"เมื่อฉันต้องทะลุเข้าไปในนิยาย ได้เป็นถึงนางเอกของเรื่อง การจะกลับออกไปคือต้องให้นิยายเรื่องนี้จบ แบบ happy ending แค่นี้ง่ายจะตาย ฉันเป็นนางเอกนะ แต่ทำไม๊ ทำไมพระเอกกลับบอกว่าฉันจีดชืด ไร้รสนิยม ไม่ต้องตาเขาเลย แต่เขากลับไปต้องใจยัยตัวร้ายของเรื่องซะงั้น อ๋ออออออ ได้สิ อยากให้ร้ายใช่มะ แม่จะร้ายให้ร้องขอชีวิตเลย"

ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ - บทที่ 4 สมุนไพรแสนลับกับ 'สูตรของตระกูลข้า' โดย ผิงผิงชอบกินปลา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,จีน,ข้ามเวลา,รัก,ตลก,รัก,จีน ,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,จีน,ข้ามเวลา,รัก,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รัก,จีน ,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,แฟนตาซี

รายละเอียด

"เมื่อฉันต้องทะลุเข้าไปในนิยาย ได้เป็นถึงนางเอกของเรื่อง การจะกลับออกไปคือต้องให้นิยายเรื่องนี้จบ แบบ happy ending แค่นี้ง่ายจะตาย ฉันเป็นนางเอกนะ แต่ทำไม๊ ทำไมพระเอกกลับบอกว่าฉันจีดชืด ไร้รสนิยม ไม่ต้องตาเขาเลย แต่เขากลับไปต้องใจยัยตัวร้ายของเรื่องซะงั้น อ๋ออออออ ได้สิ อยากให้ร้ายใช่มะ แม่จะร้ายให้ร้องขอชีวิตเลย"

ผู้แต่ง

ผิงผิงชอบกินปลา

เรื่องย่อ

สารบัญ

ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทนำ อารัมภบท,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 1 นักอ่านตัวยงผู้ทะลุมิติมาเปลี่ยนโลก,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 2 การพบกันของคุณหนูหลินและพระเอกจอมซึน,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 3 การปรากฏตัวของหยางเฟยฮุ่ย,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 4 สมุนไพรแสนลับกับ 'สูตรของตระกูลข้า',ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 5 ท่านโหวและแม่ทัพหนุ่มผู้เย็นชา,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 6 ปรับตัว,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 7 ผู้หญิงแซ่บทรงเสน่ห์ เขาทำกันยังไงนะ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 8 สองตระกูลเชื่อมสัมพันธ์,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 9 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 10 หลีกไป...แม่จะเดิน,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 11 แผนร้ายของหยางเฟยฮุ่ย,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 12 ครอบครัว,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 13 ปัญหา,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 14 ตระกูลหยาง,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 15 เดินหน้าตามแผน,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 16 ภัยพิบัติ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 16 ภัยพิบัติ (1),ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 17 นี่มันคือ ...เดตมั้ยนะ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 18 ประทานรางวัล,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 19 ใครดีใครได้,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 20 วันชิงหมิง,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 21 รั้นจนได้เรื่อง,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 22 ปลอดภัยแล้วนะ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 23 เป็นตัวเองนั้นดีที่สุด,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 24 ข่าวลือ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 25 สยบข่าวลือ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 26 พบปะพูดคุย,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 27 เทศกาลลี่เซี่ย,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 28 ข้าอ่อนโยนกับเจ้าคนเดียว,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 29 เลี้ยงกองทัพ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 30 ช่วงต้าสู่,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 31 ขบวนสินสอดที่ยาวที่สุด

เนื้อหา

บทที่ 4 สมุนไพรแสนลับกับ 'สูตรของตระกูลข้า'

