เรื่องราวที่เกิดขึ้นมานานแล้วในดินแดนที่ชื่อว่ากริฟฟาลอส ได้เกิดสงครามขึ้นจากจักรวรรดิที่มีชื่อว่าดราเคียร์ที่ต้องการบุกยึดดินแดน ทำให้องค์ชายต้องผจญภัยเพื่อหาทางกู้อาณาจักร!
แอคชั่น,ผจญภัย,แฟนตาซี,สงคราม,แฟนตาซี,แอคชั่น,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,พล็อตสร้าง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Wind's Chronicle ตำนานแห่งสายลมเรื่องราวที่เกิดขึ้นมานานแล้วในดินแดนที่ชื่อว่ากริฟฟาลอส ได้เกิดสงครามขึ้นจากจักรวรรดิที่มีชื่อว่าดราเคียร์ที่ต้องการบุกยึดดินแดน ทำให้องค์ชายต้องผจญภัยเพื่อหาทางกู้อาณาจักร!
เนื้อเรื่อง : TheNarratorB
ภาพปก : Milky Pippi
สงครามระหว่างเหล่าทัพปะทุขึ้นอีกครั้งในดินแดนอันสงบสุขแห่งนี้
ทวีป "กริฟฟาลอส" ผ่านสงครามมาหลายครั้งหลายครา
แต่ครั้งนี้มันกลับรุนแรงที่สุด
เมื่อจักรวรรดิเหล็กกล้าอันเรืองอำนาจนามว่า "ดราเคียร์" นำเครื่องยนต์และเครื่องจักรสงครามเข้าสู่สมรภูมิ
ความหวังสุดท้ายจึงมาอยู่ที่อาณาจักร "วินดาเรีย"
และองค์ชายคนสุดท้องของตระกูล...
"วิลเลี่ยม วินด์"
จึงต้องออกเดินทางเพื่อช่วยอาณาจักรและต่อสู้กับเหล่าจักรกลพร้อมๆกับเพื่อนๆและสหายของเขา
จึงเกิดเป็นตำนานบทใหม่ในดินแดนแห่งนี้...
THE WIND'S CHRONICLE
ตำนานแห่งสายลม
อัพตอนใหม่ทุกๆวันอังคาร เวลา 9.00 น.!
ติดตามข่าวสารอัพเดตและพูดคุยกับนักเขียนได้ที่ @thenarratorb.bsky.social!
ผ่านไปหลายวัน วิลเลี่ยมได้ค่อยๆฟื้นตัวจากการช่วยเหลือของคลีโอ เบลล่า และ เฮนรี่ ทุกๆเช้าเขาต้องตื่นมาทำกายภาพบำบัดโดยการออกกำลังกายแถบหน้าเมือง ระหว่างทางเขาก็ได้รู้จักกับชาวบ้านและพ่อค้ามากหน้าหลายตา แม้นิวบาร็อคจะเป็นเมืองที่เป็นเมืองท่า แต่พวกดราเคียร์เองก็เลือกจะไม่โจมตีเมืองนี้
จากคำพูดของเหล่าพ่อค้า ดูเหมือนว่าพวกเขาจะวางใจได้เพราะว่าพวกเขาเป็นเมืองท่าที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของอาณาจักร "แม็กโนเลีย" ที่อยู่ออกไปไกล ทำให้ดราเคียร์ไม่กล้าเข้าโจมตีเมืองนี้ เกรงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือใหญ่เข้า บ้างก็ว่าพวกมันเก็บเมืองนี้ไว้สุดท้ายหลังจากยึดกริฟฟาลอสได้ทั้งทวีป แต่อย่างไรก็ตาม ที่นี้เป็นเขตปลอดภัย ที่ๆหลายๆคนเรียกกันว่า "บ้าน"
หลังจากที่พักฟื้นเรียบร้อยแล้ว
"ขอบคุณมากนะท่านหมอ... ข้าดีขึ้นเยอะเลยล่ะ" วิลเลี่ยมกล่าวขอบคุณก่อนจะโค้งคำนับให้
