เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2] - บทที่ 41 สิ้นสุดการฝึกฝนจากมือขวา โดย MIN-G @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น,เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก

รายละเอียด

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2] โดย MIN-G @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

ผู้แต่ง

MIN-G

เรื่องย่อ

จะเป็นอย่างไร... เมื่อความตายนั้นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต?


ชายวัย 31 ปีที่ทำแต่ความดีมาโดยตลอดเพราะเชื่อในเรื่องของสวรรค์และนรก แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงเพราะการทำความดี ซึ่งดวงวิญญาณของเขากลับไม่ไปบนสวรรค์ดั่งหวัง แต่ได้ไปเกิดใหม่ยังโลกแห่งเวทมนตร์และพลังเหนือธรรมชาติในชื่อ “คาอิดะ อาคุมุ” ลูกคนสุดท้ายของตระกูลคาอิดะ เขาจะทำอย่างไรเมื่อได้มาเกิดใหม่อีกครั้งในโลกใหม่และชีวิตใหม่!!

“ถ้าเป็นคนดีแล้วไม่ได้ไปสวรรค์…” 

“...แสดงว่าสวรรค์ไม่มีอยู่จริง”

“แล้วฉันจะทำความดีทำไมกันเล่า!!!” 



---------------------------------------------------

หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มิได้เจตนาพาดพิงถึงผู้ใดและไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่

หมายเหตุ 2 : ชื่อสิ่งต่าง ๆ ในนิยายเรื่องนี้เช่น สถานที่ เป็นชื่อที่เกิดจากจินตนาการของผู้แต่ง ไม่ได้มีจริงแต่อย่างใด

หมายเหตุ 3 : เครื่องหมายคำพูด (“ ”) คือการพูดปกติ 
เครื่องหมายคำพูด (‘ ’) คือการคิดในใจ

----------------------------------------------


ระดับของนักเวท
นักเวทระดับ 1
นักเวทระดับ 2
นักเวทระดับ 3
จอมเวทระดับ 1
จอมเวทระดับ 2
จอมเวทระดับ 3
ราชันจอมเวทระดับ 1 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 2 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 3 ดาว


ระดับของปีศาจเวทมนตร์
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 4
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 5
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 6
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3 ดาว

สารบัญ

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 31 เบาะแส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 32 นายน้อย?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 33 ผู้แข็งแกร่ง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 34 เปิดฉากการต่อสู้,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 35 การต่อสู้ระดับสูง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 36 “นายน้อยต้องมีชีวิตต่อไปนะครับ...”,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 37 เรื่องราวที่เกิดขึ้น,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 38 เริ่มต้นการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 39 ความแปลกใหม่ของทักษะ,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 40 ผลประโยชน์อันมหาศาล,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 41 สิ้นสุดการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 42 กลไกในสนามประลอง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 43 สู่สนามประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 44 เริ่มต้นการประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 45 เล่นเป็นนักยิงธนู,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 46 เล่ห์เหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 47 เพื่อชัยชนะย่อมไม่เลือกวิธีการ?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 48 เหลี่ยมเหนือเหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 49 การประลองเพียงครั้งเดียว?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 50 ดาบแห่งราชัน?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 51 ผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 52 พลังที่แท้จริง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 53 คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 54 รอบ 8 คนสุดท้าย,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 55 ราชันจอมเวทอาวุโส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 56 เริ่มการประลองแบบกลุ่ม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 57 ความได้เปรียบเป็นศูนย์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 58 ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 59 หนึ่งรุมหก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 60 มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]

เนื้อหา

บทที่ 41 สิ้นสุดการฝึกฝนจากมือขวา

บทที่ 41 : สิ้นสุดการฝึกฝนจากมือขวา

ในวันต่อมา อาคุมุและคาเอเกะก็เข้าไปยังสถานที่ฝึกเช่นเดิม ความสามารถรอบด้านและความแข็งแกร่งที่อาคุมุได้รับมาจากการฝึกฝนเพียงวันเดียวนั้นเพิ่มขึ้นมาอย่างมากโข