ในห้องโถงที่เงียบสงบ หลินเข่อซิงนั่งอยู่หน้าตำรับสมุนไพรโบราณกองโต ซึ่งถูกจัดวางอย่างประณีตบนโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ ด้านหลังของเธอมีหลิงเฉินที่กำลังจัดสมุนไพรต่างๆ ใส่จานเล็กๆ หลายใบ วางเรียงอยู่ตรงหน้า
หลินเข่อซิงยืดอก นั่งทำทีราวกับนักปรุงยาผู้เชี่ยวชาญ พยายามทำตัวให้ดูสำรวมและมีสมาธิที่สุด โอเค หลินเข่อซิง! นี่คือแผนของเจ้า แค่ทำเป็นรู้เรื่องพวกนี้มากๆ พูดถึง ‘สูตรลับ’ อะไรสักอย่าง แล้วเจ้าจะรอด!
หลิงเฉินขยับเข้าใกล้พร้อมกับกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู “คุณหนูหลินเจ้าคะ สมุนไพรชนิดนี้เป็นสมุนไพรแก้อักเสบเจ้าค่ะ ท่านจำไว้ว่าท่านต้องทำเป็นว่ารู้จักมันอย่างดี”
หลินเข่อซิงพยักหน้ารับ โอเค ได้! เธอสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะยกสมุนไพรขึ้นมาดูด้วยท่าทีราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่รู้ทุกอย่าง “อืม... สมุนไพรชนิดนี้เรียกว่า... เอ่อ... เสวี่ยหงชี่” เธอตั้งชื่อขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ พร้อมกับทำท่าพินิจพิจารณาอย่างจริงจัง “มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการอักเสบได้ดี ข้าจะใช้มันเป็นส่วนผสมหลักในยาของข้า”
อวิ๋นเฟยหลงนั่งมองอยู่จากมุมหนึ่งของห้อง เขามองท่าทางของหลินเข่อซิงอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ใบหน้าของเขาเรียบเฉยตามปกติ ทว่าในดวงตาของเขากลับมีแววตื่นตะลึงเล็กน้อย เธอดูแตกต่างจากที่ข้าคิดไว้จริงๆ
ขณะที่หลินเข่อซิงกำลังทำท่าเป็นผู้รู้ หยางเฟยฮุ่ยเดินเข้ามาอย่างช้าๆ พร้อมกับแววตาสงสัยและไม่พอใจแฝงอยู่ เธอยืนมองอยู่เงียบๆ จากด้านข้าง จ้องหลินเข่อซิงอย่างจับผิด “สมุนไพร...เสวี่ยหงชี่หรือ? ข้าไม่เคยได้ยินชื่อมันมาก่อนเลย” นางกล่าวเสียงเรียบ แต่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ในน้ำเสียง
หลินเข่อซิงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเหงื่อตก แย่แล้ว! นางเริ่มจับพิรุธได้! แต่เธอก็พยายามสงบใจและยิ้มหวาน “โอ้ แน่นอนท่านไม่เคยได้ยิน เพราะมันเป็นสมุนไพรลับจากตระกูลข้า” เธอเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ แล้วหันไปสบตาหลิงเฉินที่แอบยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ข้างๆ
หลิงเฉินขยับเข้ามากระซิบเบาๆ “คุณหนู ท่านแค่ต้องบดสมุนไพรแล้วเติมน้ำให้ดูเหมือนจริงก็พอ”
เข่อซิงพยักหน้ารับ ก่อนจะเริ่มหยิบครกเล็กๆ มาบดสมุนไพรเข้าด้วยกัน เสียงบดดัง กรอบแกรบๆ เธอทำท่าทางขะมักเขม้น พลางพยายามเติมน้ำจากเหยือกลงไปในชามอย่างระมัดระวัง ขณะเดียวกันเธอก็ยังคงบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างขึงขัง “อืม... ต้องผสมในอัตราส่วนที่พอเหมาะ พอดี ถ้าเกินไปก็จะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดี”
