เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!
แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น,เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บทที่ 37 : เรื่องราวที่เกิดขึ้น
“อะ… โอ๊ย แสบตาชะมัด แล้วนี่?...” อาคุมุค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเขานั้นอยู่บนเตียงนอนภายในห้องของเขาเอง
“เอ๋? ลุงคาเอเกะ?... ห๊า?! ลุงคาเอเกะเหรอ?!!” อาคุมุหันไปทางประตูห้องก็ได้เห็นคาเอเกะนั้นนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ไม้
‘หรือว่าฉันจะตาฝาด?’ อาคุมุคิดอยู่ในใจพร้อมกับขยี้ตาครั้งแล้วครั้งเล่า
“นี่ลุงคาเอเกะจริง ๆ เหรอเนี่ย?!!... แอ่ก! แค่ก! โอ๊ย… เจ็บท้องเป็นบ้า”
“เย้ย?! นายน้อยตื่นแล้วเหรอครับ? อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้างครับ? พอจะดีขึ้นได้บ้างไหมครับนายน้อย?” คาเอเกะที่ตกใจตื่นขึ้นและเห็นอาคุมุฟื้นแล้วก็พรวดพราดเข้ามาหาอาคุมุในทันที
“เอ่อ… คนที่ควรถามน่าจะต้องเป็นผมมากกว่านะครับ นี่ลุงคาเอเกะ… ยังไม่ตายใช่ไหมครับ?”
“เอ๋?” คาเอเกะที่ได้ยินคำถามจากอาคุมุก็งุนงงไปในทันที
“อืม… หรือว่าที่ยืนอยู่นี่มีแค่ร่างหรือเปล่า? หรือว่านี่จะเป็นแค่วิญญาณ? แต่ตอนพูดก็เหมือนลุงคาเอเกะตัวจริงเลยนะครับ”
“เอ่อ… แหะ ๆ นี่กระผมจริง ๆ ครับนายน้อย ไม่ได้เป็นร่างไร้วิญญาณหรือวิญญาณที่ไม่มีร่างหรอกนะครับ ฮ่า ฮ่า ได้ยินแบบนี้กระผมก็รู้สึกโล่งใจที่นายน้อยไม่ได้รับผลกระทบมากจากการต่อสู้”
“แบบนี้นี่เอง เป็นลุงคาเอเกะตัวจริงสินะ… เอ๋?!! ลุงคาเอเกะกลับมาได้จริง ๆ เหรอครับ?!!” อาคุมุที่ได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจอีกเช่นเดิม เพราะเขายังคงจำภาพนั้นได้ดี ภาพที่คาเอเกะส่งเขาออกมาจากเขตแดนพลังเวทของซาบาราชิ… ภาพที่เขาค่อย ๆ ไกลออกไปจากคาเอเกะและการต่อสู้นั้น…
“นั่นสินะครับ กระผมต้องเล่าให้นายน้อยฟังเสียก่อน ถึงจะเป็นการอธิบายได้ดีที่สุด” ว่าแล้วคาเอเกะก็ยกเก้าอี้ตัวเดิมมาที่ข้างเตียงของอาคุมุพร้อมกับนั่งลง
“ลุงคาเอเกะส่งผมออกมาจากเขตแดนพลังเวทได้ไงครับ? ทักษะนั้นคืออะไรกันแน่?” อาคุมุถามออกไปในทันทีที่คาเอเกะนั่งลงบนเก้าอี้
“ทักษะบัญชาแห่งความมืด แท้จริงแล้วมันเป็นทักษะโจมตีน่ะครับ กระผมจะควบแน่นออร่าพลังเวทแห่งความมืดออกมาเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ ใช้ในการโจมตีเพื่อสร้างความเสียหายพร้อมกับควบคุมให้ตำแหน่งของเป้าหมายนั้นไปยังที่ที่เลือก ซึ่งจะพันธนาการเป้าหมายได้ในหลังจากนั้นครับ”
‘เขาใช้ออร่าพลังเวทเหรอ?’