"ไม่เป็นไรหรอกนะ เนี๊ยว หลังจากนี้ก็รักษาสุขภาพ และก็ดูแลตัวเองดีๆนะ!" คลีโอโบกมือให้กับวิลเลี่ยมพร้อมยิ้มให้อย่างภูมิใจ
"ขอบคุณที่ดูแลวิลเลี่ยมและให้ที่พักเรานะคะท่านหมอ ไม่ได้ท่านเราไม่รู้จะทำยังไงเลยจริงๆ" เบลล่ากล่าวขึ้นพร้อมกับโค้งคำนับขอบคุณให้กับคลีโอ
"พูดเกินไปน่า เนี๊ยว~" คลีโอแสดงอาการเขินอย่างชัดเจนก่อนจะบิดตัวไปมา
"ท่านสมควรได้รับคำชมบ้างนะท่านหมอ" เฮนรี่ยิ้มมุมปากเล็กๆก่อนรีบหุบกลับไปเป็นใบหน้านิ่งๆ
"ท่านหมอสนใจเดินทางไปกับพวกเราไหม? ข้าว่าเราจะวางใจได้ไม่น้อยเลยถ้ามีท่านหมออยู่ในกลุ่มเดินทางของเรา" วิลเลี่ยมกล่าวชวนคลีโอขึ้นด้วยท่าทีใจดี คลีโอดีดตกใจขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินวิลเลี่ยมชวนเธอให้ไปร่วมกลุ่มเดินทางด้วย เธอกระวนกระวายซักครู่ก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธไป
"จ-จะดี หรอเนี๊ยว? ที่นี่ก็ต้องการฉันนะ... ต้องการ... ฉัน..." คลีโอมองเข้าไปในโรงหมอตัวเองที่ตอนนี้กำลังจะพังแหล่ไม่พังแหล่ คนไข้นานๆทีจะมี วิลเลี่ยมน่าจะเป็นคนแรกเลยที่เธอได้รักษาภายในหลายเดือน เหมือนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่ทำให้เธอต้องมาถึงจุดนี้
"ท่านหมอ? เกิดอะไรขึ้นหรอ?" วิลเลี่ยมถามด้วยความเป็นห่วง
"ม-ไม่มีอะไรหรอกเนี๊ยว~ ไว้เจอกันใหม่นะ!" คลีโอรีบถึงสติตัวเองกลับมาก่อนจะรีบพาวิลเลี่ยมและกลุ่มไปที่ประตูเพื่อส่ง
ทั้งสามกล่าวลาคลีโอก่อนจะเดินออกจากโรงหมอ และมาคุยกันว่าจะเอายังไงกันต่อดีระหว่างทางไปยังกลางเมืองเพื่อหาซื้อสะเบียงก่อนจะออกเดินทางไกลอีกครั้ง แต่ทั้งวิลเลี่ยมกับเบลล่าก็ยังสงสยัว่าทำไมคลีโอถึงมีท่าทางแบบนั้น เพราะระหว่างที่พักอยู่กับเธอ ตัวของเธอไม่เคยแสดงอาการแบบนั้นมาก่อนเลย
คลีโอกำลังเดินมองดูโรงหมอและจัดของไปในเวลาเดียวกัน เธอสังเกตุว่าพื้นไม้แต่ละจุดมันเริ่มจะผุพังตามกาลเวลา ตู้ยาที่เหลือน้อยลงเรื่อยๆ แต่เธอก็พยายามที่จัดตู้ให้เป็นระเบียบด้วยความเศร้า เธอมองไปยังโต๊ะที่มีกระดาษวางอยู่เต็มไปหมด หนึ่งในมีใบที่เขียนว่า "ใบแจ้งหนี้"
แม้ตัวของเธอจะหมอที่ไม่เก็บค่ารักษา แต่ก็ไม่มีใครมารักษากับเธอ