อวิ๋นเฟยหลงมองการกระทำของเธอด้วยความสนใจ ไม่ใช่เพียงเพราะท่าทางที่เหมือนหมอยาเท่านั้น แต่ความตั้งใจและความมั่นใจที่หลินเข่อซิงแสดงออกมามันต่างไปจากภาพที่เขาเคยมีในหัว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ธรรมดาอย่างที่ข้าคิดไว้จริงๆ
ในขณะที่หลินเข่อซิงกำลังเทยาสมุนไพรลงในชาม หยางเฟยฮุ่ยก็แอบจ้องมองเธออย่างไม่พอใจและขัดเคือง นางพยายามอดทนอดกลั้นไม่พูดอะไร แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจ นางนี่กล้าทำตัวเด่นเกินหน้าข้าได้อย่างไร!
“เสร็จแล้วเจ้าค่ะ!” หลินเข่อซิงยิ้มกว้างเมื่อยาสมุนไพรดูสำเร็จลุล่วงด้วยดี แม้ว่าเธอจะไม่ได้รู้เรื่องสมุนไพรจริงๆ เลยก็ตาม “นี่เป็นสูตรยาลับเฉพาะของข้า ท่านอวิ๋นลองใช้ดูสักหน่อยสิเจ้าคะ รับรองว่าท่านจะรู้สึกดีขึ้นภายในไม่กี่วัน”
อวิ๋นเฟยหลงมองหน้าหลินเข่อซิง ก่อนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขารับชามสมุนไพรมาจากมือเธอ พร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย “ข้าจะลองดู” เขากล่าวเสียงเรียบ แต่แฝงความสนใจในตัวเธอที่เพิ่มมากขึ้น
หยางเฟยฮุ่ยมองดูสถานการณ์นี้อย่างขัดใจยิ่งนัก นางพยายามจะคุมตัวเองให้สงบ แต่ในใจกลับยิ่งเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่หลินเข่อซิงได้รับความสนใจจากอวิ๋นเฟยหลงมากขึ้นทุกที นางนี่...ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าได้ใจเฟยหลงง่ายๆ หรอก!
เมื่อเข่อซิงเห็นท่าทีของเฟยหลงที่ดูสนใจในตัวเธอ เธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย โอเค! แผนนี้ดูเหมือนจะได้ผลดีแฮะ! เธอยิ้มออกมาพร้อมกับความมั่นใจที่เริ่มกลับมา
หลังจากเหตุการณ์ในห้องโถง หลินเข่อซิงและหลิงเฉินก็กลับมาถึงจวนของตนเอง ทันทีที่ปิดประตูห้องนอน เข่อซิงก็ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง หายใจอย่างโล่งอกในที่สุด
“โอ๊ย! หลิงเฉิน ข้าล่ะโล่งใจที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี! ถ้าไม่มีเจ้า ข้าคงไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดยังไง” หลินเข่อซิงพูดพลางหัวเราะเบาๆ
หลิงเฉินยืนยิ้มกว้างอยู่ข้างๆ “คุณหนูเก่งมากเจ้าค่ะ ข้าก็แค่ช่วยเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง”
“เล็กๆ น้อยๆ เหรอ!?” หลินเข่อซิงหัวเราะ “ถ้าไม่ได้เจ้าคอยกระซิบแผนช่วยอยู่ข้างๆ ข้าคงถูกจับได้แน่ๆ แล้วอวิ๋นเฟยหลงก็คงรู้ว่าข้าไม่ได้รู้เรื่องสมุนไพรอะไรเลย”
หลิงเฉินหัวเราะอย่างขี้เล่น “ท่านก็ทำได้ดีนะเจ้าคะ ทำท่าเหมือนหมอยาจริงๆ ขนาดข้าดูยังแอบเชื่อเลย”
“เหรอ?” หลินเข่อซิงพูดพร้อมหัวเราะ “ข้าก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำท่าหมอยาไปได้ยังไงเหมือนกัน!”