“ฟังดูมันเป็นทักษะโจมตีที่อาจเป็นไพ่ใบสุดท้ายได้เลยนี่ครับ แต่ผมคิดไม่เห็นออกเลยว่าจะส่งตัวผมออกมาจากเขตแดนพลังเวทของคนที่แข็งแกร่งแบบนั้นยังไง? ถึงจะมีการควบคุมเป้าหมายอบ่างที่ว่า แต่แบบนั้นผมก็จะบาดเจ็บเต็ม ๆ เลยไม่ใช่เหรอครับ?”
“เพื่อที่จะช่วยนายน้อยในตอนนั้น กระผมไม่เกี่ยงวิธีการหรอกครับ”
“เอ๋? อย่าบอกนะว่า…” คำตอบที่คาเอเกะตอบกลับมานั้นทำให้อาคุมุตกใจแต่ก็แปลกใจอยู่พอสมควร
“ใช่ครับนายน้อย ที่กระผมทำก็คือการผลักนายน้อยออกไปจากเขตแดนพลังเวท แล้วก็ควบคุมไปยังตำแหน่งที่ต้องการครับ ซึ่งก็คือป่าใกล้ ๆ นั้น นายน้อยคงจะยังมีสติและมองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะสลบไปใช่ไหมครับ?”
“จริงด้วย! นี่ผมสลบไปไม่นานใช่ไหมครับ?” ที่คาเอเกะพูดนั้นทำให้อาคุมุนึกขึ้นได้ในทันที เพราะเมื่อตอนนั้นเขาอยู่กลางป่า แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่ห้องของเขาเอง
“ไม่นานครับ นายน้อยสลบไปก็วันนี้เป็นวันที่ 3 ครับ ถือว่าฟื้นตัวได้เร็วมากเลยล่ะครับ”
“ไม่นานก็แปลกแล้วครับลุงคาเอเกะ?! ผมต้องไปเข้าร่วมการประลองของจักรวรรดิน่ะสิครับ?!! แบบนี้ผมก็ไปไม่ทันแล้วสิเนี่ย โธ่… น่าเสียดายชะมัด” อาคุมุคอตกในทันที เพราะเขาคงพลาดโอกาสดี ๆ แบบนี้ไปเสียแล้ว
“อ๋อ! จริงด้วย คือองค์ชายชูยะฝากให้กระผมมาบอกนายน้อยด้วยน่ะครับว่าการประลองถูกเลื่อนออกไปอีก 5 วัน ซึ่งถ้านับจริง ๆ ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีก 2 วันครับนายน้อย” คาเอเกะตอบกลับมา ซึ่งนั่นทำให้อาคุมุเกิดความดีใจขึ้นมาในทันที
“ที่ลุงคาเอเกะพูดเป็นเรื่องจริงเหรอครับ?!! นี่ผม… นี่ผมยังมีโอกาสอยู่ใช่ไหมครับ?!!”
“ใช่ครับนายน้อย! นายน้อยยังได้ลงแข่งอยู่นะครับ!!”
“เฮ้อ! โล่งอกไปที แต่จะว่าไปแล้ว ลุงคาเอเกะได้พบองค์ชายด้วยเหรอครับ?” อาคุมุกล่าวถามกับคาเอเกะ เพราะเขาก็แปลกใจตั้งแต่ที่คาเอเกะได้มาอยู่ในห้องของเขาแล้ว
“กระผมคงต้องเล่าถึงเรื่องการต่อสู้ก่อนน่ะครับ…”
“หลังจากที่กระผมส่งนายน้อยออกจากเขตแดนพลังเวทไป ซาบาราชิก็เตรียมเปลี่ยนเป้าหมายที่จะโจมตีมาเป็นกระผมแล้วล่ะครับ ในตอนนั้นกระผมเองก็ตั้งตัวไม่ทันเพราะอยู่ในท่าที่เอื้อมมือไปหานายน้อย แล้วก็เพิ่งฟื้นตัวได้เพียงไม่นานจึงเคลื่อนไหวค่อนข้างที่จะลำบาก ขณะนั้นกระผมพร้อมรับชะตากรรมแล้วล่ะครับ”
‘หรือว่าเวทแห่งความมืดของลุงคาเอเกะจะมีพลังที่รักษาบาดแผลได้ด้วยนะ?’