“เท่านี้ นายน้อยก็มีทักษะโจมตีเพิ่มมาอีก 1 ทักษะ มีทักษะป้องกัน ทักษะพันธนาการ ทักษะเคลื่อนที่ที่นายน้อยมีอยู่ในตอนนี้…”

“นายน้อยอาจจะต้องลองคิดค้นทักษะเคลื่อนที่ด้วยพลังเวทสักหน่อยนะครับ เพราะถึงยังไงความโดดเด่นของมังกรสายฟ้าก็คือความรุนแรงและความเร็ว นายน้อยต้องใช้ประโยชน์จากตรงนี้ด้วยเพื่อที่จะได้แสดงความสามารถที่แท้จริงของพลังออกมาอย่างมากที่สุดครับ” คาเอเกะอธิบาย

“เข้าใจแล้วล่ะครับ แล้วเรื่องของเขตแดน…” อาคุมุพูดยังไม่ทันจบประโยค คาเอเกะก็ตอบกลับในทันที

“เขตแดนน่ะสามารถฝึกฝนได้แล้วครับ ข้อจำกัดแค่ต้องมีแต้ม B ถึง 20k (20,000) ซึ่งนายน้อยก็มีพร้อมแล้ว เพียงแต่ว่าการที่จะฝึกและใช้ทักษะนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะต้องเข้าใจในพลัง สามารถควบคุมได้เป็นอย่างดี ถ้าให้พูดง่าย ๆ คือมันต้องใช้เวลาน่ะครับนายน้อย”

“สำหรับวันนี้วันเดียวก็คงจะไม่พอสินะครับ” อาคุมุถามกลับไป 

“ตามทฤษฎีคือใช่ครับ แต่วันเดียวที่ผ่านมาสำหรับการฝึกทำให้นายน้อยได้มีทักษะใหม่ ๆ ถึงเพียงนี้ก็นับว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากเกินกว่าคนในวัยเดียวกันจะทำได้ครับ นายน้อยยังมีเวลาอีกเยอะ กระผมมั่นใจว่านายน้อยจะฝึกทักษะเขตแดนพลังเวทได้ง่าย ๆ เลยล่ะครับ”

“แล้วก็ มากไปกว่าคนในวัยเดียวกันกับนายน้อย คือคนที่อายุมากกว่านั้นครับ แต้ม B และความแข็งแกร่งของนายน้อยตอนนี้สามารถเทียบได้นักเวทชุดขาวขององค์จักรพรรดิเลยนะครับ”

“จริงด้วยแฮะ เป็นเพราะว่าการต่อสู้ครั้งที่แล้วมันทำให้ผมอยากแข็งแกร่งขึ้นเร็ว ๆ น่ะครับ แต่ลืมคิดไปว่านั่นคือคนที่เป็นมือขวาของจักรพรรดิ ระดับต่างกันลิบลับ…” 

“...แต่สิ่งที่ผมอยากจะทำมานานแล้วก็คือการฝึกฝนและคิดค้นทักษะใหม่ ๆ นี่แหละครับ เพราะหลังจากเข้าเมืองหลวงมาและฝึกฝนครั้งล่าสุดผมก็ไม่ได้ฝึกทักษะอะไรเพิ่มอีกเลย การต่อสู้จึงลำบาก”

‘แต่มันลำบากเกินไป ฉันต้องใช้ทักษะเดียวในการสู้เนี่ย’

หลังจากการฝึกฝนกับโทชิในตอนนั้น อาคุมุก็ไม่ได้ฝึกอะไรเพิ่มเลยแม้แต่น้อย การเป็นเป้าหมายขององค์จักรพรรดินั้นทำให้เขาถูกศัตรูรุมล้อมอยู่ตลอดเวลา การต่อสู้จึงเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

