เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2] - บทที่ 43 สู่สนามประลอง โดย MIN-G @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น,เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,แฟนตาซี,ต่างโลก

รายละเอียด

เมื่อชายหนุ่มได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ โดยเขาตายเพราะช่วยคุณยายข้ามถนนแล้วถูกรถชน เขาจะใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ต่อไปอย่างไร!

ผู้แต่ง

MIN-G

เรื่องย่อ

จะเป็นอย่างไร... เมื่อความตายนั้นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต?


ชายวัย 31 ปีที่ทำแต่ความดีมาโดยตลอดเพราะเชื่อในเรื่องของสวรรค์และนรก แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงเพราะการทำความดี ซึ่งดวงวิญญาณของเขากลับไม่ไปบนสวรรค์ดั่งหวัง แต่ได้ไปเกิดใหม่ยังโลกแห่งเวทมนตร์และพลังเหนือธรรมชาติในชื่อ “คาอิดะ อาคุมุ” ลูกคนสุดท้ายของตระกูลคาอิดะ เขาจะทำอย่างไรเมื่อได้มาเกิดใหม่อีกครั้งในโลกใหม่และชีวิตใหม่!!

“ถ้าเป็นคนดีแล้วไม่ได้ไปสวรรค์…” 

“...แสดงว่าสวรรค์ไม่มีอยู่จริง”

“แล้วฉันจะทำความดีทำไมกันเล่า!!!” 



---------------------------------------------------

หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มิได้เจตนาพาดพิงถึงผู้ใดและไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่

หมายเหตุ 2 : ชื่อสิ่งต่าง ๆ ในนิยายเรื่องนี้เช่น สถานที่ เป็นชื่อที่เกิดจากจินตนาการของผู้แต่ง ไม่ได้มีจริงแต่อย่างใด

หมายเหตุ 3 : เครื่องหมายคำพูด (“ ”) คือการพูดปกติ 
เครื่องหมายคำพูด (‘ ’) คือการคิดในใจ

----------------------------------------------


ระดับของนักเวท
นักเวทระดับ 1
นักเวทระดับ 2
นักเวทระดับ 3
จอมเวทระดับ 1
จอมเวทระดับ 2
จอมเวทระดับ 3
ราชันจอมเวทระดับ 1 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 2 ดาว
ราชันจอมเวทระดับ 3 ดาว


ระดับของปีศาจเวทมนตร์
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 4
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 5
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 6
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 1 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 2 ดาว
ปีศาจเวทมนตร์ระดับ 3 ดาว

สารบัญ

เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 31 เบาะแส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 32 นายน้อย?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 33 ผู้แข็งแกร่ง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 34 เปิดฉากการต่อสู้,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 35 การต่อสู้ระดับสูง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 36 “นายน้อยต้องมีชีวิตต่อไปนะครับ...”,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 37 เรื่องราวที่เกิดขึ้น,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 38 เริ่มต้นการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 39 ความแปลกใหม่ของทักษะ,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 40 ผลประโยชน์อันมหาศาล,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 41 สิ้นสุดการฝึกฝนจากมือขวา,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 42 กลไกในสนามประลอง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 43 สู่สนามประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 44 เริ่มต้นการประลอง,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 45 เล่นเป็นนักยิงธนู,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 46 เล่ห์เหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 47 เพื่อชัยชนะย่อมไม่เลือกวิธีการ?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 48 เหลี่ยมเหนือเหลี่ยม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 49 การประลองเพียงครั้งเดียว?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 50 ดาบแห่งราชัน?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 51 ผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 52 พลังที่แท้จริง?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 53 คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 54 รอบ 8 คนสุดท้าย,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 55 ราชันจอมเวทอาวุโส?,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 56 เริ่มการประลองแบบกลุ่ม,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 57 ความได้เปรียบเป็นศูนย์,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 58 ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 59 หนึ่งรุมหก,เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย! [เล่ม 2]-บทที่ 60 มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]

เนื้อหา

บทที่ 43 สู่สนามประลอง

บทที่ 43 : สู่สนามประลอง

เช้าวันต่อมา

ในวันนี้เป็นเช้าวันแรกของการประลอง… เป็นวันที่อาคุมุรอคอยและวันที่อาคุมุรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ…