หลายครั้งที่เกิดเรื่องขึ้นกับตัวเธอและคนรอบกายเธอ แต่สิ่งที่เธอต้องเจอคนเดียวมาตลอดหลายปี คือความเครียดจากการทำงานและการพัฒนาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของนิว บาร็อค มันทำให้เธอและบ้านของเธอได้รับผลกระทบไปด้วย มีจดหมายหลายฉบับจาก "โครงการพัฒนาเมืองของแม็กโนเลีย" เธอหยิบหนึ่งในนั้นออกมาอ่าน
"เฮ้อ... ทำไมถึงอยากจะได้ที่ตรงนี้กันนะเนี๊ยว..." คลีโอถอนหายใจก่อนจะไล่อ่านเหตุผลที่พวกเขาต้องการพื้นที่ของโรงหมอตรงนี้
ดูเหมือนว่าที่ๆโรงหมอของคลีโอตั้งอยู่จะเป็นจุดที่อยู่ตรงกลางเมืองและเป็นที่ๆสามารถเข้าถึงได้ง่าย ทั้งหลายภาคส่วนและขั้วอำนาจก็อยากจะทำการค้าในจุดนี้ ถ้าเกิดมีขั้วอำนาจไหนได้ไป ที่ตรงนี้อาจเป็นจุดที่ทำให้ขั้วอำนาจนั้นสามารถยึดเมืองนี้ได้เลย และโชคร้ายของคลีโอคือการได้ที่ดินตรงนี้มา เธอเลยโดนกดดันจากหลายจุดเพื่อให้เธอออกจากตรงนี้ไปซะ ทั้งข่าวลือที่คลีโอเป็นหมอเถื่อน เรื่องเหนือธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งเธอทำงานให้ดราเคียร์
"อาจารย์... คลีโอควรทำยังไงดี?" คลีโอมองไปยังรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของเธอ มีรูปของหญิงชราที่ดูหน้าตาใจดีและคลีโอในวัยเด็ก
"คลีโอทนแรงกดดันไม่ไหวแล้ว..."
หลังจากลาท่านหมอคลีโอมาวิลเลี่ยม เบลล่า และเฮนรี่พากันไปซื้อของจากร้านค้าเพื่อเตรียมการเดินทางครั้งต่อไป วิลเลี่ยมกำลังดูเนื้อตากแห้งและเครื่องปรุงสำหรับเดินทางไกล
"อืม... เบล? เจ้าอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม?" วิลเลี่ยมหันไปมองเบลล่าที่กำลังเลือกขวดปรุงยาสำหรับทำยาโพชั่น
"ฉันว่าฉันอยากได้สตรอว์เบอร์รี่หน่อยน่ะ อยากได้อันนึงไว้สำหรับปรุงรสโพชั่นด้วย~" เบลล่ายิ้มก่อนจะหยิบขวดแก้วไปจ่ายเงิน
"ถ้างั้นก็ประมาณนี้แหละเนอะ เงินเราเริ่มน้อยแล้วสิ... ต้องรีบหางานทำระหว่างทาง..." วิลเลี่ยมนำของมาวางพร้อมกับจ่ายเงิน ดูเหมือนว่าเงินจะน้อยลงไปทุกทีๆ
"ถ้างั้นเสร็จนี้น่าจะเราต้องไปดูบอร์ดเควสที่โรงเตี้ยมดู น่าจะมีงานพอให้เราทำอยู่" เฮนรี่หยิบถุงหลังจากจ่ายเงินขึ้นมาและแบกมันไว้เอง
"พี่ ให้ข้าถือช่วยไหม?" วิลเลี่ยมเอื้อมมือมาขอถุงบางส่วนจากเฮนรี่ แต่เขาก็ชักถุงกลับไปอย่างรวดเร็ว
"พึ่งออกจากโรงบาลก็อย่าพึ่งแบกของหนัก" เฮนรี่พูดด้วยเสียงเนิบๆแต่ยิ้มเล็กๆไปด้วยก่อนจะเดินไปต่อเรื่อยๆ วิลเลี่ยมเองก็ดูเข้าใจพี่ดีแต่ก็แอบขำเล็กๆที่เห็นเฮนรี่ยกของเหมือนพ่อบ้านแบบนี้ เบลล่าเองก็ดีใจที่เห็นเฮนรี่เริ่มสบายใจขึ้นหลังจากเห็นวิลเลี่ยมดูดีขึ้น
