"เมื่อฉันต้องทะลุเข้าไปในนิยาย ได้เป็นถึงนางเอกของเรื่อง การจะกลับออกไปคือต้องให้นิยายเรื่องนี้จบ แบบ happy ending แค่นี้ง่ายจะตาย ฉันเป็นนางเอกนะ แต่ทำไม๊ ทำไมพระเอกกลับบอกว่าฉันจีดชืด ไร้รสนิยม ไม่ต้องตาเขาเลย แต่เขากลับไปต้องใจยัยตัวร้ายของเรื่องซะงั้น อ๋ออออออ ได้สิ อยากให้ร้ายใช่มะ แม่จะร้ายให้ร้องขอชีวิตเลย"

ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ - บทที่ 29 เลี้ยงกองทัพ โดย ผิงผิงชอบกินปลา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,จีน,ข้ามเวลา,รัก,ตลก,รัก,จีน ,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,จีน,ข้ามเวลา,รัก,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รัก,จีน ,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,แฟนตาซี

รายละเอียด

"เมื่อฉันต้องทะลุเข้าไปในนิยาย ได้เป็นถึงนางเอกของเรื่อง การจะกลับออกไปคือต้องให้นิยายเรื่องนี้จบ แบบ happy ending แค่นี้ง่ายจะตาย ฉันเป็นนางเอกนะ แต่ทำไม๊ ทำไมพระเอกกลับบอกว่าฉันจีดชืด ไร้รสนิยม ไม่ต้องตาเขาเลย แต่เขากลับไปต้องใจยัยตัวร้ายของเรื่องซะงั้น อ๋ออออออ ได้สิ อยากให้ร้ายใช่มะ แม่จะร้ายให้ร้องขอชีวิตเลย"

ผู้แต่ง

ผิงผิงชอบกินปลา

เรื่องย่อ

สารบัญ

ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทนำ อารัมภบท,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 1 นักอ่านตัวยงผู้ทะลุมิติมาเปลี่ยนโลก,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 2 การพบกันของคุณหนูหลินและพระเอกจอมซึน,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 3 การปรากฏตัวของหยางเฟยฮุ่ย,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 4 สมุนไพรแสนลับกับ 'สูตรของตระกูลข้า',ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 5 ท่านโหวและแม่ทัพหนุ่มผู้เย็นชา,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 6 ปรับตัว,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 7 ผู้หญิงแซ่บทรงเสน่ห์ เขาทำกันยังไงนะ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 8 สองตระกูลเชื่อมสัมพันธ์,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 9 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 10 หลีกไป...แม่จะเดิน,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 11 แผนร้ายของหยางเฟยฮุ่ย,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 12 ครอบครัว,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 13 ปัญหา,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 14 ตระกูลหยาง,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 15 เดินหน้าตามแผน,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 16 ภัยพิบัติ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 16 ภัยพิบัติ (1),ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 17 นี่มันคือ ...เดตมั้ยนะ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 18 ประทานรางวัล,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 19 ใครดีใครได้,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 20 วันชิงหมิง,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 21 รั้นจนได้เรื่อง,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 22 ปลอดภัยแล้วนะ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 23 เป็นตัวเองนั้นดีที่สุด,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 24 ข่าวลือ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 25 สยบข่าวลือ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 26 พบปะพูดคุย,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 27 เทศกาลลี่เซี่ย,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 28 ข้าอ่อนโยนกับเจ้าคนเดียว,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 29 เลี้ยงกองทัพ,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 30 ช่วงต้าสู่,ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ-บทที่ 31 ขบวนสินสอดที่ยาวที่สุด

