ยามพลบค่ำสายลมพัดโบกโบยของเหมันต์ฤดูได้เริ่มขึ้นดั่งที่ได้ยินพยากรณ์อากาศในคลื่นวิทยุ ใบไม้บนต้นเปลี่ยนทิศไปตามแรงลมจะพาไป

ไร่ส้มบ่มรัก - ตอนที่ ๒ โดย พวงพะยอม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผู้ใหญ่,รัก,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไร่ส้มบ่มรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผู้ใหญ่,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ยามพลบค่ำสายลมพัดโบกโบยของเหมันต์ฤดูได้เริ่มขึ้นดั่งที่ได้ยินพยากรณ์อากาศในคลื่นวิทยุ ใบไม้บนต้นเปลี่ยนทิศไปตามแรงลมจะพาไป

ผู้แต่ง

พวงพะยอม

เรื่องย่อ

สารบัญ

ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๑,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๒,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๓,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๔,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๕,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๖,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๗,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๘,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๙,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๑๐,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๑๑

เนื้อหา

ตอนที่ ๒

บทที่ ๒



ยามพลบค่ำสายลมพัดโบกโบยของเหมันต์ฤดูได้เริ่มขึ้น ดั่งพยากรณ์อากาศในคลื่นวิทยุ ใบไม้ตามต้นเปลี่ยนทิศไปตามแรงลมจะพาไป อากาศต่างจากเมื่อกลางวันราวกับคนละทวีป



ไอ้แดงแผลงฤทธิ์ขั้นสุด กว่าจะถึงบ้านก็พลบค่ำ

แต่อารณ์ดีหน่อยเพราะถึงบ้านก็เห็นเตากับกระทะหมูย่างเต็มบ้านไปหมด

มีพี่ๆ คนงานมากันเต็มบ้านเลย เป็นบรรยากาศอันคุ้นเคยเพราะพ่อกับแม่ของเธอมักจะชวนคนงานที่สวนมาทำอาหารทานกันแบบนี้บ่อยๆ



ถึงจะงอนพ่อนิดหน่อยเรื่องไอ้แก่ แต่เมื่อมาถึงบ้านก็โผเข้ากอดทั้งพ่อและแม่ด้วยความคะนึงหา



บ้านหลังใหญ่มหึมาตั้งอยู่ท้ายไร่ส้มบนพื้นที่ขนาดหลายร้อยไร่ กลับเต็มไปด้วยมวลความรู้สึกที่อบอุ่น

“ขอบใจนะเหนือ ที่ช่วยเป็นธุระให้” คนเป็นนายจ้างเอ่ยขึ้นขณะที่เดินไปช่วยเหนือและส้มขนสัมภาระลงจากไอ้แดงที่ตอนนี้กลายเป็นสีอะไรแล้วก็ไม่รู้

“สบายมากครับ” เหนือรักตอบอย่างเต็มใจช่วย แม้จะเป็นธุระส่วนตัวของนายจ้างก็ตาม



เมื่อมื้อเย็นสุดครึกครื้นจบลง หลังจากนั้นก็เหลือเพียง พ่อ แม่ ลูก และแม่บ้าน

อาบน้ำเสร็จทอประกายก็เข้าไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียงนุ่มในห้องของเธอ



ทอประกายลืมปิดหน้าต่าง เลยสาวเท้าลงจากเตียงตั้งใจจะไปปิดเพราะเริ่มหนาว

ดวงตากลมโตสำรวจไปทั่วผืนฟ้าที่กอปรด้วยหมู่ดาวดวงเล็กใหญ่สลับกันไป อีกแสงของหิ่งห้อยตามพุ่มไม้ก็ช่างสะดุดตา จนต้องวิ่งไปเรียกให้พ่อกับแม่มาดู ทุกอย่างที่ประจักษ์ตรงหน้างดงามราวกับภาพวาดราคาสูง



“หนูตื่นเช้าไหวไหม ถ้าไหวก็ตื่นมาดูดอกไม้เค้าบานแข่งกันสวยมาก เช้านี้น่าจะมีหมอกลงแล้วแหละ คงสวยกว่าปกติหลายเท่า”

‘ปานนภา’ ผู้เป็นแม่แนะนำด้วยแววตาที่เป็นประกาย เพราะดอกไม้เยอะและสวยมากจริงๆ ตั้งใจจ้างคนมาจัดสวนรอต้อนรับลูกสาวอย่างดีเลยแหละ

“ไม่ไหวก็ต้องไหว หนูจะตั้งนาฬิกาปลุก” เธอพูดไปยิ้มไป

“ให้แม่มาปลุกก็ได้ แม่ต้องตื่นเช้าอยู่แล้ว” ผู้เป็นพ่อออกความเห็นบ้าง

“งั้นแม่มาปลุกหนูด้วยนะ” ส้มตกลงกับคุณแม่ของเธอ คนเป็นแม่พยักหน้ารับเพราะต้องตื่นเช้าทุกวันอยู่แล้ว

“พ่อกับแม่ไปนอนก่อนนะลูก พรุ่งนี้ต้องทำงาน เดี๋ยวตอนเช้าแม่มาปลุก”

“ได้เลยค่ะ ฝันดีนะคะ”

หลังจากที่พ่อกับแม่ออกไป ทอประกายยังคงยืนมองบรรยากาศที่สวยงามผ่านหน้าต่างจากมุมห้อง และอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องมาถ่ายภาพเก็บไว้อวดในโซเชียล



มองไกลออกไปหน่อยเธอก็สะดุดตากับไฟจากบ้านของคนงานที่อยู่บนเนินเขา ก็เกิดคำถามมากมายว่าที่อยู่อาศัยของพวกเขานั้นหนาแน่นพอที่จะปะทะกับแรงลมและความหนาวเย็นของอากาศในฤดูหนาวได้หรือเปล่า เธอจะเก็บเรื่องนี้ไปคุยกับคุณพ่อของเธอ

และนี่อาจจะเป็นผลงานชิ้นแรกของทอประกายหลังจากเรียนจบมาแล้ว ตั้งใจจะมาช่วยงานสวน ช่วยธุรกิจของที่บ้าน