“ต่อจากนี้ไม่ลำบากแล้วล่ะครับนายน้อย สิ่งที่พบเจอมาจะเป็นประสบการณ์ในเส้นทางข้างหน้า” คาเอเกะพูดพร้อมกับเคลื่อนที่กลับไปกลับมาด้วยพลังเวทแห่งความมืด โดยรอบ ๆ ตัวของคาเอเกะนั้นมีออร่าของพลังเวท รวมถึงในตำแหน่งที่เขาเคลื่อนที่ไปก็มีออร่าความมืดกระจายอยู่เช่นกัน

“นี่คือ…”

“เป็นการเคลื่อนที่ด้วยพลังเวทของกระผมเองครับ การประยุกต์ใช้คือสิ่งสำคัญที่สุด”

“กระผมสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าพวกนักเวทชุดขาวกลุ่มหลักของจักรพรรดิ นอกจากพวกนั้นจะใช้การเคลื่อนที่ในพริบตาที่ช้ามาก ๆ แล้ว การเคลื่อนที่ด้วยพลังเวทของพวกนั้นก็ช้ามาก ๆ เช่นกันครับ” คาเอเกะพูดในขณะเดียวกันกับการเคลื่อนที่ของเขาที่เร็วเรื่อย ๆ

‘รู้สึกว่าจะเร็วกว่าบาทาไร้เงาของฉันในตอนนี้ด้วยแฮะ แต่จะเทียบอะไรกันได้ล่ะนะ ระยะเวลาในการฝึกมันต่างกัน การฝึกบาทาไร้เงาของฉันยังเป็นเพียงระดับเริ่มต้นอยู่เลย’

จนกระทั่งเขาหายไปในที่สุด

“เอ๋? ล่องหนเหรอครับ?” อาคุมุที่เห็นอย่างนั้นก็ถามออกไปในทันที

“ไม่ใช่ครับนายน้อย นี่คือการที่กระผมเคลื่อนที่เร็วเกินจนนายน้อยมองตามไม่ทันน่ะครับ”

“แบบนี้นี่เอง! เหมือนเมื่อตอนนั้นสินะครับ”

ในตอนที่อาคุมุและคาเอเกะนั้นสู้กับซาบาราชิ คาเอเกะได้สร้างเขตแดนพลังเวทขึ้นมาปะทะกับเขตแดนพลังเวทด้วยกัน ซึ่งมันเกิดการระเบิดขึ้นและเป็นทางด้านของคาเอเกะที่ใช้จังหวะของระเบิดนั้นเคลื่อนที่หายตัวไป ขณะเดียวกันก็โจมตีเข้าใส่ซาบาราชิจากตำแหน่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าคนที่แข็งแกร่งกว่ามากก็ยังไม่สามารถตามการเคลื่อนที่ของคาเอเกะได้ทัน

“ใช่แล้วล่ะครับ กระผมก็สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าตาแก่นั่นเช่นกัน” คาเอเกะตอบกลับมาพร้อมกับปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ อาคุมุ

“หากว่าผมฝึกการเคลื่อนที่ด้วยพลังเวทสำเร็จแล้ว ถ้าไม่นับเขตแดนพลังเวทผมก็จะมีครบทุกอย่างเลยสินะครับ” อาคุมุกล่าวถาม

“ตามนั้นเลยครับนายน้อย”

อาคุมุที่ได้ยินอย่างนั้นก็หลับตาลงพร้อมกับใช้เท้าขวาเหยียบลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง ออร่าพลังเวทแผ่ออกมาจากรอบตัวเขาอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นแรงที่ปะทะกับคาเอเกะได้

บริเวณพื้นที่เขาเหยียบและรอบ ๆ บริเวณที่เขายืนนั้นมีสายฟ้าปะทุขึ้นมาเป็นจำนวนมาก คาเอเกะที่เห็นอย่างนั้นก็ถอยออกไปเล็กน้อยเช่นเดิม เรียกได้ว่าเป็นการควบแน่นพลังที่มีความอลังการมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

‘ดี ต้องแบบนี้ ไปหาพลังเวทรอบ ๆ ตัวซะ!’