เนื้อหา

บทที่ 29 เลี้ยงกองทัพ

หลังรับประทานอาหารเช้าด้วยกันเสร็จ อวิ๋นเฟยหลงเงยหน้าขึ้นจากถ้วยชา และมองหลินเข่อซิงที่ยังคงก้มหน้าก้มตากินอย่างอารมณ์ดี ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
"วันนี้ข้ามีซ้อมรบกับเหล่าทหารในสังกัด" อวิ๋นเฟยหลงบอกกล่าวเสียงเรียบ สายตาคมยังคงมองหลินเข่อซิง “เจ้าอยากกลับไปพักผ่อนที่จวนก่อน หรือว่า…”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ หลินเข่อซิงก็พูดแทรกขึ้นมาทันที "ข้าขออยู่ดูด้วยได้ไหมเจ้าคะ!" นางพูดด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าของนางเปล่งประกายอย่างเห็นได้ชัด
อวิ๋นเฟยหลงเลิกคิ้วเล็กน้อย "เจ้าสนใจการซ้อมรบด้วยหรือ?"
"ข้าก็แค่อยากรู้ว่าท่านทำอะไรในสนามรบบ้างน่ะสิ" หลินเข่อซิงตอบพลางหัวเราะเบาๆ "แล้วข้าจะทำอาหารกลางวันเลี้ยงทหารให้เอง ถือเป็นการตอบแทนที่พวกเขาทำงานหนัก" นางยิ้มอย่างสดใส ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
อวิ๋นเฟยหลงพยักหน้าเล็กน้อย แม้จะรู้สึกว่ามันแปลกที่หลินเข่อซิงอยากดูการซ้อมรบ แต่ความจริงแล้วเขาก็ไม่คิดขัดใจนาง “ถ้าเจ้าอยากดู ข้าก็ไม่ห้าม แต่กระบี่ไร้ตา อย่าลืมระวังตัวเองด้วย”
หลินเข่อซิงยิ้มกว้างแล้วลุกขึ้นทันที “ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ! ข้าไปเตรียมตัวก่อนนะ!”
บรรยากาศที่ลานฝึกเต็มไปด้วยความฮึกเหิม เสียงฝีเท้าของเหล่าทหารที่วิ่งซ้อมรบดังกระหึ่ม ทหารหลายร้อยนายสวมชุดเกราะเต็มยศ ทุกคนยืนประจำที่อย่างมีระเบียบ เสียงตะโกนสั่งของหัวหน้าฝึกฝนทำให้บรรยากาศดูจริงจังและเข้มข้น อวิ๋นเฟยหลงยืนอยู่ด้านหน้า ควบคุมการฝึกด้วยท่าทีเยือกเย็น สายตาของเขาจับจ้องไปที่ทหารทุกนายอย่างตั้งใจ
"ตั้งแถว!" อวิ๋นเฟยหลงสั่งด้วยเสียงหนักแน่น ทหารทุกนายทำตามคำสั่งอย่างว่องไว ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืน
หลินเข่อซิง ยืนดูอยู่ข้างๆ ในที่ปลอดภัย นางจ้องมองการซ้อมรบด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ นางไม่เคยเห็นการฝึกที่จริงจังและเข้มข้นแบบนี้มาก่อน ในโลกปัจจุบันของนาง แม้จะดูหนังสงครามมาหลายเรื่อง แต่การเห็นมันด้วยตาของตัวเองนั้นให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปมาก
"ว้าว...พวกเขาเก่งกันมากเลยนะ" นางพึมพำเบาๆ ขณะที่มองการซ้อมรบด้วยสายตาตื่นเต้น