ทั้งสามได้มาถึงที่โรงเตี้ยมเพื่อหาที่พักและหางาน ภายในโรงเตี้ยมตกแต่งด้วยสมอเรือและโมเดลเรือจากไม้ มาในธีมของเรือและโจรสลัด รวมถึงถังไม้หมักเหล้าและเบียร์วางกันอยู่ มีนายเรือและกะลาสีมาพักผ่อนหย่อนใจหลังจากเรือเทียบท่า แม้กระทั่งกัปตันเรือที่ว่าสูงส่งก็ลงมานั่งก๊งเหล้ากับชาวบ้านและลูกเรือ หัวเราะกับมุขตลกขำขันและไพ่เต็มโต๊ะ
"ยินดีต้อนรับสู่ร้านลูกสาวกัปปิตัน! ท่านนักเดินทาง! เชิญเลือกที่นั่งได้เลย!" บาร์เทนเดอร์กล่าวต้อนรับทั้งสามที่เดินเข้ามา วิลเลี่ยมยิ้มให้ก่อนจะโค้งตอบรับและไปเลือกที่นั่งที่เป็นที่นั่งที่สามารถมองเห็นเมืองด้านนอกได้แต่ก็อยู่ในส่วนที่
วิลเลี่ยมนั่งลงบนโต๊ะพร้อมกางแผนที่ออกมาพร้อมกับกัดขนมปังไปด้วย แผนที่ของกริฟฟาลอสมีลักษณะเป็นทวีปใหญ่หนึ่งทวีป มีบางส่วนที่แตกออกไปเป็นเกาะทางตอนใต้ เรียกว่าหมู่เกาะ "มูนรีฟ" และเขตที่วิลเลี่ยมกำลังอยู่ตอนนี้ชื่อว่า "กัสต์สเตรท" เป็นแนวชายฝั่งก็อยู่แถบตะวันตกของดินแดน และเขตที่พวกเขาต้องไปคือ "สตรอมพอยต์" ที่อยู่ตรงกลางสุดของทวีป ซึ่งเขตนั้นเป็นเขตหิมะที่หนาวเหน็บไกลออกไปจากกัสต์สเตรทมาก แต่มีที่หนึ่งในแผนที่ที่อยู่ในเขตตะวันออกที่เรียกว่า "เกลชอร์" ที่ตอนนี้โดนทำเครื่องหมายในแผนที่ว่าเป็นเขตของพวกดราเคียร์ และหนึ่งในนั้นคืออาณาจักรวินดาเรีย อาณาจักรที่ยิง่ใหญ่ที่สุดในดินแดนก็ตกเป็นของพวกดราเคียร์ หลังจากการล่มสลายของวินดาเรีย หลายๆอาณาจักรต่างหวาดกลัวอำนาจของดราเคียร์ และยอมก้มหัวให้พวกเขาจนหมด
"เราต้องเดินทางผ่านแครกมอว์ริดจ์... แย่ล่ะ นั้นเป็นเขตพวกดราเคียร์..." วิลเลี่ยมเคาะตรงจุดที่วงแดงไว้ เป็นจุดที่แครกมอว์ริดจ์เคยอยู่ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเหมืองอุตสาหกรรมของดราเคียร์ไปแล้ว
"เราอาจมีทางอื่นไหม? ลองหาทางแยกดู" เฮนรี่เสริมเข้ามาและลองชี้ไปเขตป่ารอบๆ
"แต่แครกมอว์ริดจ์มันเป็นทางขึ้นของสตรอมพอยต์นะพี่..." วิลเลี่ยมนั่งคิดหนัก ก่อนจะมีแสงดังขึ้นข้างนอกเพื่อมาหยุดความคิดและการวางแผน
"เสียงคลีโอนิ!" เบลพูดขึ้นพร้อมกับวิ่งไปดูที่ริมหน้าต่าง เธอพบกับคลีโอที่กำลังโดนมัดและมีชายฉกรรจ์สองคนกำลังกันไม่ให้คนข้างนอกเข้ามา และสิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือ...
โปรดติดตามตอนต่อไป...
===================================================================