เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2] - บทที่ 40 ผลประโยชน์อันมหาศาล โดย MIN-G @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น,เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก

รายละเอียด

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2] โดย MIN-G @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

ผู้แต่ง

MIN-G

เรื่องย่อ

จะเป็นอย่างไร... เมื่อความตายนั้นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต?


ชายวัย 31 ปีที่ทำแต่ความดีมาโดยตลอดเพราะเชื่อในเรื่องของสวรรค์และนรก แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงเพราะการทำความดี ซึ่งดวงวิญญาณของเขากลับไม่ไปบนสวรรค์ดั่งหวัง แต่ได้ไปเกิดใหม่ยังโลกแห่งเวทมนตร์และพลังเหนือธรรมชาติในชื่อ “คาอิดะ อาคุมุ” ลูกคนสุดท้ายของตระกูลคาอิดะ เขาจะทำอย่างไรเมื่อได้มาเกิดใหม่อีกครั้งในโลกใหม่และชีวิตใหม่!!

“ถ้าเป็นคนดีแล้วไม่ได้ไปสวรรค์…” 

“...แสดงว่าสวรรค์ไม่มีอยู่จริง”

“แล้วฉันจะทำความดีทำไมกันเล่า!!!” 



---------------------------------------------------

หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มิได้เจตนาพาดพิงถึงผู้ใดและไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่

หมายเหตุ 2 : ชื่อสิ่งต่าง ๆ ในนิยายเรื่องนี้เช่น สถานที่ เป็นชื่อที่เกิดจากจินตนาการของผู้แต่ง ไม่ได้มีจริงแต่อย่างใด

หมายเหตุ 3 : เครื่องหมายคำพูด (“ ”) คือการพูดปกติ 
เครื่องหมายคำพูด (‘ ’) คือการคิดในใจ

----------------------------------------------


ระดับของนักเวท
นักเวทระดับ 1
นักเวทระดับ 2
นักเวทระดับ 3
จอมเวทระดับ 1
จอมเวทระดับ 2
จอมเวทระดับ 3
ราชันจอมเวทระดับ 1 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 2 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 3 ดาว


ระดับของปีศาจเวทมนตร์
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 4
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 5
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 6
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3 ดาว

สารบัญ

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 31 เบาะแส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 32 นายน้อย?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 33 ผู้แข็งแกร่ง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 34 เปิดฉากการต่อสู้,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 35 การต่อสู้ระดับสูง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 36 “นายน้อยต้องมีชีวิตต่อไปนะครับ...”,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 37 เรื่องราวที่เกิดขึ้น,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 38 เริ่มต้นการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 39 ความแปลกใหม่ของทักษะ,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 40 ผลประโยชน์อันมหาศาล,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 41 สิ้นสุดการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 42 กลไกในสนามประลอง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 43 สู่สนามประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 44 เริ่มต้นการประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 45 เล่นเป็นนักยิงธนู,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 46 เล่ห์เหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 47 เพื่อชัยชนะย่อมไม่เลือกวิธีการ?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 48 เหลี่ยมเหนือเหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 49 การประลองเพียงครั้งเดียว?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 50 ดาบแห่งราชัน?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 51 ผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 52 พลังที่แท้จริง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 53 คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 54 รอบ 8 คนสุดท้าย,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 55 ราชันจอมเวทอาวุโส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 56 เริ่มการประลองแบบกลุ่ม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 57 ความได้เปรียบเป็นศูนย์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 58 ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 59 หนึ่งรุมหก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 60 มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]

เนื้อหา

บทที่ 40 ผลประโยชน์อันมหาศาล

บทที่ 40 : ผลประโยชน์อันมหาศาล

ในตอนนี้ การโจมตีด้วยสายฟ้าของอาคุมุไม่ว่าจะเป็นทักษะใดก็ตาม สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่ารับมือได้ยากมาก เพราะการโจมตีแต่ละครั้งมีผลกระทบกับผู้ที่ถูกโจมตีโดยทำให้ขยับร่างกายไม่ได้สักพัก ราวกับว่าถูกพันธนาการไปพร้อม ๆ กันนั่นเอง

“ตอนนี้ผ่านมาสักพักแล้ว เป็นยังไงบ้างครับลุงคาเอเกะ?” อาคุมุถามคาเอเกะที่ถูกผลกระทบจากการโจมตีของเขา

ความสามารถเสริมที่อาคุมุมีติดตัวอยู่ในตอนนี้นั้นใช้งานได้ดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะถึงแม้ระดับพลังของอาคุมุและคาเอเกะจะต่างกันลิบลับ แต่ผลกระทบก็ยังคงเกิดขึ้นได้แม้จะไม่สามารถสร้างบาดแผลจากการโจมตีได้เลยก็ตาม