ทั้งสองหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นเรื่อยๆ หลินเข่อซิงจึงลุกขึ้นแล้วเปิดกล่องไม้ขนาดเล็กที่อยู่ข้างเตียง ก่อนจะหยิบถุงเงินออกมา
“เอาล่ะ หลิงเฉิน เจ้าช่วยข้าครั้งนี้ได้เยี่ยมจริงๆ ข้าควรให้รางวัลเจ้า” หลินเข่อซิงยื่นถุงเงินให้สาวใช้อย่างใจกว้าง
หลิงเฉินมองถุงเงินด้วยความตกใจ “คุณหนู ข้าแค่ทำตามหน้าที่เองเจ้าค่ะ ท่านไม่ต้องให้รางวัลข้าหรอก!”
“ไม่ได้!” เข่อซิงยิ้มพร้อมกับยัดถุงเงินใส่มือหลิงเฉิน “เจ้าช่วยข้ามาก เจ้าไม่ต้องเกรงใจ นี่เป็นรางวัลเล็กๆ น้อยๆ สำหรับความเฉลียวฉลาดและการช่วยเหลือข้าในวันนี้”
หลิงเฉินรับถุงเงินอย่างไม่เต็มใจนัก “ท่านนี่ใจดีเกินไปจริงๆ ข้าทำงานกับท่านมีความสุขอยู่แล้ว ไม่ได้คาดหวังสิ่งตอบแทนเลยเจ้าค่ะ”
“แต่ข้าคิดว่าเจ้าเหมาะสมกับมันแล้ว” หลินเข่อซิงตอบพลางยิ้ม “ข้าไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะเจอเรื่องบ้าๆ บอๆ อะไรอีก แต่ข้ารู้ว่าถ้ามีเจ้าคอยอยู่ข้างๆ ข้าคงจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน”
หลิงเฉินยิ้มอย่างซาบซึ้ง “ท่านวางใจได้เลยเจ้าค่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะอยู่เคียงข้างท่านเสมอ”
หลินเข่อซิงฟังแล้วก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอีกครั้ง ถึงจะทะลุมิติมาอยู่ในโลกนิยายแบบนี้ แต่ก็ยังดีที่มีหลิงเฉินคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ เธอคิดในใจ ขณะเอนตัวลงบนเตียง รู้สึกได้ถึงความสบายใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน
หลิงเฉินนั่งอยู่ข้างเตียงของคุณหนูหลินพลางมองดูเจ้านายของตนเอนตัวลงนอนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ใจของเธออดคิดไม่ได้ว่า ตั้งแต่วันที่คุณหนูหลินฟื้นขึ้นมาจากการตกน้ำ ก็มีอะไรหลายอย่างที่เปลี่ยนไปอย่างมาก
คุณหนูหลินคนเดิม ที่เธอเคยรู้จักนั้น เป็นหญิงสาวที่สงบเสงี่ยม อ่อนหวาน และมักจะระมัดระวังทุกกิริยา คำพูดคำจานุ่มนวลเสมอ แต่พอเธอตื่นขึ้นมาหลังจากเหตุการณ์ตกน้ำ... คุณหนูหลินกลับดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิมจนเกือบจะเป็นคนละคน
“คุณหนูหลินที่ข้ารู้จัก กลายเป็นคนใหม่เสียแล้ว...” หลิงเฉินคิดในใจ พลางยิ้มบางๆ
“หลิงเฉิน เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ?” เสียงของคุณหนูหลินดังขึ้น ทำให้หลิงเฉินสะดุ้งเล็กน้อย นางยิ้มแห้งๆ และตอบไปอย่างสุภาพ “เปล่าเจ้าค่ะ ข้าแค่ว่านับตั้งแต่วันที่ท่านฟื้นขึ้นมา ท่านก็ร่าเริงขึ้นมากจริงๆ เจ้าค่ะ”
“ร่าเริง?” หลินเข่อซิงยิ้มกว้าง “ดีสิ! ข้าก็อยากให้ชีวิตมันสนุกบ้าง! ข้าไม่อยากอยู่แบบเดิมแล้ว ดูสิ ข้ายังทำให้เฟยหลงตกตะลึงได้เลยวันนี้”
หลิงเฉินหัวเราะเล็กน้อย “แต่บางครั้งท่านก็...” นางหยุดพูด คิดในใจว่าควรจะบอกเรื่องนี้อย่างไรดี “...อืม...ท่านก็ออกจะไม่สำรวมเท่าไรนักนะเจ้าคะ”
