"เมื่อฉันต้องทะลุเข้าไปในนิยาย ได้เป็นถึงนางเอกของเรื่อง การจะกลับออกไปคือต้องให้นิยายเรื่องนี้จบ แบบ happy ending แค่นี้ง่ายจะตาย ฉันเป็นนางเอกนะ แต่ทำไม๊ ทำไมพระเอกกลับบอกว่าฉันจีดชืด ไร้รสนิยม ไม่ต้องตาเขาเลย แต่เขากลับไปต้องใจยัยตัวร้ายของเรื่องซะงั้น อ๋ออออออ ได้สิ อยากให้ร้ายใช่มะ แม่จะร้ายให้ร้องขอชีวิตเลย"

ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ - บทที่ 8 สองตระกูลเชื่อมสัมพันธ์ โดย ผิงผิงชอบกินปลา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,จีน,ข้ามเวลา,รัก,ตลก,รัก,จีน ,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,จีน,ข้ามเวลา,รัก,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รัก,จีน ,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,แฟนตาซี

รายละเอียด

"เมื่อฉันต้องทะลุเข้าไปในนิยาย ได้เป็นถึงนางเอกของเรื่อง การจะกลับออกไปคือต้องให้นิยายเรื่องนี้จบ แบบ happy ending แค่นี้ง่ายจะตาย ฉันเป็นนางเอกนะ แต่ทำไม๊ ทำไมพระเอกกลับบอกว่าฉันจีดชืด ไร้รสนิยม ไม่ต้องตาเขาเลย แต่เขากลับไปต้องใจยัยตัวร้ายของเรื่องซะงั้น อ๋ออออออ ได้สิ อยากให้ร้ายใช่มะ แม่จะร้ายให้ร้องขอชีวิตเลย"

ผู้แต่ง

ผิงผิงชอบกินปลา

เรื่องย่อ

สารบัญ

ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทนำ อารัมภบท,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 1 นักอ่านตัวยงผู้ทะลุมิติมาเปลี่ยนโลก,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 2 การพบกันของคุณหนูหลินและพระเอกจอมซึน,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 3 การปรากฏตัวของหยางเฟยฮุ่ย,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 4 สมุนไพรแสนลับกับ 'สูตรของตระกูลข้า',ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 5 ท่านโหวและแม่ทัพหนุ่มผู้เย็นชา,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 6 ปรับตัว,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 7 ผู้หญิงแซ่บทรงเสน่ห์ เขาทำกันยังไงนะ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 8 สองตระกูลเชื่อมสัมพันธ์,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 9 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 10 หลีกไป...แม่จะเดิน,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 11 แผนร้ายของหยางเฟยฮุ่ย,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 12 ครอบครัว,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 13 ปัญหา,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 14 ตระกูลหยาง,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 15 เดินหน้าตามแผน,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 16 ภัยพิบัติ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 16 ภัยพิบัติ (1),ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 17 นี่มันคือ ...เดตมั้ยนะ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 18 ประทานรางวัล,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 19 ใครดีใครได้,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 20 วันชิงหมิง,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 21 รั้นจนได้เรื่อง,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 22 ปลอดภัยแล้วนะ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 23 เป็นตัวเองนั้นดีที่สุด,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 24 ข่าวลือ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 25 สยบข่าวลือ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 26 พบปะพูดคุย,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 27 เทศกาลลี่เซี่ย,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 28 ข้าอ่อนโยนกับเจ้าคนเดียว,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 29 เลี้ยงกองทัพ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 30 ช่วงต้าสู่,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 31 ขบวนสินสอดที่ยาวที่สุด