“ครับ ตอนนี้ร่างกายเป็นปกติแล้วครับนายน้อย กระผมถูกหยุดการเคลื่อนที่คงจะประมาณ 2 นาทีได้ แต่ด้วยช่องว่างระหว่างพลังของเรามันทำให้ไม่สามารถเห็นผลได้อย่างแน่ชัดเท่าไรนะครับ” คาเอเกะตอบกลับ

ซึ่ง… อาคุมุไม่ได้คิดเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย

“ไม่หรอกครับลุงคาเอเกะ ผมว่ามันดีมากต่างหากล่ะครับ ระดับพลังที่แต้ม B ไม่ถึง 10k (10,000) อย่างผม สามารถทำให้ระดับพลังที่สูงกว่ามากอย่างลุงคาเอเกะหยุดชะงักไปได้ 2 นาที มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากเลยนะครับ”

“จะว่าไป ก็จริงอย่างที่นายน้อยกล่าวมานะครับ เพราะถ้าใช้กับคนที่ระดับพลังต่ำกว่ากระผมล่ะก็…”

“ไร้เทียมทาน!!” อาคุมุและคาเอเกะต่างก็พูดขึ้นมาพร้อมกัน

สำหรับอาคุมุ นี่เป็นผลประโยชน์ที่เขาได้รับมาอย่างมหาศาล แทบจะมองไม่เห็นจุดอ่อนในพลังนี้เลยก็ว่าได้ แน่นอนว่ามันสามารถนำไปใช้งานได้จริง ในแง่ของการต่อสู้อาจทำให้อาคุมุเป็นต่อได้ไม่มากก็น้อย!

“เรามาคิดค้นทักษะโจมตีใหม่ ๆ กันดีกว่าครับนายน้อย” ว่าแล้วคาเอเกะก็เดินกลับมาและยืนใกล้ ๆ อาคุมุ

“แต่จะว่าไป ตอนที่ผมพูดถึงแต้ม B ของผม… ผมรู้สึกเหมือนผมลืมอะไรไปบางอย่างเลยครับ” พูดจบ อาคุมุก็ดึงแขนเสื้อข้างขวาขึ้น เผยให้เห็นตัวเลขแต้ม B ที่หัวไหล่ของเขา

“นี่มันอะไรกันเนี่ย?!” สิ่งที่อาคุมุเห็นนั้นทำให้เขาตกใจและแปลกใจอยู่พอสมควร

“หืม? แต่จะว่าไป นายน้อยบอกว่ามีแต้ม B ไม่ถึง 10k (10,000) นี่ครับ”

“ใช่ครับ ผมบอกแบบนั้น เพราะก่อนหน้านี้ผมมีแค่ 7.2k (7,200) เองนะครับ แต่ตอนนี้มันกลายเป็น 21k (21,000) แล้วซะงั้น?! ผมไปทำอะไรมาตอนไหนล่ะเนี่ย”

“นั่นเพิ่มมาเยอะมากเลยนะครับนายน้อย เยอะมาก ๆ ด้วยล่ะครับ นายน้อยไปลงมือกับคนที่แข็งแกร่งแบบนี้มาเมื่อไหร่ครับ?” คาเอเกะถามกับอาคุมุ เพราะจากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมานั้นไม่ใช่น้อย ๆ เลย

“อืม… สู้กับคนเก่ง ๆ แต้ม B สูง ๆ เหรอ? ผมรู้สึกว่าผมยังไม่ได้ลงมือปลิดชีพใครสักคนเลยนะครับ” อาคุมุไม่อยู่กับที่และครุ่นคิดเกี่ยวกับการต่อสู้แต่ละครั้งที่ผ่านมา

เขาเดินวนรอบตัวเขาเองและเดินวนรอบตัวคาเอเกะ

“หรือว่าจะเป็นการที่เก็บไปหลายคน?… เอ๊ะ! หลายคนเหรอ? ผมว่าผมพอจะนึกออกแล้วล่ะครับลุงคาเอเกะ!” สุดท้าย อาคุมุก็คิดออกพร้อมกับหันทั้งหน้าและทุกส่วนของร่างกายไปหาคาเอเกะ

“ช่วงไหนเหรอครับนายน้อย?”