“เราไปกันเถอะครับนายน้อย อย่ากังวลมากเลยนะครับ”

“ผมกังวลและตื่นเต้นน่ะครับ กังวลว่าจะเจอวิธีการเล่นสกปรกแบบไหนบ้าง…” อาคุมุพูดในขณะที่เตรียมของอย่างมีดสั้นและดาบใส่กระเป๋าสะพาย พร้อมกับเสื้อคลุมตัวใหญ่ของเขาที่สวมทับเสื้อแขนสั้น

“...ส่วนที่ตื่นเต้นคือผมอยากจะลองซัดให้หนัก ๆ สักตั้ง วิธีการของจักรพรรดินั่นจะทำอะไรผมได้สักแค่ไหนกันเชียว!” อาคุมุพูดออกไปด้วยความมั่นใจ ซึ่งลึก ๆ ก็ยังคงแฝงไปด้วยความกังวลเช่นเดิม

“เราไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่เขาจะทำได้ แต่กระผมมั่นใจว่านายน้อยจะค้นหาทางออกที่ดีที่สุดได้แน่นอนครับ ส่วนเรื่องขององค์จักรพรรดิเดี๋ยวกระผมจะเล่าให้ฟัง”

ได้ยินอย่างนั้นอาคุมุก็เดินไปที่ประตูห้องก่อนคาเอเกะ

“ไปกันเลยครับลุงคาเอเกะ”

หลังจากนั้นทั้งสองจึงมุ่งหน้าไปยังสนามประลองของจักรวรรดิไดจิ ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองไดอิกิแห่งนี้ เดินไปเพียงไม่นานก็ถึงที่หมายได้

“จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิไดจิมีนามว่า เออิจิ ได ปกครองจักรวรรดินี้มานาพอสมควรจากที่กระผมเคยได้ยินมา ในเรื่องของพลังเวทนั้นเป็นเวทแห่งแสงครับ” 

‘แสงเหรอ? มันใช้ยังไงล่ะเนี่ย?’

“ถ้าถามว่าแข็งแกร่งในระดับไหน ในช่วงก่อนที่กระผมจะได้พบนายน้อยนั้น ความแข็งแกร่งของเขาก็คงจะเทียบเท่ากับซาบาราชิ ตอนที่บุคคลปริศนาปรากฏตัวขึ้นมาช่วยซาบาราชิกระผมจึงคิดว่าไม่ใช่องค์จักรพรรดิ เพราะระดับพลังต่างกันลิบลับเลยล่ะครับ” คาเอเกะพูดจนจบ

“เป็นไปได้ไหมครับที่ระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ถึงระดับนั้น?” อาคุมุถามกับคาเอเกะ

“ถึงจะไม่มั่นใจเท่าไหร่ แต่มันข้ามขั้นเกินไปน่ะครับ”

‘มีแต่ปริศนาแฮะ ตอนนั้นฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเนี่ยสิ’

“เราผ่านกำแพงนี้ไปก็ถึงใจกลางเมืองแล้วครับนายน้อย”

เดินออกจากห้องและลงมาข้างล่างได้ไม่นาน เดินอยู่ข้างนอกได้ไม่นานเช่นกัน อาคุมุและคาเอเกะก็กำลังจะผ่านกำแพงแนวยาวไปพร้อมกับกำลังจะเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวงด้วยวิธีการเดินเท้า

“ครึกครื้นจังเลยนะครับ ทางที่เราผ่านมายังเงียบอยู่เลย” อาคุมุพูดออกไป

“คงเพราะว่าฝั่งนี้มีราชวัง ข้างในสุดตรงกลางก็เป็นราชวัง กลางเมืองที่มีแต่ตึกและบ้านคนก็เป็นแบบนี้นี่แหละครับ เราเดินผ่านตรงนี้เข้าไปก็ถึงสนามประลองแล้วล่ะครับนายน้อย” คาเอเกะตอบกลับมา

‘ตอนที่มาครั้งแรกฉันหนีไปทางไหนล่ะเนี่ย? มาเดินอยู่แบบนี้ฉันคงไม่โดนจับหรือเจอใครหรอกนะ’