“คุณหนูเจ้าคะ ท่านไม่ควรส่งเสียงดังนะเจ้าคะ” หลิงเฉิน กระซิบเตือนเสียงเบา พลางยืนอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางที่แสดงออกถึงความกังวล
แต่หลินเข่อซิงกลับไม่สนใจ นางโบกไม้โบกมือให้กำลังใจทหารที่วิ่งซ้อมอยู่ “สู้ๆ เข้าไว้เจ้าค่ะ! ทหารหาญของข้า!” นางตะโกนออกมาด้วยความร่าเริง
ทหารบางนายที่ได้ยินเสียงนางหันมามองอย่างแปลกใจ บางคนถึงกับหัวเราะเบาๆ แต่ก็รีบกลับไปตั้งใจซ้อมต่อ
"คุณหนู!" หลิงเฉินกุมขมับพลางถอนหายใจ "ข้าเตือนท่านแล้วว่าอย่าส่งเสียงดังแบบนี้เจ้าค่ะ!"
หลินเข่อซิงหันมายิ้มแหยๆ "ข้าก็แค่ให้กำลังใจพวกเขานิดหน่อยเอง ไม่เป็นไรหรอกน่า!"
แต่ถึงแม้จะโดนหลิงเฉินเตือน หลินเข่อซิงก็ยังอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงให้กำลังใจเหล่าทหารอยู่ดี "สู้ๆ เข้า ท่านแม่ทัพคุมเองอย่างนี้ รับรองชนะทุกศึกแน่นอน!" นางโบกมือให้กับทหารที่กำลังฝึกวิ่งผ่านไป
อวิ๋นเฟยหลงที่ยืนอยู่ไม่ไกล ได้ยินเสียงหลินเข่อซิงตะโกนอยู่หลายครั้ง แม้ใบหน้าของเขาจะยังคงนิ่งขรึม แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มบางๆ อย่างไม่รู้ตัว
"ท่านแม่ทัพเจ้าคะ!" เสียงหลินเข่อซิงดังขึ้นอีก นางโบกมืออย่างตื่นเต้น
อวิ๋นเฟยหลงหันไปมอง พร้อมกับส่งสายตาที่บอกไม่ถูกว่าเป็นความดุหรือเอ็นดู "เจ้าคิดจะคุมทหารแทนข้าหรืออย่างไร?" เขาเอ่ยพร้อมขยับเดินเข้ามาหานาง
หลินเข่อซิงหัวเราะคิก "ข้าแค่ช่วยให้กำลังใจน่ะเจ้าค่ะ ข้าเห็นว่าท่านดูเคร่งเครียดเหลือเกิน เลยคิดว่าต้องมีใครสักคนคอยทำให้บรรยากาศมันผ่อนคลายขึ้นหน่อย ท่านไม่คิดอย่างนั้นหรือ?"
อวิ๋นเฟยหลงมองนางด้วยสายตานิ่งๆ แต่ลึกๆ แล้วเขากลับรู้สึกขำในใจ "เจ้ามีความคิดเช่นนั้นหรือ?" เขายิ้มบางๆ ก่อนจะหันกลับไปสั่งการทหารต่อ
หลินเข่อซิงทำท่าจะพูดอะไรอีก แต่หลิงเฉินรีบเข้ามาดึงแขนไว้ "คุณหนูเจ้าคะ ข้าขอร้องเถิดนะเจ้าคะ ท่านอย่าให้ท่านแม่ทัพต้องหนักใจไปกว่านี้เลย!"
"โอ๊ย หลิงเฉิน เจ้าอย่าห่วงข้าเกินไปเลย" หลินเข่อซิงยิ้มกว้าง "ข้าว่าเขาไม่ได้หนักใจหรอกมันดีออก!"
หลิงเฉินทำได้เพียงกุมขมับและส่ายหัว พลางมองเจ้านายสาวที่เอาแต่ส่งเสียงเชียร์ทหารอย่างไม่ลดละ
หลังการฝึกซ้อมช่วงเช้า หลินเข่อซิงก็ลงมือทำอาหารกลางวันอย่างกระตือรือร้น นางตั้งใจทำเมนูพิเศษที่ผสมผสานระหว่างอาหารจีนโบราณกับสูตรจากโลกปัจจุบัน เพื่อให้เหล่าทหารที่เหน็ดเหนื่อยได้ลิ้มรสของใหม่ นางจัดเตรียมหม้อใบใหญ่ และจานต่างๆ วางเรียงรายเต็มโต๊ะ พร้อมให้ทหารทุกนายได้อิ่มเอมกับอาหารของนาง
