เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2] - บทที่ 37 เรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย MIN-G @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น,เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก

รายละเอียด

เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

ผู้แต่ง

MIN-G

เรื่องย่อ

จะเป็นอย่างไร... เมื่อความตายนั้นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต?


ชายวัย 31 ปีที่ทำแต่ความดีมาโดยตลอดเพราะเชื่อในเรื่องของสวรรค์และนรก แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงเพราะการทำความดี ซึ่งดวงวิญญาณของเขากลับไม่ไปบนสวรรค์ดั่งหวัง แต่ได้ไปเกิดใหม่ยังโลกแห่งเวทมนตร์และพลังเหนือธรรมชาติในชื่อ “คาอิดะ อาคุมุ” ลูกคนสุดท้ายของตระกูลคาอิดะ เขาจะทำอย่างไรเมื่อได้มาเกิดใหม่อีกครั้งในโลกใหม่และชีวิตใหม่!!

“ถ้าเป็นคนดีแล้วไม่ได้ไปสวรรค์…” 

“...แสดงว่าสวรรค์ไม่มีอยู่จริง”

“แล้วฉันจะทำความดีทำไมกันเล่า!!!” 



---------------------------------------------------

หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มิได้เจตนาพาดพิงถึงผู้ใดและไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่

หมายเหตุ 2 : ชื่อสิ่งต่าง ๆ ในนิยายเรื่องนี้เช่น สถานที่ เป็นชื่อที่เกิดจากจินตนาการของผู้แต่ง ไม่ได้มีจริงแต่อย่างใด

หมายเหตุ 3 : เครื่องหมายคำพูด (“ ”) คือการพูดปกติ 
เครื่องหมายคำพูด (‘ ’) คือการคิดในใจ

----------------------------------------------


ระดับของนักเวท
นักเวทระดับ 1
นักเวทระดับ 2
นักเวทระดับ 3
จอมเวทระดับ 1
จอมเวทระดับ 2
จอมเวทระดับ 3
ราชันจอมเวทระดับ 1 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 2 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 3 ดาว


ระดับของปีศาจเวทมนตร์
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 4
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 5
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 6
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3 ดาว

สารบัญ

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 31 เบาะแส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 32 นายน้อย?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 33 ผู้แข็งแกร่ง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 34 เปิดฉากการต่อสู้,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 35 การต่อสู้ระดับสูง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 36 “นายน้อยต้องมีชีวิตต่อไปนะครับ...”,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 37 เรื่องราวที่เกิดขึ้น,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 38 เริ่มต้นการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 39 ความแปลกใหม่ของทักษะ,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 40 ผลประโยชน์อันมหาศาล,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 41 สิ้นสุดการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 42 กลไกในสนามประลอง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 43 สู่สนามประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 44 เริ่มต้นการประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 45 เล่นเป็นนักยิงธนู,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 46 เล่ห์เหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 47 เพื่อชัยชนะย่อมไม่เลือกวิธีการ?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 48 เหลี่ยมเหนือเหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 49 การประลองเพียงครั้งเดียว?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 50 ดาบแห่งราชัน?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 51 ผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 52 พลังที่แท้จริง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 53 คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 54 รอบ 8 คนสุดท้าย,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 55 ราชันจอมเวทอาวุโส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 56 เริ่มการประลองแบบกลุ่ม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 57 ความได้เปรียบเป็นศูนย์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 58 ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 59 หนึ่งรุมหก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 60 มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]

เนื้อหา

บทที่ 37 เรื่องราวที่เกิดขึ้น

บทที่ 37 : เรื่องราวที่เกิดขึ้น

“อะ… โอ๊ย แสบตาชะมัด แล้วนี่?...” อาคุมุค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเขานั้นอยู่บนเตียงนอนภายในห้องของเขาเอง

“เอ๋? ลุงคาเอเกะ?... ห๊า?! ลุงคาเอเกะเหรอ?!!” อาคุมุหันไปทางประตูห้องก็ได้เห็นคาเอเกะนั้นนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ไม้