“อะอ้าว! เจอกันจนได้นะเจ้าเด็กมีชื่อเสียง” เดินไปยังไม่ทันไกลจากทางเข้า อาคุมุก็ได้พบกับคนที่คุ้นเคยอีกครั้ง

‘เพิ่งคิดไปยังไม่ทันจะลืมเลย เจอจริง ๆ ซะได้’

“เฮ้!…” คาเอเกะที่จะเข้าไปขวางไว้ก็หยุกชะงัก เพราะอาคุมุนั้นดึงไว้

“ผมเองครับ”

“โอ้! เหมือนว่าคุณจะเป็น… ใครนะครับ? ผมจำไม่ได้น่ะ ไม่มีคุณค่าให้น่าจำสักเท่าไหร่” อาคุมุตอบกลับไปหลังจากที่คาเอเกะมายืนอยู่ข้างหลังเขา ซึ่งคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็คือคาซูโอะ หัวหน้าหน่วยจันทราแดงที่อาคุมุสามารถเอาชนะมาได้นั่นเอง

“ปากแกนี่มัน… ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตอนอยู่ในสนามก็ขอให้แกปากดีเหมือนตอนอยู่ตรงนี้แล้วกัน” คาซูโอะพูดพร้อมกับเดินเข้ามา

“แกอาจจะผ่านคนในรอบแรก ๆ ไปได้ แต่แกผ่านรินไปไม่ได้หรอกนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” พูดจบ คาซูโอะก็เดินผ่านไปในทันที

ซึ่งสิ่งที่อาคุมุตกใจนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างริน แต่เป็น…

“นี่มัน ไม่ใช่การประลองในระดับของเด็กจริง ๆ เหรอ?” ฟังจากคาซูโอะเพียงคำพูดสั้น ๆ ก็อาจจะตีความได้แล้วว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นมีตั้งแต่คนที่เข้าร่วมการประลอง ซึ่งสิ่งที่อาคุมุจะต้องเจอต่อจากนี้เขาต้องไปดูด้วยตาของตัวเอง

“คาดว่าต้องเหนื่อยหน่อยแล้วล่ะครับนายน้อย”

“ถึงผมจะมั่นใจในพลังของตัวเองก็เถอะ แต่ผมคิดว่าการเล่นสกปรกขององค์จักรพรรดิมันจะสามารถเพิ่มระดับได้ถ้าเป็นการต่อสู้ในระดับที่สูงขึ้นเนี่ยสิครับ”

ตอนนี้อาจพูดได้อย่างเต็มปากว่าตัวของอาคุมุอยู่ในระดับที่สามารถสู้กับนักเวทเก่ง ๆ ได้ แต่ที่เขาต้องสู้ด้วยในสนามนี้นั้นไม่ได้มีแค่คู่ต่อสู้ เพราะยังมีกลไกในสนามซึ่งถูกควบคุมโดยองค์จักรพรรดิที่เขาต้องรับมือ

“ข้างหน้านั่นครับนายน้อย” คาเอเกะพูดขึ้นมา

“ยิ่งใหญ่ชะมัด!” ประตูทางเข้าขนาดใหญ่ที่ราวกับว่ามีพลังเวทบรรจุไว้ตั้งตระหง่านอย่างเด่นชัด ออร่าสีทองปกคลุมไปทั่วประตูนั้น โดดเด่นยิ่งกว่าสิ่งใด ทั้งยังโดดเด่นยิ่งกว่าทางเข้าเมืองหลวงอีกต่างหาก

ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ก็ยิ่งเห็นถึงความอลังการของประตูนี้

“ผู้เข้าแข่งขันมาลงชื่อที่นี่ครับ!! ผู้เข้าแข่งขันมาลงชื่อที่นี่นะครับ!!” เสียงตะโกนจากชายผู้ที่ควบคุมดูแลอยู่หน้าทางเข้า ซึ่งก็คือที่ที่ผู้เข้าแข่งขันต้องมาลงชื่อนั่นเอง

“ผมก็ต้องไปตรงนั้นสินะครับ”

“ใช่ครับนายน้อย”

อาคุมุและคาเอเกะจึงเดินตรงไปที่ใต้หลังคา ชายคนนั้นที่เห็นอาคุมุก็ก้มดูแผ่นกระดาษหนา ๆ ที่อยู่ในมือทันที

“หืม? หรือว่านายจะเป็นผู้เข้าแข่งขันที่อายุน้อยที่สุดนะ ที่นี่ป่าเถื่อนขนาดนี้ยังจะเข้าร่วมอยู่หรือไม่? นายสามารถสละสิทธิ์ได้นะ” ชายคนนั้นถามกับอาคุมุก่อนที่เตรียมจะยื่นของบางอย่างให้

‘ฉันอายุน้อยที่สุดด้วยเหรอ?’

