เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2] - บทที่ 32 นายน้อย? โดย MIN-G @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น,เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก

รายละเอียด

เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

ผู้แต่ง

MIN-G

เรื่องย่อ

จะเป็นอย่างไร... เมื่อความตายนั้นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต?


ชายวัย 31 ปีที่ทำแต่ความดีมาโดยตลอดเพราะเชื่อในเรื่องของสวรรค์และนรก แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงเพราะการทำความดี ซึ่งดวงวิญญาณของเขากลับไม่ไปบนสวรรค์ดั่งหวัง แต่ได้ไปเกิดใหม่ยังโลกแห่งเวทมนตร์และพลังเหนือธรรมชาติในชื่อ “คาอิดะ อาคุมุ” ลูกคนสุดท้ายของตระกูลคาอิดะ เขาจะทำอย่างไรเมื่อได้มาเกิดใหม่อีกครั้งในโลกใหม่และชีวิตใหม่!!

“ถ้าเป็นคนดีแล้วไม่ได้ไปสวรรค์…” 

“...แสดงว่าสวรรค์ไม่มีอยู่จริง”

“แล้วฉันจะทำความดีทำไมกันเล่า!!!” 



---------------------------------------------------

หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มิได้เจตนาพาดพิงถึงผู้ใดและไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่

หมายเหตุ 2 : ชื่อสิ่งต่าง ๆ ในนิยายเรื่องนี้เช่น สถานที่ เป็นชื่อที่เกิดจากจินตนาการของผู้แต่ง ไม่ได้มีจริงแต่อย่างใด

หมายเหตุ 3 : เครื่องหมายคำพูด (“ ”) คือการพูดปกติ 
เครื่องหมายคำพูด (‘ ’) คือการคิดในใจ

----------------------------------------------


ระดับของนักเวท
นักเวทระดับ 1
นักเวทระดับ 2
นักเวทระดับ 3
จอมเวทระดับ 1
จอมเวทระดับ 2
จอมเวทระดับ 3
ราชันจอมเวทระดับ 1 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 2 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 3 ดาว


ระดับของปีศาจเวทมนตร์
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 4
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 5
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 6
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3 ดาว

สารบัญ

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 31 เบาะแส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 32 นายน้อย?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 33 ผู้แข็งแกร่ง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 34 เปิดฉากการต่อสู้,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 35 การต่อสู้ระดับสูง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 36 “นายน้อยต้องมีชีวิตต่อไปนะครับ...”,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 37 เรื่องราวที่เกิดขึ้น,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 38 เริ่มต้นการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 39 ความแปลกใหม่ของทักษะ,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 40 ผลประโยชน์อันมหาศาล,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 41 สิ้นสุดการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 42 กลไกในสนามประลอง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 43 สู่สนามประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 44 เริ่มต้นการประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 45 เล่นเป็นนักยิงธนู,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 46 เล่ห์เหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 47 เพื่อชัยชนะย่อมไม่เลือกวิธีการ?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 48 เหลี่ยมเหนือเหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 49 การประลองเพียงครั้งเดียว?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 50 ดาบแห่งราชัน?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 51 ผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 52 พลังที่แท้จริง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 53 คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 54 รอบ 8 คนสุดท้าย,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 55 ราชันจอมเวทอาวุโส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 56 เริ่มการประลองแบบกลุ่ม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 57 ความได้เปรียบเป็นศูนย์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 58 ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 59 หนึ่งรุมหก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 60 มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]

เนื้อหา

บทที่ 32 นายน้อย?

บทที่ 32 : นายน้อย?

“เบาะแสเกี่ยวกับพ่อเนี่ยนะ?”