“ข้าเหรอ!?” หลินเข่อซิงทำหน้าตกใจ “ไม่สำรวมตรงไหนกัน?”
หลิงเฉินยิ้มแห้ง “ก็อย่างเช่นเมื่อสองวันก่อน ที่ท่านเจอท่านอาจารย์เซวียจางหมิ่น จำได้ไหมเจ้าคะ?
ท่านเผลอเรียกท่านอาจารย์ว่า ‘พี่’ ด้วยความตื่นเต้น ตอนท่านพยายามอธิบายว่าทำไมถึงอยากเจอเขา ท่านก็เผลอพูดเร็วๆ จนท่านอาจารย์ทำหน้ามึนไปชั่วครู่เลย”
หลินเข่อซิงหัวเราะหนักขึ้น “ใช่แล้ว! ข้าตื่นเต้นเกินไปจนเผลอเรียกพี่ แต่ข้าก็รีบแก้ไขแล้วนี่น่า! ท่านอาจารย์ยังยิ้มขำๆ ไม่ถือสาเลย”
หลิงเฉินยิ้มกว้าง “เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ใจดีมากจริงๆ”
หลินเข่อซิงนอนเอนตัวลงแล้วหัวเราะเบาๆ
แล้วก็ที่ท่านเจอกับองค์ชายห้า ท่านจำได้ไหมเจ้าคะ?” หลิงเฉินยิ้มขำๆ ก่อนจะเล่าต่อ “ท่านพยายามจะช่วยเขาเก็บพัดที่ทำตก แต่ตอนย่อตัวลง ท่านดันสะดุดชายกระโปรงตัวเองจนล้มหน้าคะมำ! องค์ชายถึงกับรีบเข้ามาพยุงท่านด้วยความตกใจ แต่ท่านกลับลุกขึ้นมาพร้อมหัวเราะเสียก่อน ท่านยังพูดอีกว่า ‘ไม่เป็นไร ข้าล้มเองบ่อยๆ!’”
“โอ๊ย! ข้าลืมไปแล้ว!” หลินเข่อซิงหัวเราะจนตัวงอ “ใช่! ข้าคิดว่าเขาจะตกใจกลัวข้าล้มหัวทิ่มหัวตำ แต่ข้าดันขำซะก่อน ฮ่าๆๆ”
หลิงเฉินพยายามกลั้นหัวเราะ “องค์ชายห้าคงไม่ค่อยเจอผู้หญิงแบบท่านบ่อยนัก ข้าคิดว่าเขาคงอึ้งไปเลยตอนที่ท่านลุกขึ้นมาหัวเราะได้เร็วขนาดนั้น”
หลิงเฉินยิ้มตาม แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะคอยเตือนคุณหนูของเธอ “แต่คุณหนูเจ้าคะ ข้าว่าบางทีท่านควรสำรวมบ้างสักนิด เผื่อว่าเหล่าขุนนางหรือบุคคลสำคัญจะมองท่านแปลกๆ แต่ตอนนี้...” นางเว้นจังหวะแล้วหัวเราะคิก “ท่านดูราวกับคนใหม่เลยเจ้าค่ะ ไหนจะภาษาที่พูด บางคำข้ายังไม่ค่อยเข้าใจนักเจ้าค่ะ”
“เอ่ออ… ก็ ข้าหัวกระแทกด้วยมั้ง บางอย่างเลยเพี้ยนๆไปบ้างน่ะ บางอย่างก็จำได้บ้างไม่ได้บ้างเจ้าก็คอยเตือนข้าด้วยก็แล้วกัน” หลินเข่อซินว่าพลางยิ้มแห้งๆ
กลับกันหลิงเฉินมองดูคุณหนูหลินด้วยความชื่นชมและเอ็นดู นางรู้ว่าคุณหนูหลินของเธออาจจะไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่การเปลี่ยนแปลงนี้กลับทำให้เธอรู้สึกมีชีวิตชีวาและอบอุ่นใจขึ้นมาก เพราะคุณหนูหลินในวันนี้...เป็นคนที่กล้าหาญ มั่นใจ และไม่กลัวที่จะเป็นตัวของตัวเอง แม้จะมีกิริยาที่ไม่สำรวมบ้าง แต่ก็ทำให้ทุกคนรอบข้างต้องหัวเราะและมีความสุขไปด้วย
หลิงเฉินยิ้มกว้าง “ท่านเป็นคุณหนูที่น่ารักที่สุดเท่าที่ข้าเคยรับใช้มาจริงๆ เจ้าค่ะ”
“ข้ารู้!” หลินเข่อซิงยิ้มยิงฟัน “เพราะข้าน่ารักแบบนี้ไง เจ้าถึงรักข้าใช่ไหมล่ะ?”
“เจ้าค่ะ คุณหนู!” หลิงเฉินตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะอย่างจริงใจ
คืนนั้นกว่าหลินเข่อซิงจะข่มตาหลับได้ ก็ค่อนคืนไปแล้ว นี่เราเข้ามาอยู่ในนิยายแล้วจริงๆสินะ เราคือคุณหนูหลิน ที่ไม่ใช่หลินเข่อซิงคนนั้นที่นอนอ่านนิยายเล่นอีกแล้ว