‘เฟยหลง’ ไม่เคยสนใจผู้หญิงจนกระทั่งพบกับเธอ เเละคำเเนะนำจากของลูกพี่ลูกน้องได้บอกกับเขาว่า “ถ้าอยากรู้ว่าหลงรักไหม ให้ลองกอดดูสิ !”
รัก,ตลก,ชาย-หญิง,จีน,ครอบครัว,รักวัยรุ่น,นิยายจีน ,แอบรักเจ้านาย ,ดราม่า,รักแรก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เพียงรักที่ปรารถนา‘เฟยหลง’ ไม่เคยสนใจผู้หญิงจนกระทั่งพบกับเธอ เเละคำเเนะนำจากของลูกพี่ลูกน้องได้บอกกับเขาว่า “ถ้าอยากรู้ว่าหลงรักไหม ให้ลองกอดดูสิ !”
ความฝันของ ‘ฟางเหม่ยอี้’ คือการมีความรักสักครั้งหนึ่งในชีวิต และเมื่อวันที่ปรารถนามาถึง เจ้าชายปริศนาได้มอบดอกกุหลาบให้ 999 ดอก นั้นให้กับเธอ แต่ใครจะไปรู้ว่าคือเขากันละ !
ทว่าสำหรับ ‘เฟยหลง’ การที่ได้มองรอยยิ้มของสาวน้อยนั้นทำให้เขามีความสุขมากที่สุด แม้จะไม่ยอมรับว่าแอบชอบเธอก็ตาม แต่ทว่าลูกพี่ลูกน้องได้บอกกับเขาว่า “ถ้าอยากรู้ว่าหลงรักไหม ให้ลองกอดดูสิ !”
Desire of love เพียงรักที่ปรารถนา
Chapter 6
“เข้ามาสิ” เขาเป็นฝ่ายที่พูดขึ้นเมื่อเห็นพนักงานสาวไม่กล้าเดินเข้ามา เมื่อได้ยินเหม่ยอี้จึงรีบก้าวเข้ามาในลิฟต์ เธอยืนห่างจากประธานหนุ่มในระยะที่พอสมควร ช่างเงียบเละอึดอัดดีจังเลย นี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวรู้สึกกดดันตัวเอง คงเป็นเพราะบอสเงียบขรึมมากเกินไปเเบบที่ฮุ่ยลี่พูดให้ฟัง จริง ๆ นั่นแหละ
จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิด ชายหนุ่มก้าวออกไปโดยที่เธอก้าวตามพร้อมกับถอนหายใจออกมา แต่เหม่ยอี้ไม่ใช่คนคิดมากกังวลเรื่องไร้สาระที่เล็ก ๆ น้อย ๆ หญิงสาวยิ้มจนแก้มทั้งสองข้างป่องขึ้นเมื่อนึกถึงอาหารมื้อเย็น
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เหม่ยอี้หยุดเดินแล้วกดรับ
“ฮัลโหล”
[เหม่ยอี้! เธอจะไม่มาจริงๆ เหรอ คนขาดนะ!]
นั่นเป็นคำชวนของฮุ่ยลี่ที่ชวนเธอไปทานอาหารมื้อเย็นกับหนุ่ม ๆ ที่นัดบอดด้วยกัน
“ไม่ ๆ” ปฏิเสธเช่นเดิม
[อ่า...งั้นโอเค เจอกันวันจันทร์นะ]
“อืม” เหม่ยอี้กดวางสายลงก่อนที่จะเดินไปตามถนนเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย แต่ก็เดินได้ไม่นานนักหนิงเหอโทร. เข้ามาหาพร้อมกับบอกให้เธอกินมื้อเย็นมาเลยเพราะวันนี้จะกลับดึก แน่นอนว่าเป็นที่เปลี่ยวเหงาหัวใจเมื่อต้องรับประทานอาหารมื้อเย็นคนเดียวอีกเช่นเคย ใครว่าเธอไม่เหงา จริง ๆ แล้วเหงาจะตาย แต่แค่รอเจ้าชายขี่ม้าขาวมาบอกรักเธอ...
ร้านอาหารริมทางไม่ห่างจากอพาร์ทเม้นท์ของเธอมากนัก แต่ไม่ใช่ร้านประจำที่เธอกินบ่อย ๆ เหม่ยอี้เดินเข้าไปนั่งพร้อมกับสั่งอาหารก่อนที่จะทานด้วยอารมณ์เหงา ๆ เพียงลำพัง
ถึงวันหยุดแล้ว ! ! เหม่ยอี้นอนตื่นสายในรอบหลายวันที่ผ่านมาอีกครั้งหนึ่ง สิบโมงเช้าแล้วกว่าที่เธอจะลุกขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะออกมาทานอาหารในขณะที่หนิงเหอนั่งดูทีวีแก้เซ็ง
“หนิงเหอ ขนมในตู้เย็นหมดแล้วเหรอ ?”
สิ่งแรกที่ถามคือของกิน ! !