“อืม” ชายคนนั้นยังคงอยู่ข้างบนและไม่ได้ลงมาข้างล่างเพื่อพูดคุยกับอาคุมุแต่อย่างใด รวมถึงเวทป้องกันของเขาก็ยังไม่คลายออก

“คนที่จู่ ๆ ก็มาลอบโจมตีกันแบบนี้จะมาบอกว่ารู้ข้อมูลเกี่ยวกับพ่อของผม… ต้องทำยังไงถึงจะเชื่อลงล่ะครับ” อาคุมุพูดออกไปด้วยความสงสัย

“ถึงจะทำให้นายเชื่อได้ยาก…”

“เอ๋?”

ในขณะที่ชายคนนั้นกำลังพูด เวทป้องกันที่อาคุมุสัมผัสอยู่ก็ค่อย ๆ จางลง

“ลุงคิดจะทำอะไร?”

พร้อมกับตัวผู้ใช้พลังเวทที่ลงมาคุกเข่าข้างหนึ่งที่พื้นตรงหน้าอาคุมุ แต่แน่นอนว่าอาคุมุก็ยังคงไม่เห็นหน้าของชายคนนั้นอย่างชัดเจน

‘เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เลย ไม่สิ ฉันรู้สึกว่าหมอนี่มันบ้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว’

“ถึงจะเจอกันครั้งล่าสุดตอนที่ท่านยังไม่ถือกำเนิด แต่สบายดีใช่ไหมครับ… นายน้อย” ชายคนนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราวกับว่ามีความในใจอยู่มากมาย น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี ไร้กังวล

แต่เป็นทางด้านของอาคุมุเองที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน พร้อมกับทิ้งระยะห่างออกจากชายคนนั้น

“นายน้อยเนี่ยนะ?! นี่ลุงจะงัดไม้ตายแบบนี้มาหลอกล่อผมเหรอ?!! แสงอัสนีบาต!!” วงแหวนเวทห้าวงได้ปรากฏขึ้นรอบตัวของชายปริศนาคนนั้น อาคุมุโจมตีไปโดยไม่ลังเล

ซึ่งชายคนนั้นยังคงคุกเข่าอยู่ในท่าเดิม ไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด จนกระทั่งการโจมตีของอาคุมุได้ถูกส่งไปถึงตัวของเขา

ตู้มมม!!!

ชายคนนั้นยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมและท่าเดิม แต่ที่แปลกไปคือเขาไม่มีการตอบโต้ต่อการโจมตีแต่อย่างใด ไม่แม้แต่ขยับตัว

“ผมก็รู้อยู่หรอกว่าระดับของผมในตอนนี้ไม่สามารถทำให้ลุงบาดเจ็บหนักได้ แต่ทำไมถึงไม่หลบหรือป้องกันล่ะ?”

สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านี้อาจทำให้อาคุมุเชื่อคำพูดของชายปริศนาได้ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม อาคุมุนั้นไม่อยากจะเชื่ออะไรโดยง่ายมากนัก เพราะตัวเขาเองก็ไม่อยากมาพลาดท่าด้วยคำพูดอีกเช่นกัน

“กระผมคงไม่ต้องพูดอะไรให้มากความหรอกครับนายน้อย ต้องขออภัยด้วยที่ไม่ได้ดูแลท่านหลังจากนั้น นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว จนท่านโตขนาดนี้ แต่ตัวกระผมเพิ่งจะได้พบท่าน ชีวิตนี้ของกระผมขึ้นอยู่กับท่านแล้วครับนายน้อย กระผมขอรับโทษแต่โดยดี”

ความเงียบงันจากบุคคลทั้งสองได้เกิดขึ้น มีเพียงเสียงของสายลมที่พัดผ่าน แสงไฟสลัวท่ามกลางความมืดในเวลานี้ คำพูดของชายปริศนาไม่ได้รับการตอบกลับจากอาคุมุแต่อย่างใด

‘ฉันจะรู้ได้ไงว่ามันเป็นความจริงหรือเรื่องโกหก? ความทรงจำของฉันในโลกใบนี้ก็เริ่มขึ้นเมื่อตอนที่ฉันเกิดมาแล้ว ก่อนหน้านี้ที่ฉันยังไม่ได้เกิดก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไง… ตัวฉันเหรอ? ก่อนหน้านี้เป็นใครมาก่อนนะ’

ในตอนนี้อาคุมุทำได้แค่เพียงคิดเรื่องราวของความทรงจำไว้ในใจ เค้าไม่สามารถพูดมันออกมาได้

“ลุงจะบอกว่าลุงเป็นใครนะครับ?”