“เป็นช่วงที่ผมเพิ่งมาถึงเมืองหลวงได้ไม่นาน ตอนนั้นเกิดเหตุไม่คาดฝันและได้สู้กับผู้ที่ทรยศองค์ชายชูยะ มากไปกว่านั้นคือเขาพานักเวทชุดขาวขององค์จักพรรดิมาเป็นกลุ่มใหญ่เลยครับ ผมได้ฆ่านักเวทชุดขาวนั่นไป 4 คน ถือว่าเจ้าพวกนั้นมีแต้ม B อยู่พอสมควรเลยนะครับ” ว่าแล้วอาคุมุก็เล่าเรื่องราวแบบคร่าว ๆ ให้คาเอเกะฟัง

“การต่อสู้ในครั้งนั้น เป็นการต่อสู้ที่ลุงอิชิโร่ผู้เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของลุงอากิระได้ทำการก่อกบฏต่อองค์ชายชูยะน่ะครับ เขาสะกดรอยตามไปยังสถานที่ฝึกลับขององค์ชาย โดยในตอนนั้นเป็นคำสั่งที่มอบหมายให้ลุงอากิระพาผมมา เขาเข้ามาล้อมผมและลุงอากิระที่เข้ามาดูสถานที่ฝึก ซึ่งก็คือที่นี่ครับ” อาคุมุเล่าและมองไปรอบ ๆ

“ลุงอิชิโร่หวังจะฆ่าทั้งผมและลุงอากิระ ผลการต่อสู้ในครั้งนั้นเกือบจะจบไม่สวยนักเพราะผมถูกทักษะพันธนาการเล่นงาน ลุงอากิระบาดเจ็บสาหัสปางตาย…” 

“...แต่สุดท้ายคนที่มาช่วยไว้ได้ทันก็คือองค์ชายชูยะครับ นั่นเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมถูกองค์ชายช่วยไว้ สถานการณ์เลยพลิกกลับมาทางด้านของผม องค์ชายชูยะได้พันธนาการนักเวทชุดขาวไว้ทั้งหมด จัดการกับลุงอิชิโร่และนักเวทที่พันธนาการตัวผมไว้ และต่อจากนี้จะเป็นช่วงที่ผมจะได้รับแต้ม B ครับ” อาคุมุพูดพร้อมกับมองไปที่แต้ม B บริเวณหัวไหล่ของเขา

“ผมก็ได้รับดาบจากองค์ชายชูยะแล้วก็ลงมือฆ่านักเวทชุดขาวไปทั้งสิ้น 4 คน นี่คงจะเป็นแต้ม B ของผมที่เพิ่มขึ้น ผมเองก็ลืมไปซะสนิทเลยตั้งแต่ตอนนั้น เพราะในช่วงที่ผมกำลังไล่ปลิดชีพไปทีละคน นักเวทชุดขาวที่เหลือก็หนีไปได้ด้วยทักษะการเคลื่อนที่แบบกลุ่มอย่างเทเลพอร์ต จบการต่อสู้ด้วยการพาลุงอากิระนั้นกลับไปรักษาที่พระราชวังขององค์ชายชูยะน่ะครับ แต่จะว่าไป… ก่อนหน้านี้ผมก็ลืมเลยว่าลุงอากิระเขาสลบไปตั้งแต่ตอนนั้น ในตอนนี้เขาจะฟื้นตัวเต็มที่หรือยังนะ” พูดจบอาคุมุก็ดึงแขนเสื้อลงและเตรียมพร้อมที่จะฝึก

“นายน้อยนี่เจอเรื่องใหญ่มาเหมือนกันนะครับ” คาเอเกะตอบกลับมา

“ไม่ใหญ่เท่าครั้งล่าสุดหรอกนะครับ ฮ่า ฮ่า” อาคุมุพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา

“กลับมาในเรื่องของทักษะโจมตีที่เราจะคิดค้นกัน แสงอัสนีบาตของนายน้อยเป็นการโจมตีแบบเป้าเดี่ยวใช่ไหมล่ะครับ? เป็นการโจมตีเพียงครั้งเดียว ถึงแม้จะใช้วงแหวนเวทหลายวงและหลายตำแหน่งก็ยังคงเป็นการโจมตีที่ยิงออกมาเพียงครั้งเดียว อาจเรียกว่ารุนแรงแต่ไม่ต่อเนื่องน่ะครับ” คาเอเกะพูดขึ้นมา

“จุดเด่นในทักษะโจมตีของผมคือความรุนแรง สิ่งที่ขาดคือความต่อเนื่อง ผมต้องมีทักษะที่โจมตีได้อย่างต่อเนื่อง… แต่ถ้าเกิดว่ามีทั้งความรุนแรงและความต่อเนื่องก็จะแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้นสินะครับ?” อาคุมุถามกลับไป
“ใช่แล้วล่ะครับนายน้อย! ถ้าหากว่ามีแบบนั้นได้อีกล่ะก็ ความไร้เทียมทานในการต่อสู้ของนายน้อยก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น”

“ความต่อเนื่องที่ขาดหายไป โจมตีให้ต่อเนื่องเหมือนกับ… ฝน? ฝนอัสนี? ไม่ค่อยดีสักเท่าไร หรือว่าจะเป็นปืนเหรอ? ฉันไม่ได้ใช้ปืนในการต่อสู้สักหน่อย” อาคุมุบ่นพึมพำอยู่คนเดียว