“ฮึบ!” อาคุมุได้เคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งของสายฟ้าที่อยู่ใกล้ตัวเขาด้วยความรวดเร็ว หลังจากนั้นจึงเคลื่อนที่กลับไปยังตำแหน่งเดิม

“ยังเร็วไม่พอ!!” อาคุมุทำแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมาครั้งแล้วครั้งเล่า โดยการเคลื่อนที่จากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่งด้วยความรวดเร็ว จนกระทั่งภาพที่เขาเห็นนั้นไม่ต่างจากโลกภายนอกถูกหยุดเวลาไว้เลยแม้แต่น้อย
“เร็วมากพอแล้วล่ะครับนายน้อย กระผมเองก็ตามแทบไม่ทัน” คาเอเกะพูดขึ้นมา

เมื่ออาคุมุได้ยินอย่างนั้นเขาก็หยุดการเคลื่อนที่ในทันที คาเอเกะจึงเดินเข้ามาหา

“ยินดีด้วยครับนายน้อย พัฒนาการของท่านสำหรับตัวกระผมแล้วไม่สามารถหาอะไรมาเทียบได้ ในตอนนี้นายน้อยแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับนักเวทกลุ่มใหญ่ ๆ ได้แล้วล่ะครับ”

“แล้วก็ก่อนจะสิ้นสุดการฝึก…”

“ยังมีต่อเหรอครับ?” อาคุมุที่ได้ยินคำพูดของคาเอเกะก็แปลกใจในทันที

“เรามาสู้กันแบบไม่ออมมือครับ” คาเอเกะตอบกลับมา ซึ่งอาคุมุก็ไม่รอช้าและถอยออกไปเตรียมพร้อมในทันที

“พร้อมแล้วบอกนะครับนายน้อย!!” ด้วยระยะห่างที่อาคุมุสร้างไว้ คาเอเกะจึงตะโกนบอกกับอาคุมุ

‘ถ้าหากว่าฉันวางตำแหน่งไว้แบบนี้ล่ะก็’ อาคุมุทำการวางแผนและตำแหน่งของวงแหวนเวทไว้เล็กน้อย

“พร้อมแล้วครับลุงคาเอเกะ!!” อาคุมุตะโกนตอบกลับไป

“ถ้างั้นก็… เริ่มได้เลยครับ!”

เปาะ! เสียงดีดนิ้วของอาคุมุดังขึ้น

วงแหวนเวทสีม่วงขนาดใหญ่เผยให้เห็นอยู่ข้างหลังคาเอเกะ ซึ่งมันลอยอยู่ในตำแหน่งที่สูงเหนือหัวขึ้นไป โดยมันปรากฏขึ้นพร้อมกับศรอัสนีที่พุ่งออกมานับร้อย

ตู้มมม!!!

“คันศรอัสนี!!!” วงแหวนสีฟ้าเกิดขึ้นที่รอบข้อมือของอาคุมุ คันธนูสายฟ้าค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาในมือของเขา อาคุมุมองเพ่งไปยังการโจมตีนั้นเพื่อหาตำแหน่งของคาเอเกะ

“ตาข่ายอัสนี!” ทักษะตาข่ายอัสนีถูกสร้างขึ้นมา 4 ทิศรอบตัวของอาคุมุ

“เป็นการวางตำแหน่งที่ดีมากเลยล่ะครับนายน้อย” เสียงของคาเอเกะดังก้องขึ้นมารอบทิศทาง

‘นึกแล้วเชียวว่าต้องหลบจากการโจมตีได้ในทันที จะออกมาทางไหนนะ?... ที่ที่ฉันไม่ได้ป้องกันเหรอ?!’