“กระผมคือองครักษ์ หรือก็คือผู้ที่จะมาเป็นมือขวาให้ท่าน "ฟูมิ คาเอเกะ" ครับ” ชายปริศนาคนนั้นตอบกลับมาในทันที ซึ่งดูเหมือนว่าจะยังไม่ใช่คำตอบที่อาคุมุต้องการเท่าไรนัก

“ก่อนจะมาเป็นองครักษ์ให้ผม ต้องเป็นองครักษ์ให้พ่อมาก่อนน่ะสิ พ่อผมไม่เคยแนะนำเรื่องการเปิดเผยตัวตนหรือไงครับ มืดขนาดนี้ผมมองแทบไม่เห็นหน้าเลยนะ”

นี่คือสิ่งที่อาคุมุอยากจะพูดมาตั้งแต่ตอนที่หยุดต่อสู้ เพราะคนที่ไม่ได้มาร้ายจริง ๆ คงไม่ปิดบังตัวตนมาจนถึงตอนนี้

“ต้องขออภัยที่กระผมใช้เวทแห่งความมืดจนชิน ไม่ว่าจะทำภารกิจอะไรก็ต้องมาในยามวิกาลตลอด” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับยืนขึ้น ออร่าสีดำจาง ๆ รอบตัวเขาเริ่มเบาบางลง ใบหน้าและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเริ่มปรากฏให้เห็นได้ชัดขึ้น

‘แบบนี้ก็ยังคงมืดอยู่ เขาเรียกว่าคุมโทนหรือเปล่านะ’

ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าอาคุมุนั้นอาจเรียกได้ว่ามีรุ่นราวคราวเดียวกันกับอิซามุ ใบหน้าตามช่วงอายุที่สามารถบ่งบอกได้เลยว่าอายุไม่มากแต่ก็มีประสบการณ์มาไม่น้อย รอยแผลเป็นที่ตาข้างซ้าย ซึ่งเป็นดวงตาที่ปิดสนิท หรือเรียกได้ว่าตาบอดข้างหนึ่ง สีผมที่ดำทมิฬ เสื้อคลุมนอกและเสื้อยืดข้างใน กางเกงขายาว รวมถึงถุงมือก็ยังคงเป็นสีดำ

หากมองผิวเผินแบบไม่คิดอะไรและไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ชายคนนี้ก็คือมือสังหารดี ๆ นี่เอง

“การใช้พลังเพื่อการพลางตัวตลอดการทำภารกิจ แล้วก็การที่ใช้ข้อได้เปรียบในเรื่องของความมืดโดยการทำภารกิจตอนกลางคืน เอาเป็นว่ากลับเป็นเหมือนเดิมดีกว่าครับ” อาคุมุพูดจบ เขาก็หันหลังให้คาเอเกะ

“ครับนายน้อย” คาเอเกะที่ได้ยินอย่างนั้นก็ได้กลับเข้าสู่สภาพเดิมที่มีออร่าสีดำจาง ๆ รอบตัว

“เข้าเรื่องได้แล้ว… ถ้าลุงเป็นอย่างที่ว่ามาจริง ๆ ล่ะก็ ช่วยเล่าสิ่งที่ผมควรรู้ให้ฟังหน่อยนะครับ” อาคุมุพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ พร้อมกับนั่งลงบนพื้นตรงจุดเดิมที่เขาอยู่ ไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหนแต่อย่างใด

“ไม่มีปัญหาครับ” ว่าแล้วคาเอเกะก็นั่งลงตรงหน้าอาคุมุ

“นายท่านอิซามุ…ไม่ได้เป็นมนุษย์เหมือนอย่างที่ท่านคิดหรอกครับ ร่างจริงของเขาน่ะ”