‘หรือว่าฉันจะตาฝาด?’ อาคุมุคิดอยู่ในใจพร้อมกับขยี้ตาครั้งแล้วครั้งเล่า

“นี่ลุงคาเอเกะจริง ๆ เหรอเนี่ย?!!... แอ่ก! แค่ก! โอ๊ย… เจ็บท้องเป็นบ้า”

“เย้ย?! นายน้อยตื่นแล้วเหรอครับ? อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้างครับ? พอจะดีขึ้นได้บ้างไหมครับนายน้อย?” คาเอเกะที่ตกใจตื่นขึ้นและเห็นอาคุมุฟื้นแล้วก็พรวดพราดเข้ามาหาอาคุมุในทันที

“เอ่อ… คนที่ควรถามน่าจะต้องเป็นผมมากกว่านะครับ นี่ลุงคาเอเกะ… ยังไม่ตายใช่ไหมครับ?”

“เอ๋?” คาเอเกะที่ได้ยินคำถามจากอาคุมุก็งุนงงไปในทันที

“อืม… หรือว่าที่ยืนอยู่นี่มีแค่ร่างหรือเปล่า? หรือว่านี่จะเป็นแค่วิญญาณ? แต่ตอนพูดก็เหมือนลุงคาเอเกะตัวจริงเลยนะครับ”

“เอ่อ… แหะ ๆ นี่กระผมจริง ๆ ครับนายน้อย ไม่ได้เป็นร่างไร้วิญญาณหรือวิญญาณที่ไม่มีร่างหรอกนะครับ ฮ่า ฮ่า ได้ยินแบบนี้กระผมก็รู้สึกโล่งใจที่นายน้อยไม่ได้รับผลกระทบมากจากการต่อสู้”

“แบบนี้นี่เอง เป็นลุงคาเอเกะตัวจริงสินะ… เอ๋?!! ลุงคาเอเกะกลับมาได้จริง ๆ เหรอครับ?!!” อาคุมุที่ได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจอีกเช่นเดิม เพราะเขายังคงจำภาพนั้นได้ดี ภาพที่คาเอเกะส่งเขาออกมาจากเขตแดนพลังเวทของซาบาราชิ… ภาพที่เขาค่อย ๆ ไกลออกไปจากคาเอเกะและการต่อสู้นั้น…

“นั่นสินะครับ กระผมต้องเล่าให้นายน้อยฟังเสียก่อน ถึงจะเป็นการอธิบายได้ดีที่สุด” ว่าแล้วคาเอเกะก็ยกเก้าอี้ตัวเดิมมาที่ข้างเตียงของอาคุมุพร้อมกับนั่งลง

“ลุงคาเอเกะส่งผมออกมาจากเขตแดนพลังเวทได้ไงครับ? ทักษะนั้นคืออะไรกันแน่?” อาคุมุถามออกไปในทันทีที่คาเอเกะนั่งลงบนเก้าอี้

“ทักษะบัญชาแห่งความมืด แท้จริงแล้วมันเป็นทักษะโจมตีน่ะครับ กระผมจะควบแน่นออร่าพลังเวทแห่งความมืดออกมาเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ ใช้ในการโจมตีเพื่อสร้างความเสียหายพร้อมกับควบคุมให้ตำแหน่งของเป้าหมายนั้นไปยังที่ที่เลือก ซึ่งจะพันธนาการเป้าหมายได้ในหลังจากนั้นครับ”

‘เขาใช้ออร่าพลังเวทเหรอ?’

“ฟังดูมันเป็นทักษะโจมตีที่อาจเป็นไพ่ใบสุดท้ายได้เลยนี่ครับ แต่ผมคิดไม่เห็นออกเลยว่าจะส่งตัวผมออกมาจากเขตแดนพลังเวทของคนที่แข็งแกร่งแบบนั้นยังไง? ถึงจะมีการควบคุมเป้าหมายอบ่างที่ว่า แต่แบบนั้นผมก็จะบาดเจ็บเต็ม ๆ เลยไม่ใช่เหรอครับ?”

