ทันได้สร้างวงแหวนเวทเพื่อเคลื่อนที่ไปข้างบนแต่อย่างใด ศัตรูปริศนาคนนั้นก็ได้ใช้พลังเวทเพื่อกีดกันอาคุมุไม่ให้เข้าถึงตนเองได้

“เวทแห่งความมืดงั้นสิ” อาคุมุพูดพลางสัมผัสพลังเวทแห่งความมืดที่ก่อตัวขึ้นเป็นกำแพง ซึ่งเป็นเวทป้องกันเพียงเท่านั้น แต่การที่เขาจะทำลายเวทป้องกันของคนในระดับนี้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย

“การต่อสู้จบลงเพียงเท่านี้แหละเจ้าหนู” ชายปริศนาคนนั้นยืนขึ้นราวกับว่าตนเองไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย ซึ่งนั่นไม่ใช่ปฏิกิริยาของคนที่โดนโจมตีจนเปิดปากร้องออกมาเลยแม้แต่น้อย และชายคนนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะโต้กลับแต่อย่างใด

“จบ? งั้นเหรอครับ?” อาคุมุตอบกลับไป ซึ่งเขารู้สึกได้ถึงความแปลกพิกล จึงเตรียมพร้อมที่จะรับมือ

“ใช่ นายฟังฉันไม่ผิดหรอก”

‘นี่มัน... อะไรเนี่ย? แปลกชะมัด’

ท่าทางของชายคนนั้นเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากการฟังน้ำเสียงก็รับรู้ได้ว่าเป็นคนที่ใจร้อนและบ้าบิ่น ซึ่งตอนนี้กลายเป็นคนที่ดูใจเย็นไปในพริบตา แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ตาม อาคุมุยังคงไม่ประมาทเมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรู เพราะเขาได้รับบทเรียนครั้งก่อนมาแล้ว

“อย่าวางมาดให้ดูขรึมแบบนั้นสิครับ การพูดของคุณตอนเข้ามาต่อยผมน่ะทำให้ผมหลอนมากเลยนะ ลืมไม่ลงหรอกครับ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันต้องขอโทษด้วยแล้วกันนะ”

นั่นทำให้อาคุมุรู้สึกแปลกใจอีกครั้ง เพราะการหัวเราะแบบนี้นั้นไม่ใช่แบบที่เขารู้สึกเมื่อตอนสู้กันเลยแม้แต่น้อย

“บอกมาเถอะครับ... ว่าคุณต้องการอะไร?” อาคุมุถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากขึ้น

“ก่อนอื่นเลย ขอถามเรื่องการโจมตีของนายก่อน ที่นายโจมตีฉันได้นั่นก็เพราะว่านายแตะตัวฉันได้ใช่ไหม? นายติดเวทเครื่องหมายไว้บนตัวฉันเหรอ?”

“เอ่อ เวทเครื่องหมายคืออะไรครับ?”

“ห๊า?!! ไม่รู้จักหรอกเรอะ?! บ้าจริง นี่ฉันโดนอะไรก็ไม่รู้เนี่ยนะที่ทำให้เขตแดนถูกทำลายลง ทั้งยังเป็นเด็กด้วยเนี่ยสิ ฉันควรจะเรียกว่าอัจฉริยะตามที่เขาบอกมาไหมล่ะเนี่ย ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลย...” ชายคนนั้นบ่นพึมพำอยู่คนเดียว

“คือว่า ช่วยตอบผมก่อนสิครับ ผมก็ตอบคำถามไปแล้วนี่ว่าผมไม่รู้น่ะ” อาคุมุพูดออกไปทั้งอย่างนั้น

“ฉันไม่บอกหรอก ให้นายไปศึกษาเองก็แล้วกัน แต่สิ่งที่ฉันจะมาบอกนายวันนี้น่ะ คือเบาะแสของพ่อนาย”

“อะไรนะ?!” อาคุมุที่ได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง คาดไม่ถึงว่าคนที่ลงมือกับตนเองจะเป็นคนที่มาบอกข้อมูลเกี่ยวกับพ่อของตนเอง

“แล้วก็ช่วยลืมท่าทางบ้า ๆ ที่ฉันทำตอนสู้ด้วยล่ะ”