"เมื่อฉันต้องทะลุเข้าไปในนิยาย ได้เป็นถึงนางเอกของเรื่อง การจะกลับออกไปคือต้องให้นิยายเรื่องนี้จบ แบบ happy ending แค่นี้ง่ายจะตาย ฉันเป็นนางเอกนะ แต่ทำไม๊ ทำไมพระเอกกลับบอกว่าฉันจีดชืด ไร้รสนิยม ไม่ต้องตาเขาเลย แต่เขากลับไปต้องใจยัยตัวร้ายของเรื่องซะงั้น
อ๋ออออออ ได้สิ อยากให้ร้ายใช่มะ แม่จะร้ายให้ร้องขอชีวิตเลย"
ชาย-หญิง,จีน,ข้ามเวลา,รัก,ตลก,รัก,จีน ,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ในที่สุด ฤดูใบไม้ร่วงก็มาถึง พร้อมกับลมเย็นๆ ที่พัดผ่าน และช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเช่นกัน วันแต่งงานของอวิ๋นเฟยหลงและหลินเข่อซิง การแต่งงานของทั้งคู่ไม่เพียงแต่เป็นพิธีสมรสระหว่างคนสองคน แต่ยังเป็นการรวมสองตระกูลใหญ่เข้าด้วยกัน ทำให้วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในรอบหลายปี
หนึ่งวันก่อนงานแต่งงาน ฝั่งเจ้าบ่าวได้ส่งสินสอดจำนวนมหาศาลมาที่จวนตระกูลหลิน ขบวนสินสอดขนาดใหญ่ประกอบด้วยหีบสินสอดจำนวน 1,314 หีบ ซึ่งเป็นเลขที่สื่อความหมายถึง "รักกันตลอดไป" (คำว่า "1314" ในภาษาจีนพ้องเสียงกับคำว่า "ตลอดไป") ถูกแบกหามโดยเหล่าทหารหาญเกินครึ่งพัน
ขบวนสินสอดที่อวิ๋นเฟยหลงส่งมายังจวนตระกูลหลินในวันก่อนแต่งงาน เป็นขบวนที่ยิ่งใหญ่และตระการตาอย่างยิ่ง ชาวบ้านจากทั่วทุกสารทิศที่ได้ยินข่าวต่างพากันมาชมด้วยความตื่นตาตื่นใจ และพูดถึงงานมงคลที่กำลังจะเกิดขึ้น ขบวนสินสอดถูกจัดขึ้นอย่างประณีต ประกอบด้วยหีบไม้สลักลวดลายวิจิตรที่บรรจุของล้ำค่า สะท้อนถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของอวิ๋นเฟยหลงที่มีต่อหลินเข่อซิง
ขบวนสินสอดอันยิ่งใหญ่และตระการตาได้มาถึงจวนตระกูลหลินแล้ว บรรยากาศรอบๆ จวนเต็มไปด้วยความคึกคัก บ่าวไพร่ในจวนต่างรีบวิ่งวุ่นไปมาตามคำสั่งเพื่อเตรียมการรับขบวนสินสอดอย่างเรียบร้อย และสง่างามที่สุด หลินเจิ้นกั๋ว และ ชิงเหม่ย พ่อแม่ของหลินเข่อซิง เดินออกมาต้อนรับสินสอดพร้อมกับแขกเหรื่อที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน
หลี่กงกง ผู้เป็นขันทีคนสนิทของฮ่องเต้ ยืนอยู่ด้านหน้าสุดพร้อมกับขบวนสินสอดที่ต่อกันเป็นแถวยาว ท่ามกลางเสียงชื่นชมของชาวบ้านที่มายืนดูด้วยความทึ่งและตื่นเต้น หลี่กงกงมีสีหน้าภูมิใจ พลางกล่าวขึ้นด้วยเสียงสุภาพแต่ทรงพลัง
“กระหม่อมขอแสดงความยินดีแก่ท่านหลินเจิ้นกั๋วและฮูหยินชิงเหม่ย วันนี้เป็นวันมงคลยิ่ง ขบวนสินสอดนี้มิใช่เพียงสิ่งของจากตระกูลอวิ๋นเท่านั้น แต่ยังเป็นพระมหากรุณาธิคุณจากฝ่าบาท ที่ทรงพระราชทานสิ่งของเพิ่มมาในครั้งนี้”