“อีกเพียงนิดเดียว ซาบาราชิก็จะเข้าถึงตัวกระผม แต่แล้วก็ได้มีคนปรากฏตัวขึ้นแล้วมาและป้องกันการโจมตีของซาบาราชิให้กระผมครับ”
“องค์ชายมาช่วยเหรอครับ?!” สิ่งที่ได้ยินนั้นทำให้อาคุมุตกใจอยู่ประมาณหนึ่ง
“เปล่าครับ” คาเอเกะพูดพร้อมกับส่ายหัว
แต่คำตอบเพียงสั้น ๆ นี้นั้นทำให้อาคุมุตกใจมากกว่าเดิม
“คนที่มาช่วยไม่ใช่องค์ชายเหรอครับ? หรือจะเป็น…”
“เขาบอกว่าเป็นพี่ชายของนายน้อยน่ะครับ ชื่อว่าโทชิ ถึงกระผมจะรู้สึกว่าคุ้นเคยกับชื่อนี้ เพราะเมื่อตอนที่ยังเป็นมือขวาให้ท่านพ่อของนายน้อยอยู่ กระผมเคยได้ยินชื่อนี้น่ะครับ แต่คนนี้คงไม่ใช่ เพราะเขายังเด็กมากเลยล่ะ อีกทั้งเวลาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ผ่านมานานมากแล้ว จะเป็นไปได้ยังไงกันนะ” คาเอเกะพูดไปก็เริ่มจะเป็นการบ่นพึมพำเสียมากกว่า
‘แบบนี้นี่เอง ตั้งใจปลอมตัวสินะ ลุงคาเอเกะก็คงจะรู้จักคุณโทชิอย่างแน่นอน แล้วคุณโทชิจะบอกเป็นนัยให้ฉันไม่ต้องพูดเรื่องนี้หรือเปล่านะ…’
“คุณโทชิเขาคือผู้มีพระคุณคนหนึ่งของผมน่ะครับ ลุงคาเอเกะเล่าต่อได้เลย” อาคุมุตอบกลับไป
“แบบนี้นี่เอง เข้าใจแล้วครับ” คาเอเกะพูดแล้วเหมือนกับคิดอะไรบางอย่าง
“ต่อจากที่คุณโทชิป้องกันการโจมตีของซาบาราชิ ในตอนนั้นกระผมก็แปลกใจมากว่าพลังของเขาคืออะไรกันแน่ เขาทำเหมือนกับว่าเขาถือดาบที่มันล่องหนอยู่ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เขาใช้ในการต่อสู้ครับ นายน้อยพอจะทราบไหมครับว่าพลังเวทของคุณโทชิเขาเป็นยังไง? นั่นดูแปลกมากสำหรับกระผมเลยล่ะครับ”
‘ดาบพลังจิตน่ะสิ ดาบล่องหนเจ๋งชะมัด’
“เอาเข้าจริง ๆ ผมก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับพลังเวทของเขาเหมือนกันนะครับ” อาคุมุตอบกลับไป
“ครับ ถ้าอย่างนั้นกระผมเล่าต่อ… เขารับการโจมตีด้วยดาบล่องหนพร้อมกับพุ่งเข้าไปโจมตีในทันทีหลังจากที่ซาบาราชินั้นกระเด็นออกไป ดาบล่องหนแทงทะลุกลางหน้าท้องของซาบาราชิเลยล่ะครับ”
“จบได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอครับ?!” อาคุมุที่ได้ยินอย่างนั้นถึงกับตกใจในทันที
“ยังไม่จบครับ…”
“แล้ว… เป็นยังไงต่อเหรอครับ?”
‘ถึงจะรู้ว่าคุณโทชิแข็งแกร่งมากก็เถอะ แต่ตาแก่นั่นยังลุกขึ้นมาได้หรือยังไง?’