“เพื่อที่จะช่วยนายน้อยในตอนนั้น กระผมไม่เกี่ยงวิธีการหรอกครับ”

“เอ๋? อย่าบอกนะว่า…” คำตอบที่คาเอเกะตอบกลับมานั้นทำให้อาคุมุตกใจแต่ก็แปลกใจอยู่พอสมควร

“ใช่ครับนายน้อย ที่กระผมทำก็คือการผลักนายน้อยออกไปจากเขตแดนพลังเวท แล้วก็ควบคุมไปยังตำแหน่งที่ต้องการครับ ซึ่งก็คือป่าใกล้ ๆ นั้น นายน้อยคงจะยังมีสติและมองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะสลบไปใช่ไหมครับ?”

“จริงด้วย! นี่ผมสลบไปไม่นานใช่ไหมครับ?” ที่คาเอเกะพูดนั้นทำให้อาคุมุนึกขึ้นได้ในทันที เพราะเมื่อตอนนั้นเขาอยู่กลางป่า แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่ห้องของเขาเอง

“ไม่นานครับ นายน้อยสลบไปก็วันนี้เป็นวันที่ 3 ครับ ถือว่าฟื้นตัวได้เร็วมากเลยล่ะครับ”

“ไม่นานก็แปลกแล้วครับลุงคาเอเกะ?! ผมต้องไปเข้าร่วมการประลองของจักรวรรดิน่ะสิครับ?!! แบบนี้ผมก็ไปไม่ทันแล้วสิเนี่ย โธ่… น่าเสียดายชะมัด” อาคุมุคอตกในทันที เพราะเขาคงพลาดโอกาสดี ๆ แบบนี้ไปเสียแล้ว

“อ๋อ! จริงด้วย คือองค์ชายชูยะฝากให้กระผมมาบอกนายน้อยด้วยน่ะครับว่าการประลองถูกเลื่อนออกไปอีก 5 วัน ซึ่งถ้านับจริง ๆ ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีก 2 วันครับนายน้อย” คาเอเกะตอบกลับมา ซึ่งนั่นทำให้อาคุมุเกิดความดีใจขึ้นมาในทันที

“ที่ลุงคาเอเกะพูดเป็นเรื่องจริงเหรอครับ?!! นี่ผม… นี่ผมยังมีโอกาสอยู่ใช่ไหมครับ?!!”

“ใช่ครับนายน้อย! นายน้อยยังได้ลงแข่งอยู่นะครับ!!”

“เฮ้อ! โล่งอกไปที แต่จะว่าไปแล้ว ลุงคาเอเกะได้พบองค์ชายด้วยเหรอครับ?” อาคุมุกล่าวถามกับคาเอเกะ เพราะเขาก็แปลกใจตั้งแต่ที่คาเอเกะได้มาอยู่ในห้องของเขาแล้ว

“กระผมคงต้องเล่าถึงเรื่องการต่อสู้ก่อนน่ะครับ…”

“หลังจากที่กระผมส่งนายน้อยออกจากเขตแดนพลังเวทไป ซาบาราชิก็เตรียมเปลี่ยนเป้าหมายที่จะโจมตีมาเป็นกระผมแล้วล่ะครับ ในตอนนั้นกระผมเองก็ตั้งตัวไม่ทันเพราะอยู่ในท่าที่เอื้อมมือไปหานายน้อย แล้วก็เพิ่งฟื้นตัวได้เพียงไม่นานจึงเคลื่อนไหวค่อนข้างที่จะลำบาก ขณะนั้นกระผมพร้อมรับชะตากรรมแล้วล่ะครับ”

‘หรือว่าเวทแห่งความมืดของลุงคาเอเกะจะมีพลังที่รักษาบาดแผลได้ด้วยนะ?’