หลินเจิ้นกั๋วและชิงเหม่ยต่างโค้งขอบคุณหลี่กงกงที่อุตส่าห์มาดูแลสินสอดด้วยตนเอง หลินเจิ้นกั๋วกล่าวด้วยความเคารพ “กระหม่อมขอขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงมีพระเมตตาให้กับครอบครัวของเรา ข้าและฮูหยินรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง”
“ท่านทั้งสองไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องพิธีการ ข้าจะช่วยดูแลอย่างดี” หลี่กงกงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
บ่าวไพร่ต่างเดินขวักไขว่ นำหีบสินสอดที่มากมายมหาศาลเข้าไปเก็บในจวน ทุกคนต่างจับจ้องไปที่หีบไม้สลักลายที่บรรจุสิ่งของมีค่า บ้างเป็นผ้าไหมสีทอง บ้างเป็นเครื่องประดับทองคำ และอัญมณีล้ำค่า หลินเข่อซิงยืนมองขบวนสินสอดมหาศาลด้วยความตกตะลึง หลินเข่อซิงไม่เคยเห็นขบวนสินสอดที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้มาก่อน
สินสอดในแต่ละหีบล้วนเต็มไปด้วยของมีค่าที่มีความหมายลึกซึ้งและประณีตบรรจง ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหมสีทองซึ่งเป็นผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นใต้ที่ถูกทออย่างประณีตจนลายไหมดูนุ่มนวลและเปล่งประกายทอง ยิ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองและความสวยงามในชีวิตคู่ของทั้งสอง พรมลายสวยงามวิจิตร เป็นพรมที่ถูกทอจากเส้นใยธรรมชาติด้วยความประณีต ลายพรมบอกเล่าเรื่องราวของตำนานมังกรและหงส์ เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคลและความสมบูรณ์พูนสุข รวมถึงเครื่องประดับอัญมณีซึ่งประดับไปด้วยหยก น้ำงาม สีเขียวใสสะท้อนแสง เครื่องประดับทองคำที่มีลวดลายบรรจง สื่อถึงความมั่งคั่งและสง่างาม และที่ขาดไม่ได้ก็คือเงินตรามหาศาล เป็นเหรียญเงินกองเต็มหีบ บรรจุหีบหลายหีบ ทำให้เสียงเหรียญกระทบกันเมื่อขบวนเคลื่อนผ่านดังกังวานไปทั่ว ชาวบ้านที่มาเฝ้าดูต่างรู้สึกทึ่งและตื่นเต้น ยังไม่พอยังมีเครื่องประดับทองคำประดับลายละเอียดบรรจง ทั้งกำไล สร้อยคอ และเข็มขัดทองคำ ประดับด้วยอัญมณีสีสด แล้วยังมีพานดอกไม้สดที่บรรจุดอกโบตั๋นสีแดงและสีขาว สัญลักษณ์แห่งความรักและความบริสุทธิ์ ดอกไม้สดเหล่านี้ถูกเก็บมาเพื่องานแต่งงานครั้งนี้โดยเฉพาะ อีกอย่างก็คือพัดโบราณและภาพวาดพู่กันของขวัญที่สะท้อนถึงศิลปะและวัฒนธรรมโบราณ พัดแต่ละอันถูกเขียนด้วยบทกวีและภาพวาดที่แสดงถึงความรุ่งเรืองและความสุข
และสุดท้ายยังมีที่ดินทางตอนใต้อันกว้างใหญ่
หลี่กงกงยืนตรงกลางลานและเตรียมอ่านรายชื่อของสินสอดที่มอบให้ พร้อมด้วยเสียงดังกังวานตามประเพณี
"ผ้าไหมสีทอง สีแดง และสีอื่นๆ สารพัดสี ห้าสิบพับ! พรมลายมังกรหงส์ สามสิบผืน! เครื่องประดับทองคำ เก้าสิบชุด! อัญมณีหยกน้ำงามประดับทอง ร้อยหีบ! เงินตรามหาศาลหนึ่งร้อยห้าสิบหีบ!"
