เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2] - บทที่ 34 เปิดฉากการต่อสู้ โดย MIN-G @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น,เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก

รายละเอียด

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2] โดย MIN-G @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

ผู้แต่ง

MIN-G

เรื่องย่อ

จะเป็นอย่างไร... เมื่อความตายนั้นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต?


ชายวัย 31 ปีที่ทำแต่ความดีมาโดยตลอดเพราะเชื่อในเรื่องของสวรรค์และนรก แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงเพราะการทำความดี ซึ่งดวงวิญญาณของเขากลับไม่ไปบนสวรรค์ดั่งหวัง แต่ได้ไปเกิดใหม่ยังโลกแห่งเวทมนตร์และพลังเหนือธรรมชาติในชื่อ “คาอิดะ อาคุมุ” ลูกคนสุดท้ายของตระกูลคาอิดะ เขาจะทำอย่างไรเมื่อได้มาเกิดใหม่อีกครั้งในโลกใหม่และชีวิตใหม่!!

“ถ้าเป็นคนดีแล้วไม่ได้ไปสวรรค์…” 

“...แสดงว่าสวรรค์ไม่มีอยู่จริง”

“แล้วฉันจะทำความดีทำไมกันเล่า!!!” 



---------------------------------------------------

หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มิได้เจตนาพาดพิงถึงผู้ใดและไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่

หมายเหตุ 2 : ชื่อสิ่งต่าง ๆ ในนิยายเรื่องนี้เช่น สถานที่ เป็นชื่อที่เกิดจากจินตนาการของผู้แต่ง ไม่ได้มีจริงแต่อย่างใด

หมายเหตุ 3 : เครื่องหมายคำพูด (“ ”) คือการพูดปกติ 
เครื่องหมายคำพูด (‘ ’) คือการคิดในใจ

----------------------------------------------


ระดับของนักเวท
นักเวทระดับ 1
นักเวทระดับ 2
นักเวทระดับ 3
จอมเวทระดับ 1
จอมเวทระดับ 2
จอมเวทระดับ 3
ราชันจอมเวทระดับ 1 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 2 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 3 ดาว


ระดับของปีศาจเวทมนตร์
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 4
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 5
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 6
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3 ดาว

สารบัญ

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 31 เบาะแส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 32 นายน้อย?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 33 ผู้แข็งแกร่ง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 34 เปิดฉากการต่อสู้,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 35 การต่อสู้ระดับสูง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 36 “นายน้อยต้องมีชีวิตต่อไปนะครับ...”,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 37 เรื่องราวที่เกิดขึ้น,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 38 เริ่มต้นการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 39 ความแปลกใหม่ของทักษะ,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 40 ผลประโยชน์อันมหาศาล,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 41 สิ้นสุดการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 42 กลไกในสนามประลอง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 43 สู่สนามประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 44 เริ่มต้นการประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 45 เล่นเป็นนักยิงธนู,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 46 เล่ห์เหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 47 เพื่อชัยชนะย่อมไม่เลือกวิธีการ?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 48 เหลี่ยมเหนือเหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 49 การประลองเพียงครั้งเดียว?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 50 ดาบแห่งราชัน?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 51 ผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 52 พลังที่แท้จริง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 53 คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 54 รอบ 8 คนสุดท้าย,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 55 ราชันจอมเวทอาวุโส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 56 เริ่มการประลองแบบกลุ่ม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 57 ความได้เปรียบเป็นศูนย์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 58 ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 59 หนึ่งรุมหก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 60 มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]

เนื้อหา

บทที่ 34 เปิดฉากการต่อสู้

บทที่ 34 : เปิดฉากการต่อสู้

ด้วยความแข็งแกร่งของศัตรูที่อยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าไม่มีทางที่อาคุมุและคาเอเกะจะสามารถหนีไปได้โดยง่าย สิ่งที่เลือกได้ในตอนนี้มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และในตอนนี้ซาบาราชิก็ยังคงลอยค้างอยู่ในอากาศ ไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหนแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่เปิดฉากโจมตีต่อจากเมื่อครู่

“ถ้าไม่สู้ ก็คงไม่ใช่เราใช่ไหมครับนายน้อย?”