“อ… อะไรนะ?”
คำพูดเพียงประโยคเดียวของคาเอเกะนั้นทำให้อาคุมุตกใจอย่างสุดขีด เขาไม่สามารถที่จะเอ่ยคำใด ๆ ออกมาได้หลังจากได้ยินเรื่องแบบนั้น ถึงแม้อาคุมุจะคิดไว้อยู่แล้วว่าอิซามุนั้นยังไม่ตายและไม่ใช่คนธรรมดา แต่นี่เขาได้ยินจากปากคนที่บอกว่าเป็นองครักษ์ของอิซามุ ทั้งยังบอกว่าอิซามุนั้นไม่ใช่คนอีก มันเกินกว่าที่เขาคิดไว้

“นี่… นี่ลุงล้อผมเล่นเหรอ?” อาคุมุก็ยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน

“กระผมไม่ทำอย่างนั้นเพื่อให้เสียเวลาอันมีค่าของท่านแน่นอนครับ” คาเอเกะตอบกลับไป

“ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งฟังดูเพ้อเจ้อหรือเกินกว่าที่จะเชื่อได้ แต่มันเป็นความจริงครับนายน้อย”

ด้วยความที่อาคุมุนั้นได้สัมผัสตลอดมา ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงร่างแยก แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงตัวตนของผู้เป็นพ่อ

“ทำไมลุงถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่? จากการต่อสู้ก็คงไม่ได้รู้ว่าเป็นผมหรอกใช่ไหม?” อาคุมุเอ่ยปากถาม

“หลังจากการล่มสลายของตระกูลคาอิดะ ถ้าจะนับตอนที่ตระกูลล่มสลายจริง ๆ ก็คงเป็นตอนที่ท่านยังไม่ถือกำเนิด ในตอนนั้นกระผมได้ถูกจับตัวไปเป็นหน่วยลาดตระเวนขององค์จักรพรรดิครับ จนมาถึงตอนนี้ กระผมได้เป็นมือสังหารประจำตัวขององค์จักรพรรดิไปแล้ว”

“องค์จักรพรรดิ… อีกแล้วเหรอ?”

สิ่งที่คาเอเกะพูดออกมานั้นทำให้อาคุมุตกใจอีกครั้ง เพราะในตอนนี้ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเรื่องราวจากใคร ไม่ว่าสิ่งไหนก็ได้มีความเกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิไปเสียทุกเรื่อง

“อีกแล้ว? หมายถึงอะไรเหรอครับนายน้อย?”

“ลุงมาที่นี่เพราะภารกิจใช่ไหมครับ จักรพรรดินั่นสั่งการมาว่าอะไร?” อาคุมุถามย้อนกลับไปถึงภารกิจที่องค์จักรพรรดิอาจมอบให้คาเอเกะ

“เขาบอกว่าให้กระผมไปพาตัวเด็กที่ชื่อว่าอาคุมุกลับมา ตำแหน่งที่คาดว่าอาจจะซ่อนตัวอยู่คงเป็นแถว ๆ นี้ หรือก็คืออยู่กับองค์ชายชูยะ เอิ่ม… ไม่ก็ชื่ออะไรสักอย่างนี่แหละครับ”

“แต่ในตอนนั้นกระผมน่ะคิดว่าท่านคงไม่สามารถอยู่รอดได้มาจนถึงปัจจุบันนี้ และคิดตื้น ๆ ว่าอาจจะเป็นเด็กที่มีชื่อเหมือนกัน ถึงแม้ว่ามีข้อมูลทุกอย่างแล้วก็ตาม กระผมก็แทบจะไม่ได้เอะใจเลยแม้แต่น้อย จึงมาทำตามภารกิจเท่านั้นครับ”

“จนกระทั่งได้สู้กันจริง ๆ และเริ่มคิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ”

‘บางทีฉันก็ปวดหัวกับเรื่องที่เจอเหมือนกันนะเนี่ย’