หลินเข่อซิง ยืนอยู่หน้าโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ นางมองอาหารที่ตนเองทำอย่างภาคภูมิใจ โดยอาหารเหล่านี้เป็นการผสมผสานระหว่างรสชาติแบบจีนโบราณที่ทุกคนคุ้นเคย กับสูตรแปลกใหม่จากโลกปัจจุบันของนาง
"เป็ดย่างน้ำผึ้ง" ที่ปรับจากสูตรโบราณโดยการเพิ่มน้ำผึ้งในน้ำราด ทำให้เป็ดมีความกรอบนอกนุ่มใน และมีกลิ่นหอมหวานที่ชวนให้ทหารหลายคนทำหน้าตาแปลกใจเมื่อได้กลิ่น ทหารบางคนอดไม่ได้ที่จะเดินมาดมใกล้ๆ พลางพูดว่า “นี่มัน...ข้าหิวจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว!”
หลินเข่อซิงหัวเราะคิก "เดี๋ยวๆ รอแป๊บนะ อย่าเพิ่งรีบชิมนะเจ้าคะ!"
จานต่อมา เป็นจานที่ทำให้ทุกคนตาโตทันทีที่เห็น "ข้าวผัดห่อไข่" ซึ่งเป็นสูตรที่หลินเข่อซิงเคยทำบ่อยๆ ในโลกของนาง ข้าวผัดร้อนๆ ห่ออยู่ในไข่เนื้อนุ่มสีทองสวยงาม นางใส่เครื่องเทศและซอสพิเศษ ทำให้รสชาติแตกต่างจากข้าวผัดที่พวกเขาเคยทาน อวิ๋นเฟยหลงเดินเข้ามามองจานนี้พร้อมกับถามว่า “เจ้าเรียกมันว่าอะไรนะ?”
“ข้าวผัดห่อไข่เจ้าค่ะ!” หลินเข่อซิงตอบด้วยรอยยิ้ม “ข้าคิดว่าทหารที่เหน็ดเหนื่อยจากการฝึกซ้อมคงชอบอะไรที่ทานง่ายๆ และอร่อยแบบนี้”
ทหารหลายคนเริ่มตักข้าวผัดเข้าปาก หลังจากคำแรก พวกเขาก็ต่างทำตาโตพร้อมกัน "อร่อยมาก!" เสียงชมดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง หลายคนถึงกับยิ้มอย่างมีความสุข
“ข้าว่าเจ้าทำอาหารเหมือนกับทำสงครามเลยนะ” อวิ๋นเฟยหลงพูดพลางหัวเราะเล็กๆ ขณะตักหมูทอดชิ้นใหญ่เข้าปาก
หลินเข่อซิงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "ข้าก็แค่อยากให้ทหารของท่านได้ทานอะไรที่กระตุ้นกำลังใจบ้างน่ะเจ้าค่ะ"
ทุกจานที่หลินเข่อซิงทำล้วนเต็มไปด้วยความตั้งใจ ทหารทุกนายต่างพอใจในรสชาติและความแปลกใหม่ อวิ๋นเฟยหลงเองก็รู้สึกว่าการได้ทานอาหารจากฝีมือของหลินเข่อซิงทำให้เขามองนางในมุมใหม่
หลิงเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ ยิ้มบางๆ แต่แอบคิดในใจว่า "คุณหนูนี่ไม่เคยหยุดทำให้ทุกคนต้องปวดหัวจริงๆ"
แต่ถึงจะปวดหัวแค่ไหน หลิงเฉินก็รู้ว่าคุณหนูของนางทำทุกอย่างด้วยใจจริง และท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการฝึกซ้อม หลินเข่อซิงก็คือจุดศูนย์กลางของความสดใสและความสนุกสนานในวันนี้