“ไม่ล่ะครับ ผมมาเพื่อเก็บชัยชนะกลับบ้าน แล้วก็มาล่ารางวัลน่ะ” อาคุมุตอบกลับไปด้วยความมั่นใจในทันที

“ถ้านายว่าอย่างนั้นก็รับนี่ไป ใช้เพื่อแบ่งสายการต่อสู้” ชายคนนั้นส่งไม้สั้น ๆ ให้อาคุมุ ซึ่งที่บริเวณปลายของไม้นั้นมีสีแดงและตรงกลางของไม้มีการสลักคำว่า B4 เอาไว้

“ของนายคือสาย B ลำดับที่ 4 สีแดงคือสีที่จะใช้จับคู่ในรอบ 8 คนสุดท้าย จำเอาไว้ให้ดีล่ะเพราะที่อยู่ในมือนายจะต้องส่งให้ผู้ควบคุมสนามประลอง ขอให้ได้ดังที่หวังและยินดีต้อนรับเข้าสู่สนามประลอง! เชิญ” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับต้อนรับผู้เข้าแข่งขันอย่างอาคุมุเข้าสู่สนามประลอง

“ขอบคุณครับ” อาคุมุที่และคาเอเกะเดินเข้าไปยังสนามประลองในทันที…



ณ สนามประลอง ใจกลางเมืองไดอิกิ

ผู้คนจำนวนมากนับร้อยนับพันต่างนั่งอยู่บริเวณที่นั่งของผู้ชม ซึ่งที่เห็นนั้นก็ยังไม่สามารถทำให้รอบ ๆ สนามประลองอัดแน่นได้และยังคงเหลือที่ว่างอีกเป็นจำนวนมาก

“ใหญ่มาก! กว้างมาก!” อาคุมุรู้สึกตื่นตาตื่นใจและได้เปิดโลกเป็นอย่างมากเมื่อได้เห็นสนามประลองแห่งนี้

“ยินดีต้อนรับท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายเข้าสู่สนามประลองของจักรวรรดิไดจิ!!!” เสียงจากผู้ที่ยืนอยู่กลางสนามได้ดังกึกก้องไปทั่วสนามประลอง คาดเดาได้ไม่ยากว่าเป็นผู้ดำเนินการประลองในครั้งนี้ โดยรอบตัวของเขาคนนั้นมีวงแหวนเวทสีม่วงลอยอยู่ทั้ง 4 ทิศ

“นั่นคือ…” อาคุมุที่เห็นอย่างนั้นก็เกิดความสงสัยในสิ่งที่เห็น

“เวทคลื่นเสียงน่ะครับ ใช้ต่อสู้และใช้งานโดยการกระจายเสียงแบบนี้ก็ยังได้ มีความสารพัดประโยชน์อยู่พอสมควร” คาเอเกะพูดขึ้นมา

“เจ๋งชะมัด!”

“ทุก ๆ ท่านครับ… องค์จักรพรรดิของเราได้มาถึงแล้ว!!!” ผู้ดำเนินการได้ประกาศด้วยเสียงที่หนักแน่นและกึกก้องไปทั่วสนามประลองอีกครั้ง ชาวเมืองไดอิกิต่างพร้อมใจกันพูดด้วยเสียงที่ดังสนั่น

“องค์จักรพรรดิ!!!”
“องค์จักรพรรดิจงเจริญ!!”
“ขอพระองค์อายุยืนหมื่นปี!!”

‘เจริญกับผีน่ะสิ ทำไมผู้คนถึงสรรเสริญกันได้นะ? ทำอะไรมาเยอะมากเลยไม่ใช่เหรอ?’

“อยู่นั่นสินะ องค์จักรพรรดิ…”