เสียงของหลี่กงกงดังไปทั่วบริเวณ จนชาวบ้านที่มายืนมุงดูพากันตื่นเต้นและทึ่งในความมั่งคั่งของสินสอด ชาวบ้านซุบซิบกันด้วยความอิจฉาและทึ่งในความยิ่งใหญ่ของการแต่งงานครั้งนี้
"ช่างยิ่งใหญ่จริงๆนะ...หลินเข่อซิงช่างโชคดีที่ได้แต่งงานกับแม่ทัพอวิ๋น" เสียงของชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ย
"ขนาดฝ่าบาทยังพระราชทานสินสอดเพิ่มอีก นี่ต้องเป็นงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียว" อีกคนกล่าวเสริม
หลังจากที่หลี่กงกงอ่านรายชื่อสินสอดจบแล้ว เขายิ้มพลางหันไปทางตระกูลหลินและกล่าวอย่างสุภาพ "ด้วยพระมหากรุณาธิคุณจากฝ่าบาท สมรสพระราชทานในครั้งนี้จะต้องสมบูรณ์และงดงามที่สุด ข้าขออวยพรให้คุณหนูหลินและแม่ทัพอวิ๋นมีความสุขชั่วนิรันดร์"
เสียงเชียร์จากฝูงชนดังขึ้น ชาวบ้านที่มาเฝ้าดูต่างพากันตะโกนแสดงความยินดี บรรยากาศเต็มไปด้วยความยินดีและตื่นเต้น ขบวนสินสอดขนาดใหญ่ถูกนำเข้าสู่จวนตระกูลหลินด้วยความภาคภูมิใจ
ขบวนสินสอดนี้ทำให้หลินเข่อซิงกลายเป็นที่กล่าวขานและอิจฉาจากบรรดาสตรีทั่วทั้งเมืองไปอีกนานหลายปี
“ท่านแม่ ข้าว่าข้าคงนับสินสอดนี้ไม่ไหวเพียงลำพังแน่ๆเจ้าค่ะ” หลินเข่อซิงหันไปพูดกับชิงเหม่ยด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
ชิงเหม่ยหัวเราะเล็กน้อย “ฮูหยินใหญ่ตระกูลอวิ๋นไม่ควรจะมาหัวหมุนกับการนับของเองนะลูก แต่ถ้าเจ้าอยากทำ แม่ก็จะช่วยเอง”
ดังนั้นทั้งสองแม่ลูกจึงร่วมกันนับและตรวจสอบของในแต่ละหีบ บ่าวไพร่ที่ยืนข้างๆ ต่างรีบช่วยจดบันทึกตามคำสั่งของหลินเข่อซิงและชิงเหม่ย เสียงหัวเราะและการพูดคุยเป็นไปอย่างสนุกสนาน แต่เต็มไปด้วยความรอบคอบในการตรวจสอบสินสอดมหาศาลนี้
“ผ้าไหมสีทอง ห้าสิบพับ... อัญมณีหยกอีกร้อยหีบ...” หลินเข่อซิงพูดพร้อมกับจดบันทึกลงบนกระดาษ นางเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าจากการนับและตรวจสอบที่กินเวลาไปนานหลายชั่วโมง
“แม่! นี่มันมากมายกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก! ข้าไม่เคยคิดเลยว่าการเป็นเจ้าสาวจะมีสินสอดเยอะขนาดนี้” หลินเข่อซิงบ่นพร้อมหัวเราะเบาๆ
ชิงเหม่ยพยักหน้า “ก็เพราะว่าเจ้ากำลังจะเป็นสะใภ้ตระกูลอวิ๋น แถมเป็นสมรสพระราชทานจากฝ่าบาทอีก ไม่มีทางที่สินสอดจะธรรมดาได้หรอก”
จากเช้าจรดบ่ายแก่ๆ งานนับและตรวจสอบสินสอดทั้งหมดจึงเสร็จสิ้นลง หลินเข่อซิงถอนหายใจยาว “ในที่สุดก็...เสร็จสิ้นเสียที!” นางหันไปมองหีบมากมายที่เรียงรายกันอยู่ในห้อง นางรู้สึกทั้งดีใจและโล่งใจที่งานหนักนี้เสร็จลงแล้ว
ชิงเหม่ยหันไปยิ้มให้ลูกสาวและลูบหลังเบาๆ “เจ้าเก่งมากลูกแม่ เจ้าจัดการได้ดีจริงๆ”
หลินเข่อซิงยิ้มตอบ “ข้าก็มีท่านแม่ช่วยนี่เจ้าคะ ถึงได้ราบรื่นขนาดนี้ ขอบพระคุณท่านแม่มากเจ้าค่ะ”
หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบสินสอด หลินเข่อซิงและชิงเหม่ยต่างก็รู้สึกเหนื่อยล้า แต่เต็มไปด้วยความสุขจากความรักและความเอาใจใส่ที่แสดงออกมาผ่านขบวนสินสอดนี้