รูมเมตสาวหันมามองแล้วพูดขึ้นทันทีว่า
“เธอก็ทำงาน ฉันก็ทำงาน เลยไม่ว่างได้เข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตกัน”
หญิงสาวพยักหน้าพร้อมเอ่ยปากชวนขึ้นทันที
“งั้นวันนี้ไปซื้อของข้างนอกกันนะ”
“ไม่ได้หรอก” หนิงเหอพูดขึ้นก่อนที่จะลุกเดินมาหา
“วันนี้ฉันมีนัดตอนบ่ายกันลู่เพ่ยน่ะ”
ลู่เพ่ยเป็นแฟนหนุ่มของหนิงเหอที่คบกันมาเกือบสองปี รู้จักกันผ่านทางแชทของเว็บหนึ่ง ซึ่งทั้งสองคนก็เข้ากันได้ดีและไปด้วยกันได้จนน่าอิจฉา หญิงสาวมองอย่างน้อยใจแต่ก็ยิ้มสู้
“อ่า...ไม่เป็นไร ๆ” เหม่ยอี้ยกมือขึ้นโบกพร้อมกับยิ้มให้หนิงเหอ “งั้นฉันไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ อ๊ะ ! แล้ววันนี้เธอจะกลับมากินข้าวเย็นมั้ย ?”
เมื่อเห็นหนิงเหอส่ายหน้า เธอจึงใจแป้วไปอีกแต่ก็ยิ้มตอบกลับเช่นเดิม “งั้นขอให้เที่ยวให้สนุกนะ”
เมื่อพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องด้วยสีหน้าสุดเซ็ง ใจของเหม่ยอี้ร้องตะโกนออกมาดังๆ ว่า เซ็งที่สุด ! !
เหม่ยอี้เลือกที่จะมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะเพียงลำพังโดยที่ยังไม่ไปซื้อของใช้ สวนขนาดกว้างที่ไม่ค่อยมีคนและที่สำคัญตรงนี้เหมาะแก่การนั่งพักมากที่สุด
“เบื่อ ๆ เบื่อที่สุด !” เหม่ยอี้ร้องตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด แต่ดูเหมือนว่าจะลืมไปเสียแล้วที่นี่สวนสาธารณะไม่ใช่ห้องนอน เมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบยกมือขึ้นปิดปากและหันไปมองรอบ ๆ ตัวเธอแล้วถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
โชคดีที่ไม่มีใครได้ยินเข้า แต่..ก็ไม่ใช่เธอคนเดียว
“อ้าว ! เหม่ยอี้” เสียงของจิ้นฝูเดินเข้ามาทักทาย หญิงสาวรีบหันไปมองทางต้นเสียงและยิ้มรับ พร้อมส่งสายตามองชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสบาย ๆ แต่เธอนึกกังวลเรื่องที่เขาจะได้ยินเธอตะโกน ก่อนที่จะเหลือบมองไปยังบอสใหญ่ที่เดินออกมาจากหลังต้นไม้ด้วยใบหน้านิ่ง ๆ
“พี่มาอยู่นี่เอง” หนุ่มเจ้าสำราญเอ่ยถามเฟยหลง
“แค่นั่งพัก” เขาตอบ
เอ๋ ! เดี๋ยวนะ งั้นก็แสดงว่าเขาได้ยินเธอตะโกนน่ะสิ !
เหม่ยอี้ ! เธอรู้มั้ยว่าจะขายหน้ามากแค่ไหน
หญิงสาวก้มหน้าลงไม่สบตามองชายหนุ่มทั้งสอง
“มาทำอะไรล่ะ” จิ้นฝูเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้น
“มานั่งเล่นเฉย ๆ ค่ะ” เหม่ยอี้ยิ้มตอบพลางเหลือบมองบอสใหญ่ที่ยิ้มมุมปากเหมือนหัวเราะเยาะ
โธ่ ! เหม่ยอี้ เธอลืมตัวไปอีกแล้ว ช่างน่าอายเสียจริง !
“แล้วคุณ...”
“สาว ๆ ขอมาพบเฟยหลงสารภาพรักน่ะ แต่ดูท่าล้มเหลว ผมเลยทำหน้าที่ปลอบใจและส่งเธอกลับ” จิ้นฝูพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก เพราะว่าหญิงสาวคนนี้ขอร้องให้เขาช่วยจึงต้องรับปากมา แต่จะใช่ผู้หญิงที่ไหนไกล ก็เป็นลูกสาวของลูกค้ารายหนึ่งที่ร่วมธุรกิจด้วย ทว่าเฟยหลงไม่สนใจใครเลยไม่จำเป็นต้องใส่ใจความรู้สึกของอีกฝ่ายมากนัก แค่บอกปฏิเสธไปเท่านั้น...แล้วก็อกหักไปอีกราย
เหม่ยอี้พยักหน้าเข้าใจพร้อมกับชำเลืองมองบอสแล้วยิ้มเจื่อน ๆ ให้
“จริงสิ จะบ่ายแล้วไปหาอะไรกินกันดีมั้ย ?” จิ้นฝูกล่าวขึ้นก่อนที่จะยิ้มให้เหม่ยอี้ “ไปด้วยกันนะ”
เหม่ยอี้รีบพยักหน้าอย่างไม่ปฏิเสธเลยสักนิด เจ้าชายชวนเธอทานอาหารมื้อกลางวัน ! !