“อีกเพียงนิดเดียว ซาบาราชิก็จะเข้าถึงตัวกระผม แต่แล้วก็ได้มีคนปรากฏตัวขึ้นแล้วมาและป้องกันการโจมตีของซาบาราชิให้กระผมครับ”

“องค์ชายมาช่วยเหรอครับ?!” สิ่งที่ได้ยินนั้นทำให้อาคุมุตกใจอยู่ประมาณหนึ่ง

“เปล่าครับ” คาเอเกะพูดพร้อมกับส่ายหัว

แต่คำตอบเพียงสั้น ๆ นี้นั้นทำให้อาคุมุตกใจมากกว่าเดิม
“คนที่มาช่วยไม่ใช่องค์ชายเหรอครับ? หรือจะเป็น…”

“เขาบอกว่าเป็นพี่ชายของนายน้อยน่ะครับ ชื่อว่าโทชิ ถึงกระผมจะรู้สึกว่าคุ้นเคยกับชื่อนี้ เพราะเมื่อตอนที่ยังเป็นมือขวาให้ท่านพ่อของนายน้อยอยู่ กระผมเคยได้ยินชื่อนี้น่ะครับ แต่คนนี้คงไม่ใช่ เพราะเขายังเด็กมากเลยล่ะ อีกทั้งเวลาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ผ่านมานานมากแล้ว จะเป็นไปได้ยังไงกันนะ” คาเอเกะพูดไปก็เริ่มจะเป็นการบ่นพึมพำเสียมากกว่า

‘แบบนี้นี่เอง ตั้งใจปลอมตัวสินะ ลุงคาเอเกะก็คงจะรู้จักคุณโทชิอย่างแน่นอน แล้วคุณโทชิจะบอกเป็นนัยให้ฉันไม่ต้องพูดเรื่องนี้หรือเปล่านะ…’

“คุณโทชิเขาคือผู้มีพระคุณคนหนึ่งของผมน่ะครับ ลุงคาเอเกะเล่าต่อได้เลย” อาคุมุตอบกลับไป

“แบบนี้นี่เอง เข้าใจแล้วครับ” คาเอเกะพูดแล้วเหมือนกับคิดอะไรบางอย่าง

“ต่อจากที่คุณโทชิป้องกันการโจมตีของซาบาราชิ ในตอนนั้นกระผมก็แปลกใจมากว่าพลังของเขาคืออะไรกันแน่ เขาทำเหมือนกับว่าเขาถือดาบที่มันล่องหนอยู่ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เขาใช้ในการต่อสู้ครับ นายน้อยพอจะทราบไหมครับว่าพลังเวทของคุณโทชิเขาเป็นยังไง? นั่นดูแปลกมากสำหรับกระผมเลยล่ะครับ”

‘ดาบพลังจิตน่ะสิ ดาบล่องหนเจ๋งชะมัด’

“เอาเข้าจริง ๆ ผมก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับพลังเวทของเขาเหมือนกันนะครับ” อาคุมุตอบกลับไป

“ครับ ถ้าอย่างนั้นกระผมเล่าต่อ… เขารับการโจมตีด้วยดาบล่องหนพร้อมกับพุ่งเข้าไปโจมตีในทันทีหลังจากที่ซาบาราชินั้นกระเด็นออกไป ดาบล่องหนแทงทะลุกลางหน้าท้องของซาบาราชิเลยล่ะครับ”

“จบได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอครับ?!” อาคุมุที่ได้ยินอย่างนั้นถึงกับตกใจในทันที

“ยังไม่จบครับ…”

“แล้ว… เป็นยังไงต่อเหรอครับ?”

‘ถึงจะรู้ว่าคุณโทชิแข็งแกร่งมากก็เถอะ แต่ตาแก่นั่นยังลุกขึ้นมาได้หรือยังไง?’

“ซาบาราชิมันใช้ทักษะบางอย่างเพื่อระเบิดพลังแล้วหลังจากนั้นก็กลับมาแข็งแกร่งได้ในทันทีครับ พลังเวทเพิ่มขึ้น บาดแผลที่ถูกแทงก็หายไป แต่นั่นเป็นการเพิ่มพลังเพียงชั่วคราวครับ”

‘เพิ่มพลังได้ในระยะเวลาสั้น ๆ งั้นเหรอเนี่ย?’ แน่นอนว่าอาคุมุมีความสนใจในทักษะนี้ แล้วสักวันหนึ่งเขาต้องได้ฝึกฝนการใช้ทักษะแบบนี้