“แต่ว่าระดับพลังต่างกันขนาดนี้ ถ้าผมเลือกได้ขอเอาตัวรอดก่อนดีกว่า ผมยังอยากใช้ชีวิตอยู่นะ แต่ในเมื่อมันเลือกไม่ได้ก็ต้องสู้อย่างเดียวครับ โค่นตาเฒ่านั่นให้ได้นะครับลุงคาเอเกะ”

“เอ๋… นายน้อยนี่มีอารมณ์ขันจริง ๆ เลยนะครับ”

แต่ในขณะที่อาคุมุพูดอยู่นั้น เขาก็ได้ทำบางอย่างไปพร้อม ๆ กันด้วย

“หมดเวลาสนทนา เลิกคุยกันแบบไม่เห็นหัวฉันสักที!” ซาบาราชิระเบิดพลังออกมาด้วยความหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด

“เจอแล้ว! แสงอัสนีบาตยักษ์!!!” วงแหวนเวทสีฟ้าปรากฏขึ้นที่ข้อมือของอาคุมุ และวงแหวนเวทสีฟ้าเข้มขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่พื้นทางใต้ในจุดที่ซาบาราชินั้นลอยเหนืออยู่

ตู้มมม!!!

เสียงระเบิดดังลั่นจากการโจมตีในครั้งนี้ ควันจากการโจมตีก็กระจายไปทั่ว

อาคุมุได้เปิดฉากการต่อสู้ในครั้งนี้แล้ว

“นี่คือสิ่งที่นายน้อยคิดไว้เหรอครับ?” คาเอเกะกล่าวถาม

“ถึงมันจะไม่ได้ผลก็เถอะนะ แต่ผมใส่พลังไปค่อนข้างที่จะเยอะเลยล่ะครับ” ถึงจะใช้ทักษะเดิม ๆ ก็ตาม แต่ถือเป็นทักษะที่ใช้งานได้ดีอย่างหนึ่งของอาคุมุ นั่นก็เพราะว่าเขาฝึกมาเพียงเท่านี้

“อืม… ถือว่าทำได้ดีเลยเจ้าหนู สำหรับเด็กตัวแค่นี้แต่กลับใช้ทักษะที่มีพลังโจมตีรุนแรงมาก”

“เดี๋ยวนะ เราแย่แล้วครับนายน้อย!” คาเอเกะสังเกตได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งนั่นก็คือ…

“หรือว่า ที่มันยังไม่เช้าเหรอครับ? แล้วก็การต่อสู้ที่บริเวณนี้”

“เขตแดนพลังเวทครับนายน้อย!!”

สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้คืออาคุมุและคาเอเกะถูกจำกัดการเคลื่อนที่ไว้ในเขตแดนพลังเวทของซาบาราชิ ซึ่งผลกระทบจากเขตแดนที่จะแสดงให้เห็นต่อจากนี้ก็ยังไม่สามารถทราบได้

“หึหึ เพิ่งรู้สึกตัวตอนนี้มันก็ช้าเกินไปแล้วล่ะนะ เพราะฉันขยายเขตแดนสีชาดของฉันมาครอบคลุมไว้ตั้งแต่การโจมตีแรกแล้ว! ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!”

“อะไรนะ?!”

สิ่งที่อาคุมุกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้คือการสร้างเขตแดนพลังเวทของจอมเวทระดับสูง ซึ่งจอมเวทระดับสูงด้วยกันอย่างคาเอเกะเองก็ไม่สามารถรับรู้ถึงเขตแดนที่ซาบาราชิสร้างขึ้นมาได้ นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายมากเป็นอย่างยิ่ง

‘ตาลุงทั้งสองคนนี้มีพลังต่างกันลิบลับเลยหรือยังไงกันนะ ลุงคาเอเกะอาจจะรับรู้ได้บ้างสิ นี่มันบ้าอะไรเนี่ย’

“ใช้วิธีไหนดีล่ะครับลุงคาเอเกะ? ผมรู้สึกหมดหนทาง”

“ถึงเวลากระผมลุยบ้างแล้วครับนายน้อย” คาเอเกะตอบกลับมาก่อนที่เขาจะทำการร่ายเวทอะไรบางอย่าง

“แล้วฉันควรจะทำยังไงดีนะ ง่วงก็ง่วง เรื่องฝึกก็อยากฝึก แต่สู้ก็อยากสู้ ฉันคงพอสะกิดตาแก่นั่นได้บ้างล่ะ” อาคุมุบ่นพึมพำอยู่คนเดียว

“ก่อนอื่นเลย กระผมคงต้องป้องกันนายน้อยไว้ก่อน… ความมืดโอบล้อม!”

“ห๊า?!! ลุงอย่าทำแบบนี้เส้!!”