คาเอเกะที่เห็นแบบนั้นก็นั่งรอชมสิ่งที่น่าสนใจในทันที เพราะเขารู้จากครั้งที่ผ่านมาว่าการทำแบบนี้ของอาคุมุนั้นจะได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีเสมอ

“อุกกาบาต? อุกกาบาตสายฟ้าเนี่ยนะ? บ้าไปแล้ว หรือจะเป็กลูกดอก? หืม… ลูกธนู?! ลูกธนูสายฟ้า!!” และแล้วอาคุมุก็พบสิ่งที่เขารู้สึกถูกใจในที่สุด

“ฟังดูไม่เลวเลยนะครับนายน้อย”

“ถ้าเป็นธนูสายฟ้า อืม… การที่จะทำให้มันต่อเนื่องได้ ฉันต้องใช้แค่ลูกธนูหรือเปล่านะ ถ้าใช้คันธนูในการยิงมันจะช้าเกินไปหรือเปล่า?” อาคุมุเถียงกับตัวเองอยู่อย่างนั้น

“บางครั้ง ไม่ต้องคิดละเอียดก็ได้ครับนายน้อย ในมือของนายน้อยถือคันธนูแล้วยิงลูกธนูสายฟ้าออกจากวงแหวนเวทไปเป็นจำนวนมาก… นั่นก็ไม่ได้แย่” คาเอเกะพูดขึ้นมา

“นั่นสินะครับ ในเมื่อผมสามารถทำแบบนั้นได้ล่ะก็…” อาคุมุหลับตาลง ขณะเดียวกันออร่าพลังเวทก็แผ่ออกมารอบตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ คาเอเกะที่เห็นอย่างนั้นจึงถอยห่างออกไปนิดหน่อย แต่ก็ยังคงดูอยู่อย่างไม่ละสายตา

สายฟ้าขนาดเล็กและใหญ่ปรากฏขึ้นรอบตัวอาคุมุ ทั้งในรัศมีที่ออร่าพลังเวทนั้นกระจายออกมารวมไปถึงที่พื้นดิน วงแหวนเวทสีม่วงขนาดใหญ่หนึ่งวงปรากฏขึ้นข้างหลังอาคุมุ โดยวงแหวนเวทวงนั้นลอยอยู่ในความสูงที่เหนือหัวอาคุมุขึ้นไปเล็กน้อย

“เอาล่ะ” อาคุมุเริ่มทำการควบแน่นพลังเวทให้เป็นคันธนูที่เขาถือ โดยเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่อึดใจ คันธนูสายฟ้าก็ปรากฏให้ได้เห็น

“แล้วก็ในขั้นตอนสุดท้าย…” หลังจากคันธนูสายฟ้าได้มาอยู่ในมือของอาคุมุแล้ว เขาก็ควบแน่นออร่าพลังเวทสำหรับใช้เป็นลูกธนูเพื่อการโจมตีในทันที

ลูกธนูสายฟ้าจำนวนมากเริ่มปรากฏให้เห็นที่บริเวณวงแหวนเวทวงใหญ่… จนกระทั่งมันกลายเป็นทักษะโจมตีที่สมบูรณ์แบบในท้ายที่สุด

“คันศรอัสนี!!” วงแหวนเวทสีฟ้าได้ปรากฏขึ้นรอบข้อมือของอาคุมุ เขายกคันธนูขึ้นมาอยู่ในระดับสายตาด้วยมือขวา ขณะเดียวกันกับที่ลูกธนูนับร้อยถูกยิงออกไป

ตู้มมม!!!

ลูกศรอัสนีพุ่งตรงไปยังพื้นดิน เสียงระเบิดนับครั้งไม่ถ้วนได้ดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน บริเวณโดยรอบนั้นถูกปกคลุมไปด้วยควันจากการระเบิด
“สุดยอดชะมัด!” อาคุมุเก็บพลัง คันธนูในมือเขาหายไปอย่างช้า ๆ และลูกธนูรวมถึงวงแหวนเวทก็หายไปเช่นกัน ทักษะคันศรอัสนีของอาคุมุถือว่าใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม

“เป็นการโจมตีที่ดีมาก ๆ เลยล่ะครับนายน้อย” คาเอเกะที่ถอยห่างออกไปก็กลับมาดังเดิม

“ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ รู้สึกว่าเป็นทักษะที่รับมือได้ยากมากแน่ ๆ”

ในเวลาเพียงวันเดียว อาคุมุก็สามารถมีทักษะที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาได้ อีกทั้งยังใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับว่าเป็นการพัฒนาที่อาคุมุรอคอยมานานเลยล่ะ

“สำหรับวันนี้เราพักกันก่อนดีกว่า เวลาข้างนอกน่าจะเป็นตอนกลางคืนแล้วล่ะครับนายน้อย”

“นั่นสินะครับ ฝึกแบบลืมเวลาเลย” …