“ซาบาราชิมันใช้ทักษะบางอย่างเพื่อระเบิดพลังแล้วหลังจากนั้นก็กลับมาแข็งแกร่งได้ในทันทีครับ พลังเวทเพิ่มขึ้น บาดแผลที่ถูกแทงก็หายไป แต่นั่นเป็นการเพิ่มพลังเพียงชั่วคราวครับ”
‘เพิ่มพลังได้ในระยะเวลาสั้น ๆ งั้นเหรอเนี่ย?’ แน่นอนว่าอาคุมุมีความสนใจในทักษะนี้ แล้วสักวันหนึ่งเขาต้องได้ฝึกฝนการใช้ทักษะแบบนี้
“ตาแก่นั่นไล่ต้อนคุณโทชิแบบไม่ให้พักหายใจเลยล่ะครับ ถึงกระผมจะมองว่าทักษะที่ตาแก่ใช้มันน่ากลัวและมีประสิทธิภาพ แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น โดยในทางกลับกันกระผมรู้สึกได้ว่าคุณโทชิแข็งแกร่งมาก ทั้งที่ไม่ได้เพิ่มความเร็วแต่ก็หลบการโจมตีได้ทั้งหมด ขณะที่เจ้าซาบาราชินั้นพยายามเพิ่มความเร็วอยู่ตลอด”
‘ก็แหงล่ะสิ เป็นถึงผู้ใช้พลังปีศาจของจอมมาร’
“ผมพอจะเห็นภาพคร่าว ๆ อยู่ครับ ความแข็งแกร่งของคุณโทชิน่ะ แต่ซาบาราชินี่ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้กันนะ ทั้งที่เขารับการโจมตีหลายต่อหลายครั้งเข้าไปเต็ม ๆ ก่อนที่จะเจอคุณโทชิเสียอีก” อาคุมุเองก็ทึ่งในความแข็งแกร่งของซาบาราชิเช่นกัน
“ก็เป็นเพราะทักษะอย่างว่านี่แหละครับ ที่เสริมพลังได้ชั่วคราว”
“ต่อจากการไล่ต้อนคุณโทชิ ซาบาราชิก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าไม่สามารถสร้างบาดแผลหรือแม้แต่โจมตีให้โดนได้เลย ตาแก่นั่นจึงคิดหนีแล้วครับ สุดท้ายคุณโทชิเขาจะใช้ทักษะเขตแดนเพื่อที่จะปิดผนึก แต่แล้วก็ยังมีผู้แข็งปริศนาปรากฏตัวขึ้นอีกครับ ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าคุณโทชิก็ว่าได้”
“อะไรนะครับ?!” อาคุมุตกใจอีกครั้งกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“ผู้แข็งแกร่งที่ปรากฏตัวขึ้นนั้นมาเพียงคลื่นพลังเล็ก ๆ พร้อมกับพาตัวซาบาราชิไป ไม่ได้เกิดการปะทะกันระหว่างคุณโทชิและบุคคลปริศนาครับ”
“หรือว่าจะเป็นจักรพรรดิเหรอครับ?”
“ไม่สามารถทราบได้เลยครับนายน้อย กระผมเองก็ไม่รู้สึกคุ้นเคยกับคน ๆ นั้นที่ปรากฏตัวเลยด้วย แล้วก็จักรพรรดิไม่ได้แข็งแกร่งเกินกว่าระดับของซาบาราชิครับ กระผมคิดว่าไม่มีทางที่จะเป็นองค์จักรพรรดิได้ แต่สุดท้ายแล้วก็จบลงโดยการที่เขตแดนพลังเวทของตาแก่ซาบาราชิหายไปครับ”
“คุณโทชิฝากมาบอกกับนายน้อยด้วยว่า การต่อสู้นี้เป็นศึกที่หนักมาก นายน้อยพัฒนาได้ไวมากสำหรับการที่พอสร้างบาดแผลให้คนอย่างซาบาราชิได้ ถ้าว่ากันตามตรงตาแก่นี่เป็นคนที่รับมือได้ยากมาก แล้วก็คุณโทชิฝากให้กระผมรับหน้าที่เป็นฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ให้นายน้อยครับ”
“นี่คือสิ่งที่ผมอยากได้ล่ะครับ!!” เวลานี้เป็นเวลาที่อาคุมุรอคอยมานานแล้ว ซึ่งก็คือช่วงเวลาแห่งการฝึกฝน เพื่อที่เขาจะได้คิดค้นทักษะใหม่ ๆ ขึ้นมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง
‘แต่ฉันไปสร้างบาดแผลให้ตาแก่เพลิงนั่นตอนไหนกันนะ?’
“ก่อนอื่น ถึงเวลาทานอาหารเช้าแล้วล่ะครับนายน้อย”
“ไปกันเถอะครับ”
‘ดีแล้วล่ะ ที่ลุงคาเอเกะรอดมาได้’
…