“แถวนี้มีร้านอร่อย ๆ เยอะไปกันเถอะ” จิ้นฝูชวนก่อนที่จะเดินนำไปแต่สมองน้อย ๆ ของหญิงสาวเพิ่งคิดได้ว่าบอสใหญ่ก็ไปทานด้วย ครั้นจะล้มเลิกความคิดแต่คงไม่ทันเสียแล้ว
ไม่เป็นไรเหม่ยอี้ เธอได้ทานอาหารกับเจ้าชายเลยนะ ! !
สุดท้ายแล้วอาหารมื้อนี้เธอก็ไม่ได้ทานร่วมกับจิ้นฝู เพราะอยู่ ๆ กำลังจะสั่งอาหารแต่มีโทรศัพท์จากสาว ๆ เข้ามาเสียก่อน ส่วนเจ้าตัวเองก็ลืมไปสนิทว่านัดกับสาวเอาไว้ ตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่เธอและบอสใหญ่เท่านั้น ใจของเหม่ยอี้อยากจะให้มีโทรศัพท์ดังขึ้นเหมือนว่าตัวเองมีธุระด่วน จริง ๆ เธอไม่ได้รังเกียจเจ้านายนะ เพียงแต่ว่าบางทีก็รู้สึกอายและเกรงใจ เขาเป็นถึงประธานบริษัท แต่กับเธอพนักงานชั้นเล็ก ๆ ที่ยังอยู่ในช่วงทดลองงานอยู่
เหม่ยอี้เงยหน้าขึ้นมองเขาพร้อมกับฉีกยิ้มให้ ก่อนจะหลบสายตาไปทางอื่น มันคงยากสำหรับเธอแล้วในตอนนี้ที่จะทำให้อาหารมื้อนี้เป็นมื้อที่แสนอร่อย
เมื่ออาหารที่สั่งถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ เหม่ยอี้ก็ได้เพียงแค่ก้มหน้าทาน ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมองเฟยหลงเลยแม้แต่นิดเดียว อาหารตรงหน้าแสนจะอร่อย...ถ้าเธออยู่คนเดียวแล้วละก็เธอคงจะกินแบบมีความสุข นั่งทานอยู่แบบนี้กับเขาก็เกรงจนกลืนไม่ลงเลย
เฟยหลงทานอาหารตรงหน้าด้วยท่าทางนิ่ง ๆ เขาพร้อมกับปรายตาชำเลืองมองหญิงสาวตรงหน้าที่ไม่คิดจะสนใจสิ่งอื่น เธอสนใจเพียงแค่การกินอาหารตรงหน้าที่แสนอร่อย เหม่ยอี้ใช้เวลาทานอาหารมื้อนี้นานที่สุดร่วมเกือบสี่สิบนาที ทั้งที่พยายามแล้วแต่ความกดดันลึก ๆ ก็ยังคงอยู่
เป็นมื้อที่เธอกินไม่อิ่มเลย ! !
มื้อนี้บอสใหญ่เลี้ยงแต่เหม่ยอี้รีบปฏิเสธทันทีเพราะความเกรงใจจนเขาต้องหรี่ตามองประมาณว่า เขาเลี้ยงเอง...เธอจึงได้แค่ก้มหัวและยิ้ม ออกมา
หญิงสาวกล่าวขอบคุณชายหนุ่มที่เลี้ยงอาหารมื้อนี้ ก่อนจะขอแยกตัวออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอต้องไปซื้อของ แต่ก่อนจะไปซื้อของขอหา
ร้านอร่อย ๆ กินเพิ่มอีกสักหน่อยเถอะ ! !
เหม่ยอี้เดินหาร้านอาหารไม่ไกลจากร้านเดิมมากนัก เธอเดินเข้าไปพร้อมกับสั่งทันที ในขณะที่เฟยหลงต้องเดินกลับไปยังรถที่จอดไว้แต่เขากลับมองสะดุดอะไรบางอย่างในร้านอาหาร
ชายหนุ่มถึงกับต้องขมวดคิ้วมองเหม่ยอี้ด้วยความแปลกใจ เธอกินไม่อิ่ม ? แต่เมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขเวลาเธอกินคนเดียวกับนั่งทานกับเขาแตกต่างกันอย่างชัดเจน เฟยหลงกำลังมองท่าทางของหญิงสาวจนลืมตัวว่าเขามองเธอนานไปเท่าไหร่แล้ว จนกระทั่งโทรศัพท์ที่กระเป๋ากางเกงดังขึ้น เขาจึงสะดุ้งจากภวังค์ก่อนเอื้อมมือไปหยิบแล้วกดรับ