เนื้อหา

บทที่ 8 สองตระกูลเชื่อมสัมพันธ์

ค่ำวันนั้น บรรยากาศในจวนตระกูลอวิ๋นถูกประดับประดาด้วยโคมไฟสวยงามและการจัดเตรียมโต๊ะอาหารอย่างประณีต ตระกูลหยางได้รับเชิญมาร่วมรับประทานอาหารค่ำเป็นการส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยมิตรภาพ แต่กลับซ่อนความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจพูดออกมาได้ง่ายๆ
อวิ๋นเฟยหลงและท่านโหวนั่งอยู่ฝั่งซ้าย ขณะที่หยางเฟยฮุ่ยนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับอวิ๋นเฟยหลง เธอมีรอยยิ้มบางๆ ที่ดูสุภาพแต่เยือกเย็น พ่อของหยางเฟยฮุ่ย หยางเฉิง เป็นชายผู้สง่างามในชุดผ้าไหมลายมังกร เขานั่งอยู่หัวโต๊ะตรงข้ามกับท่านโหว ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความเป็นมิตร แต่ในแววตากลับแฝงความจริงจัง
“ตระกูลอวิ๋นและตระกูลหยางรู้จักกันมานานหลายชั่วอายุคน” หยางเฉิงเริ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงชัดเจน แต่เรียบๆ ทำลายความเงียบที่ปกคลุมโต๊ะอาหาร “ข้าเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลของเราคงแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก”
ท่านโหวยิ้มรับอย่างสุภาพ "แน่นอน ท่านหยาง ตระกูลของท่านกับตระกูลข้าเป็นดั่งพี่น้อง"
หยางเฟยฮุ่ยหันมายิ้มหวานให้กับอวิ๋นเฟยหลง ขณะที่เขานั่งเงียบ ใบหน้าเย็นชาเหมือนเดิม แต่แววตากลับดูอึดอัดเล็กน้อย “ท่านอวิ๋น ข้ายังจำได้เสมอถึงตอนที่เรายังเด็ก เราเคยเล่นด้วยกันบ่อยๆ ใช่ไหมเจ้าคะ?” เสียงของเธออ่อนหวาน นุ่มนวล แต่ทำไมอวิ๋นเฟยหลงฟังแล้วกลับรู้สึกหงุดหงิด
อวิ๋นเฟยหลงมองตรงไปข้างหน้าอย่างเรียบเฉย ก่อนจะตอบกลับเสียงเบา "ใช่ ข้าจำได้..."
หยางเฉิงยิ้มบางๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นต่อจากลูกสาว "จริงสิ ข้าเองก็คิดอยู่บ่อยๆ ว่า การที่สองตระกูลของเราใกล้ชิดกันเพียงนี้ คงจะดีถ้าความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลแนบแน่นขึ้นไปอีก ด้วยการ...หมั้นหมายของเด็กๆ ทั้งสอง"
คำพูดของหยางเฉิงทำให้ทุกคนในโต๊ะหยุดชะงัก อวิ๋นเฟยหลงที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นดื่มถึงกับหยุดมือกลางอากาศ ดวงตาของเขายังคงเย็นชา แต่แววตากลับดูแข็งกระด้างและตึงเครียดขึ้นมา
ท่านโหวหันไปมองลูกชาย ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “เฟยหลง เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”
ทุกสายตาต่างจ้องมาที่อวิ๋นเฟยหลง เขานิ่งเงียบไปสักครู่ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้าไม่คิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับเรื่องนี้ ข้ายังมีภารกิจในกองทัพที่ต้องรับผิดชอบขอรับ”
หยางเฟยฮุ่ยที่นั่งอยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาท่าทีเรียบเฉย เธอยิ้มบางๆ “ท่านแม่ทัพช่างจริงจังกับงานจริงๆนะเจ้าคะ”
หยางเฉิงหัวเราะเบาๆ แต่ในเสียงหัวเราะนั้นกลับแฝงความไม่พอใจเล็กน้อย "งานในกองทัพนั้นสำคัญ ข้าเข้าใจ แต่การสร้างครอบครัวก็สำคัญไม่แพ้กัน การที่สองตระกูลเราเชื่อมโยงกัน มันจะเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทั้งสองฝ่าย"
"ข้าเข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้ ท่านลุง" อวิ๋นเฟยหลงพูดขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาเริ่มแข็งขึ้น "แต่การแต่งงานหรือหมั้นหมายเป็นเรื่องที่ต้องให้เกียรติกันทั้งสองฝ่าย ข้าคิดว่าข้ายังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนี้"
หยางเฉิงเลิกคิ้วเล็กน้อย แววตาของเขาดูจะไม่พอใจมากขึ้น "ข้าเพียงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เหมาะสม เฟยหลง เจ้าและเฟยฮุ่ยรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะเห็นเจ้าสองคนได้อยู่ร่วมกัน"
ท่านโหวพยายามรักษาบรรยากาศ "เรื่องนี้เรายังมีเวลา ไม่จำเป็นต้องตัดสินใจตอนนี้หรอก"
หลังการรับประทานอาหารอันน่าอึดอัดผ่านพ้นไป ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า จะให้เวลาทั้งสองเรียนรู้กัน และให้อวิ๋นเฟยหลงได้จัดการงานที่เขาอยากทำไปก่อน เมื่อทั้งสองพร้อมค่อยจัดงานหมั้นหมายก็ยังไม่สาย
อวิ๋นเฟยหลงออกมาเดินรับลมเพียงลำพัง จมจ่อมอยู่ในห้วงความคิดของตน
“หลงเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าเจ้าอึดอัดใจ แต่ข้าจะปฎิเสธไปตรงๆก็ไม่ดี เจ้าก็รู้ พวกเราสองตระกูลคอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมานาน ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ ตัวเจ้าเองปีนี้ก็ย่าง20แล้วนะ ลองคบหากับฮุ่ยเอ๋อร์ดูก็ไม่มีผลร้าย ข้าว่านางก็ดูน่ารักสมวัยดี” ท่านโหวพูดพลางตบบ่าลูกชายเบาๆ
“ขอรับ ท่านพ่อ” อวิ๋นเฟยหลงรับคำอย่างเสียไม่ได้ หลังจากอวิ๋นเหอเดินจากไป เขายังคงยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง เหม่อมองไปไกล