คาเอเกะนั้นใช้ทักษะป้องกันของเขาครอบคลุมพื้นที่ที่อาคุมุยืนอยู่และบริเวณโดยรอบเล็กน้อย เพื่อที่อาคุมุจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากพลังในการต่อสู้ของตนเองและซาบาราชิ

“ขอโทษด้วยครับนายน้อย แต่ศึกนี้หนักพอตัว จะให้นายน้อยเป็นอะไรไปไม่ได้” คาเอเกะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ และไม่แสดงสีหน้าแต่อย่างใด

“ถึงจะไม่รับประกันว่าสามารถป้องกันได้ตลอด แต่ทักษะนี้จะอยู่ได้นานถ้าไม่ถูกโจมตีด้วยทักษะที่รุนแรงมากเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นหายห่วงได้ครับนายน้อย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป พร้อมกับยกยิ้มเล็กน้อย

“ขอบคุณ… นะครับ”

‘แต่ตอนนี้ฉันไม่ห่วงตัวเองแล้วเนี่ยสิ ทำไมกันนะ ทำไมถึงรู้สึกแปลก ๆ ได้ อะไรจะเกิดขึ้นกับลุงคาเอเกะหรือไง?… ปากเสียชะมัด’

“จับตาดูไว้ให้ดีนะครับนายน้อย การต่อสู้ระดับสูงน่ะ”

‘ตอนนี้ฉันต้องเป็นฝ่ายที่ดูอยู่เงียบ ๆ เหรอเนี่ย ถ้าฉันพูดจาปากโป้งแล้วไอ้แก่นั่นหันมาโจมตีฉัน มันจะลำบากลุงคาเอเกะมากกว่าเดิมหลายเท่า เพราะฉะนั้น… ผมจะพยายามเป็นผู้ชมที่ดีนะครับ’

“แกได้เปรียบฉันตั้งแต่ที่แกสร้างเขตแดนขึ้นมาแล้ว จะสู้แบบเท่าเทียมกันได้หรือไม่?” คาเอเกะกล่าวถามกับซาบาราชิ

“หืม? แกนี่มันหมาจนตรอกถึงขนาดว่าต้องการให้ฉันอ่อนข้อให้เลยเหรอ? กระจอกชะมัด”

‘หรือว่าแท้จริงแล้วพวกเขาจะระดับต่างกันมากจริง ๆ เหรอ? ถึงจะไม่ค่อยเชื่อในตอนที่ลุงคาเอเกะโดนกดดันด้วยพลังก็เถอะ แต่ครั้งนี้ฉันเริ่มรู้สึกแบบนั้นแล้วสิ’

เมื่อตอนที่อาคุมุและคาเอเกะถูกกดดันด้วยพลังเวทที่แผ่ออกมาของซาบาราชิ ในตอนนั้นอาคุมุได้ล้มลงไปที่พื้นและคาเอเกะก็แทบจะยืนไม่ไหว แต่สุดท้ายก็สามารถร่ายเวทป้องกันขึ้นมาได้ เหตุการณ์นั้นอาคุมุคิดว่าอาจจะเป็นช่วงที่คาเอเกะนั้นยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยถูกกดดันโดยง่าย แต่ในครั้งนี้นั้นต่างออกไป และที่มากไปกว่านั้นก็คือ…

‘ฉันเพิ่งสังเกตว่าไม่เห็นแต้ม W และแต้ม B ของพวกเขาเลย? เป็นไปได้ด้วยเหรอที่จะอยู่ในตำแหน่งที่ถูกปิดไว้โดยชุดที่ใส่ทั้งคู่? ข้อสงสัยของฉันมันผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดหลังจากที่ได้ยืนดูอยู่เฉย ๆ เนี่ยนะ?’

“เอาทักษะเดิมไปกินอีกรอบซะ! กระสุนเพลิงสีชาด!!” วงแหวนเวทสีส้มปรากฏที่หน้าฝ่ามือของซาบาราชิ พร้อมกับทักษะกระสุนเพลิงสีชาดที่ถูกปล่อยออกมา วงแหวนเวทนั้นเป็นเพียงวงแหวนเวทที่ขนาดเท่าฝ่ามือ แต่ทักษะที่ถูกปล่อยออกมานั้นมีขนาดใหญ่กว่าตัวของผู้ใช้เสียอีก

“ความมืดดูดกลืน!” วงแหวนเวทสีส้มขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของคาเอเกะ พร้อมกับออร่าความมืดที่ต้านทานทักษะโจมตีเอาไว้และดูดกลืนมันเข้ามา

“สีส้ม?!!”

ทักษะความมืดดูดกลืนสามารถป้องกันทักษะโจมตีนั้นไว้ได้ พร้อมกับ…

“เอาไปกินแบบเดิม… เดี๋ยวนะ?” สิ่งที่คาดไม่ถึงก็ได้เกิดขึ้นกับคาเอเกะ

“ลุงคาเอเกะ!!!”

“จงระเบิด” ซาบาราชิพูดพร้อมกับกำมือข้างที่ใช้ปล่อยทักษะโจมตี

ตู้มมมม!!!