“ตาแก่นั่นไล่ต้อนคุณโทชิแบบไม่ให้พักหายใจเลยล่ะครับ ถึงกระผมจะมองว่าทักษะที่ตาแก่ใช้มันน่ากลัวและมีประสิทธิภาพ แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น โดยในทางกลับกันกระผมรู้สึกได้ว่าคุณโทชิแข็งแกร่งมาก ทั้งที่ไม่ได้เพิ่มความเร็วแต่ก็หลบการโจมตีได้ทั้งหมด ขณะที่เจ้าซาบาราชินั้นพยายามเพิ่มความเร็วอยู่ตลอด”

‘ก็แหงล่ะสิ เป็นถึงผู้ใช้พลังปีศาจของจอมมาร’

“ผมพอจะเห็นภาพคร่าว ๆ อยู่ครับ ความแข็งแกร่งของคุณโทชิน่ะ แต่ซาบาราชินี่ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้กันนะ ทั้งที่เขารับการโจมตีหลายต่อหลายครั้งเข้าไปเต็ม ๆ ก่อนที่จะเจอคุณโทชิเสียอีก” อาคุมุเองก็ทึ่งในความแข็งแกร่งของซาบาราชิเช่นกัน

“ก็เป็นเพราะทักษะอย่างว่านี่แหละครับ ที่เสริมพลังได้ชั่วคราว”

“ต่อจากการไล่ต้อนคุณโทชิ ซาบาราชิก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าไม่สามารถสร้างบาดแผลหรือแม้แต่โจมตีให้โดนได้เลย ตาแก่นั่นจึงคิดหนีแล้วครับ สุดท้ายคุณโทชิเขาจะใช้ทักษะเขตแดนเพื่อที่จะปิดผนึก แต่แล้วก็ยังมีผู้แข็งปริศนาปรากฏตัวขึ้นอีกครับ ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าคุณโทชิก็ว่าได้”

“อะไรนะครับ?!” อาคุมุตกใจอีกครั้งกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

“ผู้แข็งแกร่งที่ปรากฏตัวขึ้นนั้นมาเพียงคลื่นพลังเล็ก ๆ พร้อมกับพาตัวซาบาราชิไป ไม่ได้เกิดการปะทะกันระหว่างคุณโทชิและบุคคลปริศนาครับ”

“หรือว่าจะเป็นจักรพรรดิเหรอครับ?”

“ไม่สามารถทราบได้เลยครับนายน้อย กระผมเองก็ไม่รู้สึกคุ้นเคยกับคน ๆ นั้นที่ปรากฏตัวเลยด้วย แล้วก็จักรพรรดิไม่ได้แข็งแกร่งเกินกว่าระดับของซาบาราชิครับ กระผมคิดว่าไม่มีทางที่จะเป็นองค์จักรพรรดิได้ แต่สุดท้ายแล้วก็จบลงโดยการที่เขตแดนพลังเวทของตาแก่ซาบาราชิหายไปครับ”

“คุณโทชิฝากมาบอกกับนายน้อยด้วยว่า การต่อสู้นี้เป็นศึกที่หนักมาก นายน้อยพัฒนาได้ไวมากสำหรับการที่พอสร้างบาดแผลให้คนอย่างซาบาราชิได้ ถ้าว่ากันตามตรงตาแก่นี่เป็นคนที่รับมือได้ยากมาก แล้วก็คุณโทชิฝากให้กระผมรับหน้าที่เป็นฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ให้นายน้อยครับ”

“นี่คือสิ่งที่ผมอยากได้ล่ะครับ!!” เวลานี้เป็นเวลาที่อาคุมุรอคอยมานานแล้ว ซึ่งก็คือช่วงเวลาแห่งการฝึกฝน เพื่อที่เขาจะได้คิดค้นทักษะใหม่ ๆ ขึ้นมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง

‘แต่ฉันไปสร้างบาดแผลให้ตาแก่เพลิงนั่นตอนไหนกันนะ?’

“ก่อนอื่น ถึงเวลาทานอาหารเช้าแล้วล่ะครับนายน้อย”

“ไปกันเถอะครับ”

‘ดีแล้วล่ะ ที่ลุงคาเอเกะรอดมาได้’