“ข้างบนเหรอ?!! ตาข่ายอัสนี…” อาคุมุเงยหน้าขึ้นไปก็ไม่ได้พบเป้าหมายแต่อย่างใด

“ผิดครับ ข้างล่างต่างหาก… มืดดำร่ายรำดาบ!”

“อึ่ก! …ทะลุพื้นดินขึ้นมาเนี่ยนะครับ?!” การปรากฏตัวของคาเอเกะนั้นทำให้อาคุมุตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่ได้พุ่งเข้ามาโจมตีตามทิศทางที่อาคุมุคิดไว้แต่อย่างใด กลับกลายเป็นเพียงออร่าความมืดและทะลุพื้นดินขึ้นมาโจมตีโดยตรงเสียอย่างนั้น

“ยัง… มันยังไม่จบครับ!!” อาคุมุนั้นใช้คันธนูอัสนีรับดาบของคาเอเกะไว้ ที่สามารถรับไว้ได้นั่นก็เพราะว่าเขาสามารถใช้ทักษะตาข่ายอัสนีได้ทันพอดี จึงทำให้ตาข่ายนั้นถูกตัดขาดและหายไป

“สายฟ้านี่เร็วจริง ๆ เลยนะครับ…”

“ตาข่ายอัสนีพันธนาการ!!!” ตำแหน่งของคาเอเกะนั้นอยู่ตรงกลางระหว่างตาข่ายอัสนีทั้ง 4 ของอาคุมุอย่างพอดิบพอดี

ตู้มมม!!!

“ฮึบ!” อาคุมุนั้นถูกแรงระเบิดผลักออกมาไกลจากตำแหน่งเดิมพอสมควร

‘ยังไม่สำเร็จอีกสินะ’

“...แต่ต้องขอโทษด้วยที่ในตอนนี้กระผมยังเร็วกว่า บัญชา…” คาเอเกะนั้นปรากฏตัวขึ้นข้างหลังอาคุมุและคิดจะโจมตีในทันที ซึ่งนั่นก็ถูกอาคุมุขัดขวางไว้ได้

ตู้มมม!!!

“นี่คือแสงอัสนีบาตดั้งเดิมไงล่ะครับ” อาคุมุพูดพร้อมกับชื่นชมในผลงาน แต่สุดท้าย…

“การต่อสู้จบแล้วล่ะครับนายน้อย” คาเอเกะปรากฏตัวขึ้นข้างหลังอาคุมุอีกครั้งพร้อมกับดาบแห่งความมืดที่ยังคงอยู่ในมือ โดยปลายดาบนั้นชี้อยู่บริเวณหลังคอของอาคุมุ

“จบแล้วจริง ๆ ซะได้ ลุงคาเอเกะปล่อยผมโจมตีก่อนตลอดเลยเนี่ยสิครับ แต่แค่นี้ผมก็เกือบจะหนีไม่พ้นแล้วล่ะ” อาคุมุพูดพลางหัวเราะ

“การต่อสู้เป็นไปในทิศทางที่ดีมากเลยล่ะครับ ถึงนายน้อยจะยังไม่ได้ใช้ทักษะเคลื่อนที่ แต่ด้วยความคิดที่รอบคอบของนายน้อยจะทำให้ใช้ทักษะทุกอย่างในการต่อสู้จริงได้อย่างดีแน่นอน การฝึกฝนจากกระผมก็จบลงเท่านี้ครับ ถึงแม้กระผมแทบจะยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม ฮ่า ฮ่า ฮ่า” คาเอเกะพูดจบ อาคุมุยังไม่ทันได้ตอบกลับแต่อย่างใด คนที่อาคุมุคุ้นเคยก็เดินลงมาจากข้างบนอย่างช้า ๆ

ตึก… ตึก… ตึก…

“เป็นการฝึกฝนที่เห็นผลได้ชัดเลยล่ะ…”